พนง.ทีโอทีชวดโบนัสปี58 ผู้บริหารรับสภาพขาดทุน1.3พันล้านบ.
ผู้บริหารทีโอทีเปิดใจพนักงานทุกข้อสงสัย ให้ทำใจอดรับโบนัส เหตุดำเนินงานขาดทุน 1,300 ล้าน แนวโน้มจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก ย้ำยังมีอนาคต หากได้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์คืนมาจะบริหารเองไม่ซ้ำรอยล้มเหลวเหมือนคลื่น 2100
นายมนต์ชัย หนูสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ในฐานะรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานสัมมนาชี้แจงสถานการณ์ของทีโอทีให้แก่พนักงาน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ว่าในการพบกับพนักงานครั้งนี้เพื่อดำเนินการชี้แจงกรณีต่างๆ ได้แก่ สิทธิในการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานที่ทีโอทีทำไว้ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร่งรัฐเอาผิดปมแก้สัญญาสัมปทาน การคืนเสาโทรคมนาคมตามสัญญาสัมปทาน และความคืบหน้าในการหาพันธมิตรทางธุรกิจ
นายมนต์ชัยกล่าวว่า พนักงานทีโอทีได้สอบถามว่าจะดำเนินการฟ้องร้องเรื่องสิทธิการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์หรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าจะใช้สิทธิทางกฎหมายปกป้องสิทธิของโทีโอทีแน่นอน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเพราะได้ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ให้ถี่ถ้วนก่อน พร้อมทั้งส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้พิจารณาในสิทธิความถี่ใหม่ และอยากให้เกิดข้อยุติก่อนการประมูล 4จี ในเดือนพฤศจิกายน หากได้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์กลับมาทีโอทีมีแผนจะดำเนินการเอง ผ่านอัพเกรดเป็นระบบ 4จี "รับปากว่าจะไม่ให้ล้มเหลวเหมือนการให้บริการบนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์แน่นอน" นายมนต์ชัยกล่าว และว่า เรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับ กสทช. ว่าจะทำอย่างไร แต่เรื่องข้อพิพาทส่วนใหญ่เรื่องจะจบที่ศาล เพราะไม่มีใครกล้าฟันธงได้นอกจากศาล
นายมนต์ชัยกล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมกับคู่สัญญาสัปทาน คือเอไอเอสนั้น คาดว่าจะเจรจากันได้รู้ผลภายในปีนี้ โดยมี 3 แนวทางคือ 1.ตั้งบริษัทร่วมทุน (จอยซ์ เวนเจอร์) 2.กองทุนโครงสร้างพื้นฐานเสาโทรคมนาคม และ 3.สัญญาเช่าระยะยาว ส่วนเรื่องการเร่งรัดเอาผิดกับเอไอเอสกรณีแก้ไขสัญญาสัมปทานนั้น อยู่ระหว่างขอคำปรึกษากับสำนักงานอัยการสูงสุด
นางปรียา ด่านชัยวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบริหารทรัพย์สิน กล่าวระหว่างเสวนาร่วมกับพนักงานทีโอที ว่าปีนี้ขอให้พนักงานทุกคนทำใจ เนื่องจากปี 2558 ทีโอทีมีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า ส่งผลให้ถึงสิ้นเดือนกันยายน บริษัทมีสถานภาพการเงินขาดทุน 1,300 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะขาดทุนเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี ส่งผลให้ต้นปี 2559 พนักงานจะไม่ได้รับโบนัส และอาจมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ขอยืนยันว่าทีโอทีจะยังมีอนาคต หากได้รับคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์กลับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์ ได้เสาโทรคมนาคมคืนจากคู่สัญญาสัมปทาน และสามารถหาพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมให้บริการ 3จี ทีโอที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ก็มีปัญหาหนักทีมสโมสรTOT จะไปอยู่หรือไปเพราะบริษัท ซีจีเอฟ (ไทยแลนด์) จำกัดมีปัญหาเรื่องทำผิดสัญญาตั้งแต่ต้น
ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมาย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประชุมหารือในกรณีที่กลุ่มนักเตะทีม "ฮัลโหล" ทีโอที เอสซี ยื่นร้องเรียนหลังถูกค้างเงินค่าเหนื่อย 3 เดือน รวมกว่า 9 ล้านบาท โดยได้เชิญกลุ่มนักเตะทีโอที และนายชัชชาล เผ่าสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนส่งเสริมธุรกิจ ดิจิตัล บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มาเข้าร่วมด้วยที่ห้องสมาคมฟุตบอลฯ สนาม ศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
วีรวงศ์ เล็กสุนทร ตัวแทนนักเตะ ทีโอที กล่าวว่า หลังจากไม่รับเงิน 3 เดือนทำให้ นักเตะไม่มีเงินใช้จ่าย และไม่มีเงินเติมน้ำมันรถเพื่อเดินทางไปฝึกซ้อม นักเตะต่างชาติบางคนก็ถูกไล่ออกจากหอพักแล้วด้วย รวมถึงสนามฝึกซ้อมก็หญ้าขึ้นสูง และไม่มีน้ำดื่มให้กับนักเตะด้วย จึงอยากขอความชัดเจนในเรื่องนี้ และหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว รวมทั้งมียอดเงินค้างค่าเหนื่อย นักเตะทั้งหมดกว่า 9 ล้านบาท
นายชัชวาลกล่าวว่า ทีมทีโอทีได้เซ็นสัญญากับบริษัท ซีจีเอฟ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นพันธมิตรเข้ามาสนับสนุนทีมจำนวนหุ้น 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ซีจีเอฟทำผิดสัญญาตั้งแต่ต้น และถึงตอนนี้ยังไม่ได้ให้เงินสักบาทเลย ทำให้ได้ทำหนังสือไปถึงซีจีเอฟถึงเงินสนับสนุนทีม 20 ล้านบาท และมีกำหนดเส้นตายวันที่ 11 ตุลาคมนี้ สำหรับเงินที่ค้างนักเตะนั้น บมจ.ทีโอทีจะดูแลจ่ายให้ทั้งหมดเป็นกรณีพิเศษ คาดว่าจะเบิกจ่ายให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 16)
ทีมสโมสรTOT อาการหนักเพราะบริษัทแม่ขาดทุนหนัก "พนง.ทีโอทีชวดโบนัสปี58 ผู้บริหารรับสภาพขาดทุน1.3พันล้านบ."
ผู้บริหารทีโอทีเปิดใจพนักงานทุกข้อสงสัย ให้ทำใจอดรับโบนัส เหตุดำเนินงานขาดทุน 1,300 ล้าน แนวโน้มจะขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก ย้ำยังมีอนาคต หากได้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์คืนมาจะบริหารเองไม่ซ้ำรอยล้มเหลวเหมือนคลื่น 2100
นายมนต์ชัย หนูสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ในฐานะรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานสัมมนาชี้แจงสถานการณ์ของทีโอทีให้แก่พนักงาน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ว่าในการพบกับพนักงานครั้งนี้เพื่อดำเนินการชี้แจงกรณีต่างๆ ได้แก่ สิทธิในการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานที่ทีโอทีทำไว้ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส การดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร่งรัฐเอาผิดปมแก้สัญญาสัมปทาน การคืนเสาโทรคมนาคมตามสัญญาสัมปทาน และความคืบหน้าในการหาพันธมิตรทางธุรกิจ
นายมนต์ชัยกล่าวว่า พนักงานทีโอทีได้สอบถามว่าจะดำเนินการฟ้องร้องเรื่องสิทธิการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์หรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าจะใช้สิทธิทางกฎหมายปกป้องสิทธิของโทีโอทีแน่นอน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลเพราะได้ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ให้ถี่ถ้วนก่อน พร้อมทั้งส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้พิจารณาในสิทธิความถี่ใหม่ และอยากให้เกิดข้อยุติก่อนการประมูล 4จี ในเดือนพฤศจิกายน หากได้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์กลับมาทีโอทีมีแผนจะดำเนินการเอง ผ่านอัพเกรดเป็นระบบ 4จี "รับปากว่าจะไม่ให้ล้มเหลวเหมือนการให้บริการบนคลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์แน่นอน" นายมนต์ชัยกล่าว และว่า เรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับ กสทช. ว่าจะทำอย่างไร แต่เรื่องข้อพิพาทส่วนใหญ่เรื่องจะจบที่ศาล เพราะไม่มีใครกล้าฟันธงได้นอกจากศาล
นายมนต์ชัยกล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมกับคู่สัญญาสัปทาน คือเอไอเอสนั้น คาดว่าจะเจรจากันได้รู้ผลภายในปีนี้ โดยมี 3 แนวทางคือ 1.ตั้งบริษัทร่วมทุน (จอยซ์ เวนเจอร์) 2.กองทุนโครงสร้างพื้นฐานเสาโทรคมนาคม และ 3.สัญญาเช่าระยะยาว ส่วนเรื่องการเร่งรัดเอาผิดกับเอไอเอสกรณีแก้ไขสัญญาสัมปทานนั้น อยู่ระหว่างขอคำปรึกษากับสำนักงานอัยการสูงสุด
นางปรียา ด่านชัยวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบริหารทรัพย์สิน กล่าวระหว่างเสวนาร่วมกับพนักงานทีโอที ว่าปีนี้ขอให้พนักงานทุกคนทำใจ เนื่องจากปี 2558 ทีโอทีมีรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า ส่งผลให้ถึงสิ้นเดือนกันยายน บริษัทมีสถานภาพการเงินขาดทุน 1,300 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะขาดทุนเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปี ส่งผลให้ต้นปี 2559 พนักงานจะไม่ได้รับโบนัส และอาจมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ขอยืนยันว่าทีโอทีจะยังมีอนาคต หากได้รับคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์กลับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์ ได้เสาโทรคมนาคมคืนจากคู่สัญญาสัมปทาน และสามารถหาพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมให้บริการ 3จี ทีโอที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมาย สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประชุมหารือในกรณีที่กลุ่มนักเตะทีม "ฮัลโหล" ทีโอที เอสซี ยื่นร้องเรียนหลังถูกค้างเงินค่าเหนื่อย 3 เดือน รวมกว่า 9 ล้านบาท โดยได้เชิญกลุ่มนักเตะทีโอที และนายชัชชาล เผ่าสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนส่งเสริมธุรกิจ ดิจิตัล บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มาเข้าร่วมด้วยที่ห้องสมาคมฟุตบอลฯ สนาม ศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
วีรวงศ์ เล็กสุนทร ตัวแทนนักเตะ ทีโอที กล่าวว่า หลังจากไม่รับเงิน 3 เดือนทำให้ นักเตะไม่มีเงินใช้จ่าย และไม่มีเงินเติมน้ำมันรถเพื่อเดินทางไปฝึกซ้อม นักเตะต่างชาติบางคนก็ถูกไล่ออกจากหอพักแล้วด้วย รวมถึงสนามฝึกซ้อมก็หญ้าขึ้นสูง และไม่มีน้ำดื่มให้กับนักเตะด้วย จึงอยากขอความชัดเจนในเรื่องนี้ และหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว รวมทั้งมียอดเงินค้างค่าเหนื่อย นักเตะทั้งหมดกว่า 9 ล้านบาท
นายชัชวาลกล่าวว่า ทีมทีโอทีได้เซ็นสัญญากับบริษัท ซีจีเอฟ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นพันธมิตรเข้ามาสนับสนุนทีมจำนวนหุ้น 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ซีจีเอฟทำผิดสัญญาตั้งแต่ต้น และถึงตอนนี้ยังไม่ได้ให้เงินสักบาทเลย ทำให้ได้ทำหนังสือไปถึงซีจีเอฟถึงเงินสนับสนุนทีม 20 ล้านบาท และมีกำหนดเส้นตายวันที่ 11 ตุลาคมนี้ สำหรับเงินที่ค้างนักเตะนั้น บมจ.ทีโอทีจะดูแลจ่ายให้ทั้งหมดเป็นกรณีพิเศษ คาดว่าจะเบิกจ่ายให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558 (หน้า 16)