คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ที่ทำอยู่ปัจจุบันนะครับ เอาคร่าวๆ นะครับ
1. สัญญาเช่าระยะยาว จดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน ค่าภาษีการจดและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้เช่าเป็นผู้จ่าย (แล้วแต่ตกลง)
2. ค่าเช่า จะขอเป็นเงินก้อนแรก (upfront) 20-25% ของมูลค่าเช่าทั้งหมด เอามาก่อนเพื่อความอุ่นใจ
3. ค่าเช่าคิดที่ราคาประมาณ 2-4% ของราคาประเมิน โดยปรับเพิ่มทุก 3 ปี ปีละ 10% (อันนี้แล้วแต่ตกลง)
4. ผลตอบแทนจากกำไร ไม่เอา (เพราะกลัวได้ไม่ชัวร์ กลัวว่าจะอัดรายจ่ายมา ทำให้กำไรหด) ขอเป็นค่าเช่าเพียวๆ ดีกว่า
5. ในกรณีที่จะเช่าต่อ ต้องเจรจาก่อนหมดสัญญา 5 ปี มิฉะนั้นถือว่าเราสามารถดีลกับรายอื่นได้ทันที (จะได้ปล่อยเช่าไม่ขาดตอน)
6. กรณีครบอายุสัญญาเช่า ให้เรามีสิทธิเลือกว่าจะคงสภาพไว้แบบนั้น หรือให้ผู้เช่ารื้อถอน หากเลือกให้ผู้เช่ารื้อถอน ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ตรงนี้ที่ผมทำอยู่ ผมมีเก็บ sinking fund สำหรับการรื้อถอนด้วย โดยเก็บไว้เป็นบัญชีร่วม)
7. กรณีที่สร้างไม่เสร็จภายใน 3-5 ปี ให้เรามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ โดยไม่คืนเงิน upfront (ประเด็นนี้คือ เรากลัวว่าถ้าสร้างไม่เสร็จตามกำหนดก็จะไม่มีรายได้เพียงพอมาชำระค่าเช่าแก่เรา)
8. ในช่วงก่อนครบอายุสัญญา 3-5 ปี อาจจะล๊อคว่า ห้ามมีหนี้ค่าก่อสร้างเกินกี่บาท (เช่าอาจจะห้ามเกิน 50% ของ sinking fund) เหตุผลก็เพราะว่า หนี้ก่อสร้างจะมีสิทธิยึดหน่วง (ตัวแผงโซล่าร์ ไม่เกี่ยวกับที่ดิน) เวลาที่ส่งมอบพื้นที่ดิน เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างจะมีบุริมสิทธิ์ดีกว่าเราซึ่งเป็นผู้ให้เช่า
ความเสี่ยงของผู้ให้เช่า : จะมีสองส่วนหลัก ก็คือ ช่วงเวลาที่ก่อสร้าง กับช่วงเวลาส่งมอบพื้นที่ (handover) เมื่อครบอายุสัญญา
อันนี้คือเท่าที่พอจะมีความรู้นะครับ ผิดถูกโปรดไตร่ตรองอีกที ฟังหูไว้หู แล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูอีกทีครับ..
1. สัญญาเช่าระยะยาว จดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน ค่าภาษีการจดและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้เช่าเป็นผู้จ่าย (แล้วแต่ตกลง)
2. ค่าเช่า จะขอเป็นเงินก้อนแรก (upfront) 20-25% ของมูลค่าเช่าทั้งหมด เอามาก่อนเพื่อความอุ่นใจ
3. ค่าเช่าคิดที่ราคาประมาณ 2-4% ของราคาประเมิน โดยปรับเพิ่มทุก 3 ปี ปีละ 10% (อันนี้แล้วแต่ตกลง)
4. ผลตอบแทนจากกำไร ไม่เอา (เพราะกลัวได้ไม่ชัวร์ กลัวว่าจะอัดรายจ่ายมา ทำให้กำไรหด) ขอเป็นค่าเช่าเพียวๆ ดีกว่า
5. ในกรณีที่จะเช่าต่อ ต้องเจรจาก่อนหมดสัญญา 5 ปี มิฉะนั้นถือว่าเราสามารถดีลกับรายอื่นได้ทันที (จะได้ปล่อยเช่าไม่ขาดตอน)
6. กรณีครบอายุสัญญาเช่า ให้เรามีสิทธิเลือกว่าจะคงสภาพไว้แบบนั้น หรือให้ผู้เช่ารื้อถอน หากเลือกให้ผู้เช่ารื้อถอน ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ตรงนี้ที่ผมทำอยู่ ผมมีเก็บ sinking fund สำหรับการรื้อถอนด้วย โดยเก็บไว้เป็นบัญชีร่วม)
7. กรณีที่สร้างไม่เสร็จภายใน 3-5 ปี ให้เรามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ โดยไม่คืนเงิน upfront (ประเด็นนี้คือ เรากลัวว่าถ้าสร้างไม่เสร็จตามกำหนดก็จะไม่มีรายได้เพียงพอมาชำระค่าเช่าแก่เรา)
8. ในช่วงก่อนครบอายุสัญญา 3-5 ปี อาจจะล๊อคว่า ห้ามมีหนี้ค่าก่อสร้างเกินกี่บาท (เช่าอาจจะห้ามเกิน 50% ของ sinking fund) เหตุผลก็เพราะว่า หนี้ก่อสร้างจะมีสิทธิยึดหน่วง (ตัวแผงโซล่าร์ ไม่เกี่ยวกับที่ดิน) เวลาที่ส่งมอบพื้นที่ดิน เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างจะมีบุริมสิทธิ์ดีกว่าเราซึ่งเป็นผู้ให้เช่า
ความเสี่ยงของผู้ให้เช่า : จะมีสองส่วนหลัก ก็คือ ช่วงเวลาที่ก่อสร้าง กับช่วงเวลาส่งมอบพื้นที่ (handover) เมื่อครบอายุสัญญา
อันนี้คือเท่าที่พอจะมีความรู้นะครับ ผิดถูกโปรดไตร่ตรองอีกที ฟังหูไว้หู แล้วปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูอีกทีครับ..
แสดงความคิดเห็น
สอบถามเรื่องการให้เช่าที่ดินระยะยาว
มีที่ดิน 80 ไร่ ราคาประเมินอยู่ที่ 35 ล้านบาท ทางสหกรณ์การเกษตรจะมาขอเช่าเพื่อทำโซลาร์ฟาร์ม โดยเบื้องต้น
คิดค่าเช่าให้ 10,000 บาท ต่อ ปี ต่อ ไร่ และเบื้องต้นทางสหกรณ์จะคิดเปอร์เซ็นต์จากผลกำไรให้อีก
(ตรงนี้มีท่านใดทราบรายละเอียดหรือเปล่าคะ ว่าเคยมีการคิดกันอย่างไร)
อยากทราบหลักเกณฑ์ในการทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว ว่าควรระบุอะไรในสัญญาเช่าได้บ้างคะ
ค้นใน google แล้วแต่ได้คำตอบที่ไม่ชัดเจน เลยมาขอความรู้ในนี้ค่ะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าอย่างสูง