สวัสดีค๊าาา เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกของเรา
ไปเที่ยวสุราษฎ์รธานีกับเราสองสาวอวบอ้วนกันค่ะ 5 วัน 4 คืน

ช่วงที่ผ่านมาชีวิตเหนื่อยมากกกก ขอลาไปชาร์ตแบตเตอรี่หัวใจตัวเองซะหน่อย
ก่อนหน้าจะไปเที่ยว 3-4 วัน มีมรสุมเข้าไทย ชื่อเจ้าพายุหว่ามก๋อ ตกหนักมากกก แถวบ้านนี่น้ำท่วมพังมาก
เราสองคนก็ลุ้นอยู่ว่าเราจะยังไปเที่ยวได้อยู่รึเปล่า พอถึงวันเดินทางฝนก็ยังตกค่ะ แต่ก็ไปจ่ายหมดละนี่ 555
ตกตั้งแต่ที่บ้านไปยันดอนเมือง ลุ้นอีกว่าที่สุราษฎร์ตกรึเปล่า โทรเช็คเพื่อนทานู้นเค้าบอกว่าไม่ตกค่ะมา 2-3 ละ

Day 1 (วันแรกนี่แทบไม่ได้อะไร 55555555555)
เราบินไฟท์ 18.55 ค่ะ จองตั๋วล่วงหน้าของไลอ้อนแอร์ 395.- ไป-กลับ คนละ 790.- ถูกมั่กมาก



ถึงสนามบินสุราษฎร์ก็ 20.20 น. เลยนั่งแท็กซี่สนามบินไปโรงแรมที่จองไว้ อยู่แถวอำเภอพุนพิน
โรงแรมอยู่ในปั้มคาลเท็กซ์ เราดีใจมากเพราะมีซุปเปอร์มาเก็ต ไม่ต้องหากินไกล เพราะดึกมากแล้ว
แต่เราเสียใจมาก เพราะปั้มน้ำมันจะไม่ขายเบียร์ในปั้ม แต่ไม่เป็นไร ในห้องพักมี 5555555++++
ห้องน่ารักจัดว่าโอเคมากๆเลย สมราคา 650.-



Day 2
แต่ๆๆๆๆๆ......เราไม่รู้ว่าจะไปที่เขื่อนยังไง พอไปเข้าซุปเปอร์เลยถามพนักงาน
เราเข้าใจว่ารถจะหาง่ายกว่าที่คิด คือมโนไปเองว่าเดินทางสะดวก 55555
เค้าบอกมีรถประจำทางวิ่งผ่านนะ หรือจะเอารถตู้ พี่เค้าก็เอาเบอร์ให้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เบอร์รถตู้ 077-287059
เช้ามารถตู้มารับถึงหน้าโรงแรมเลย ตอน 9 โมงเช้า ค่ารถตู้คนละ 200.-
(แต่พอถึงเขื่อนลุงที่แพแอบบอกว่าทำไมค่ารถตู้แพงจัง ขนาดขากลับนั่งจากเขื่อนเข้าตัวเมืองยังแค่ 150.- เงิบจิ 555)

อากาศดีมาก แดดแรง ดีใจมากกกก จะได้ถ่ายรูปสวยๆ 5555555
ลุงที่แพที่เราจะไปนอนก็โทรหาตอนรถตู้กำลังจะไปถึงพอดี ชื่อลุงอรุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เบอร์ติดต่อแพนางไพร 081-0851762
ค่าเรือเหมาลำ 2000.- (ไปกันสองคนก็ร้องอื้อหื้ออยู่เหมือนกันนะคะ 5555555555555)
ลุงบอก น้ำที่ขึ้นแพยังไม่ลดเลยลูกเอ้ยยย ฝนตกเยอะก่อนหน้านี้ น้ำเอ่อขึ้นมาเลย


พอขึ้นเรือได้เท่านั้นแหละ น้องที่ขับเรือขับแร็วมากกกกก โอ้โห ผมเผิมนี่กระจายกันเลยทีเดียว
มีการบอก "พี่ๆๆ นั่งถ่ายตรงหัวเรือได้นะครับ" คิดในใจผมพี่เปิงขนาดนี้จะถ่ายยังไง
แล้วน้องก็ไม่มีท่าทีว่าจะเบาเครื่องให้เลย 555555555555 คือจะรีบแท้
เรากะน้องอ้วนคุยกันว่าถ่ายไรดีง่ะ มีแต่ท้องฟ้า ภูเขา กับน้ำ 55555555555555
ถ่ายไม่ถูกเลย คือเราไม่ได้ตั้งโจทย์ว่าภาพที่ได้จะต้องออกมาสวยสุดๆเหมือนช่างภาพมืออาชีพ
คือเราไปพักผ่อนจริงๆ บางภาพเก็บด้วยตา บันทึกลงสมองส่วนที่กลวงๆของเราก็ยังพอจดจำได้ทุกภาพ 555555
สิ่งที่เราเห็นตรงหน้าคือมันสดชื่นมากกกกกกกก ซักพัก เอ้าๆๆๆๆ สัญญาณโทรศัพท์ หายไปแล้ว
แต่ไม่เป็นไร ชัตดาวน์ตัวเองบ้างก็ดี อยู่กับตัวเอง อยู่กับความสงบในใจ อาจคิดอะไรๆได้มากขึ้น(มั้ง 5555)



ถึงแล้ววววววววววว "แพนางไพร" ใช้เวลานั่งเรือไม่ถึงชั่วโมง ค่าห้อง 300/คน/คืน
ไปถึงคือเงียบมาก อาจเป็นเพราะเราไปวันพฤหัสด้วยมั้ง คือดีชอบเลย


เราได้ห้องพักห้องแรกเลย ดีเหมือนกัน ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
ไปถึงมีผู้ชาย 2 คน เล่นน้ำกัน เรากับน้องอ้วนร้องอุ้ยหล่ออะ อยู่ห้องข้างๆ
พอได้ยินเสียงเท่านั้นแหละ อุ้ยยยย เค้าเป็นแฟนกันนี่แกกกกกก ง่อวววววว อดฟินเบยยย ==!



น้ำใสมากกกกกกกก ใสจนน่ากลัว เห็นท่อนไม้ (วุ้ยแอบหลอน)



อันนี้เป็นรูปห้องพักที่แพค่ะ แพนี้เป็นห้องน้ำรวม ห้องน้ำสะอาดมากขอบอกเลอออ
ยังคิดว่า โห กลางคืนจะร้อนป่าวเนี่ย พัดลมก็ไม่มีเลย ผิดคาด อากาศดีมาก ถึงขนาดกอดผ้าห่มกันเลยทีเดียว



ต่อไปทำไรล่ะ เซลพี่ตัวเองกันสิ ไม่รู้จะออกแบบภาพที่จะถ่ายยังไง 555555


น้ำคือใสไหลเย็นเห็นปลาตะเพียน สดชื่นสุดๆกันไปเลย



จริงๆอุปกรณ์ถ่ายรูปเราเยอะมากเลยนะ แต่รูปออกมากากมาก
ไม่เคยจริงจังกับการปรับนู้นนี่นั่น เน้นสื่ออารมณ์ตลอด 555555555555555
เราไม่รู้จะทำอะไร เหมือนชีวิตแบบหยุดนิ่งมาก หลับไปสองตื่น
ลมเย็นมากๆๆ นึกว่านอนไปนาน หลับไปครั้งละไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลย
เรานอนหลับอยู่หน้าห้องเลย ตื่นเพราะข้างห้องโดดน้ำนี่แหละ 555555555555



ตื่นมานั่งกินข้าวกล่องที่ซื้อก่อนลงมาแพ เพราะเค้าว่าอาหารแพง
แต่สุดท้ายมื้อเย็นเราก็ต้องไปฝากท้องไว้ที่นั่นอยู่ดี 55555555555
เรากินอาหารตามสั่งง่ายๆหรือสิ้นคิดไม่รู้นะ กระเพราหมูสับไข่ดาว จานละ 80.- ได้

พอตกเย็นหน่อยฝนตกเฉยเลย ง่อวววววววววววววววว
เราไม่ได้เล่นน้ำกะชาวบ้านเค้าเลย มาถึงเป็นไข้เลือดออกพอดี เสียใจจุย ได้แต่นั่งเตะน้ำเล่น
พอฝนหยุด อู้หูววววววว รุ่งกินน้ำขึ้นใกล้มาก นึกถึงการ์ตูนเฮมเบะเลยอะ(บอกอายุเลย 555555)



พอฝนหยุด น้องอ้วน ขอนั่งชิลบ้างนะ



กลางคืนก็สวยไปอีกแบบ แต่ไม่เงียบนี่สิ มีคนบอกว่าขอจัดงานวันเกิด
เสียงร้องคาราโอเกะแบบว่าดังมาก 5555555555555555
รู้สึกชีวิตผ่านไปช้ามากกกกกกกกกก แต่เราเข้านอนดีกว่า แบบว่าไม่มีไรทำ
ฝนก็ตก หลับสนิทมาก มาตื่นอีกทีตี 4 ปวดฉิงฉองสุดๆ แต่ไม่กล้าลุกไปห้องน้ำ ไฟดับหมดแย้วอ่าาา
จะปลุกน้องอ้วนก็เกรงใจ เห็นกรนอย่างเมามันส์ 55555555 ฝนตกหนักมากๆๆๆๆ



Day 3
เช้ามาก็ยังตกอยู่ แหมมม ก็ลุ้นว่าจะได้ถ่ายหมอกๆตอนเช้า อันนี้ยิ่งกว่าหมอก ขาวมืดมาเลย 555555
ตอนแรกเรากะว่า เราจะอยู่นี่สองคืนเลยตัดขาดโลกภายนอกซักพัก
เราไม่ได้คุยกะเค้าเรื่องค่าเรือถ้าอยู่ต่อ พอคุยรู้เรื่องเลย เรือสแตนด์บายรอเรา 2 วัน
เท่ากับว่าต้องเสียค่าเรือ 4000.- เราเลยกลับดีกว่า 555555555555555555
ค่าเรือแพงกว่าค่าเครื่องบินอีกง่ะ 55555555555555555555



กินกาแฟที่แพเสร็จ เค้ามีให้ชงเองค่ะ พอเห็นฝนหยุด เราก็ว่าเออกลับกันดีกว่า



พอทำท่าจะกลับเท่านั้นแหละ ตกอีกละ 555555555555555 เราก็ไม่ลดละเซลฟี่ต่อไป



น้องที่ขับเรือพาแวะไปดูเขาสามเกลอขากลับค่ะ ฝนก็ตกจังเลย 555555 สนุกดีๆๆๆๆๆ



กำลังผ่านเขื่อน จะถึงฝั่งแล้วๆ



ถึงฝั่งแล้วววววววว ขึ้นมาเจอรูปตัวเองหน้าเหว๋อๆๆในจานใบหนึ่ง ราคา 100.- 555555



พอถึงฝั่งลุงอรุณก็โทรเรียกรถตู้ให้ไปส่ง คนที่ขึ้นจากแพ เรากะน้องอ้วนในเมือง
ขอบพระคุณลุงมากค่ะ เราสองคนนี่ไปแบบบางทีมึนจริงไรจริง
บางอย่างก็มีแพลนบ้างไรบ้าง บางอย่างก็ไม่ได้แพลนไปเลย 5555555555
แต่เราสองคนไม่ซีเรียสค่ะถือว่ามาพักผ่อน เก็บไว้เป็นเรื่องเล่า
บางแผนวางมาอาจไม่ตามแผน เปลี่ยนตามสถานการณ์สนุกดีนะเราว่า