++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


24/12/2559
และแล้ววันเดินทางก็มาถึงเราและเพื่อนเริ่มเดินทางจากสระบุรีเพื่อไปขึ้นเครื่องรอบ 9.45 ด้วยสายการบินหางแดง ซึ่งความตื่นเต้นและการกลัวตกเครื่อง พวกเราแหกขี้ตามากันตั้งหกโมงเช้ากันเลยทีเดียว ซึ่งเราก็ได้นัดเพื่อนอีกคนไว้ที่สนามบิน ต๊าย นางเวลาเดียวกันเลย  แหกขี้ตามาเช่นเดียวกัน ไม่เป็นไรมาก่อนถือว่าได้เปรียบ มีเวลาเตรียมตัวเยอะ เอาละระหว่างรอก็ถ่ายภาพเจ้าสามตัวด้านบน  นั่งๆ นอนๆ อ้าวถึงแล้วสุราษ  

จากสนามบินเข้ามาในตัวเมืองสุราษเราก็นั่งรถบริการของพันทิปทัวร์มาลงที่ตลาดเกษตรครับ ราคาตามก็ 100 บาทตามที่เพื่อนๆก่อนหน้าได้รีวิวไปแล้วน๊าาประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็จะมาถึงตลาดเกษตรจ๊ะ

แถวๆตลาดเกษตร ก็จะมีคิวรถตู้เพื่อไปเขื่อนเชี่ยวหลาน หาๆดูเอาน๊าาาา อย่าไปเชื่อเอเจนซี่นะ ราคาจะแพงกว่าหลายสิบบาท พวกเราโดนมาแล้วเพราะไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลและคิดว่ามันน่าจะสบายกว่า ง่อววว ไม่เป็นไรคิดว่าเสียค่าโง่เพื่อมาเที่ยวววว (แอบเจ็บอยู่ลึกๆ ฮ่าาาาาา) จากตลาดเกษตรไปเขื่อนใช้ระยะเวลาการเดินทางราวๆสองชั่วโมง ก็จะมาถึงทางเข้าเขื่อน ซึ่งรถตู้คนที่เรานั่งไปนั้นใจดีพาเราขึ้นไปบนสันเขื่อนก่อน แล้วค่อยพาเรามาส่งที่ท่าเรือเพื่อไปที่พัก ไม่รู้ว่าปกติเขาพาไปดูสันเขื่อนไหมนะ

อูยยยยยย เขื่อนอะไรทำไมมันสวยจัง ใหญ่ด้วย สมใจที่เราอยากมาจริงๆ


คุณลุงขับรถตู้ปล่อยเราไปถ่ายรูปอยู่สัก สิบนาทีจากนั้นแกก็ไปส่งพวกเราที่ท่าเรือเพื่อต่อเรือไปยังที่พัก

สำหรับเรือเราได้จองไว้ล่วงหน้ากับลุงเขียว แกใจดีมาก โทรตาม โทรถามตลอดว่าถึงไหนแล้ว ออกจากในเขื่อนมาดูเราตั้งสองรอบ ฮ่าา แต่พวกเราก็ยังมิถึงไหนเลยจ๊าาา  ค่าเรือเป็นแบบเหมาลำเนาะ ของพวกเราได้ราคา 3000 บาท ไปกันสามคนคนละพันเลย แนะนำให้ไปกันเยอะๆ น๊าาาา จะได้สนุกๆและถูก เราว่าราคานี้ก็โอเคนะลุงแกใจดี พาแวะ เทคแคร์ตลอดๆ เบอร์ลุงเขียวน๊าา 084-851-8658 เอาล่ะระหว่างนี้ก็มีแต่ภาพละ เพราะนั่งเรือ เอาหน้ารับลม กดชัตเตอร์รัวๆ กันไป จ้าาาาาา


สมใจกับที่อยากมาจริงๆ อากาศดีมาก สูดเข้าไปให้เต็มปอด เอาความเหนื่อยล้าทิ้งไป บรัยส์ความเหนื่อยทั้งหลาย
อุ๊ยๆๆๆ มาเชี่ยวหลานก็ต้องทำท่าถ่ายรูปตามกระทู้อื่นสิคะ รอไรล่ะ ไปๆ ค่ะ นั่งหัวเรือ

นี่เพื่อนร่วมทริปนาจาาาาาาาาาาา

มาดูกันค่ะเคมเปญนี้ใครชนะ ฮ่าาา โอ้ยกดชัตเตอร์รัวๆๆ ไปค่ะ

ทีมบีค่าาา

ทีมพี่เกด

ทีมพี่ช่าาาา

ขำขัน อรรถรสกันเลยทีเดียวละแกรรร  เอ้าถ่ายรูปกันไปเพลินๆ แป๊ปเดียวลุงเขียวก็บอกว่าถึงแล้วววว หินสามเกลอ หรือกุ้ยหลินเมืองไทย ไหนๆ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึกหน่อย

เออออออออออออ มันดีว่ะแกรดีจริงๆนะ ขอบอกเลย สดชื่น ร่มรื่น วิวสวยมากกก

วันที่เราไปมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กำลังดำผุดดำว่าย โดดน้ำ ตู๊มต๊าม กันอย่างอรรถรสมากก เล่นซะหน้าแลนด์มาร์คเขื่อนเลยนะยูววว

หลังจากชมหินสามเกลอกันเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปยังที่พักซึ่งเราได้จองแพไกรศรไว้ เป็นแพของทางอุทยาน ราคาต่อคนคืนละ 600 บาท เบอร์โทรนาจาาาา 086-120-7875 แพไกรศรได้ชื่อว่าเป็นแพที่อยู่ลึกสุดๆ ฮ่าาา เราผ่านไปหลายแพมาก กว่าจะถึง ผ่านแล้วผ่านเล่า ฮ่าาา ในที่สุดก็ถึงแพเรา

แพไกรศรเป็นแพที่ติดกับภูเขา ในยามเช้าจึงมีฝูงสัตว์ลงมากินน้ำ อย่างเช่นฝูงกระทิง แต่ว่าพวกเราไม่ทันเห็น เพราะตื่นสาย ฮ่าาาาา

ฟิวมันได้ เลยนึกถึงเพลงนี้ ทำท่านี้ "อยู่อย่างคนเหงาๆ อยู่กับความเดียวดาย" ฮ่าาาา

วิวหน้าที่พักมองแล้วมันช่างสบายตา สบายใจจริงๆ

น่าเสียดายจังที่เราถึงก็ใกล้ค่ำแล้วได้เล่นน้ำแค่แปปเดียว แถมเราค้างที่นี่แค่คืนเดียว กิจกรรมอื่นๆ ก็ยังไม่ได้ทำเลยยย หากเพื่อนๆได้มาเที่ยวเชี่ยวหลานเราแนะนำเลยว่าให้ค้างที่นี่หลายๆคืนมันคือการพักผ่อนจริงๆ ธรรมชาติดีมาก อากาศดี วิวสวย เหมือน เพาเวอร์แบงค์ยี่ห้อดี ที่ทำให้แบตในตัวเราเต็ม มันดีจริง เสียดายที่เราได้มาเจอกันแค่แปปเดียวเชี่ยวหลาน

ระหว่างที่เจ้าของกระทู้เล่นน้ำนี้ สองสาวชะนีน้อย ก็ได้นั่งเรือกับลุงเขียว ไปเซเว่นกลางเขื่อน ฮ่าาา เขาว่าอย่างนั้น เพื่อไปซื้อสบู่และยาสระผม ยาสีฟันเพราะพวกเราไม่ได้พกมา ส่วนตัวเจ้าของกระทู้ก็แหวกว่ายเป็นเงือกน้อย เป็นเจ้าแม่นาคี อยู่คนเดียว จ๊าาาาา หลังจากนั้นก็อาบน้ำหน้าแพ ไปกินข้าวเมาท์มอย นั่งจิบเบาๆ สี่ทุ่มดับไฟ เอ้อๆๆๆ ลืมบอกเลยว่า ที่แพให้ใช้ไฟฟ้าแค่ช่วงหกโมงเย็น ถึง สี่ทุ่ม หลังจากจิบกันเบาๆ เราก็เข้านอนกลางธรรมชาติ คลื่นซัดแพเบาๆ เป็นการกล่อมนอน สักพักหลับสนิท  คร่อกกกก  หมดไปแล้ววันแรก