แปลข่าวของสำนักพิมพ์การ์เดี้ยนอันนี้นะครับ
http://www.theguardian.com/science/2015/sep/28/nasa-scientists-find-evidence-flowing-water-mars
ถ้ามีแปลผิดพลาดไปบ้างต้องขออภัยด้วย สำหรับศัพท์บางคำก็ไม่รู้จะแปลยังไงเพราะเป็นศัพท์เฉพาะเวลาแปลก็จะมีเขียน ? ไว้ต่อท้ายเพราะไม่แน่ใจว่ามันแปลไทยยังไงหรือเรียกทับศัพท์ไปได้เลยกันแน่
ในต้นทางมีรูปอยู่นะแต่ผมไม่ได้เอามาลงไว้
นักวิทยาศาสตร์นาซ่าพบหลักฐานว่ามีการไหลของน้ำบนดาวอังคาร
นักวิจัยค้นพบร่องน้ำจากการไหลของน้ำลงจากหน้าผาและผนังหลุมอุกกาบาต(crater)ในช่วงหน้าร้อนซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการค้นพบสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
น้ำของเหลวไหลลงมาจากหุบเขาและผนังหลุมอุกกาบาตในช่วงฤดูร้อนบนดาวอังคาร ทำให้นักวิจัยมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะพบว่าเป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอะไรซักอย่าง
น้ำที่ไหลนั้นทิ้งร่องรอยเป็นรอยสีดำยาวบนพื้นผิวของดาวอังคารซึ่งไหลยาวเป็นร้อยเมตรในเดือนที่อุ่นก่อนที่จะแห้งไปในฤดูใบไม้ร่วงเพราะว่าอุณหภูมิของพื้นผิวลดลง
รูปที่ถ่ายมาจากดาวอังคารนั้นแสดงให้เห็นถึงหน้าผา ,และกำแพงที่สูงชันของหุบเขาและหลุมอุกกาบาตเป็นรอยของน้ำไหลในช่วงหน้าร้อนในหลายๆ จุด ในบางจุดก็จะเห็นทางน้ำไหลหลายๆ ร่อง
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าน้ำไหลมาจากไหน แต่มันอาจจะซึมขึ้นมาจากน้ำแข็งที่อยู่ใต้พื้นดินหรือมาจากน้ำที่อยู่ในชั้นหินใต้ผิวดินที่เค็มหรือว่ามาจากการควบแน่นในอากาศบนดาวอังคารกันแน่
"ตอนนี้เราพบว่ามีน้ำของเหลวบนพื้นผิวของดาวอังคาร" Michael Meyer, หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ในโครงการสำรวจดาวอังคารของนาซ่าบอกกับสำนักข่าวการ์เดี้ยน "จากการค้นพบนี้พวกเราสงสัยว่าอย่างน้อยก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต"
ตรงพื้นที่ที่มีทางน้ำไหลก็อาจจะทำให้นาซ่าและองค์กรอวกาศอื่นๆ ตั้งเป้าที่จะค้นหาสิ่งมีชีวิตในพื้นที่แถบนี้ และก็อาจจะเป็นจุดสำหรับลงสำรวจในโครงการส่งคนไปสำรวจดาวอังคารในอนาคตเพราะว่าที่ตรงนี้สามารถหาน้ำไปใช้ได้
สำหรับโครงการหาน้ำบนดาวอังคารโครงการแรกๆ ต้องย้อนไปถึงปี 1970 ที่ถ่ายรูปกลับมายังโลกให้เห็นถึงผิวหน้าของดาวอังคารที่มีรอยแม่น้ำที่แห้งไปแล้วและพื้นผิวที่ครั้งนึงเคยจมอยู่ใต้ทะเลสาปที่กว้างใหญ่
ต้นปีนี้ นาซ่าเผยให้เห็นถึงหลักฐานที่ครั้งนึงดาวอังคารเคยมีทะเลที่กว้างใหญ่ทางซีกเหนือของดาวอังคารที่กินพื้นที่ถึงครึ่งนึงของพื้นผิวดาว
แต่บางครั้งบางครั้งก็มีพบอะไรบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่าพื้นผิวของดาวอังคารยังเปียกอยู่ ก่อนหน้านี้เกือบสิบปี Mars Global Surveyor ของนาซ่าถ่ายรูปที่แสดงให้เห็นถึง
น้ำไหลในร่องธารน้ำไหล และไหลผ่านกองก้อนหิน ในปี 2011 กล้องความละเอียดสูงของ Mars Reconnaissance Orbiter ของนาซ่าถ่ายรูปที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คล้าย
ร่องน้ำเล็กๆ ไหลลงตรงผนังหลุมอุกกาบาต ในช่วงท้ายฤดูใบไม้ผลิจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง ไม่ต้องเดามาก นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อให้มันว่า "recurring slope lineae" หรือ RSL (เส้นตรงบนสโลปที่เกิดขึ้นซ้ำ?)
นักวิจัยได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องมืออื่นของ Mars Reconnaissance Orbiter ในการวิเคราะห์ถึงสารเคมีของร่อง RSL ที่ลึกลับ Lujendra Ojha แห่งสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจียในแอตแลนต้นและผู้ร่วมงานของเขาใช้เครื่องตรวจสเปกตรัมของ Mars Reconnaissance Orbiter เพื่อเช็คดูแสงอินฟราเรดที่สะท้อนกลับมาจากหน้าผาหินที่มีร่องสีดำนี้เริ่มปรากฎให้เห็นและยาวไปเรื่อยๆ จนสุดฤดูร้อนบนดาวอังคาร
ได้เขียนไว้ในนิตยสาร
Nature Geosciences ว่า ทางทีมได้อธิบายว่าได้พบสัญญาณทางอินฟราเรดว่าเป็น hydrated salts (เกลือไฮเดรต, ผลึกเกลือ?) ตรงที่มีทางดำโผล่ขึ้นมา แต่ก่อนหน้านั้นไม่พบว่ามี
hydrated salts ประกอบด้วย chlorates(คลอเรทส์) และ perchlorates(เปอคลอเรทส์?) ซึ่งก็เป็นหลักฐานว่ามีน้ำในพื้นที่ในการตรวจทั้ง 4 ที่คือที่หลุมอุกกาบาต Hale, Palikir, Horowitz และที่หุบผากว้างที่ชื่อว่า Coprates Chasma
"พื้นที่เหล่านี้ก็น่าจะเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร" Alfred McEwen ซึ่งเป็นนักธรณีวิทยาดาวเคราะห์ (planetary geologist) ที่มหาวิทยาลัยอริโซน่าและนักเขียนซีเนียร์กล่าว "การหาหลักฐานว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มันเป็นเรื่องสำคัญมากแต่มันก็อาจจะยากในการจะเข้าใจถึงระบบชีววิทยาของที่นี่เหมือนกันซึ่งถ้ามันไม่เหมือนกับบนโลกเราก็อาจจะทำให้ไม่คิดว่านั่นเป็นซากของสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ การพบเจอสิ่งมีชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำให้มีข้อมูลตรงส่วนนี้มากขึ้น"
การไหลของน้ำเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิบนพื้นผิวของดาวอังคารสูงขึ้นเกิน -23 องศาเซลเซียส น้ำสามารถไหลได้ในสภาวะที่เย็นขนาดนั้นก็เพราะว่าเกลือที่อยู่ในน้ำจะทำให้จุดเยือกแข็งของน้ำลดต่ำลงทำให้มันยังเป็นของเหลวอยู่ได้แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
แต่ก็ยังมีปริศนาอยู่ว่ามันไหลได้อย่างไร? เป็นไปได้ว่าน้ำแต่จนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังไม่มีสิ่งยืนยันจากการตรวจทางสเปกตรัมว่าเป็นน้ำ (เพราะตรวจพบแต่ว่าเป็นเกลือ:เขียนเสริม) " Meyer กล่าว "ตอนนี้เราสรุปว่า RSL นั้นเกิดจากน้ำทำปฏิกิริยากับ perchlorates เกิดเป็นน้ำเค็มไหลลงมา
John Bridges ศาสตราจารย์ทางวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ (planetary science) ที่มหาวิทยาลัย Leicester กล่าวว่าการศึกษานี้น่าหลงใหลมากแต่มันก็มีปัญหาเหมือนกัน ร่องรอยการไหลนี้อาจจะเอามาใช้ในการหาแหล่งน้ำบนดาวอังคารได้ ทำให้มันเป็นจุดแรกๆ ในการค้นหาสิ่งมีชีวิต และเป็นจุดที่จะส่งคนไปลงสำหรับการสำรวจในอนาคต แต่องค์กรทางอวกาศต่างๆ คงต้องระมัดระวังอย่างมากเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ที่อาจติดไปจากโลก ทำให้พื้นที่เหล่านี้เข้าไปสำรวจได้ยาก "เรื่องพวกนี้จะทำให้พวกเขาต้องคิดมาก" เขาพูด
ตอนนี้นักวิจัยสามารถมุ่งไปคิดเรื่องที่ว่าน้ำมาจากไหนได้ หินที่มีรูพรุนที่อยู่ใต้ผิวดาวอังคารอาจจะมีน้ำแข็งอยู่ข้างในซึ่งจะละลายในหน้าร้อนและไหลซึมออกมาที่ผิวหน้า
ความเป็นไปได้อื่นก็คือมีชั้นหินอุ้มน้ำที่ประกอบด้วยเกลือเข้มข้นอยู่ใต้ผิวดาวอังคารกระจัดกระจายไปทั่ว ไม่ได้รวมอยู่กันเป็นแอ่งใหญ่ๆ ทำให้มันมีการไหลในบางพื้นที่ แต่ก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเห็นมันไหลลงมาจากยอดของหลุมอุกกาบาต (เพราะว่าถ้ามันกระจายไปทั่วมันก็น่าจะไหลออกมาจากหลายๆ พื้นที่ไม่เฉพาะจากส่วนยอดอย่างเดียว)
ความเป็นไปได้อย่างที่สามและ McEwen ก็ชอบความเป็นไปได้นี้ก็คือเกลือบนพื้นผิวดาวอังคารดูดซับน้ำจากบรรยากาศจนกระทั่งมันมีมากจนไหลลงมา กระบวนการนี้เรียกว่า deliquescence ซึ่งพบเจอในทะเลทราย Atacama ซึ่งทำให้เกิดความชื้นเป็นหย่อมๆ ที่ทำให้จุลชีพอาศัยอยู่ได้
"มันเป็นผลงานที่น่าหลงใหลมาก" Bridges กล่าว "มุมมองของเราที่มีต่อดาวอังคารเปลี่ยนไปเลยและเราจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกยาวเกี่ยวกับเรื่องนี้"
แปลข่าว นักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับการไหลของน้ำบนดาวอังคาร
ถ้ามีแปลผิดพลาดไปบ้างต้องขออภัยด้วย สำหรับศัพท์บางคำก็ไม่รู้จะแปลยังไงเพราะเป็นศัพท์เฉพาะเวลาแปลก็จะมีเขียน ? ไว้ต่อท้ายเพราะไม่แน่ใจว่ามันแปลไทยยังไงหรือเรียกทับศัพท์ไปได้เลยกันแน่
ในต้นทางมีรูปอยู่นะแต่ผมไม่ได้เอามาลงไว้
นักวิทยาศาสตร์นาซ่าพบหลักฐานว่ามีการไหลของน้ำบนดาวอังคาร
นักวิจัยค้นพบร่องน้ำจากการไหลของน้ำลงจากหน้าผาและผนังหลุมอุกกาบาต(crater)ในช่วงหน้าร้อนซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการค้นพบสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
น้ำของเหลวไหลลงมาจากหุบเขาและผนังหลุมอุกกาบาตในช่วงฤดูร้อนบนดาวอังคาร ทำให้นักวิจัยมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะพบว่าเป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอะไรซักอย่าง
น้ำที่ไหลนั้นทิ้งร่องรอยเป็นรอยสีดำยาวบนพื้นผิวของดาวอังคารซึ่งไหลยาวเป็นร้อยเมตรในเดือนที่อุ่นก่อนที่จะแห้งไปในฤดูใบไม้ร่วงเพราะว่าอุณหภูมิของพื้นผิวลดลง
รูปที่ถ่ายมาจากดาวอังคารนั้นแสดงให้เห็นถึงหน้าผา ,และกำแพงที่สูงชันของหุบเขาและหลุมอุกกาบาตเป็นรอยของน้ำไหลในช่วงหน้าร้อนในหลายๆ จุด ในบางจุดก็จะเห็นทางน้ำไหลหลายๆ ร่อง
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าน้ำไหลมาจากไหน แต่มันอาจจะซึมขึ้นมาจากน้ำแข็งที่อยู่ใต้พื้นดินหรือมาจากน้ำที่อยู่ในชั้นหินใต้ผิวดินที่เค็มหรือว่ามาจากการควบแน่นในอากาศบนดาวอังคารกันแน่
"ตอนนี้เราพบว่ามีน้ำของเหลวบนพื้นผิวของดาวอังคาร" Michael Meyer, หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ในโครงการสำรวจดาวอังคารของนาซ่าบอกกับสำนักข่าวการ์เดี้ยน "จากการค้นพบนี้พวกเราสงสัยว่าอย่างน้อยก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต"
ตรงพื้นที่ที่มีทางน้ำไหลก็อาจจะทำให้นาซ่าและองค์กรอวกาศอื่นๆ ตั้งเป้าที่จะค้นหาสิ่งมีชีวิตในพื้นที่แถบนี้ และก็อาจจะเป็นจุดสำหรับลงสำรวจในโครงการส่งคนไปสำรวจดาวอังคารในอนาคตเพราะว่าที่ตรงนี้สามารถหาน้ำไปใช้ได้
สำหรับโครงการหาน้ำบนดาวอังคารโครงการแรกๆ ต้องย้อนไปถึงปี 1970 ที่ถ่ายรูปกลับมายังโลกให้เห็นถึงผิวหน้าของดาวอังคารที่มีรอยแม่น้ำที่แห้งไปแล้วและพื้นผิวที่ครั้งนึงเคยจมอยู่ใต้ทะเลสาปที่กว้างใหญ่ ต้นปีนี้ นาซ่าเผยให้เห็นถึงหลักฐานที่ครั้งนึงดาวอังคารเคยมีทะเลที่กว้างใหญ่ทางซีกเหนือของดาวอังคารที่กินพื้นที่ถึงครึ่งนึงของพื้นผิวดาว
แต่บางครั้งบางครั้งก็มีพบอะไรบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่าพื้นผิวของดาวอังคารยังเปียกอยู่ ก่อนหน้านี้เกือบสิบปี Mars Global Surveyor ของนาซ่าถ่ายรูปที่แสดงให้เห็นถึงน้ำไหลในร่องธารน้ำไหล และไหลผ่านกองก้อนหิน ในปี 2011 กล้องความละเอียดสูงของ Mars Reconnaissance Orbiter ของนาซ่าถ่ายรูปที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คล้ายร่องน้ำเล็กๆ ไหลลงตรงผนังหลุมอุกกาบาต ในช่วงท้ายฤดูใบไม้ผลิจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง ไม่ต้องเดามาก นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อให้มันว่า "recurring slope lineae" หรือ RSL (เส้นตรงบนสโลปที่เกิดขึ้นซ้ำ?)
นักวิจัยได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องมืออื่นของ Mars Reconnaissance Orbiter ในการวิเคราะห์ถึงสารเคมีของร่อง RSL ที่ลึกลับ Lujendra Ojha แห่งสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจียในแอตแลนต้นและผู้ร่วมงานของเขาใช้เครื่องตรวจสเปกตรัมของ Mars Reconnaissance Orbiter เพื่อเช็คดูแสงอินฟราเรดที่สะท้อนกลับมาจากหน้าผาหินที่มีร่องสีดำนี้เริ่มปรากฎให้เห็นและยาวไปเรื่อยๆ จนสุดฤดูร้อนบนดาวอังคาร
ได้เขียนไว้ในนิตยสาร Nature Geosciences ว่า ทางทีมได้อธิบายว่าได้พบสัญญาณทางอินฟราเรดว่าเป็น hydrated salts (เกลือไฮเดรต, ผลึกเกลือ?) ตรงที่มีทางดำโผล่ขึ้นมา แต่ก่อนหน้านั้นไม่พบว่ามี
hydrated salts ประกอบด้วย chlorates(คลอเรทส์) และ perchlorates(เปอคลอเรทส์?) ซึ่งก็เป็นหลักฐานว่ามีน้ำในพื้นที่ในการตรวจทั้ง 4 ที่คือที่หลุมอุกกาบาต Hale, Palikir, Horowitz และที่หุบผากว้างที่ชื่อว่า Coprates Chasma
"พื้นที่เหล่านี้ก็น่าจะเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร" Alfred McEwen ซึ่งเป็นนักธรณีวิทยาดาวเคราะห์ (planetary geologist) ที่มหาวิทยาลัยอริโซน่าและนักเขียนซีเนียร์กล่าว "การหาหลักฐานว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มันเป็นเรื่องสำคัญมากแต่มันก็อาจจะยากในการจะเข้าใจถึงระบบชีววิทยาของที่นี่เหมือนกันซึ่งถ้ามันไม่เหมือนกับบนโลกเราก็อาจจะทำให้ไม่คิดว่านั่นเป็นซากของสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ การพบเจอสิ่งมีชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำให้มีข้อมูลตรงส่วนนี้มากขึ้น"
การไหลของน้ำเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิบนพื้นผิวของดาวอังคารสูงขึ้นเกิน -23 องศาเซลเซียส น้ำสามารถไหลได้ในสภาวะที่เย็นขนาดนั้นก็เพราะว่าเกลือที่อยู่ในน้ำจะทำให้จุดเยือกแข็งของน้ำลดต่ำลงทำให้มันยังเป็นของเหลวอยู่ได้แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
แต่ก็ยังมีปริศนาอยู่ว่ามันไหลได้อย่างไร? เป็นไปได้ว่าน้ำแต่จนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังไม่มีสิ่งยืนยันจากการตรวจทางสเปกตรัมว่าเป็นน้ำ (เพราะตรวจพบแต่ว่าเป็นเกลือ:เขียนเสริม) " Meyer กล่าว "ตอนนี้เราสรุปว่า RSL นั้นเกิดจากน้ำทำปฏิกิริยากับ perchlorates เกิดเป็นน้ำเค็มไหลลงมา
John Bridges ศาสตราจารย์ทางวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ (planetary science) ที่มหาวิทยาลัย Leicester กล่าวว่าการศึกษานี้น่าหลงใหลมากแต่มันก็มีปัญหาเหมือนกัน ร่องรอยการไหลนี้อาจจะเอามาใช้ในการหาแหล่งน้ำบนดาวอังคารได้ ทำให้มันเป็นจุดแรกๆ ในการค้นหาสิ่งมีชีวิต และเป็นจุดที่จะส่งคนไปลงสำหรับการสำรวจในอนาคต แต่องค์กรทางอวกาศต่างๆ คงต้องระมัดระวังอย่างมากเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ที่อาจติดไปจากโลก ทำให้พื้นที่เหล่านี้เข้าไปสำรวจได้ยาก "เรื่องพวกนี้จะทำให้พวกเขาต้องคิดมาก" เขาพูด
ตอนนี้นักวิจัยสามารถมุ่งไปคิดเรื่องที่ว่าน้ำมาจากไหนได้ หินที่มีรูพรุนที่อยู่ใต้ผิวดาวอังคารอาจจะมีน้ำแข็งอยู่ข้างในซึ่งจะละลายในหน้าร้อนและไหลซึมออกมาที่ผิวหน้า
ความเป็นไปได้อื่นก็คือมีชั้นหินอุ้มน้ำที่ประกอบด้วยเกลือเข้มข้นอยู่ใต้ผิวดาวอังคารกระจัดกระจายไปทั่ว ไม่ได้รวมอยู่กันเป็นแอ่งใหญ่ๆ ทำให้มันมีการไหลในบางพื้นที่ แต่ก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเห็นมันไหลลงมาจากยอดของหลุมอุกกาบาต (เพราะว่าถ้ามันกระจายไปทั่วมันก็น่าจะไหลออกมาจากหลายๆ พื้นที่ไม่เฉพาะจากส่วนยอดอย่างเดียว)
ความเป็นไปได้อย่างที่สามและ McEwen ก็ชอบความเป็นไปได้นี้ก็คือเกลือบนพื้นผิวดาวอังคารดูดซับน้ำจากบรรยากาศจนกระทั่งมันมีมากจนไหลลงมา กระบวนการนี้เรียกว่า deliquescence ซึ่งพบเจอในทะเลทราย Atacama ซึ่งทำให้เกิดความชื้นเป็นหย่อมๆ ที่ทำให้จุลชีพอาศัยอยู่ได้
"มันเป็นผลงานที่น่าหลงใหลมาก" Bridges กล่าว "มุมมองของเราที่มีต่อดาวอังคารเปลี่ยนไปเลยและเราจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกยาวเกี่ยวกับเรื่องนี้"