สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่า เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องที่แต่ง หรือ สมมติขึ้นนะคะ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเราเองค่ะ จนต้องสูญเสียคนที่เรารัก ก็คือ " แม่ " ไปอย่างไม่มีวันกลับ ( เรื่องเล่าอาจจะยาวหน่อยนะคะ ) และอาจจะเรียบเรียงประโยคไม่ค่อยสวยงาม เพราะ เป็นกระทู้แรกค่ะ ยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าก่อนนะคะ
ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เรื่องการรับขันธ์ 5 นี้ แม่เราเคยไปรับมา แต่นานมากแล้ว ตั้งแต่เรายังไม่เกิด แต่เราเพิ่งมารู้เมื่อเดือน พ.ค 58 ตอนที่ดูดวงค่ะ หมอดูทักว่า มีผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดสีดำ ยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วเคยไปทำพิธี หรือ รับขันธ์อะไรมาหรือเปล่า เราเลยถามแม่ว่า เคยไปรับขันธ์อะไรมั้ย แม่บอกว่า เคยรับมา แต่นานมากแล้ว ขันธ์ก็หายไปแล้วด้วย หมอดูเค้าเลยบอกว่า ต้องมีพิธีลาขันธ์นะ พอวันรุ่งขึ้น เรากับพ่อรีบไปหาสิ่งของที่หมอดูบอก เพื่อทำพิธีลาขันธ์ พอทำพิธีเสร็จ ครอบครัวเราก็สบายใจขึ้นว่าทำพิธีอะไรเรียบร้อยแล้ว และไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก แต่.......เรื่องทั้งหมดยังไม่จบแค่นี้ค่ะ
ประมาณต้นเดือน มิ.ย. 58 ค่ะ แม่เราเริ่มป่วย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีอาการอะไรมาก่อนเลย แม่เราเริ่มกินข้าวไม่ได้ ข้อเท้าตรงตาตุ่ม บวม คล้ำ เหมือนลูกมะนาว เราเลยพาแม่ไปหาหมอ เพราะ คิดแค่ว่าแม่น้ำหนักตัวเยอะ ข้อเท้ารับน้ำหนักมาก เลยทำให้บวมหรือเปล่า พอไปตรวจหมอก็เอ็กซเรย์ จับข้อเท้าดู แล้วก็ให้ยามากิน พอกกลับมาบ้าน ซักประมาณ 3 วัน แม่เริ่มไม่กินข้าว กินแต่น้ำนิดหน่อย แล้วอาเจียน เรากับพ่อเห็นท่าไม่ดี เลยรีบพาแม่ส่ง รพ. มาถึง รพ. หมอรีบพาแม่เข้าห้องฉุกเฉิน เพราะ อาการแย่มาก ความดันต่ำ มีไข้ หนาวสั่น เหมือนคนใกล้จะหมดสติ หมอรีบใส่เครื่องช่วยหายใจ แล้วก็ฉีดยา นู่น นี่ นั่น แต่อาการยังดูไม่ดีขึ้น ต้องพาแม่ไปห้อง ICU เรากับพ่อเริ่มใจไม่ดี กลัวแม่จะเป็นอะไร พอเข้าไปซักพัก หมอก็บอกว่า ไม่ต้องกังวลนะ ถึงมือหมอแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง หมอเค้าก็พูดให้กำลังใจมั้ง เราก็ใจชื้นขึ้นนิดนึงแม่ต้องนอน ICU คืนนึง กับ อีก ครึ่งวัน ก็อาการดีขึ้น หมอเลยให้ย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยรวม หมอเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะ วันรุ่งขึ้น หมอบอกว่า แม่อาจจะติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ และมีค่าไตผิดปกติ แล้วหมอเค้าก็บอกว่า ค่อย ๆ รักษาไป เดี๋ยวก็หาย ไม่ต้องกังวล วันแรก หมอเริ่มให้ยาฆ่าเชื้อ แม่ก็ตอบสนองดียังไม่มีอะไรให้กังวล พอมาวันที่ 2 แม่เริ่มมีอาการเบลอนิด ๆ ไม่รู้ว่าแพ้ยาหรือเปล่า เพราะ แม่เล่าว่า ตอนกลางคืน แม่นอนแล้วฝัน หรือ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็ไม่แน่ แม่บอกเห็น ผู้ชายผิวดำ ตัวใหญ่ หน้าตาดุ มากับสุนัขสีดำ หน้าตาดุเหมือนกัน มายืนอยู่ปลายเตียง เหมือนมาจ้องมองดูว่า คนไหนที่ป่วยแล้วอาการทรุด เค้าอาจจะเอาไปอยู่ด้วย พอรุ่งเช้า คนที่อยู่เตียงข้าง ๆ แม่เราก็เสีย เราก็เลยพูดปลอบแม่ว่า ไม่มีอะไรหรอกมั้ง แค่ความฝัน แม่เราดูท่าทางกลัว และกังวล และถามเราว่า เอาพระมามั้ย เอามาใส่คอให้แม่หน่อย เราก็เลยเอาพระมาใส่ให้แม่ แม่นอนอยู่ห้องผู้ป่วยรวมประมาณอาทิตย์นึงได้ เราเห็นว่าอาการเริ่มดีขึ้น เลยขอหมอว่า จะย้ายไปห้องพิเศษได้มั้ย หมอบอกว่าได้ ก็เลยจัดแจงย้ายแม่มาห้องพิเศษ พอมาห้องพิเศษ แม่ก็ไม่ค่อยกินข้าว แล้วก็อาเจียน เราเลยบอกหมอ หมอเลยเปลี่ยนตัวยาให้ และให้นักกายภาพมาช่วยทำกายภาพ เพราะ แม่เรานอนเตียงนาน ขาไม่มีแรง อีกอย่างแม่ก็ตัวใหญ่ด้วย เลยต้องคอยทำกายภาพ แม่อยู่ รพ. ต่ออีกประมาณ 3 อาทิตย์ อาการโดยรวมดีขึ้น แต่ไม่มีแรงขา ต้องคอยกายภาพ และหมอก็ไม่อยากให้อยู่ รพ. ต่อ กลัวว่าจะกลับมาติดเชื้ออีก หมอเลยอนุญาตให้กลับบ้านได้
ขอเสริมนะคะ *** พอถึงวันที่แม่กลับมาบ้าน ( หมาของบ้านฝั่งตรงข้าม หอนทุกคืน ระหว่างเวลา เที่ยงคืน - ตี 4) เรา กับ พ่อ ได้ยินก็มองหน้ากัน กล้า ๆ กลัว ๆ ลุกขึ้นไปดูว่ามีอะไร แต่พอมองไปก็ไม่มี จนเช้า เราได้ยินบ้านฝั่งตรงข้ามที่มีหมา เค้าคุยกับบ้านข้าง ๆ ว่า ปกติ หมาไม่เคยหอน เค้าเลยลุกขึ้นดู เค้าบอกเค้าเห็นอะไรซักอย่าง เราได้ยินไม่ถนัด ตั้งแต่นั้น พอเค้าได้ยินหมาหอน เค้าก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาดูอีกเลย
ต่อนะคะ หลังจากแม่กลับบ้าน แม่ก็บอกอยากกินนู่น นี่ นั่น เราก็หามาทุกอย่าง แต่พอเอามาก็กลับกลายเป็นว่ากินไม่ได้ ไม่อยากกิน อาเจียนตลอด ยาก็ไม่กิน อาการของแม่เลยไม่ดีขึ้น พ่อเราเลยโทรไปปรึกษาน้องสาวเค้า ก็คือ อา ว่าทำไงดี คนป่วยไม่ยอมกินยา อาการเลยไม่ดีขึ้น อาเค้าเลยแนะนำว่าลองพาไปหาหมอฝรั่ง ที่ตัวเค้ารักษาอยู่มั้ย เผื่ออาการจะดีขึ้น เรากับพ่อเลยพาแม่ไป พอไปถึงเค้าก็วัดความดัน นู่น นี่ เค้าบอกว่า ความดันต่ำนะ มีไข้ด้วย หมอเลยบอก จะส่ง รพ. ใหญ่ แต่แม่ไม่ยอม แม่ไม่ไป หมอเลยต้องยอมตรวจ หมอเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะ ผล ออกมา คือ กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ และน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับไตด้วย หมอเลยให้ยามากิน แต่พอ กลับบ้านก็เป็นแบบเดิมอีก คือ ไม่ยอมกินยา อาการก็เลยทรุดอีกเรากับพ่อเลยพาแม่กลับไปหาหมออีก คราวนี้พอไปถึง แม่บอกปวดหลัง หมอเลยให้เข้าห้องเอ็กซเรย์ ผลออกมาว่า หมอนรองกระดูกทับเส้น เลยทำให้ปวดหลัง การรักษาก็ต้องผ่า แต่แม่เราไม่ผ่า เรากับพ่อก็ไม่อยากให้ผ่าด้วยแหละ เพราะ แม่อายุเยอะแล้ว แล้วอ้วนด้วย เลยเอาแค่ยามากิน แต่ก็เหมือนเดิม คือ ไม่กินยาอีกแล้ว พ่อเราเลยโทรบอกอาว่า มาช่วยหน่อย มาช่วยกันบังคับให้คนป่วยกินยาหน่อย เพราะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แล้วอาการป่วยของแม่ เป็นไวมาก ไวจนน่ากลัว
เดี๋ยวมาต่อค่ะ........
เรื่องลี้ลับเกี่ยวกับการรับขันธ์ 5
ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เรื่องการรับขันธ์ 5 นี้ แม่เราเคยไปรับมา แต่นานมากแล้ว ตั้งแต่เรายังไม่เกิด แต่เราเพิ่งมารู้เมื่อเดือน พ.ค 58 ตอนที่ดูดวงค่ะ หมอดูทักว่า มีผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดสีดำ ยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วเคยไปทำพิธี หรือ รับขันธ์อะไรมาหรือเปล่า เราเลยถามแม่ว่า เคยไปรับขันธ์อะไรมั้ย แม่บอกว่า เคยรับมา แต่นานมากแล้ว ขันธ์ก็หายไปแล้วด้วย หมอดูเค้าเลยบอกว่า ต้องมีพิธีลาขันธ์นะ พอวันรุ่งขึ้น เรากับพ่อรีบไปหาสิ่งของที่หมอดูบอก เพื่อทำพิธีลาขันธ์ พอทำพิธีเสร็จ ครอบครัวเราก็สบายใจขึ้นว่าทำพิธีอะไรเรียบร้อยแล้ว และไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก แต่.......เรื่องทั้งหมดยังไม่จบแค่นี้ค่ะ
ประมาณต้นเดือน มิ.ย. 58 ค่ะ แม่เราเริ่มป่วย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีอาการอะไรมาก่อนเลย แม่เราเริ่มกินข้าวไม่ได้ ข้อเท้าตรงตาตุ่ม บวม คล้ำ เหมือนลูกมะนาว เราเลยพาแม่ไปหาหมอ เพราะ คิดแค่ว่าแม่น้ำหนักตัวเยอะ ข้อเท้ารับน้ำหนักมาก เลยทำให้บวมหรือเปล่า พอไปตรวจหมอก็เอ็กซเรย์ จับข้อเท้าดู แล้วก็ให้ยามากิน พอกกลับมาบ้าน ซักประมาณ 3 วัน แม่เริ่มไม่กินข้าว กินแต่น้ำนิดหน่อย แล้วอาเจียน เรากับพ่อเห็นท่าไม่ดี เลยรีบพาแม่ส่ง รพ. มาถึง รพ. หมอรีบพาแม่เข้าห้องฉุกเฉิน เพราะ อาการแย่มาก ความดันต่ำ มีไข้ หนาวสั่น เหมือนคนใกล้จะหมดสติ หมอรีบใส่เครื่องช่วยหายใจ แล้วก็ฉีดยา นู่น นี่ นั่น แต่อาการยังดูไม่ดีขึ้น ต้องพาแม่ไปห้อง ICU เรากับพ่อเริ่มใจไม่ดี กลัวแม่จะเป็นอะไร พอเข้าไปซักพัก หมอก็บอกว่า ไม่ต้องกังวลนะ ถึงมือหมอแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง หมอเค้าก็พูดให้กำลังใจมั้ง เราก็ใจชื้นขึ้นนิดนึงแม่ต้องนอน ICU คืนนึง กับ อีก ครึ่งวัน ก็อาการดีขึ้น หมอเลยให้ย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยรวม หมอเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะ วันรุ่งขึ้น หมอบอกว่า แม่อาจจะติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ และมีค่าไตผิดปกติ แล้วหมอเค้าก็บอกว่า ค่อย ๆ รักษาไป เดี๋ยวก็หาย ไม่ต้องกังวล วันแรก หมอเริ่มให้ยาฆ่าเชื้อ แม่ก็ตอบสนองดียังไม่มีอะไรให้กังวล พอมาวันที่ 2 แม่เริ่มมีอาการเบลอนิด ๆ ไม่รู้ว่าแพ้ยาหรือเปล่า เพราะ แม่เล่าว่า ตอนกลางคืน แม่นอนแล้วฝัน หรือ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็ไม่แน่ แม่บอกเห็น ผู้ชายผิวดำ ตัวใหญ่ หน้าตาดุ มากับสุนัขสีดำ หน้าตาดุเหมือนกัน มายืนอยู่ปลายเตียง เหมือนมาจ้องมองดูว่า คนไหนที่ป่วยแล้วอาการทรุด เค้าอาจจะเอาไปอยู่ด้วย พอรุ่งเช้า คนที่อยู่เตียงข้าง ๆ แม่เราก็เสีย เราก็เลยพูดปลอบแม่ว่า ไม่มีอะไรหรอกมั้ง แค่ความฝัน แม่เราดูท่าทางกลัว และกังวล และถามเราว่า เอาพระมามั้ย เอามาใส่คอให้แม่หน่อย เราก็เลยเอาพระมาใส่ให้แม่ แม่นอนอยู่ห้องผู้ป่วยรวมประมาณอาทิตย์นึงได้ เราเห็นว่าอาการเริ่มดีขึ้น เลยขอหมอว่า จะย้ายไปห้องพิเศษได้มั้ย หมอบอกว่าได้ ก็เลยจัดแจงย้ายแม่มาห้องพิเศษ พอมาห้องพิเศษ แม่ก็ไม่ค่อยกินข้าว แล้วก็อาเจียน เราเลยบอกหมอ หมอเลยเปลี่ยนตัวยาให้ และให้นักกายภาพมาช่วยทำกายภาพ เพราะ แม่เรานอนเตียงนาน ขาไม่มีแรง อีกอย่างแม่ก็ตัวใหญ่ด้วย เลยต้องคอยทำกายภาพ แม่อยู่ รพ. ต่ออีกประมาณ 3 อาทิตย์ อาการโดยรวมดีขึ้น แต่ไม่มีแรงขา ต้องคอยกายภาพ และหมอก็ไม่อยากให้อยู่ รพ. ต่อ กลัวว่าจะกลับมาติดเชื้ออีก หมอเลยอนุญาตให้กลับบ้านได้
ขอเสริมนะคะ *** พอถึงวันที่แม่กลับมาบ้าน ( หมาของบ้านฝั่งตรงข้าม หอนทุกคืน ระหว่างเวลา เที่ยงคืน - ตี 4) เรา กับ พ่อ ได้ยินก็มองหน้ากัน กล้า ๆ กลัว ๆ ลุกขึ้นไปดูว่ามีอะไร แต่พอมองไปก็ไม่มี จนเช้า เราได้ยินบ้านฝั่งตรงข้ามที่มีหมา เค้าคุยกับบ้านข้าง ๆ ว่า ปกติ หมาไม่เคยหอน เค้าเลยลุกขึ้นดู เค้าบอกเค้าเห็นอะไรซักอย่าง เราได้ยินไม่ถนัด ตั้งแต่นั้น พอเค้าได้ยินหมาหอน เค้าก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาดูอีกเลย
ต่อนะคะ หลังจากแม่กลับบ้าน แม่ก็บอกอยากกินนู่น นี่ นั่น เราก็หามาทุกอย่าง แต่พอเอามาก็กลับกลายเป็นว่ากินไม่ได้ ไม่อยากกิน อาเจียนตลอด ยาก็ไม่กิน อาการของแม่เลยไม่ดีขึ้น พ่อเราเลยโทรไปปรึกษาน้องสาวเค้า ก็คือ อา ว่าทำไงดี คนป่วยไม่ยอมกินยา อาการเลยไม่ดีขึ้น อาเค้าเลยแนะนำว่าลองพาไปหาหมอฝรั่ง ที่ตัวเค้ารักษาอยู่มั้ย เผื่ออาการจะดีขึ้น เรากับพ่อเลยพาแม่ไป พอไปถึงเค้าก็วัดความดัน นู่น นี่ เค้าบอกว่า ความดันต่ำนะ มีไข้ด้วย หมอเลยบอก จะส่ง รพ. ใหญ่ แต่แม่ไม่ยอม แม่ไม่ไป หมอเลยต้องยอมตรวจ หมอเจาะเลือด และตรวจปัสสาวะ ผล ออกมา คือ กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ และน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับไตด้วย หมอเลยให้ยามากิน แต่พอ กลับบ้านก็เป็นแบบเดิมอีก คือ ไม่ยอมกินยา อาการก็เลยทรุดอีกเรากับพ่อเลยพาแม่กลับไปหาหมออีก คราวนี้พอไปถึง แม่บอกปวดหลัง หมอเลยให้เข้าห้องเอ็กซเรย์ ผลออกมาว่า หมอนรองกระดูกทับเส้น เลยทำให้ปวดหลัง การรักษาก็ต้องผ่า แต่แม่เราไม่ผ่า เรากับพ่อก็ไม่อยากให้ผ่าด้วยแหละ เพราะ แม่อายุเยอะแล้ว แล้วอ้วนด้วย เลยเอาแค่ยามากิน แต่ก็เหมือนเดิม คือ ไม่กินยาอีกแล้ว พ่อเราเลยโทรบอกอาว่า มาช่วยหน่อย มาช่วยกันบังคับให้คนป่วยกินยาหน่อย เพราะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แล้วอาการป่วยของแม่ เป็นไวมาก ไวจนน่ากลัว
เดี๋ยวมาต่อค่ะ........