คืนวันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2558 ช่วงเวลาประมาณตี1 มีSMS แจ้งเข้ามาว่า
"บัตรหมายเลข XX-XXX ทำรายการยอดเงิน XXXX บาท ไม่ผ่านเนื่องจากท่านใส่เลข 3 ตัวด้านหลังบัตร ตรงแถบลายเซ็นต์ไม่ถูกต้อง"
****แต่บัตรเครดิตตัวจริงยังอยู่ที่ตัวเรา****
หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นเรารู้สึกตกใจมากจึงโทรไปสอบถามทางธนาคารได้ความว่า
มีการนำเลขบัตรไปใช้ซื้อสินค้าในเว๊ปไซต์ออนไลน์ด้านความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง
แต่เนื่องจากมิจฉาชีพกรอกรหัสหลังบัตรไม่ถูกต้อง อีกทั้งใส่วันเกิดไม่ถูกต้องเช่นกัน ทำให้ทำธุรกรรมไม่ผ่าน
หลังจากนั้นเรารีบโทรอายัด และทางธนาคารให้ไปแจ้งความแล้วจะออกบัตรใหม่ให้
ตอนเช้าเราจึงไปแจ้งความที่ สน. แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง !!!!!!!! ตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งความที่ ศูนย์ราชการ: กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์
หลังจากเดินทางไปแจ้งความที่ศูนย์ดังกล่าว ตำรวจฝ่ายนั้นแจ้งว่าธนาคารเป็นเจ้าทุกข์ เนื่องจากเรายังไม่เป็นผู้เสียทรัพย์ จึงต้องประสานงานกับทางธนาคารโดยตรง แล้วให้เราลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
แต่ในมุมของผู้บริโภค หรือ ผู้เสียหาย มองได้ 2 แบบ
ใครในธนาคารเป็นคนขายฐานข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าออกไป? หรือ โจรทำการ Hack ฐานข้อมูลของลูกค้า?
กรณีหากคนในธนาคารขายฐานข้อมูลของเราให้บุคคลที่สามออกไป ธนาคารจำเป็นต้องแสดงความซื่อสัตย์ หาคนรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวนี้ให้ได้ มิฉะนั้นความน่าเชื่อถือของธนาคารจะลดต่ำลง และไม่มีใครอยากใช้บริการอีกต่อไป?
กรณีธนาคารโดน Hack ฐานข้อมูล แสดงว่าความปลอดภัยของธนาคารไม่เสถียร หรือได้รับความร่วมมือจากคนภายในธนาคารกันแน่?
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ต้องทำยังไรบ้าง
ในความโชคดีของเราถือว่ามิจฉาชีพพลาดที่ไม่มีข้อมูลด้านอื่นของเรา
หลังจากวันนั้น ธนาคารยังไม่มีการติดต่อมา และรู้สึกไม่ปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนตัวของเราอีกต่อไป
เราต้องการคำตอบ ความเป็นธรรม ความรับผิดชอบของธนาคาร เพื่อแสดงให้เห็นถึงการจัดการที่ดีและความน่าเชื่อถือของธนาคารเอง
ปล.ถ้าเราอยู่ต่างจังหวัดเราต้องเดินทางเข้ามาที่นี่เท่านั้นหรอ (เพราะใช้เวลานานมาก ไปแถวหลัก4 แจ้งวัฒนะเลย)
และขออนุญาติแท๊กห้องโต๊ะเครื่องแป้งด้วยเนื่องจากการทำธุรกรรมเป็นเว๊ปเครื่องสำอางค์
Cr. Story by TATCHY
เมื่อถูกมิจฉาชีพนำเลขบัตรเครดิตเราไปใช้ จะทำอย่างไร?
"บัตรหมายเลข XX-XXX ทำรายการยอดเงิน XXXX บาท ไม่ผ่านเนื่องจากท่านใส่เลข 3 ตัวด้านหลังบัตร ตรงแถบลายเซ็นต์ไม่ถูกต้อง"
****แต่บัตรเครดิตตัวจริงยังอยู่ที่ตัวเรา****
หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นเรารู้สึกตกใจมากจึงโทรไปสอบถามทางธนาคารได้ความว่า
มีการนำเลขบัตรไปใช้ซื้อสินค้าในเว๊ปไซต์ออนไลน์ด้านความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง
แต่เนื่องจากมิจฉาชีพกรอกรหัสหลังบัตรไม่ถูกต้อง อีกทั้งใส่วันเกิดไม่ถูกต้องเช่นกัน ทำให้ทำธุรกรรมไม่ผ่าน
หลังจากนั้นเรารีบโทรอายัด และทางธนาคารให้ไปแจ้งความแล้วจะออกบัตรใหม่ให้
ตอนเช้าเราจึงไปแจ้งความที่ สน. แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง !!!!!!!! ตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งความที่ ศูนย์ราชการ: กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์
หลังจากเดินทางไปแจ้งความที่ศูนย์ดังกล่าว ตำรวจฝ่ายนั้นแจ้งว่าธนาคารเป็นเจ้าทุกข์ เนื่องจากเรายังไม่เป็นผู้เสียทรัพย์ จึงต้องประสานงานกับทางธนาคารโดยตรง แล้วให้เราลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
แต่ในมุมของผู้บริโภค หรือ ผู้เสียหาย มองได้ 2 แบบ
ใครในธนาคารเป็นคนขายฐานข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าออกไป? หรือ โจรทำการ Hack ฐานข้อมูลของลูกค้า?
กรณีหากคนในธนาคารขายฐานข้อมูลของเราให้บุคคลที่สามออกไป ธนาคารจำเป็นต้องแสดงความซื่อสัตย์ หาคนรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวนี้ให้ได้ มิฉะนั้นความน่าเชื่อถือของธนาคารจะลดต่ำลง และไม่มีใครอยากใช้บริการอีกต่อไป?
กรณีธนาคารโดน Hack ฐานข้อมูล แสดงว่าความปลอดภัยของธนาคารไม่เสถียร หรือได้รับความร่วมมือจากคนภายในธนาคารกันแน่?
ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ต้องทำยังไรบ้าง
ในความโชคดีของเราถือว่ามิจฉาชีพพลาดที่ไม่มีข้อมูลด้านอื่นของเรา
หลังจากวันนั้น ธนาคารยังไม่มีการติดต่อมา และรู้สึกไม่ปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนตัวของเราอีกต่อไป
เราต้องการคำตอบ ความเป็นธรรม ความรับผิดชอบของธนาคาร เพื่อแสดงให้เห็นถึงการจัดการที่ดีและความน่าเชื่อถือของธนาคารเอง
ปล.ถ้าเราอยู่ต่างจังหวัดเราต้องเดินทางเข้ามาที่นี่เท่านั้นหรอ (เพราะใช้เวลานานมาก ไปแถวหลัก4 แจ้งวัฒนะเลย)
และขออนุญาติแท๊กห้องโต๊ะเครื่องแป้งด้วยเนื่องจากการทำธุรกรรมเป็นเว๊ปเครื่องสำอางค์
Cr. Story by TATCHY