*****HRW ชี้ ผู้นำ UN ควรต้อนรับ "ประยุทธ์" ด้วยการกดดันให้คืนอำนาจแก่ปชช.*****

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442999098
ฮิวแมนไรท์ วอทช์ (HRW) องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับนานาชาติได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ (23 กันยายน) เรียกร้องให้ผู้นำโลกที่จะเดินทางเข้าประชุมในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติร่วมกันผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยที่มีกำหนดการที่จะขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมในวันที่ 29 กันยายนนี้ ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนและฟื้นฟูการปกครองโดยพลเรือนภายใต้ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว

"ผู้นำคณะรัฐประหารของไทยควรได้รับการต้อนรับที่เหมาะสมที่ยูเอ็นด้วยการประณามสถิติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงของคณะรัฐประหาร"นายแบรดอดัมส์ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของ HRW กล่าว

HRW กล่าวว่า การประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นโอกาสสำคัญสำหรับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ยูเอ็นที่เกี่ยวข้องที่จะใช้เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลงมือจัดการปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวางรวมถึงการใช้อำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบของกองทัพภายใต้รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา44ที่ให้อำนาจแก่คณะรัฐประหารโดยไม่ต้องรับผิดต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน

องค์กรสิทธิแห่งนี้ได้ยกตัวอย่างการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลในประเทศไทยหลายประการเช่นกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่ยอมทนรับฟังเสียงวิจารณ์โดยHRWอ้างว่าในการให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวันที่ 10 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีใครที่จะต่อต้านตนเองได้พร้อมข่มขู่ที่จะจับกุมผู้วิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือกระทั่งจะเอาเทปปิดปากผู้วิจารณ์ ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วันทหารก็ได้ควบคุมตัวนายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวชื่อดังที่วิจารณ์รัฐบาลบ่อยครั้ง รวมไปถึงคำสั่งปิดเว็บไซต์กว่า 200 แห่ง และการห้ามประกอบกิจกรรมทางการเมืองเพื่อแสดงควาไม่เห็นด้วยต่อคณะรัฐประหาร

แถลงการณ์ของ HRW อ้างว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้เรียกตัวประชาชนอย่างน้อย 751 คนมารายงานตัวต่อกองทัพ ซึ่งบุคลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง, นักกิจกรรม และนักข่าว ที่ถูกกล่าวหาว่า วิจารณ์หรือต่อต้านการปกครองภายใต้ระบอบทหาร และภายใต้มาตรา 44 กองทัพมีอำนาจที่จะกักขังประชาชนโดยไม่ต้องตั้งข้อหาหรือดำเนินคดีได้ถึง 7 วัน เจ้าหน้าที่ทหารสามารถทำการสอบสวนผู้ที่ถูกควบคุมในเขตทหารได้ โดยมิได้ให้สิทธิในการปรึกษาทนายความแก่ผู้ถูกควบคุมหรือมาตรการอื่นใดที่จะป้องกันมิให้ผู้ที่ถูกควบคุมเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติโดยมิชอบการที่กองทัพปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมประชาชนอย่างปิดลับในเขตทหารยิ่งทำให้ผู้ถูกควบคุมเสี่ยงต่อการถูกบังคับให้สูญหาย(Enforceddisappearance) การทรมาน และการปฏิบัติที่เลวร้ายประการอื่นๆ

นอกจากนี้ HRW ยังโจมตีรัฐบาลไทยว่าละเมิดสิทธิของผู้ลี้ภัยตามกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศด้วยการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับไปยังประเทศที่บุคคลเหล่านี้หลบหนีการกดขี่มาเช่นกรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังประเทศจีนรวมถึงการสกัดกั้นเรือผู้อพยพชาวโรฮีนจาที่หลบหนีการไล่ล่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน

"ผู้นำโลกไม่ควรรักษาน้ำใจในการพูดคุยเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยกับพล.อ.ประยุทธ์"นายอดัมส์กล่าว "การยกความวิตกกังวลต่อปัญหาที่เกิดขึ้นมาพูดถึงอย่างตรงไปตรงมารัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับปัญหานี้จะช่วยพลิกวิกฤติด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและช่วยผลักดันให้ไทยเข้าสู่เส้นทางเพื่อการปกครองโดยพลเรือนภายใต้ระบอบประชาธิปไตยได้"
--------------------------------------------------------------------------------------------
....ข่าวนี้จริงเปล่า ครับ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่