สายน้ำรินผ่านแก่งหิน
ยังถวิลอำลาอาวรหวาม
สายฝนยังอำลาเมฆาคราม
ใยเธอยามจากไกลไร้วาจา
ขึ้นเรื่องด้วยกวีจากคู่กรรมดูไปตอนแรกนึกว่า "อย่าลืมฉัน" ลงท้ายไม่เหมือนทั้งคู่กรรมและอย่าลืมฉัน แต่กลายเป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ Desperately lost in love แก่ผู้หญิงคนหนึ่งแบบ "แพ้คำว่ารัก" น่ะ ไม่ได้แพ้ธรรมดา แพ้แบบสิ้นหวัง หมดรูป สิ้นท่า แบบเกินกว่าจะสรรหาคำคุณศัพท์ใด ๆ มาบรรยายทีเดียวล่ะ
เหอ อี่เฉิน หรือ คุณทนายเฉิน หนุ่มโสด bachelor อายุ 29 หล่อ เก่ง รวย มาดสุขุมคัมภีรภาพ คุณสมบัติเหล่านั้นติดตัวมาตั้งแต่ชั้นมหาวิทยาลัย อี่เฉินเป็นมนุษย์ workaholics ขั้นสุด ออกสังคมบ้างเล็กน้อย ลึกลับนิดหน่อย โดยรวมแล้วเป็นหนุ่มโสดในฝันชัดเจน หากก็ดูเหมือนไม่มีข้อมูลว่าเจ้าตัวจะออกเดทกับใครที่ไหนอะไรยังไง โสดจนคนเอาไปเม้าท์ไปลือกันแล้วว่า Partner ชายโสดสามสี่คนแห่ง Law Firm นี้ fantasy threesome กินกันเองบ้างรึเปล่า ?
ภายนอกแล้ว เหอ อี่เฉิน ก็ผู้ชายปกตินั่นแหละ แต่อาจจะดูขรึมเฉยไปซักหน่อยเท่านั้น ไม่ได้เป็นคนเจ้าอารมณ์ วืดขึ้นวืดลง เป็นชายวัยทองแต่อย่างใด ก็ดูดีมีเหตุผลเท่าที่ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่คนนึงจะเป็นได้ แต่เหตุผลเหล่านั้นโยนมันทิ้งชักโครกไปเมื่อเจอกับ จ้าวโม่เฉิง ... และ มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัยเมื่อ 7 ปีที่แล้วด้วย
จ้าวโม่เฉิง เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่โดดเด่น ถึงจะน่ารักแต่ก็มีคนที่น่ารักกว่าสวยกว่า จะพูดถึงเรื่องความสามารถก็ไม่ได้มีอะไรที่ outstanding มีแต่หน้าใส ๆ บานแอร่มแจ่มเหมือนดอกไม้ในฤดูร้อน ร่าเริงเหมือนแสงตะวันเจิดจ้า และ สดชื่นตลอดเวลาเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ คนที่เดินตามอี่เฉินในมหาวิทยาลัยมีมากมาย แต่ไม่มีใครคนไหนเสียบศรรักปักอุราในใจของอี่เฉินได้เหมือนโม่เฉิง
ทั้งคู่คบหากันท่ามกลางความแปลกใจของเพื่อนฝูง .... แม้กระทั่งโม่เฉิงเองก็ยังแปลกใจ
มีแค่คนเดียวที่ไม่แปลกใจก็คือตัวอี่เฉินเอง
แต่วันหนึ่งเหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัว ... เมื่ออี่เฉินรู้ว่าฐานะทางบ้านของโม่เฉิงเป็นอย่างไร และ พ่อของโม่เฉิงทำอะไร พ่อแม่ของอี่เฉินประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และ การเสียชีวิตนั้นอาจมีสาเหตุมาจากพ่อของโม่เฉิงเอง ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่กำลังขึ้นปรี๊ดอี่เฉินพลั้งปากว่าไม่อยากเห็นหน้าโม่เฉิงอีกต่อไปแล้ว ประกอบกับพ่อโม่เฉิงเร่งให้โม่เฉิงไปอเมริกาความสัมพันธ์แบบ college sweetheart จึงจบลงที่ตรงนั้น
เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลจึงยังค้าง ๆ คา ๆ อี่เฉินเองเมื่ออารมณ์เย็นลงก็นะ ... ทำอะไรแบบที่ไม่เคยทำ เป็นต้นว่ามายืนเฝ้าที่หอพักหญิงโดยไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ไปไกลเกินว่าจะควบคุม และ เมื่อรู้ว่าโม่เฉิงไปอเมริกาแล้วโดยไม่ได้เอ่ยคำใด ๆ หายไปเฉย ๆ แม้หน้าตายังคงเรียบกริบไร้อารมณ์เหมือนทุกครั้งแต่เพื่อนสนิทรู้ดีว่าชีวิตของอี่เฉินเสียศูนย์ไปนับแต่วันนั้น
แม้ภายนอกยังคงความสุขุมใจเย็นและมีเหตุผล
และดูเหมือนจะลืมอะไร ๆ ไปหมดแล้วทุกวินาทีทุ่มกับงาน
หากสุดท้ายสิ่งที่ทำนั้นก็ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จหรือมาจาก
ความบ้างานเพียงอย่างเดียว แต่มันจะเป็นรากฐาน ...
ถ้าหากวันใดวันหนึ่งข้างหน้า ...
ใครคนนั้นจะเดินทางกลับมาหาเขาอีกครั้ง
แล้วเมื่อวันที่โม่เฉิงเดินทางกลับมาจากอเมริกาจริง ๆ และ ได้เผชิญหน้ากับอี่เฉินเป็นครั้งแรก อี่เฉิน ignore โม่เฉิงอย่างแรงแบบตบหน้ากลางสี่แยก ก็เหมือนจะเพิกเฉย เหมือนจะเหลือแค่ความชัง แต่สุดท้ายอี่เฉินก็ต้องยอมรับไปเงียบ ๆ ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่สัญญาณของความพ่ายแพ้ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันอาจจะไม่นานแต่ความลึกซึ้งของมันยากจะถ่ายถอนออกไปจากใจ อาจเป็นเพราะว่าโม่เฉิงไม่เหมือนใคร มีอะไรบางอย่างที่มัดใจหนุ่มเย็นชาอย่างเขาได้
ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามามีคุณสมบัติที่ดีกว่าโม่เฉิงมากมาย มีทั้งผู้หญิงเก่งกล้าสามารถ ผู้หญิงที่ปราณีตเรียบร้อย ผู้หญิงที่มี profile สูงเลิศผสมผสานกัน แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนจุดรอยยิ้มบนใบหน้าเรียบเฉยของอี่เฉินได้ เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงเก่ง ผู้ชายคนนี้เก่งพอแล้ว เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงสุขุมคัมภีรภาพ คุณสมบัตินั้นเขามีพอแล้ว เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงปราณีตเรียบร้อย ทุกวันนี้ชีวิตก็เรียบกริบด้วยนิสัยตัวเองอยู่แล้ว
เขาแค่ต้องการใครซักคนที่ธรรมดา ๆ ใครบางคนที่ไม่ได้ perfect คนที่จะพารอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และ สีสันให้ชีวิต ผู้หญิงที่จะเป็นทั้งดวงอาทิตย์ และ เป็นใครบางคนที่จะอยู่ให้เขาได้ดูแล ... ซึ่งเขาเจอแล้ว และ หวงมากด้วย รายนี้ไม่ปักใจอะไรง่าย ๆ แต่พอปักใจปั๊บบอกเลยว่า "ไม่ลืม" และ ยิ่งถ้าแน่นอนแล้วด้วยก็จะ "ไม่เลิก" ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
เพียงแค่กลับมาพบกันอีกครั้งไม่ทันจะข้ามเดือน อี่เฉินก็ไม่ใช่อี่เฉินคนเดิมที่เพื่อนร่วมงานเคยรู้จัก ความบ้างาน สุขุมรอบคอบต่าง ๆ นานา หายวับไปกับตา บางคราวก็เครียดเคร่งขมวดคิ้ว บางคราวก็อารมณ์ดีถึงกับซื้ออาหารว่างมาแจก สลับกันอยู่อย่างนั้น และ อาการสาหัสยิ่งขึ้นถึงขนาดตัดสินใจบ้าบิ่นจดทะเบียนสมรสเปรี้ยงไปเลยด้วยทั้งที่เพิ่งทะเลาะกันไม่ทันจะข้ามวัน
และเมื่อได้ "สิ่งที่ต้องการ" คือ โม่เฉิง ผู้ชายคนนี้ก็กลายเป็นมิสเตอร์เปี่ยมสุขในทันที แม้จะหน้าเรียบอยู่เป็นปกติธรรมดา แต่ feeling ต่าง ๆ รอบตัวเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด ชีวิตที่เคยกอดตำรากฎหมายไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป ดอกลิลลี่สีขาวบนโต๊ะ ลวดลายม่านที่เปลี่ยนไป ใครบางคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง พาให้หัวใจที่อ้างว้างอบอุ่น ถึงจะมีลุงป้าเป็นพ่อแม่บุญธรรม แต่เขาก็อยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่สามารถเปิดใจได้อย่างจริงแท้ เมื่อโม่เฉิงเข้ามาหัวใจก็เริ่มเติมเต็มขึ้นทีละหน่อย
แต่เส้นทางมันก็ไม่ได้ smooth ตั้งแต่ต้นยันท้าย เพราะ เจ้าตัวก็ต้องต่อสู้กับความหึงหวงเจียนบ้าที่เป็นอยู่ไปด้วย
ไอ้การที่ตั้งใจจะปล่อยผ่านอดีตนั่นแหละที่ทำพิษ เพราะ ยิ่งไม่ถามไม่พูดมันก็เกิดเป็นความระแวง และ อารมณ์รุนแรง แค่โม่เฉิงจัดกระเป๋าขนของไปทำงานต่างประเทศสองสามวัน เลือดขึ้นหน้าจนตัวเองก็ยังกลัวใจ โชคยังดีที่ผู้หญิงของตัวเองก็แสนจะซื่อ ทำอะไร ไปที่ไหน เจอกับใคร มักจะรายงานละเอียดยิบ ๆ หลังจึงเริ่มปรับตัวได้ และ ค่อย ๆ บาลานซ์อารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้น
จากรักแรกเมื่อเป็นวัยรุ่น สู่ความเจ็บปวดด้วยการไม่ทำเรื่องราวให้กระจ่าง และ การกลับมาเจอกันอีกครั้งหลัง 7 ปีผ่านไป สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนโชคชะตาแต่ก็ไม่เชิงเป็นโชคชะตา อี่เฉินที่ดูเหมือนเฉย ๆ และ ทำงานงก ๆ ไปอยู่เงียบ ๆ จริง ๆ แล้วนั่นคือการสร้างฐานและความโดดเด่นตลอดมาเผื่อเธอคนนั้นจะมองเห็น และ เมื่อกาลผ่านไปเขาก็ไม่หยุดอยู่แค่เซี่ยงไฮ้แต่แอบจองตั๋วลับ ๆ เดินทางไปอเมริกาตั้งแต่โม่เฉิงยังไม่ตัดสินใจกลับมาด้วยซ้ำ
โม่เฉิงเองก็ไปได้ดีในทางที่เลือกแต่สุดท้ายเธอก็หันหลังหนีหัวใจตัวเองไม่พ้น จากช่างภาพอนาคตไกลที่ร่วมงานกับดารานายแบบนางแบบระดับไฮเอนมากมายแล้วสุดท้ายเธอเลือกทางเดินใหม่กลับมาตั้งต้นที่บ้านเกิดอีกครั้ง ที่ ๆ ไม่มีใครหลงเหลืออยู่อีก พ่อที่จากตาย แม่ที่จากเป็น แต่เธอก็ยังกลับมา เผื่อว่า "เขา" คนนั้นจะคงรอคอยเธออยู่ เหมือนที่เธอเฝ้าตามหาแผ่นหลังที่คุ้นตายามเดินถนนใน LA หรือ NY
คงไม่ใช่อี่เฉินคนเดียวหรอกที่ lost to love
กาลเวลาที่หล่นหาย
ความระแวงความเกลียดชังที่ถาโถม
ความเคลือบแคลงสงสัยและเย็นชา
ทั้งหมดนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว
ว่าต่างพ่ายแพ้ให้คำว่า "รัก" ทั้งสิ้น
คำโบราณเขาถึงว่า "ความรัก" ชนะทุกสิ่ง .. อย่างไรเล่า
My Sunshine (ซีรีย์จีนเดอะรีวิว) : Lost to Love (spoiled)
ยังถวิลอำลาอาวรหวาม
สายฝนยังอำลาเมฆาคราม
ใยเธอยามจากไกลไร้วาจา
ขึ้นเรื่องด้วยกวีจากคู่กรรมดูไปตอนแรกนึกว่า "อย่าลืมฉัน" ลงท้ายไม่เหมือนทั้งคู่กรรมและอย่าลืมฉัน แต่กลายเป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ Desperately lost in love แก่ผู้หญิงคนหนึ่งแบบ "แพ้คำว่ารัก" น่ะ ไม่ได้แพ้ธรรมดา แพ้แบบสิ้นหวัง หมดรูป สิ้นท่า แบบเกินกว่าจะสรรหาคำคุณศัพท์ใด ๆ มาบรรยายทีเดียวล่ะ
เหอ อี่เฉิน หรือ คุณทนายเฉิน หนุ่มโสด bachelor อายุ 29 หล่อ เก่ง รวย มาดสุขุมคัมภีรภาพ คุณสมบัติเหล่านั้นติดตัวมาตั้งแต่ชั้นมหาวิทยาลัย อี่เฉินเป็นมนุษย์ workaholics ขั้นสุด ออกสังคมบ้างเล็กน้อย ลึกลับนิดหน่อย โดยรวมแล้วเป็นหนุ่มโสดในฝันชัดเจน หากก็ดูเหมือนไม่มีข้อมูลว่าเจ้าตัวจะออกเดทกับใครที่ไหนอะไรยังไง โสดจนคนเอาไปเม้าท์ไปลือกันแล้วว่า Partner ชายโสดสามสี่คนแห่ง Law Firm นี้ fantasy threesome กินกันเองบ้างรึเปล่า ?
ภายนอกแล้ว เหอ อี่เฉิน ก็ผู้ชายปกตินั่นแหละ แต่อาจจะดูขรึมเฉยไปซักหน่อยเท่านั้น ไม่ได้เป็นคนเจ้าอารมณ์ วืดขึ้นวืดลง เป็นชายวัยทองแต่อย่างใด ก็ดูดีมีเหตุผลเท่าที่ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่คนนึงจะเป็นได้ แต่เหตุผลเหล่านั้นโยนมันทิ้งชักโครกไปเมื่อเจอกับ จ้าวโม่เฉิง ... และ มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัยเมื่อ 7 ปีที่แล้วด้วย
จ้าวโม่เฉิง เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่โดดเด่น ถึงจะน่ารักแต่ก็มีคนที่น่ารักกว่าสวยกว่า จะพูดถึงเรื่องความสามารถก็ไม่ได้มีอะไรที่ outstanding มีแต่หน้าใส ๆ บานแอร่มแจ่มเหมือนดอกไม้ในฤดูร้อน ร่าเริงเหมือนแสงตะวันเจิดจ้า และ สดชื่นตลอดเวลาเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ คนที่เดินตามอี่เฉินในมหาวิทยาลัยมีมากมาย แต่ไม่มีใครคนไหนเสียบศรรักปักอุราในใจของอี่เฉินได้เหมือนโม่เฉิง
มีแค่คนเดียวที่ไม่แปลกใจก็คือตัวอี่เฉินเอง
แต่วันหนึ่งเหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัว ... เมื่ออี่เฉินรู้ว่าฐานะทางบ้านของโม่เฉิงเป็นอย่างไร และ พ่อของโม่เฉิงทำอะไร พ่อแม่ของอี่เฉินประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และ การเสียชีวิตนั้นอาจมีสาเหตุมาจากพ่อของโม่เฉิงเอง ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่กำลังขึ้นปรี๊ดอี่เฉินพลั้งปากว่าไม่อยากเห็นหน้าโม่เฉิงอีกต่อไปแล้ว ประกอบกับพ่อโม่เฉิงเร่งให้โม่เฉิงไปอเมริกาความสัมพันธ์แบบ college sweetheart จึงจบลงที่ตรงนั้น
เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลจึงยังค้าง ๆ คา ๆ อี่เฉินเองเมื่ออารมณ์เย็นลงก็นะ ... ทำอะไรแบบที่ไม่เคยทำ เป็นต้นว่ามายืนเฝ้าที่หอพักหญิงโดยไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ไปไกลเกินว่าจะควบคุม และ เมื่อรู้ว่าโม่เฉิงไปอเมริกาแล้วโดยไม่ได้เอ่ยคำใด ๆ หายไปเฉย ๆ แม้หน้าตายังคงเรียบกริบไร้อารมณ์เหมือนทุกครั้งแต่เพื่อนสนิทรู้ดีว่าชีวิตของอี่เฉินเสียศูนย์ไปนับแต่วันนั้น
และดูเหมือนจะลืมอะไร ๆ ไปหมดแล้วทุกวินาทีทุ่มกับงาน
หากสุดท้ายสิ่งที่ทำนั้นก็ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จหรือมาจาก
ความบ้างานเพียงอย่างเดียว แต่มันจะเป็นรากฐาน ...
ถ้าหากวันใดวันหนึ่งข้างหน้า ...
ใครคนนั้นจะเดินทางกลับมาหาเขาอีกครั้ง
แล้วเมื่อวันที่โม่เฉิงเดินทางกลับมาจากอเมริกาจริง ๆ และ ได้เผชิญหน้ากับอี่เฉินเป็นครั้งแรก อี่เฉิน ignore โม่เฉิงอย่างแรงแบบตบหน้ากลางสี่แยก ก็เหมือนจะเพิกเฉย เหมือนจะเหลือแค่ความชัง แต่สุดท้ายอี่เฉินก็ต้องยอมรับไปเงียบ ๆ ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่สัญญาณของความพ่ายแพ้ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันอาจจะไม่นานแต่ความลึกซึ้งของมันยากจะถ่ายถอนออกไปจากใจ อาจเป็นเพราะว่าโม่เฉิงไม่เหมือนใคร มีอะไรบางอย่างที่มัดใจหนุ่มเย็นชาอย่างเขาได้
ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามามีคุณสมบัติที่ดีกว่าโม่เฉิงมากมาย มีทั้งผู้หญิงเก่งกล้าสามารถ ผู้หญิงที่ปราณีตเรียบร้อย ผู้หญิงที่มี profile สูงเลิศผสมผสานกัน แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนจุดรอยยิ้มบนใบหน้าเรียบเฉยของอี่เฉินได้ เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงเก่ง ผู้ชายคนนี้เก่งพอแล้ว เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงสุขุมคัมภีรภาพ คุณสมบัตินั้นเขามีพอแล้ว เขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงปราณีตเรียบร้อย ทุกวันนี้ชีวิตก็เรียบกริบด้วยนิสัยตัวเองอยู่แล้ว
เขาแค่ต้องการใครซักคนที่ธรรมดา ๆ ใครบางคนที่ไม่ได้ perfect คนที่จะพารอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และ สีสันให้ชีวิต ผู้หญิงที่จะเป็นทั้งดวงอาทิตย์ และ เป็นใครบางคนที่จะอยู่ให้เขาได้ดูแล ... ซึ่งเขาเจอแล้ว และ หวงมากด้วย รายนี้ไม่ปักใจอะไรง่าย ๆ แต่พอปักใจปั๊บบอกเลยว่า "ไม่ลืม" และ ยิ่งถ้าแน่นอนแล้วด้วยก็จะ "ไม่เลิก" ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
เพียงแค่กลับมาพบกันอีกครั้งไม่ทันจะข้ามเดือน อี่เฉินก็ไม่ใช่อี่เฉินคนเดิมที่เพื่อนร่วมงานเคยรู้จัก ความบ้างาน สุขุมรอบคอบต่าง ๆ นานา หายวับไปกับตา บางคราวก็เครียดเคร่งขมวดคิ้ว บางคราวก็อารมณ์ดีถึงกับซื้ออาหารว่างมาแจก สลับกันอยู่อย่างนั้น และ อาการสาหัสยิ่งขึ้นถึงขนาดตัดสินใจบ้าบิ่นจดทะเบียนสมรสเปรี้ยงไปเลยด้วยทั้งที่เพิ่งทะเลาะกันไม่ทันจะข้ามวัน
และเมื่อได้ "สิ่งที่ต้องการ" คือ โม่เฉิง ผู้ชายคนนี้ก็กลายเป็นมิสเตอร์เปี่ยมสุขในทันที แม้จะหน้าเรียบอยู่เป็นปกติธรรมดา แต่ feeling ต่าง ๆ รอบตัวเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด ชีวิตที่เคยกอดตำรากฎหมายไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป ดอกลิลลี่สีขาวบนโต๊ะ ลวดลายม่านที่เปลี่ยนไป ใครบางคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง พาให้หัวใจที่อ้างว้างอบอุ่น ถึงจะมีลุงป้าเป็นพ่อแม่บุญธรรม แต่เขาก็อยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่สามารถเปิดใจได้อย่างจริงแท้ เมื่อโม่เฉิงเข้ามาหัวใจก็เริ่มเติมเต็มขึ้นทีละหน่อย
ไอ้การที่ตั้งใจจะปล่อยผ่านอดีตนั่นแหละที่ทำพิษ เพราะ ยิ่งไม่ถามไม่พูดมันก็เกิดเป็นความระแวง และ อารมณ์รุนแรง แค่โม่เฉิงจัดกระเป๋าขนของไปทำงานต่างประเทศสองสามวัน เลือดขึ้นหน้าจนตัวเองก็ยังกลัวใจ โชคยังดีที่ผู้หญิงของตัวเองก็แสนจะซื่อ ทำอะไร ไปที่ไหน เจอกับใคร มักจะรายงานละเอียดยิบ ๆ หลังจึงเริ่มปรับตัวได้ และ ค่อย ๆ บาลานซ์อารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้น
จากรักแรกเมื่อเป็นวัยรุ่น สู่ความเจ็บปวดด้วยการไม่ทำเรื่องราวให้กระจ่าง และ การกลับมาเจอกันอีกครั้งหลัง 7 ปีผ่านไป สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนโชคชะตาแต่ก็ไม่เชิงเป็นโชคชะตา อี่เฉินที่ดูเหมือนเฉย ๆ และ ทำงานงก ๆ ไปอยู่เงียบ ๆ จริง ๆ แล้วนั่นคือการสร้างฐานและความโดดเด่นตลอดมาเผื่อเธอคนนั้นจะมองเห็น และ เมื่อกาลผ่านไปเขาก็ไม่หยุดอยู่แค่เซี่ยงไฮ้แต่แอบจองตั๋วลับ ๆ เดินทางไปอเมริกาตั้งแต่โม่เฉิงยังไม่ตัดสินใจกลับมาด้วยซ้ำ
โม่เฉิงเองก็ไปได้ดีในทางที่เลือกแต่สุดท้ายเธอก็หันหลังหนีหัวใจตัวเองไม่พ้น จากช่างภาพอนาคตไกลที่ร่วมงานกับดารานายแบบนางแบบระดับไฮเอนมากมายแล้วสุดท้ายเธอเลือกทางเดินใหม่กลับมาตั้งต้นที่บ้านเกิดอีกครั้ง ที่ ๆ ไม่มีใครหลงเหลืออยู่อีก พ่อที่จากตาย แม่ที่จากเป็น แต่เธอก็ยังกลับมา เผื่อว่า "เขา" คนนั้นจะคงรอคอยเธออยู่ เหมือนที่เธอเฝ้าตามหาแผ่นหลังที่คุ้นตายามเดินถนนใน LA หรือ NY
กาลเวลาที่หล่นหาย
ความระแวงความเกลียดชังที่ถาโถม
ความเคลือบแคลงสงสัยและเย็นชา
ทั้งหมดนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว
ว่าต่างพ่ายแพ้ให้คำว่า "รัก" ทั้งสิ้น