บังเอิญเปิดมาเจอเรื่องนี้ที่ช่องอมรินทร์ทีวีเอชดี เห็นนางเอกน่ารักดี ดูไปได้ 2 ตอน เนื้อเรื่องใช้ได้แฮะ ก็เลย
ติดตามดูทางทีวีทุกสัปดาห์จนจบเรื่อง แม้โทนเรื่องจะเกี่ยวกับความรักแต่มีเรื่องงานเข้าไปเกี่ยวข้องเยอะมาก
ทำให้เรื่องเข้มข้นขึ้น แม้จะไม่ได้ลงลึกในเรื่องอาชีพ เช่น การว่าความของทนายความ แต่วิธีการนำเสนอ
ทำให้เชื่อได้ว่าพระเอกบ้างานจริงๆ มีการผูกเรื่องผูกอาชีพให้มาข้องเกี่ยวกันได้ จะว่าไปแล้วเหมือนดูหนังฝรั่ง
ที่ตัวละครกับเรื่องงานดูกลมกลืนไปด้วยกันได้ดีมาก ดูสมเหตุสมผลแบบไม่ขัดใจ
ที่ชอบอีกอย่างคือวิธีการเดินเกมต่อสู้กันระหว่างอิ้งฮุยกับเหออี่เชิน เป็นการต่อสู้กันด้วยสมองและใช้แง่มุม
ของกฎหมาย ไม่มีใช้กำลังเลย ซึ่งแผนการเดินเกมของอิ้งฮุยทำแบบนักธุรกิจ มีแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม
เป็นต้น สำหรับเขาแล้ว ผลลัพธ์คือสิ่งสำคัญสูงสุด วิธีการของนักธุรกิจบางคนอย่างอิ้งฮุยอาจจะมีซิกแซกบ้าง
เพราะชีวิตเขาในวงการธุรกิจมีการแข่งขันสูง ส่วนเหออี่เชินจะออกแนวนักกฎหมาย ทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน
ไม่บุ่มบ่าม แต่ถ้าพบกันซึ่งหน้าจะใช้วิธีการพูดหรือปะทะฝีปาก อีกฝ่ายจะได้รู้ว่ากำลังต่อสู้กับทนายความที่
เก่งกาจคนหนึ่ง เหมือนเขียวเสือให้วัวกลัว (ตัวอย่างเรื่อง เขียนเสือให้วัวกลัว ก็ตอนที่เจ้าโม่เซิงแอบถ่ายรูป
เหออี่เชิน อัดภาพเสร็จก็นำไปให้เหออี่เชินดู ปรากฎว่าเขายึดรูปไปเลยแถมอ้างเรื่องสิทธิ์ในการครอบครองรูป
เจ้าโม่เซิงไม่กล้าเถียงเพราะเหออี่เชินเรียนนิติฯและเขาอ้างเรื่องสิทธิ์ตามกฎหมาย)
มีสิ่งน่าเบื่ออย่างหนึ่งคือการย้อนฉากเดิมซึ่งบางฉากย้อนไปหลายครั้งจนจำได้หมดแล้ว สมกับชื่อเรื่อง
"ย้อนรอย.." ส่วนช่วงตอนย้อนอดีตสมัยเรียนมหาวิทยาลัย บางช่วงก็น่าเบื่อแต่พอคิดถึงวัยตัวเองสมัยเรียน
ก็ทำให้สนุกขึ้นมาได้บ้าง สมัยเรียน พวกเพื่อนผมมันไปสมัครชมรมคณะอื่นเพื่อจะได้เจอผู้หญิงต่างคณะ
ฉากที่เหออี่เชินกับอิ้งฮุยต่อปากต่อคำกัน บลัฟกันไปมา ดูแล้วนึกถึงเพื่อนสมัยเรียนที่ชอบบลัฟกันเวลา
เล่นไพ่บ้าง เล่นหมากรุกบ้าง พอเพื่อนคนนึงบลัฟมา เพื่อนอีกคนจะพูดว่า "กลัวซะที่ไหนล่ะ" แล้วก็บลัฟกลับ
ดูการปะทะกันของทั้งคู่แล้วนึกถึงความสนุกที่เพื่อนๆในวัยเรียนบลัฟกันทุกครั้งไป แต่เพื่อนที่ชอบพูดประโยค
"กลัวซะที่ไหนล่ะ" จากไปแล้วและเป็นจอมบลัฟก็เลยไม่ได้พบความสนุกของการบลัฟแบบสมัยเรียนอีกเลย
สปอยล์การบลัฟกันในบางฉาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถึงแม้ว่าอิ้งฮุยจะใหญ่โตและรวยแค่ไหน จนทนายหยวนเองยังแซวว่าจะรับมือไหวเหรอ เหออี่เชินคงอยาก
จะบอกว่า "กลัวซะที่ไหนล่ะ" พร้อมตอบโต้กลับหมด ส่วนฉากบนดาดฟ้าที่เหออี่เชินบอกอิ้งฮุยว่าส่งจดหมาย
ของทนายไปให้ อิ้งฮุยคงอยากจะบอกเช่นกันว่า "กลัวซะที่ไหนล่ะ" แล้วก็บลัฟกลับจนเหออี่เชินต้องยอมรับ
แต่เหออี่เชินก็ยังบลัฟกลับทิ้งท้ายว่าให้อิ้งฮุยฝันหวานนอนกอดเอกสารที่ได้เป็นเพียงสามีแต่ในนามไปเถอะ
ยังไงเขาและเจ้าโม่เซิงก็รอได้ สีหน้าท่าทางของทั้ง 2 ฝ่ายเวลาบลัฟกันไปมาก็กวนประสาทอีกฝ่ายหนึ่งด้วย
เรียกว่าบลัฟทั้งคำพูดและท่าทาง เหมือนที่เพื่อนๆผมบลัฟกันเลย
เหออี่เชินขี้หึงมากประมาณว่า "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ" อิ้งฮุยก็อิ้งฮุยเถอะ ตอบโต้กลับหมดหรืออย่างฉาก
ที่ทนายหยวนกับเจ้าโม่เซิงเดินกลับมาจากร้านกาแฟ ทั้งคู่เดินคุยกันหัวเราะคิกคัก เหออี่เชินจ้องมองหน้า
ทนายหยวนซะจนทนายหยวนต้องทำทีว่าติดโทรศัพท์และถอยหลังกรูดออกไป แล้วค่อยส่งข้อความมาชี้แจง
ว่าเกิดอะไรขึ้น
เท่าที่ค้นในกูเกิล เห็นกระทู้ใน pantip พูดถึงเรื่องนี้เมื่อ 2 ปีก่อน หลายท่านน่าจะได้ดูกันไปแล้ว ผมดูแล้วก็
อยากตั้งกระทู้นี้ให้ช่องอมรินทร์ทีวีช่อง 34 ซะหน่อยเพราะถ้าทางช่องไม่นำเรื่องนี้มาฉาย ผมคงไม่ได้ดูเป็นแน่
ตัวละครในเรื่อง
เหออี่เชิน (หรือทนายเหอ) - ทนายความ (พระเอก)
เจ้าโม่เซิง - ช่างภาพ (นางเอก)
เซียวเสี่ยว - นางแบบ เป็นเพื่อนเจ้าโม่เซิงสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ชื่อในสมัยเรียนคือหลินเส้าเหมย
ลู่หย่วนฟง - ช่างภาพ เป็นเพื่อนร่วมงานเจ้าโม่เซิง
เหออี่เหมย - พิธีกร เป็นน้องสาวเหออี่เชินแต่ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
อิ้งฮุย - ประธานบริษัทอินโซ (INSO)
เซี่ยงเหิง (หรือทนายเซี่ยง) - ทนายความ เป็นเพื่อนเหออี่เชินตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยและ
ปัจจุบันเปิดสำนักทนายความร่วมกัน
EP 1-11 เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเหออี่เชินกับเจ้าโม่เซิงในสมัยปัจจุบันและสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและ
มีเรื่องราวของเจ้าโม่เซิงตอนอยู่อเมริกา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เจ้าโม่เซิงเดินทางกลับจีน หลังจากไปอยู่อเมริกามา 7 ปี เธอสมัครเข้าทำงานในบริษัทกุยเป่าในตำแหน่ง
ช่างภาพ เจ้าโม่เซิงบังเอิญได้พบกับเหออี่เชิน (แฟนเก่า) และเหออี่เหมย (น้องสาวที่แอบหลงรักเหออี่เชินมา
ตั้งแต่สมัยเรียน) ในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เหออี่เชินทำเหมือนกับเจ้าโม่เซิงเป็นคนแปลกหน้า เขาเดินผ่านหน้าเธอ
ไปโดยไม่สนใจไยดี
เจ้าโม่เซิงต้องไปเป็นช่างภาพแทนลู่หย่วนฟงในงานถ่ายภาพนางแบบชื่อดังที่ชื่อเซียวเสี่ยวซึ่งเป็นเพื่อน
สมัยเรียนกับเจ้าโม่เซิง เซียวเสี่ยวเป็นคู่กัดกับลู่หย่วนฟง เธอคิดวางแผนให้เหออี่เชินได้พบกับเจ้าโม่เซิง
เธอจึงหาเรื่องเจ้าโม่เซิงและทะเลาะกับลู่หย่วนฟงจนกระทั่งฉีกสัญญากับบริษัทกุยเป่า จากนั้นก็ให้เหออี่เชิน
ซึ่งเป็นทนายความประจำตัวของเธอ ทำเรื่องฟ้องกุยเป่าเพราะกุยเป่าทำผิดสัญญาเกี่ยวกับคุณสมบัติของ
ช่างภาพ ก่อนที่เหออี่เชินจะได้พบกับเจ้าโม่เซิงเรื่องคดีความ ทั้งคู่ได้เจอกันเพราะเรื่องกระเป๋าเงิน แล้วละคร
ก็เล่าเรื่องย้อนไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าโม่เซิงตามจีบเหออี่เชินแต่เขาไม่สนใจ จนสุดท้ายก็แพ้ลูกตื๊อและ
ยอมเป็นแฟนกับเจ้าโม่เซิง จนกระทั่งวันหนึ่ง เหออี่เชินบอกเลิกกับเจ้าโม่เซิงเพราะเหตุจากเรื่องอดีตระหว่าง
พ่อเขากับพ่อของเธอ วันต่อมา พ่อเธอบอกให้เธอไปเที่ยวอเมริกาและถูกบังคับให้อยู่ที่นั่น ทำให้คนรอบข้าง
เขาและเธอเข้าใจว่าเจ้าโม่เซิงเป็นฝ่ายทิ้งเขาไป
เหออี่เชินติดตามคดีต่อโดยนัดพบกับเจ้าโม่เซิงเพื่อสอบถามเรื่องคุณสมบัติของช่างภาพ เขาสอบถามออก
แนวคาดคั้นเรื่องส่วนตัว เขาถามเธอว่าทำไมถึงกลับมาเมืองจีนทั้งๆที่การงานที่นั่นก็ดีมาก คงเป็นเพราะ
อยากรู้ว่าเธอกลับมาหาเขาหรือเปล่า แต่เธอไม่ยอมตอบ เซียวเสี่ยวเร่งให้เหออี่เชินรีบฟ้องกุยเป่าแต่เกิดเรื่อง
อื้อฉาวกับเซียวเสี่ยวซะก่อน เจ้าโม่เซิงขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยเซียวเสี่ยว ทำให้ทั้งคู่กลับมาเป็นเพื่อนรักกันดังเดิม
จากเรื่องนี้ทำให้เหออี่เชินได้พบกับเจ้าโม่เซิงมากขึ้น เขาพยายามสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้งซึ่งดูๆแล้วก็น่าจะ
ไปได้ดี เขาตัดสินใจพูดกับเธอโดยขอกลับมาคบกับเธออีกครั้งหนึ่ง แต่คำตอบของเธอทำให้เขาไปไม่เป็นเลย
ความรู้สึกของคนที่รอคอยมานานถึง 7 ปี เจอคำตอบแบบนี้มันคล้ายกับว่าเธอโยน "โลก (ที่แตกสลาย) ทั้งใบ
ให้นายคนเดียว" ไปให้เขา ส่วนผู้ชมคงอึ้งกิมกี่ไปตามๆกัน ยังดีที่เหออี่เชินยังมีสติรอข้ามถนนกลับบ้านตรง
ทางม้าลายซึ่งมีไฟเขียวไฟแดง
ตอนเจ้าโม่เซิงอยู่อเมริกา เธอได้รู้จักกับอิ้งฮุย อิ้งฮุยเป็นประธานบริษัทอินโซและเป็นมหาเศรษฐี ทำงานอยู่
ที่อเมริกาและเคยช่วยเหลือเจ้าโม่เซิง รวมถึงการช่วยรับเป็นสามีในนามแบบถูกกฎหมายเพื่อช่วยเจ้าโม่เซิง
รับเด็กคนหนึ่งเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งการเป็นสามีในนามแบบถูกกฎหมายของอิ้งฮุยได้กลับมาสร้างปัญหาให้กับ
เหออี่เชินและเจ้าโม่เซิงในภายหลัง
EP 12-18 รักในรอยแค้นน้อยๆของเหออี่เชิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ด้วยความผิดหวัง ความเครียด ทำงานหนัก ทำให้เหออี่เชินล้มฟุบที่โต๊ะประชุมจนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
เซี่ยงเหิง เพื่อนรักสมัยเรียนของเหออี่เชินและรู้จักกับเจ้าโม่เซิง ทนเห็นสภาพเพื่อนรักเป็นแบบนี้ไม่ไหวจึงนัด
เจ้าโม่เซิงออกมาคุย เล่าเรื่องสมัยเรียนให้เธอฟัง แถมต่อว่าเธอไปด้วย ตอนที่เจ้าโม่เซิงเข้าไปเยี่ยมเหออี่เชิน
ในห้อง เจ้าโม่เซิงตัดสินใจจูบเขาจนเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "จูบที่ปลุกให้ตื่น"
หลังจากเจ้าโม่เซิงวิ่งหนีไปตั้งหลัก วันต่อมา เธอมานั่งรอหน้าห้องพัก (บ้าน) ของเหออี่เชิน เหออี่เชินเปิด
ประตูเข้าห้องโดยไม่สนใจว่ามีใครยืนอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่ปิดประตูห้องประมาณว่าตัดบัวไม่ขาดใย แล้วก็ยอมให้
เจ้าโม่เซิงเข้ามาในห้อง สุดท้ายเธอก็เหมือนลูกความที่สารภาพอะไรบางอย่างออกมาเอง ฉากนี้จะได้เห็น
ความปวดร้าวในสายตาของเหออี่เชินยามต้องแสงไฟในห้อง คืนนั้นเหออี่เชินนั่งตัดสินใจอะไรบางอย่างทั้งคืน
เช้าวันต่อมา เขาขับรถไปรับเจ้าโม่เซิงเพื่อไปที่ว่าการเขตฯ เห็นสีหน้าทั้ง 2 คนตอนอยู่ที่ว่าการเขตฯแล้วคง
ไม่แปลกใจที่เจ้าหน้าที่จะคิดว่ามาหย่า เหออี่เชินสมกับเป็นทนายฯจริงๆ จะอยู่กับผู้หญิงก็จัดการเรื่องเอกสาร
ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นเหออี่เชินให้เจ้าโม่เซิงขนของย้ายมาอยู่บ้านเขา ในช่วงแรกๆที่ทั้ง 2 คนอาศัยอยู่ใน
บ้านเดียวกัน เหมือนเหออี่เชินยังปวดใจอยู่ จึงแยกตัวมานอนในห้องรับแขก และยกห้องนอนของเขาให้เธอ
เมื่อผู้ร่วมงานในสำนักทนายฯมากินเลี้ยงที่บ้านเหออี่เชินและพบว่าเจ้าโม่เซิงอยู่บ้านเดียวกับเขา เขาตอบแบบ
สำบัดสำนวนว่าเขากับเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันเฉยๆแต่เลือกเซ็นสัญญาระยะยาวบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกัน
เนื่องด้วยความรักที่มีต่อกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลาจนถึงงานครบรอบ
มหาวิทยาลัยฉางหัว ในวันนั้น เหออี่เชินได้พบกับอิ้งฮุยเป็นครั้งแรก (แต่อิ้งฮุยรู้จักเหออี่เชินมาพอสมควรแล้ว)
การกลับมาเมืองจีนของอิ้งฮุยเหมือนเป็นลางร้ายของเหออี่เชิน แต่ก็มีส่วนที่เป็นลางดีของเจ้าโม่เซิงเพราะเป็น
โอกาสให้เหออี่เชินได้แสดงออกว่ารักและหึงหวงเธอมากแค่ไหน
ฉาก "จูบที่ปลุกให้ตื่น" มีคนทำยูทูปแบบซับอังกฤษไว้
ซีรีย์จีนเรื่องย้อนรอยรัก (My Sunshine) ชอบวิธีการเดินเกมของอิ้งฮุยและการตอบโต้ของเหออี่เชิน
ติดตามดูทางทีวีทุกสัปดาห์จนจบเรื่อง แม้โทนเรื่องจะเกี่ยวกับความรักแต่มีเรื่องงานเข้าไปเกี่ยวข้องเยอะมาก
ทำให้เรื่องเข้มข้นขึ้น แม้จะไม่ได้ลงลึกในเรื่องอาชีพ เช่น การว่าความของทนายความ แต่วิธีการนำเสนอ
ทำให้เชื่อได้ว่าพระเอกบ้างานจริงๆ มีการผูกเรื่องผูกอาชีพให้มาข้องเกี่ยวกันได้ จะว่าไปแล้วเหมือนดูหนังฝรั่ง
ที่ตัวละครกับเรื่องงานดูกลมกลืนไปด้วยกันได้ดีมาก ดูสมเหตุสมผลแบบไม่ขัดใจ
ที่ชอบอีกอย่างคือวิธีการเดินเกมต่อสู้กันระหว่างอิ้งฮุยกับเหออี่เชิน เป็นการต่อสู้กันด้วยสมองและใช้แง่มุม
ของกฎหมาย ไม่มีใช้กำลังเลย ซึ่งแผนการเดินเกมของอิ้งฮุยทำแบบนักธุรกิจ มีแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม
เป็นต้น สำหรับเขาแล้ว ผลลัพธ์คือสิ่งสำคัญสูงสุด วิธีการของนักธุรกิจบางคนอย่างอิ้งฮุยอาจจะมีซิกแซกบ้าง
เพราะชีวิตเขาในวงการธุรกิจมีการแข่งขันสูง ส่วนเหออี่เชินจะออกแนวนักกฎหมาย ทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน
ไม่บุ่มบ่าม แต่ถ้าพบกันซึ่งหน้าจะใช้วิธีการพูดหรือปะทะฝีปาก อีกฝ่ายจะได้รู้ว่ากำลังต่อสู้กับทนายความที่
เก่งกาจคนหนึ่ง เหมือนเขียวเสือให้วัวกลัว (ตัวอย่างเรื่อง เขียนเสือให้วัวกลัว ก็ตอนที่เจ้าโม่เซิงแอบถ่ายรูป
เหออี่เชิน อัดภาพเสร็จก็นำไปให้เหออี่เชินดู ปรากฎว่าเขายึดรูปไปเลยแถมอ้างเรื่องสิทธิ์ในการครอบครองรูป
เจ้าโม่เซิงไม่กล้าเถียงเพราะเหออี่เชินเรียนนิติฯและเขาอ้างเรื่องสิทธิ์ตามกฎหมาย)
มีสิ่งน่าเบื่ออย่างหนึ่งคือการย้อนฉากเดิมซึ่งบางฉากย้อนไปหลายครั้งจนจำได้หมดแล้ว สมกับชื่อเรื่อง
"ย้อนรอย.." ส่วนช่วงตอนย้อนอดีตสมัยเรียนมหาวิทยาลัย บางช่วงก็น่าเบื่อแต่พอคิดถึงวัยตัวเองสมัยเรียน
ก็ทำให้สนุกขึ้นมาได้บ้าง สมัยเรียน พวกเพื่อนผมมันไปสมัครชมรมคณะอื่นเพื่อจะได้เจอผู้หญิงต่างคณะ
ฉากที่เหออี่เชินกับอิ้งฮุยต่อปากต่อคำกัน บลัฟกันไปมา ดูแล้วนึกถึงเพื่อนสมัยเรียนที่ชอบบลัฟกันเวลา
เล่นไพ่บ้าง เล่นหมากรุกบ้าง พอเพื่อนคนนึงบลัฟมา เพื่อนอีกคนจะพูดว่า "กลัวซะที่ไหนล่ะ" แล้วก็บลัฟกลับ
ดูการปะทะกันของทั้งคู่แล้วนึกถึงความสนุกที่เพื่อนๆในวัยเรียนบลัฟกันทุกครั้งไป แต่เพื่อนที่ชอบพูดประโยค
"กลัวซะที่ไหนล่ะ" จากไปแล้วและเป็นจอมบลัฟก็เลยไม่ได้พบความสนุกของการบลัฟแบบสมัยเรียนอีกเลย
สปอยล์การบลัฟกันในบางฉาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เท่าที่ค้นในกูเกิล เห็นกระทู้ใน pantip พูดถึงเรื่องนี้เมื่อ 2 ปีก่อน หลายท่านน่าจะได้ดูกันไปแล้ว ผมดูแล้วก็
อยากตั้งกระทู้นี้ให้ช่องอมรินทร์ทีวีช่อง 34 ซะหน่อยเพราะถ้าทางช่องไม่นำเรื่องนี้มาฉาย ผมคงไม่ได้ดูเป็นแน่
ตัวละครในเรื่อง
เหออี่เชิน (หรือทนายเหอ) - ทนายความ (พระเอก)
เจ้าโม่เซิง - ช่างภาพ (นางเอก)
เซียวเสี่ยว - นางแบบ เป็นเพื่อนเจ้าโม่เซิงสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ชื่อในสมัยเรียนคือหลินเส้าเหมย
ลู่หย่วนฟง - ช่างภาพ เป็นเพื่อนร่วมงานเจ้าโม่เซิง
เหออี่เหมย - พิธีกร เป็นน้องสาวเหออี่เชินแต่ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ
อิ้งฮุย - ประธานบริษัทอินโซ (INSO)
เซี่ยงเหิง (หรือทนายเซี่ยง) - ทนายความ เป็นเพื่อนเหออี่เชินตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยและ
ปัจจุบันเปิดสำนักทนายความร่วมกัน
EP 1-11 เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเหออี่เชินกับเจ้าโม่เซิงในสมัยปัจจุบันและสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและ
มีเรื่องราวของเจ้าโม่เซิงตอนอยู่อเมริกา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
EP 12-18 รักในรอยแค้นน้อยๆของเหออี่เชิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้