เคยตั้งคำถามเล่นๆกับพี่ๆ ที่เป็นโสด ไม่มีครอบครัว ว่าถ้าแก่จะอยู่ยังไง?
อยู่กับใคร? ถ้าป่วยเจ็บไข้ จะทำยังไง? คุยกันเล่นๆเพราะขับรถแก้ง่วงนอน
คำตอยที่ได้ คือ ความเงียบ....(ไม่รู้ว่า เพิ่งจะฉุกคิดรึเปล่า พี่สาวอายุ 47)
ผมก็เคยคิดว่าถ้าคนเราแก่ ผมว่าน่าจะมีหมู่บ้านเหมือนบ้านบางแค
แต่อยู่ ตจว. (ผมมีที่ดินอยู่กาญจน์ ใกล้น้ำพุร้อน) น่าจะทำอาณาจักรหมู่บ้าน
คนโสด ผู้สูงอายุ สร้างให้เหมาะกับ ผู้สูงวัย และมีกิจกรรม ให้พึ่งตัวเองได้
เรื่องการทำเกษตร ปลูกพืชผักไว้กินเองเพื่อความมั่นใจในความสะอาด
ปลูกพืชสมุนไพรไว้ บริโภคเอง เหลือก็แปรรูปขาย (ที่นี่มีตลาดขายสมุนไพร เป็นร้านค้าทั่วไป
นิยมมากสำหรับชาวต่างชาติ รัสเซีย )
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เทคโนโลยีสื่อสาร สัญญานฉุกเฉินแต่ละบ้านเหมือนโรงบาล
ทำlinkกับส่วนกลาง ... จะเน้นเรื่องการทำเกษตร เพราะการทำเกษตรนั้นทำให้จิตใจสดชื่น
สัมผัสกับธรรมชาติ และมีให้ผู้อยู่มีรายได้จากการทำเกษตรเกินกว่าบริโภคเอง มาขายให้นักท่องเที่ยว
มีคนมาเที่ยวทุกวัน และมีตลาดขายพืชผัก ผลไม้ท้องถิ่นอยู่แล้ว(ขายปลีก) ตลาดขายส่งจะแยกต่างหากอีกตลาด
ผมมีความเชื่ออยู่ว่า คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วย หลักธรรม "ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา"
คนเราจะอายุยืนต่อไปเพราะมีความหวัง มีเป้าหมาย มีจุดหมาย
เช่น จะอยู่ต่อไปเพื่อ...(ทำจุดมุ่งหมาย...ให้สำเร็จ)
หากแค่มีอายุยืนยาว แค่เพียงหายใจทิ้งไปวันๆ ไม่ทำประโยชน์อันใด
ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม แต่หากบุคคลใด ทำคุณประโยชน์แก่ตนแก่โลก
แม้จะมีอายุเหลืออีกแค่เพียงราตรีเดียว ก็ทรงคุณค่ามหาศาล ถือเป็นการอยู่ที่มีความหมายมากมาย
ดังนั้น หมู่บ้านแนวนี้ จะเน้น ให้คนสูงวัยเป็นเหมือน อัญมณี อันทรงคุณค่า
ไม่ใช่ภาระสังคม
ที่คนสนใจไปซื้อที่ ทำบ้านใกล้น้ำพุร้อนนี้เพราะ ได้แช่น้ำร้อน ลำธารน้ำเย็น แช่ไปก็คุยกันไป เพลินๆ
ผมเคยไปแช่ก็จะมีทั้ง คนไทย รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น แต่พักหลังๆ รัสเซียมาเยอะมากเต็มบ่อเลย
คนไทยก็จะหลีกมาแช่ ตอนเช้ามืด ตี4-6โมง แล้ว ตอนค่ำ-4ทุ่ม เพราะเงียบสงบ สบายๆ
ว่ากันว่า คนที่เป็นอัมพฤกษ์ ระบบไหลเวียนมาแช่ รักษาตัวหายกันก็เยอะ
แถวนี้เน้น แนวรักษาสุขภาพ มีพืชผักปลอดสาร แต่ที่ยังขาดคือ สวนสาธารณะ ออกกำลัง
ฟิตเนต แล้วก็โรงพยาบาล กิจกรรมสัณทนาการ
โลกเรากำลังก้าวย่างเข้าสู่ "สังคมผู้สูงอายุ"
อยู่กับใคร? ถ้าป่วยเจ็บไข้ จะทำยังไง? คุยกันเล่นๆเพราะขับรถแก้ง่วงนอน
คำตอยที่ได้ คือ ความเงียบ....(ไม่รู้ว่า เพิ่งจะฉุกคิดรึเปล่า พี่สาวอายุ 47)
ผมก็เคยคิดว่าถ้าคนเราแก่ ผมว่าน่าจะมีหมู่บ้านเหมือนบ้านบางแค
แต่อยู่ ตจว. (ผมมีที่ดินอยู่กาญจน์ ใกล้น้ำพุร้อน) น่าจะทำอาณาจักรหมู่บ้าน
คนโสด ผู้สูงอายุ สร้างให้เหมาะกับ ผู้สูงวัย และมีกิจกรรม ให้พึ่งตัวเองได้
เรื่องการทำเกษตร ปลูกพืชผักไว้กินเองเพื่อความมั่นใจในความสะอาด
ปลูกพืชสมุนไพรไว้ บริโภคเอง เหลือก็แปรรูปขาย (ที่นี่มีตลาดขายสมุนไพร เป็นร้านค้าทั่วไป
นิยมมากสำหรับชาวต่างชาติ รัสเซีย )
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เทคโนโลยีสื่อสาร สัญญานฉุกเฉินแต่ละบ้านเหมือนโรงบาล
ทำlinkกับส่วนกลาง ... จะเน้นเรื่องการทำเกษตร เพราะการทำเกษตรนั้นทำให้จิตใจสดชื่น
สัมผัสกับธรรมชาติ และมีให้ผู้อยู่มีรายได้จากการทำเกษตรเกินกว่าบริโภคเอง มาขายให้นักท่องเที่ยว
มีคนมาเที่ยวทุกวัน และมีตลาดขายพืชผัก ผลไม้ท้องถิ่นอยู่แล้ว(ขายปลีก) ตลาดขายส่งจะแยกต่างหากอีกตลาด
ผมมีความเชื่ออยู่ว่า คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วย หลักธรรม "ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา"
คนเราจะอายุยืนต่อไปเพราะมีความหวัง มีเป้าหมาย มีจุดหมาย
เช่น จะอยู่ต่อไปเพื่อ...(ทำจุดมุ่งหมาย...ให้สำเร็จ)
หากแค่มีอายุยืนยาว แค่เพียงหายใจทิ้งไปวันๆ ไม่ทำประโยชน์อันใด
ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม แต่หากบุคคลใด ทำคุณประโยชน์แก่ตนแก่โลก
แม้จะมีอายุเหลืออีกแค่เพียงราตรีเดียว ก็ทรงคุณค่ามหาศาล ถือเป็นการอยู่ที่มีความหมายมากมาย
ดังนั้น หมู่บ้านแนวนี้ จะเน้น ให้คนสูงวัยเป็นเหมือน อัญมณี อันทรงคุณค่า
ไม่ใช่ภาระสังคม
ที่คนสนใจไปซื้อที่ ทำบ้านใกล้น้ำพุร้อนนี้เพราะ ได้แช่น้ำร้อน ลำธารน้ำเย็น แช่ไปก็คุยกันไป เพลินๆ
ผมเคยไปแช่ก็จะมีทั้ง คนไทย รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น แต่พักหลังๆ รัสเซียมาเยอะมากเต็มบ่อเลย
คนไทยก็จะหลีกมาแช่ ตอนเช้ามืด ตี4-6โมง แล้ว ตอนค่ำ-4ทุ่ม เพราะเงียบสงบ สบายๆ
ว่ากันว่า คนที่เป็นอัมพฤกษ์ ระบบไหลเวียนมาแช่ รักษาตัวหายกันก็เยอะ
แถวนี้เน้น แนวรักษาสุขภาพ มีพืชผักปลอดสาร แต่ที่ยังขาดคือ สวนสาธารณะ ออกกำลัง
ฟิตเนต แล้วก็โรงพยาบาล กิจกรรมสัณทนาการ