สวัสดีครับ พอดีเห็นกระทู้เกี่ยวกับการเงิน ปัญหาหรือแนวทางต่างๆ ในช่วงนี้เรื่อยๆ
เลยอยากจะเล่าเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตัวเองเพื่อ เล่า ปรึกษา แลกเปลี่ยน กันครับ
พื้นฐานก็คือผมอายุ 26 แต่งงานตอนอายุ 24 แฟนอายุไล่เลี่ยกันอ่อนกว่าประมาณครึ่งปี
เป็นคนต่างจังหวัด ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ต่างจังหวัด
ฐานะทางบ้านไม่เดือดร้อน ช่วยเหลือเราทั้งคู่ในเรื่องดาวน์บ้าน และดาวน์รถ (ต้องขอขอบพระคุณท่านมากๆ)
สำหรับผมกับแฟนมีเป้าหมายร่วมกันจากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมาตลอด
ยิ่งเป้าหมายเราไปด้วยกันได้ ระหว่างทางเจอปัญหาอะไรก็จบลงด้วยการคุยกันด้วยเหตุผล
แรกๆเราเจอปัญหาทางการเงินครับ เงินเดือนฉัน เงินเดือนเธอ ฉันจะซื้อนั้น เธออยากได้นี่
ด้วยรายได้ที่เราเอามารวมกันทำให้เกิดปัญหาสกัดการซื้อของของอีกฝ่าย ต่อด้วยการทะเลาะกัน
เลยคุยกันเรื่อยๆ ปรับกันมาเรื่อยๆจนตอนนี้รู้สึกว่าโอเคสำหรับเรื่องการเงิน
โดยใช้วิธีการประมาณนี้ครับ
เริ่มต้นด้วยการรู้รายได้ รายจ่ายของตัวเองก่อน
เราทั้งคู่มีรายได้รวมเท่าไหร่ รายจ่ายรวมเท่าไหร่ โดยเราคิดตัวเลขกันเป็นเดือน
ซึ่งถ้าเป็นตัวเลขปกติก็จะจัดการตามนี้ครับ
1. เอาตัวเลขรายได้ทั้งหมดมารวมกัน (เงินเดือน + ดอกเบี้ย + ธุรกิจส่วนตัว +อื่นๆ)
2. เอาตัวเลขค่าใช้จ่ายทั้งหมดมารวมกัน (ผ่อนต่างๆ + ประกัน + อาหาร + ฟุ่มเฟือย + อื่นๆ)
3. เอาตัวเลขคงเหลือไว้ลงทุนต่อ
วิธีการ
1. รายได้ทั้งหมดเข้าบัญชี รอโอนตามตัวเลขค่าใช้จ่ายที่รับผิดชอบ
2. โอนส่วนที่ผมรับผิดชอบเข้าบัญชีผม ค่าผ่อนต่างๆ ประกัน (ทำเรื่องหักบัญชีไปไม่เรื่องมาก)
3. โอนส่วนที่แฟนรับผิดชอบเข้าบัญชีแฟน อาหาร ฟุ่มเฟือย (บริหารจัดการให้อยู่กันได้ทั้งเดือน)
4. เงินที่เหลือผมจะนำไปลงทุนต่อ ทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์กลุ่มที่ทำงาน ร่วมธุรกิจกับคนอื่นๆ หุ้นบ้าง
แต่กว่าจะถึงวิธีการพวกนี้ก็ผ่านสภาพติดลบมาก่อนเช่นกัน
รายได้น้อยกว่ารายจ่าย ก็ขาดทุน ชีวิตขาดทุน
ปล่อยไปทุกเดือนบริหารหนี้กันเพลินแน่นอน
ทำยังไงให้ไม่ขาดทุน ก็คือสองข้อใหญ่ๆ เพิ่มรายได้ กับลดรายจ่าย
เพิ่มรายได้นั้นไม่ง่าย แต่เริ่มต้นจากลดรายจ่ายนั้นง่ายกว่ามาก
เราเริ่มต้นด้วยการลดรายจ่ายครับ เขียนมันลงมาว่าเราจ่ายอะไรไปในหนึ่งเดือน
ส่วนไหนที่ตายตัว ส่วนไหนที่ลดได้ ของเราก็จะมี ค่าของใช้ เสื้อผ้า อาหารครับ ที่โดนตัดงบก่อนเพื่อน
อาหารก็คำนวณกันง่ายๆไปเลย มื้อละกี่บาท วันละกี่มื้อ เดือนนึงกี่วัน วันพิเศษกี่วัน(ทานของแพงหน่อย)
ถ้ายังติดลบอยู่ก็ มื้อละเท่านี้ได้มั้ย ลดน้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟได้มั้ย ลดขนมได้มั้ย
เสื้อผ้าเดือนละกี่ตัวซื้อใหม่ งบเท่าไหร่ต่อเดือน ลดได้มั้ย
ของใช้หรือสิ่งของอื่นๆก็จะตัดสินใจร่วมกันว่าจะซื้อมั้ยโดยยึดหลักง่ายๆที่ว่า
"ถ้าไม่ซื้อมาใช้ เรายังใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่ลำบากมั้ย" ถ้าไม่มีแล้วลำบากก็ซื้อ ถ้ายังไม่ลำบากก็ไม่ซื้อ
ทีนี้ส่วนรายจ่ายเราก็ลดได้พอสมควร รายได้ก็ครอบคลุมรายจ่ายเราแล้ว ไม่ขาดทุนแล้ว
ขั้นต่อไปก็ทำอย่างไรให้ได้กำไรบ้างหละ ลดรายจ่ายไปละ ต่อมาก็เพิ่มรายได้
เวลาเราเหลือช่วงไหน สามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง
แรกๆก็ไปฟังขายตรง ได้แนวคิด passive income มา
(ถึงขั้นเข้าอบรม สัมนา แล้วไปออกสนามขายจริงด้วยนะเออ
ได้รายได้มาบ้าง แต่ปรึกษากันแล้วว่าไม่ใช่ทางเลย เพื่อน คนรู้จักคิดลบใส่ ก็เลยห่างๆ
แต่ก็ได้อะไรมาเยอะพอสมควร ทั้งบุคคล แนวคิด แนวทาง ประสบการณ์)
เราก็หาแนวคิด ไอเดียธุรกิจเรื่อยๆ ซื้อหนังสืออ่านเดือนละเล่ม
หนังสื้อพัฒนาตัวเอง หรือหนังสือธุรกิจ การลงทุน
(เทคนิคก็คือ อ่านก่อนนอนคืนละ 1 บทครับ ^^ อ่านแล้วไฟลุกนอนไม่หลับอีก)
เพราะเราอยากมีรายได้ ใครๆก็จะหาโอกาสมาให้ ก็ได้ทำธุรกิจร่วมกับคนอื่นด้วย
เราก็ยังทำงานประจำอยู่ อยากมีธุรกิจของตัวเอง
ก็เปิดธุรกิจส่วนตัวโดยจ้างพนักงานขาย เอาตัวเองออกจากระบบ
(แนวคิดคือจ้างแบบต่อยอดขาย ต่อชิ้น ไม่จ้างรายวัน เพราะทำให้เขามีแรงจูงใจในการขาย
ช่วยเราลดค่าใช้จ่ายหรือเวลาด้านการบริหารจัดการคนได้เยอะเลย)
จนรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง ขาดทุนบ้าง ตามประสบการณ์
แต่การลงทุนของผมก็ใช้หลักการคิดก่อนลงทุนง่ายๆว่า
ถ้าเป็นธุรกิจเริ่มต้นก็จะวางแผนแบบกรณีเลวร้ายที่สุด
"ยอดขายต่ำสุดในค่าใช้จ่ายที่สูงสุด" เราขาดทุนเท่าไหร่ รับได้มั้ย ถ้ารับได้ก็ลุย
เพราะก่อนหน้านี้เราวางแผนแบบโลกสวยไว้แล้ว
ว่ากำไรเท่าไหร่ จุดคุ้มทุนเป็นไปได้
จนรายได้เรามากกว่ารายจ่ายแล้วก็วางแผนกับแฟน
เพิ่มรายจ่ายในส่วนของอาหารบ้าง ฟุ่มเฟือยบ้าง ของใช้บ้าง ตามเหมาะสมอารมณ์ชี
ส่วนที่เหลือก็นำไปลงทุนต่อ ส่วนตัวชอบลงทุนในทรัพย์สินที่ปันผลเป็นเงินสด (เพื่อนำมาลงทุนต่อ)
ธุรกิจซื้อขายเงินสดได้กำไร ลงทุนในสหกรณ์กลุ่ม แชร์กลุ่มบ้าง^^ บริหารความเสี่ยงเอง
ส่วนตัวชอบความเสี่ยงสูง แต่ก็บริหารไม่ให้เสี่ยงจนเกินไป
ตอนนี้ก็เริ่มศึกษาลงทุนในหุ้นบ้างในหุ้นที่ดีตอนราคาต่ำ (เดาเอา)
ตอนนี้ชีวิตคู่รู้สึกว่าลงตัวครับ กำลังวางแผนมีลูกกัน หวังว่าแนวทางนี้จะพาผมกับแฟนไปถึงเป้าหมายด้วยกันนะครับ
เป้าหมายของเราอาจไม่ใช่เป้าหมายทางการเงิน (แต่ก็เป็นปัจจัยหลัก)
เป็นการได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ บนธุรกิจครอบครัวที่สร้างขึ้น พร้อมครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา มีความสุขและอิสระทางสังคม
ขอบคุณครับ
*อยากได้ความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันบ้างครับ มีแนวทางไหน วิธีการไหนกันบ้าง เล่าให้กันฟัง
**เดี่ยวจะกลับไปอ่านแล้วแก้ไขคำผิดและคำบางคำแน่นอนเพราะพิมพ์เสร็จกดส่งเลย
วางแผนการเงินชีวิตคู่ ตั้งแต่อายุยังน้อย
เลยอยากจะเล่าเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตัวเองเพื่อ เล่า ปรึกษา แลกเปลี่ยน กันครับ
พื้นฐานก็คือผมอายุ 26 แต่งงานตอนอายุ 24 แฟนอายุไล่เลี่ยกันอ่อนกว่าประมาณครึ่งปี
เป็นคนต่างจังหวัด ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ต่างจังหวัด
ฐานะทางบ้านไม่เดือดร้อน ช่วยเหลือเราทั้งคู่ในเรื่องดาวน์บ้าน และดาวน์รถ (ต้องขอขอบพระคุณท่านมากๆ)
สำหรับผมกับแฟนมีเป้าหมายร่วมกันจากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมาตลอด
ยิ่งเป้าหมายเราไปด้วยกันได้ ระหว่างทางเจอปัญหาอะไรก็จบลงด้วยการคุยกันด้วยเหตุผล
แรกๆเราเจอปัญหาทางการเงินครับ เงินเดือนฉัน เงินเดือนเธอ ฉันจะซื้อนั้น เธออยากได้นี่
ด้วยรายได้ที่เราเอามารวมกันทำให้เกิดปัญหาสกัดการซื้อของของอีกฝ่าย ต่อด้วยการทะเลาะกัน
เลยคุยกันเรื่อยๆ ปรับกันมาเรื่อยๆจนตอนนี้รู้สึกว่าโอเคสำหรับเรื่องการเงิน
โดยใช้วิธีการประมาณนี้ครับ
เริ่มต้นด้วยการรู้รายได้ รายจ่ายของตัวเองก่อน
เราทั้งคู่มีรายได้รวมเท่าไหร่ รายจ่ายรวมเท่าไหร่ โดยเราคิดตัวเลขกันเป็นเดือน
ซึ่งถ้าเป็นตัวเลขปกติก็จะจัดการตามนี้ครับ
1. เอาตัวเลขรายได้ทั้งหมดมารวมกัน (เงินเดือน + ดอกเบี้ย + ธุรกิจส่วนตัว +อื่นๆ)
2. เอาตัวเลขค่าใช้จ่ายทั้งหมดมารวมกัน (ผ่อนต่างๆ + ประกัน + อาหาร + ฟุ่มเฟือย + อื่นๆ)
3. เอาตัวเลขคงเหลือไว้ลงทุนต่อ
วิธีการ
1. รายได้ทั้งหมดเข้าบัญชี รอโอนตามตัวเลขค่าใช้จ่ายที่รับผิดชอบ
2. โอนส่วนที่ผมรับผิดชอบเข้าบัญชีผม ค่าผ่อนต่างๆ ประกัน (ทำเรื่องหักบัญชีไปไม่เรื่องมาก)
3. โอนส่วนที่แฟนรับผิดชอบเข้าบัญชีแฟน อาหาร ฟุ่มเฟือย (บริหารจัดการให้อยู่กันได้ทั้งเดือน)
4. เงินที่เหลือผมจะนำไปลงทุนต่อ ทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์กลุ่มที่ทำงาน ร่วมธุรกิจกับคนอื่นๆ หุ้นบ้าง
แต่กว่าจะถึงวิธีการพวกนี้ก็ผ่านสภาพติดลบมาก่อนเช่นกัน
รายได้น้อยกว่ารายจ่าย ก็ขาดทุน ชีวิตขาดทุน
ปล่อยไปทุกเดือนบริหารหนี้กันเพลินแน่นอน
ทำยังไงให้ไม่ขาดทุน ก็คือสองข้อใหญ่ๆ เพิ่มรายได้ กับลดรายจ่าย
เพิ่มรายได้นั้นไม่ง่าย แต่เริ่มต้นจากลดรายจ่ายนั้นง่ายกว่ามาก
เราเริ่มต้นด้วยการลดรายจ่ายครับ เขียนมันลงมาว่าเราจ่ายอะไรไปในหนึ่งเดือน
ส่วนไหนที่ตายตัว ส่วนไหนที่ลดได้ ของเราก็จะมี ค่าของใช้ เสื้อผ้า อาหารครับ ที่โดนตัดงบก่อนเพื่อน
อาหารก็คำนวณกันง่ายๆไปเลย มื้อละกี่บาท วันละกี่มื้อ เดือนนึงกี่วัน วันพิเศษกี่วัน(ทานของแพงหน่อย)
ถ้ายังติดลบอยู่ก็ มื้อละเท่านี้ได้มั้ย ลดน้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟได้มั้ย ลดขนมได้มั้ย
เสื้อผ้าเดือนละกี่ตัวซื้อใหม่ งบเท่าไหร่ต่อเดือน ลดได้มั้ย
ของใช้หรือสิ่งของอื่นๆก็จะตัดสินใจร่วมกันว่าจะซื้อมั้ยโดยยึดหลักง่ายๆที่ว่า
"ถ้าไม่ซื้อมาใช้ เรายังใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่ลำบากมั้ย" ถ้าไม่มีแล้วลำบากก็ซื้อ ถ้ายังไม่ลำบากก็ไม่ซื้อ
ทีนี้ส่วนรายจ่ายเราก็ลดได้พอสมควร รายได้ก็ครอบคลุมรายจ่ายเราแล้ว ไม่ขาดทุนแล้ว
ขั้นต่อไปก็ทำอย่างไรให้ได้กำไรบ้างหละ ลดรายจ่ายไปละ ต่อมาก็เพิ่มรายได้
เวลาเราเหลือช่วงไหน สามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง
แรกๆก็ไปฟังขายตรง ได้แนวคิด passive income มา
(ถึงขั้นเข้าอบรม สัมนา แล้วไปออกสนามขายจริงด้วยนะเออ
ได้รายได้มาบ้าง แต่ปรึกษากันแล้วว่าไม่ใช่ทางเลย เพื่อน คนรู้จักคิดลบใส่ ก็เลยห่างๆ
แต่ก็ได้อะไรมาเยอะพอสมควร ทั้งบุคคล แนวคิด แนวทาง ประสบการณ์)
เราก็หาแนวคิด ไอเดียธุรกิจเรื่อยๆ ซื้อหนังสืออ่านเดือนละเล่ม
หนังสื้อพัฒนาตัวเอง หรือหนังสือธุรกิจ การลงทุน
(เทคนิคก็คือ อ่านก่อนนอนคืนละ 1 บทครับ ^^ อ่านแล้วไฟลุกนอนไม่หลับอีก)
เพราะเราอยากมีรายได้ ใครๆก็จะหาโอกาสมาให้ ก็ได้ทำธุรกิจร่วมกับคนอื่นด้วย
เราก็ยังทำงานประจำอยู่ อยากมีธุรกิจของตัวเอง
ก็เปิดธุรกิจส่วนตัวโดยจ้างพนักงานขาย เอาตัวเองออกจากระบบ
(แนวคิดคือจ้างแบบต่อยอดขาย ต่อชิ้น ไม่จ้างรายวัน เพราะทำให้เขามีแรงจูงใจในการขาย
ช่วยเราลดค่าใช้จ่ายหรือเวลาด้านการบริหารจัดการคนได้เยอะเลย)
จนรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง ขาดทุนบ้าง ตามประสบการณ์
แต่การลงทุนของผมก็ใช้หลักการคิดก่อนลงทุนง่ายๆว่า
ถ้าเป็นธุรกิจเริ่มต้นก็จะวางแผนแบบกรณีเลวร้ายที่สุด
"ยอดขายต่ำสุดในค่าใช้จ่ายที่สูงสุด" เราขาดทุนเท่าไหร่ รับได้มั้ย ถ้ารับได้ก็ลุย
เพราะก่อนหน้านี้เราวางแผนแบบโลกสวยไว้แล้ว ว่ากำไรเท่าไหร่ จุดคุ้มทุนเป็นไปได้
จนรายได้เรามากกว่ารายจ่ายแล้วก็วางแผนกับแฟน
เพิ่มรายจ่ายในส่วนของอาหารบ้าง ฟุ่มเฟือยบ้าง ของใช้บ้าง ตามเหมาะสมอารมณ์ชี
ส่วนที่เหลือก็นำไปลงทุนต่อ ส่วนตัวชอบลงทุนในทรัพย์สินที่ปันผลเป็นเงินสด (เพื่อนำมาลงทุนต่อ)
ธุรกิจซื้อขายเงินสดได้กำไร ลงทุนในสหกรณ์กลุ่ม แชร์กลุ่มบ้าง^^ บริหารความเสี่ยงเอง
ส่วนตัวชอบความเสี่ยงสูง แต่ก็บริหารไม่ให้เสี่ยงจนเกินไป
ตอนนี้ก็เริ่มศึกษาลงทุนในหุ้นบ้างในหุ้นที่ดีตอนราคาต่ำ (เดาเอา)
ตอนนี้ชีวิตคู่รู้สึกว่าลงตัวครับ กำลังวางแผนมีลูกกัน หวังว่าแนวทางนี้จะพาผมกับแฟนไปถึงเป้าหมายด้วยกันนะครับ
เป้าหมายของเราอาจไม่ใช่เป้าหมายทางการเงิน (แต่ก็เป็นปัจจัยหลัก)
เป็นการได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ บนธุรกิจครอบครัวที่สร้างขึ้น พร้อมครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตา มีความสุขและอิสระทางสังคม
ขอบคุณครับ
*อยากได้ความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันบ้างครับ มีแนวทางไหน วิธีการไหนกันบ้าง เล่าให้กันฟัง
**เดี่ยวจะกลับไปอ่านแล้วแก้ไขคำผิดและคำบางคำแน่นอนเพราะพิมพ์เสร็จกดส่งเลย