นัดเมื่อคืนลุ้นระทึกมากค่ะ รู้สึกกลัวเลวานอย่างบอกไม่ถูกคือเล่นทีมชาติทีไรนางยิงกระจาย..สากคืออะไรเลวานไม่รู้จัก555
แต่นัดเมื่อคืนนี้ดีใจกับอวบจริงๆเล่นได้ดีงามมากค่ะเหมาคนเดียวสองลูกเลย..ส่วนอีกคนก็กุนโดกันลงมาครึ่งหลังพริ้วมากทำให้เกมรุกดูตื่นตาตื่นใจดีงามจริงๆค่ะ..สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเพื่อนๆเช่นเคย ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูด้านล่างกันเลยค่ะ
แนวรุกร่างอวบจากเสือใต้กลับมาโชว์ฟอร์มสะเด่าอีกครั้ง หลังเหมาสองประตู ช่วยให้เยอรมันเอาชนะโปแลนด์ไปแบบสุดมัน พร้อมแซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มดีเรียบร้อย
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2016) รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่ 7 ที่สนามแฟรงค์เฟิร์ต สตาดิโอน ระหว่าง เยอรมัน ก่อนเกมรั้งอันดับ 2 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โปแลนด์ จ่าฝูง
เกมนี้ โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ตัดสินใจส่ง เอ็มเร จัน แนวรับสารพัดประโยชน์ของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกลงประเดิมสนามอย่างเป็นทางการทันที นอกนั้นยังเป็นแข้งหน้าหลักขาประจำ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), แมตส์ ฮุมเมลส์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี โครส, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์ และ มาริโอ เกิทเซ
ขณะที่ทีมเยือนของกุนซือ อดัม นาวอลก้า ใช้ผู้เล่นที่ค้าแข้งต่างแดนลงสนามเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู), คามิล กลิค, ลูคัสซ์ ปิซเซ็ค, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โดยมี โธมัส จอดโลเวียค กับ เคอร์ซิสตอฟ มักซินสกี้ เป็นเพียง 2 นักเตะที่เล่นอยู่ในประเทศเท่านั้นกับสโมสร ลีเกีย วอร์ซอว์
เริ่มเกมมาได้เพียง 12 นาที เจ้าบ้านพังประตูออกนะไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก โยนาส เฮคเตอร์ ทำชิ่งกับ คาริม เบลลาราบี จนหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปาดเลียดเข้ากลางให้ โธมัส มุลเลอร์ แปด้วยซ้ายจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้เยอรมันขึ้นนำ 1-0
ถัดมาในนาทีที่ 17 ทีมเยือนเริ่มเปิดฉากทักทาย จากจังหวะที่ อาร์คาดิอุส มิลิค แตะถวายพานไปตรงบริเวณหัวกระโหลกให้ คามิล โกรซิชกี วางเท้าปั่นด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลกำลังจะมุดเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังพุ่งรับเอาไว้ได้แบบติดหนึบ
กระทั่งนาทีที่ 19 กลายเป็นเยอรมันที่มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โทนี โครส เคาะจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ มาริโอ เกิทเซ ลากลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโยกหลบ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค อย่างเหนือชั้น และบรรจงกดเลียดด้วยขวาเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เมื่อมาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 36 จากจังหวะ อาร์คาดิอุส มิลิค สาดยาวจากกลางสนามขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ คามิล โกรซิชกี ดีดไซร้ก้อยเข้าไปในเขตโทษ และเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พุ่งโหม่งเน้นๆเต็มศรีษะ แม้ว่า มานูเอล นอยเออร์ จะพุ่งปัดได้ แต่ด้วยความแรงทำให้บอลทะลักเข้าประตูไปอยู่ดี โปแลนด์ตีไข่แตกเป็น 1-2 พร้อมกับเป็นประตูที่ 8 ในรอบคัดเลือกของ เลวานดี้ อีกด้วย
นาทีที่ 43 โปแลนด์ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปโดยปริยาย เนื่องจาก ลูคัสซ์ ปิซเซ็ค แบ็คขวาของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขาจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ อดัม นาวอลก้า ตัดสินใจส่ง พาเวล โอลคอฟสกี้ ลงมาเล่นแทน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนมีโอกาสได้ประตูตีเสมอ 2 ครั้งซ้อน จากจังหวะที่ มานูเอล นอยเออร์ เปิดออกบอลไม่ดีไปเข้าหัว เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค บริเวณกลางสนาม โหม่งสวนขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเต็มหลังเท้า แต่ นอยเออร์ แก้ตัวโชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการปัดสุดปลายมือข้ามคานออกไป
จากนั้น คามิล โกรซิชกี รับหน้าที่เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คนเดิมขึ้นโขกสะบัดเต็มศรีษะ บอลกำลังจะย้อยเข้าเสาไกลอยู่แล้ว แต่ถูก มาริโอ เกิทเซ โหม่งเคลียร์จากเส้นประตูออกไปอย่างหวุดหวิด จบ45 นาทีแรกเจ้าบ้านยังรักษาสกอร์นำอยู่ที่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน เพียงนาทีที่ 56 เจ้าบ้านเริ่มเปิดฉากทักทาย จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน ตัวสำรองบรรจงไหลทะลุช่องให้ มาริโอ เกิทเซ หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนเอี้ยวตัวแปด้วยขวาสวนทาง ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ไปแล้ว แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปจูบเสาไกลเต็มๆใบ พลาดประตูที่สามไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันเปิดเกมบุกแลกกันอย่างสุดมัน กระทั่งท้ายเกมนาทีที่ 82 กลายเป็นเจ้าบ้านที่มาได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ ลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ก่อนไหลถวายพานไปตรงบริเวณหัวกระโหลกให้ โธมัส มุลเลอร์ จับแต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนกดเลียดด้วยขวาเน้นๆ แต่ถูก ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ล้มตัวปัดออกมาได้ ทว่าไม่พ้นอันตรายบอลมาเข้าทาง เกิทเซ ตามซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ
จบเกม เยอรมัน เปิดบ้านเอาชนะ โปแลนด์ ไปแบบสุดมัน 3-1 เก็บสามคะแนนสำคัญ ขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางเรียบร้อย โดยมีคะแนนนำอันดับสองอย่าง โปแลนด์ อยู่ 2 คะแนน
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป เยอรมัน เตรียมบุกไปเยือน สกอตแลนด์ ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เวลา 01.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ โปแลนด์ เตรียมเปิดบ้านรับมือ ยิบรอลตา ทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ในวันและเวลาเดียวกัน
***[ทีมชาติเยอรมัน]**[05.09.15]**[ ภาพบรรยากาศหลังเกม Germany 3-1 Poland ]
สวัสดีแฟนๆทีมชาติเยอรมันทุกๆคนนะค่ะ
นัดเมื่อคืนลุ้นระทึกมากค่ะ รู้สึกกลัวเลวานอย่างบอกไม่ถูกคือเล่นทีมชาติทีไรนางยิงกระจาย..สากคืออะไรเลวานไม่รู้จัก555
แต่นัดเมื่อคืนนี้ดีใจกับอวบจริงๆเล่นได้ดีงามมากค่ะเหมาคนเดียวสองลูกเลย..ส่วนอีกคนก็กุนโดกันลงมาครึ่งหลังพริ้วมากทำให้เกมรุกดูตื่นตาตื่นใจดีงามจริงๆค่ะ..สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเพื่อนๆเช่นเคย ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูด้านล่างกันเลยค่ะ
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร 2016) รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่ 7 ที่สนามแฟรงค์เฟิร์ต สตาดิโอน ระหว่าง เยอรมัน ก่อนเกมรั้งอันดับ 2 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โปแลนด์ จ่าฝูง
เกมนี้ โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ตัดสินใจส่ง เอ็มเร จัน แนวรับสารพัดประโยชน์ของ ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรกลงประเดิมสนามอย่างเป็นทางการทันที นอกนั้นยังเป็นแข้งหน้าหลักขาประจำ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), แมตส์ ฮุมเมลส์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี โครส, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์ และ มาริโอ เกิทเซ
ขณะที่ทีมเยือนของกุนซือ อดัม นาวอลก้า ใช้ผู้เล่นที่ค้าแข้งต่างแดนลงสนามเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู), คามิล กลิค, ลูคัสซ์ ปิซเซ็ค, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โดยมี โธมัส จอดโลเวียค กับ เคอร์ซิสตอฟ มักซินสกี้ เป็นเพียง 2 นักเตะที่เล่นอยู่ในประเทศเท่านั้นกับสโมสร ลีเกีย วอร์ซอว์
เริ่มเกมมาได้เพียง 12 นาที เจ้าบ้านพังประตูออกนะไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก โยนาส เฮคเตอร์ ทำชิ่งกับ คาริม เบลลาราบี จนหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปาดเลียดเข้ากลางให้ โธมัส มุลเลอร์ แปด้วยซ้ายจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้เยอรมันขึ้นนำ 1-0
ถัดมาในนาทีที่ 17 ทีมเยือนเริ่มเปิดฉากทักทาย จากจังหวะที่ อาร์คาดิอุส มิลิค แตะถวายพานไปตรงบริเวณหัวกระโหลกให้ คามิล โกรซิชกี วางเท้าปั่นด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลกำลังจะมุดเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังพุ่งรับเอาไว้ได้แบบติดหนึบ
กระทั่งนาทีที่ 19 กลายเป็นเยอรมันที่มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ โทนี โครส เคาะจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ มาริโอ เกิทเซ ลากลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโยกหลบ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค อย่างเหนือชั้น และบรรจงกดเลียดด้วยขวาเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เมื่อมาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 36 จากจังหวะ อาร์คาดิอุส มิลิค สาดยาวจากกลางสนามขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ คามิล โกรซิชกี ดีดไซร้ก้อยเข้าไปในเขตโทษ และเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พุ่งโหม่งเน้นๆเต็มศรีษะ แม้ว่า มานูเอล นอยเออร์ จะพุ่งปัดได้ แต่ด้วยความแรงทำให้บอลทะลักเข้าประตูไปอยู่ดี โปแลนด์ตีไข่แตกเป็น 1-2 พร้อมกับเป็นประตูที่ 8 ในรอบคัดเลือกของ เลวานดี้ อีกด้วย
นาทีที่ 43 โปแลนด์ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปโดยปริยาย เนื่องจาก ลูคัสซ์ ปิซเซ็ค แบ็คขวาของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขาจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ อดัม นาวอลก้า ตัดสินใจส่ง พาเวล โอลคอฟสกี้ ลงมาเล่นแทน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนมีโอกาสได้ประตูตีเสมอ 2 ครั้งซ้อน จากจังหวะที่ มานูเอล นอยเออร์ เปิดออกบอลไม่ดีไปเข้าหัว เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค บริเวณกลางสนาม โหม่งสวนขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเต็มหลังเท้า แต่ นอยเออร์ แก้ตัวโชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการปัดสุดปลายมือข้ามคานออกไป
จากนั้น คามิล โกรซิชกี รับหน้าที่เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ คนเดิมขึ้นโขกสะบัดเต็มศรีษะ บอลกำลังจะย้อยเข้าเสาไกลอยู่แล้ว แต่ถูก มาริโอ เกิทเซ โหม่งเคลียร์จากเส้นประตูออกไปอย่างหวุดหวิด จบ45 นาทีแรกเจ้าบ้านยังรักษาสกอร์นำอยู่ที่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน เพียงนาทีที่ 56 เจ้าบ้านเริ่มเปิดฉากทักทาย จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน ตัวสำรองบรรจงไหลทะลุช่องให้ มาริโอ เกิทเซ หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนเอี้ยวตัวแปด้วยขวาสวนทาง ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ไปแล้ว แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปจูบเสาไกลเต็มๆใบ พลาดประตูที่สามไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันเปิดเกมบุกแลกกันอย่างสุดมัน กระทั่งท้ายเกมนาทีที่ 82 กลายเป็นเจ้าบ้านที่มาได้ประตูปิดกล่อง จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ ลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ก่อนไหลถวายพานไปตรงบริเวณหัวกระโหลกให้ โธมัส มุลเลอร์ จับแต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนกดเลียดด้วยขวาเน้นๆ แต่ถูก ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ล้มตัวปัดออกมาได้ ทว่าไม่พ้นอันตรายบอลมาเข้าทาง เกิทเซ ตามซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ
จบเกม เยอรมัน เปิดบ้านเอาชนะ โปแลนด์ ไปแบบสุดมัน 3-1 เก็บสามคะแนนสำคัญ ขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางเรียบร้อย โดยมีคะแนนนำอันดับสองอย่าง โปแลนด์ อยู่ 2 คะแนน
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป เยอรมัน เตรียมบุกไปเยือน สกอตแลนด์ ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เวลา 01.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ โปแลนด์ เตรียมเปิดบ้านรับมือ ยิบรอลตา ทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ในวันและเวลาเดียวกัน
ขอบคุณภาพ และข่าวของทีมชาติเยอรมันจาก Getty Images; //https://twitter.com/DFB_TH」, และ www.goal.com