สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ "เคล็ดธุรกิจ" ที่ได้มาจาก "การเล่นฟิตเนส"
แปลกใช่มั้ยคะ การเล่นฟิตเนสมันจะทำให้เห็นเคล็ดธุรกิจได้ยังไง?
ลองมาอ่านกันดูนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ ^_____^
PART 1 เท่าที่สังเกต คนเวลายกเวทคนเดียว กับยกกันเป็นกลุ่ม จะมีความทนทานไม่เท่ากัน
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
เวลายกเวทเป็นก๊วนๆ มันจะมีเรื่อง "สังคม" เข้ามาเกี่ยวข้อง
ต่อให้ในใจจะอยากใส่น้ำหนักในบาร์แค่ด้านละ 5 Kg. ขนาดไหน แต่ถ้าทั้งกลุ่มยกกันข้างละ 7.5 Kg.
การที่เราจะหยิบลูก 5 Kg. จะทำให้เกิดความรู้สึกว่า "เราอ่อนกว่าเพื่อน" ด้วยความที่ไม่อยาก
เป็น "ตัวด้อย" ในกลุ่ม แต่ละคนจึงมีกำลังใจเดินไปหยิบลูกน้ำหนัก 7.5 Kg. ขึ้นมาทันที
หรือบางคน ไม่หยิบแค่ 7.5 kg. แต่เดินไปหยิบลูกที่หนักกว่านั้นขึ้นไปอีก
แต่พอเล่นคนเดียวล่ะ?
ไม่มีทาง!
แล้วเอามาประยุกต์ในเชิงธุรกิจยังไง?
เมื่อดูจากพฤติกรรมการยกเวท เราสามารถแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน:
กลุ่มแรก กลุ่มที่จะหยิบลูกที่หนักกว่าคนอื่นๆในก๊วนเสมอ ขอเรียกว่า "กลุ่มบ้าพลัง" แล้วกันนะคะ
กลุ่มที่สอง กลุ่มที่มักจะหยิบเวทลูกที่หนักเท่าๆกับคนส่วนใหญ่ในก๊วน ขอตั้งชื่อว่า "กลุ่มเกาะก๊วน"
กลุ่มที่สาม กลุ่มที่ไม่สนใจว่าคนอื่นจะยกลูกไหน ฉันจะยกของฉันเท่านี้! ขอตั้งชื่อว่า "กลุ่มติสต์"
พอแบ่งกลุ่มจากพฤติกรรมการเล่นฟิตเนสแล้ว เราก็ค่อยๆสังเกตพฤติกรรมในด้านอื่นๆของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มบ้าพลัง เป็นกลุ่มที่มีความต้องการโดดเด่น และพร้อมจะ "จ่าย" มากกว่า เพื่อซื้อสินค้าที่จะทำให้
มีคนชื่นชม ทำให้ตัวเองโดดเด่นเหนือคนรอบตัว
การดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้ซื้อสินค้า:
- นอกจากจะต้องทำการตลาดกับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเชื่อว่า
"แบรนด์ของเราโดดเด่น" แล้ว ยังจะต้องทำการตลาดกับคนรอบตัวของพวกเขาด้วย!
เพราะหากคนรอบตัวไม่ได้อิน ไม่ได้รู้สึกว่าแบรนด์ของเราใส่แล้วโดดเด่น ก็จะไม่เกิดการชื่นชม
กลุ่มบ้าพลังเอง ก็จะรู้สึกว่าการ "จ่ายเงินเพิ่ม" ไม่ได้ให้ผลตามที่ต้องการ
- ในโฆษณา พรีเซนเตอร์หลัก น่าจะต้องดูโดดเด่นกว่าคนอื่น เป็นที่จับตามอง
กลุ่มเกาะก๊วน เป็นกลุ่มที่ยังรู้สึกกล้าๆกลัวๆที่จะโดดเด่นขึ้นมา แต่ก็ไม่อยากด้อย
จึงใช้วิธี "เกาะไปกับก๊วน" เล่นเวทขนาดใกล้ๆกัน ระดับความยากของการฟิตเนสใกล้ๆกัน
เท่าที่สังเกตจากพฤติกรรมการเล่นฟิตเนส แบรนด์ที่น่าจะโดนใจคนกลุ่มนี้ น่าจะเป็นการให้ความ
รู้สึกถึง "การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม" เช่น โฆษณาที่บอกว่า "สินค้าตัวนี้ เป็นสินค้าที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน"
ซึ่งมันจะต่างจากกลุ่มแรก ที่ต้องการแบรนด์ที่ "โดดเด่นกว่าคนอื่น"
ลงโฆษณาผิดคอนเซปต์ นี่อันตรายน่าดู ถ้าต้องการเจาะตลาดกลุ่มก๊วน แต่ดันไปทำแบรนด์ให้พรีเซนเตอร์
เหนือมนุษย์มากไป ก็อาจจะสู้แบรนด์ที่เล่นคอนเซปต์ "ส่วนหนึ่งของกลุ่ม" ได้ยาก
กลุ่มติสต์ เป็นกลุ่มที่ Social ไม่ได้มีผลต่อพวกเขาขนาดนั้น คนกลุ่มนี้รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
และพร้อมจะซื้อสินค้า หรือแบรนด์ ที่ตอบสนองความต้องการตัวเองได้มากที่สุด โดยไม่ได้ใส่ใจว่าคนอื่น
จะมองว่ายังไง
เดี๋ยวมาต่อนะคะ...
ปิ๊งเคล็ด "ธุรกิจ" ในห้อง "ฟิตเนส"
แปลกใช่มั้ยคะ การเล่นฟิตเนสมันจะทำให้เห็นเคล็ดธุรกิจได้ยังไง?
ลองมาอ่านกันดูนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนค่ะ ^_____^
PART 1 เท่าที่สังเกต คนเวลายกเวทคนเดียว กับยกกันเป็นกลุ่ม จะมีความทนทานไม่เท่ากัน
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
เวลายกเวทเป็นก๊วนๆ มันจะมีเรื่อง "สังคม" เข้ามาเกี่ยวข้อง
ต่อให้ในใจจะอยากใส่น้ำหนักในบาร์แค่ด้านละ 5 Kg. ขนาดไหน แต่ถ้าทั้งกลุ่มยกกันข้างละ 7.5 Kg.
การที่เราจะหยิบลูก 5 Kg. จะทำให้เกิดความรู้สึกว่า "เราอ่อนกว่าเพื่อน" ด้วยความที่ไม่อยาก
เป็น "ตัวด้อย" ในกลุ่ม แต่ละคนจึงมีกำลังใจเดินไปหยิบลูกน้ำหนัก 7.5 Kg. ขึ้นมาทันที
หรือบางคน ไม่หยิบแค่ 7.5 kg. แต่เดินไปหยิบลูกที่หนักกว่านั้นขึ้นไปอีก
แต่พอเล่นคนเดียวล่ะ?
ไม่มีทาง!
แล้วเอามาประยุกต์ในเชิงธุรกิจยังไง?
เมื่อดูจากพฤติกรรมการยกเวท เราสามารถแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน:
กลุ่มแรก กลุ่มที่จะหยิบลูกที่หนักกว่าคนอื่นๆในก๊วนเสมอ ขอเรียกว่า "กลุ่มบ้าพลัง" แล้วกันนะคะ
กลุ่มที่สอง กลุ่มที่มักจะหยิบเวทลูกที่หนักเท่าๆกับคนส่วนใหญ่ในก๊วน ขอตั้งชื่อว่า "กลุ่มเกาะก๊วน"
กลุ่มที่สาม กลุ่มที่ไม่สนใจว่าคนอื่นจะยกลูกไหน ฉันจะยกของฉันเท่านี้! ขอตั้งชื่อว่า "กลุ่มติสต์"
พอแบ่งกลุ่มจากพฤติกรรมการเล่นฟิตเนสแล้ว เราก็ค่อยๆสังเกตพฤติกรรมในด้านอื่นๆของแต่ละกลุ่ม
กลุ่มบ้าพลัง เป็นกลุ่มที่มีความต้องการโดดเด่น และพร้อมจะ "จ่าย" มากกว่า เพื่อซื้อสินค้าที่จะทำให้
มีคนชื่นชม ทำให้ตัวเองโดดเด่นเหนือคนรอบตัว
การดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้ซื้อสินค้า:
- นอกจากจะต้องทำการตลาดกับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเชื่อว่า
"แบรนด์ของเราโดดเด่น" แล้ว ยังจะต้องทำการตลาดกับคนรอบตัวของพวกเขาด้วย!
เพราะหากคนรอบตัวไม่ได้อิน ไม่ได้รู้สึกว่าแบรนด์ของเราใส่แล้วโดดเด่น ก็จะไม่เกิดการชื่นชม
กลุ่มบ้าพลังเอง ก็จะรู้สึกว่าการ "จ่ายเงินเพิ่ม" ไม่ได้ให้ผลตามที่ต้องการ
- ในโฆษณา พรีเซนเตอร์หลัก น่าจะต้องดูโดดเด่นกว่าคนอื่น เป็นที่จับตามอง
กลุ่มเกาะก๊วน เป็นกลุ่มที่ยังรู้สึกกล้าๆกลัวๆที่จะโดดเด่นขึ้นมา แต่ก็ไม่อยากด้อย
จึงใช้วิธี "เกาะไปกับก๊วน" เล่นเวทขนาดใกล้ๆกัน ระดับความยากของการฟิตเนสใกล้ๆกัน
เท่าที่สังเกตจากพฤติกรรมการเล่นฟิตเนส แบรนด์ที่น่าจะโดนใจคนกลุ่มนี้ น่าจะเป็นการให้ความ
รู้สึกถึง "การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม" เช่น โฆษณาที่บอกว่า "สินค้าตัวนี้ เป็นสินค้าที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน"
ซึ่งมันจะต่างจากกลุ่มแรก ที่ต้องการแบรนด์ที่ "โดดเด่นกว่าคนอื่น"
ลงโฆษณาผิดคอนเซปต์ นี่อันตรายน่าดู ถ้าต้องการเจาะตลาดกลุ่มก๊วน แต่ดันไปทำแบรนด์ให้พรีเซนเตอร์
เหนือมนุษย์มากไป ก็อาจจะสู้แบรนด์ที่เล่นคอนเซปต์ "ส่วนหนึ่งของกลุ่ม" ได้ยาก
กลุ่มติสต์ เป็นกลุ่มที่ Social ไม่ได้มีผลต่อพวกเขาขนาดนั้น คนกลุ่มนี้รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
และพร้อมจะซื้อสินค้า หรือแบรนด์ ที่ตอบสนองความต้องการตัวเองได้มากที่สุด โดยไม่ได้ใส่ใจว่าคนอื่น
จะมองว่ายังไง
เดี๋ยวมาต่อนะคะ...