Hello BUENGKAN l สวัสดี ที่ บึงกาฬ
29 - 30 สิงหา 2558
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิว การเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ ในราคาแบบสบายกระเป๋า :’)
พอดีว่า...สมัครสมาชิกพันทิปยากเกิน ก็เลยขอยืมไอดีแฟนมารีวิวซะเลย แหะๆ ^^"
รีวิวนี้..เป็นการรีวิวพันทิปกระทู้แรก พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่าาา
------------------------------------------------
[ภาษาที่ใช้อาจจะดูร่าเริงไปหน่อย แต่ก็เพื่ออรรถรสในการอ่าน ทนอ่านหน่อยละกันเนอะ 55 5 ]
-----------------------------
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดน้องใหม่ล่าสุดของประเทศไทย
หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า จังหวัดที่ 77
ที่ได้แยกตัวออกมาจากจังหวัดหนองคาย อยู่ภาคอีสานตอนบน
ที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนอิสาน มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำโขง (เผื่อใครยังไม่รู้จักเนอะ^^)
และ...เจ้าของกระทู้ เป็นคนจังหวัดบึงกาฬเองค่ะ...เรื่องค่าที่พักก็เลยสบายใจ หายห่วง
แต่ครั้งนี้...แฟนมาเที่ยว ก็เลยต้องนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดกันหน่อยยย ^____^
-------------------------------------------------------
เอาล่ะค่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ออกเดินทางกันเล้ย ย ยย!!!
[อุปกรณ์ในการเที่ยวทริปนี้ค่ะ :’) ]
....................................
แต่ เดี๋ยวก่อน...!!
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราไปหาอะไรทานเป็นมื้อเช้ากันก่อนดีกว่า เย้!!
------------------------
ถ้าพูดถึงมื้อเช้า...ก็ต้องเป็นเมนูนี้ กันเลย “ต้มข้าวเปียกเส้น” ค่ะ
ข้าวเปียกเส้นเป็นเมนูขึ้นชื่อของชาวบึงกาฬ สำหรับใครมาเยือนจังหวัดบึงกาฬ แล้วไม่ทานต้มข้าวเปียกเส้น
แสดงว่า...มาไม่ถึงค่ะ ^^
วันนี้เราเลือกร้าน “ข้าวเปียกบ้านต้น” ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาร้านนี้ค่ะ
“ข้าวเปียกเส้น”
“ไข่กระทะ”
“ขนมปังยัดไส้”
และปิดท้ายกันด้วยเมนู “โอวัลตินร้อน”
----------------------------------
เมื่ออิ่มท้องแล้ว...เราก็พร้อมออกเดินทางค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางกันด้วย รถมอเตอร์ไซค์ นะคะ ^^
ที่แรกที่เราจะไปในวันนี้ก็คือ...วัดอาฮง สถานที่ได้ขึ้นชื่อว่า.. “สะดือแม่น้ำโขง”
ไปกันเล้ยยย!!
เราเดินทางบนถนนสายบึงกาฬ – หนองคาย
จากตัวเมืองบึงกาฬ ระยะทางเพียง 20 กิโล ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
ขับมอ’ไซค์ ชิลๆ ไป ไม่เร่งรีบค่ะ ^^
แท่น แท่น แท้นน นน ... ถึงแล้วค่า
เข้าไปดูข้างในกันค่ะ
“วัดอาฮง หรือ วัดอาฮงศิลาวาส”
ตั้งอยู่ บ้านอาฮง ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
บนถนนเส้นบึงกาฬ – หนองคาย
สถานที่แห่งนี้ ถูกเรียกกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” โดยน้ำโขงที่ไหลมาจากจังหวัดหนองคาย
จะมีลักษณะเป็นน้ำวนอย่างเห็นได้ชัด และมีความลึกถึง 200 เมตร
แต่ตอนที่เราไปเป็นหน้าฝน..น้ำเยอะมากๆ ก็เลยไม่เห็นค่ะ ^^”
ชมภาพกันเรื่อยๆ เลยละกันเนอะ ^^
บรรยากาศริมฝั่งโขง
นอกจาก “สะดือน้ำโขง” ที่เป็นจุดเด่นของวัดอาฮงแล้ว ยังมีโขดหินยักษ์มากมายอยู่บริเวณสวน
นับว่าเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาเป็นอย่างมาก
ในช่วงออกพรรษา ผู้คนจากหลายๆ จังหวัด ก็มักจะหลังไหลมาชม “บั้งไฟพญานาค”
ที่วัดอาฮงศิลาวาสเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันกับหลายๆ ที่ในจังหวัดหนองคาย
บริเวณริมโขง จะมีการประดับประดาด้วยธงอาเซียน ประจำชาติต่างๆ ค่ะ
อันนี้เป็นธงชาติ สาธารณรัฐประชาธิปประไตรประชาชนลาว
แอบเสนอหน้ามาหน่อยนึง ^^"
ค่ำแล้วววว...ถ่ายรูปกันเพลินไปหน่อย ^^”
เหมือนฝนกำลังจะตก เราก็เลยรีบแว๊นมอ’ไซค์กลับตัวเมืองบึงกาฬค่ะ
ตกเย็น...นั่งชิลที่ “ร้านสยามบาร์” แล้วก็รีบพักผ่อนค่ะ
เพราะพรุ่งนี้เรามีนัด ไปสร้างแลนมาร์คกันที่ “น้ำตกถ้ำพระ” กัน
^_____________^
เช้าแล้ววววว.....ยังไม่อยากตื่นเลยค่ะ >////<
หน้าฝนที่จังหวัดบึงกาฬปีไหนๆ ถ้าฝนได้ตก ก็ตกติดต่อกัน 4-5 วัน
อยากจะนอนตื่นสายแบบนี้ไปนานๆ แต่ก็ทำไม่ได้...
ไม่ได้ๆ เพราะเช้านี้เรามีนัดไปเที่ยวน้ำตกถ้ำพระกัน
.......................................................................
เช้าวันนี้เราออกเดินทางด้วยรถยนต์ค่ะ เพราะทางค่อนข้างไกล และลำบาก
. . . . . . . . . . . .
“น้ำตกถ้ำพระ” ตั้งอยู่บน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ
จากตัวเมืองบึงกาฬ มุ่งหน้าสู่อำเภอเซกา ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 ชม.
ถ้าจะให้ดี เดินทางด้วยรถส่วนตัวจะเหมาะกว่าค่ะ เพราะไม่มีรถโดยสารผ่าน
น้ำตกถ้ำพระ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดบึงกาฬ
โดยจังหวัดบึงกาฬนั้น นับว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกอยู่เป็นจำนวนมาก
อาทิ เช่น น้ำตกเจ็ดสี น้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกตาดนกเขียน และน้ำตกถ้ำพระที่เราไปกันในวันนี้
น้ำตกถ้ำพระ เปิดให้บริการแค่วัน เสาร์ – อาทิตย์ เท่านั้นนะคะ
. . . . . .
ในวันที่เราไป...คนเยอะมากค่ะ แต่ด้วยน้ำตกแห่งนี้ มีพื้นที่กว้าง มีหลายโซนให้เล่นน้ำ
ก็เลยไม่เป็นปัญหาค่ะ ^^
(แอบถามผู้ที่เดินทางมาเที่ยว...มาจากจังหวัดภูเก็ต ก็มีค่ะ)
ไปชมภาพกันดีกว่า
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวเยอะมากจริงๆ ค่ะ
ก่อนจะถึงน้ำตก เราต้องนั่งเรือเข้าไปค่ะ (ค่าเรือคนละ 20 บาท) จ่ายครั้งเดียวขาไป
ขากลับก็ขึ้นเรือกลับมาได้เล้ยยยย
ระยะทางจากท่าเรือมาถึงน้ำตกก็ประมาณ กิโลกว่าๆ
นั่งเรือชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ชิลดีค่ะ ^^
แอบเห็นหลายๆ คน ขนเสบียงไปกินข้างบนน้ำตก เตรียมเนื้อไปย่างข้างบน
(ก่อไฟ หาเตาเองนะคะ) ส่วนขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ถ้าใครชอบราคาถูก ก็แนะนำว่า
ให้ซื้อมาจากตัวเมืองเลยค่ะ ถ้ามาซื้อที่น้ำตกก็แพงหน่อย
อย่างเบียร์ลีโอกระป๋องก็ 45 บาทค่ะ ^^
. . . . . . . . .
พอลงเรือ ก็เดินต่ออีก 500 เมตร ก็ถึงน้ำตกแล้วค่ะ
สไลด์เดอร์กันจนกางเกงขาดตูด 5555
พอกลับถึงบ้านก็ทำเอาหมดแรงกันเลยทีเดียว ถึงจะเหนื่อย
แต่สำหรับทริปนี้ก็ถือว่าเป็นทริปที่ประทับใจมากกกค่ะ
------------------------------------
การเดินทางมายังจังหวัดบึงกาฬ จากกรุงเทพฯ
1. โดยเครื่องบิน จากสนามบินดอนเมือง > สนามบินอุดรธานี > นั่งรถตู้จากหน้าเซ็นทรัลอุดรมาลงที่ปตท.บึงกาฬ
ค่าตั๋วเครื่องบิน (แล้วแต่สายการบิน) ค่ารถตู้ 200 บาท
2. โดยรถทัวร์ จากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต) > จังหวัดบึงกาฬ
ถ้าเป็นบริษัทแอร์อุดร (นั่งประจำ) ค่าโดยสารอยู่ที่ 526 บาท ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง
แต่ก็มีหลายบริษัทให้เลือกนะคะ เช่น
- ชาญทัวร์
- 407 พัฒนา
- บขส.
จังหวัดบึงกาฬ...ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่รอให้นักเดินทางได้ผ่านมาเยี่ยมเยียนอยู่นะคะ
^__________^
ไว้เจอกันทริปหน้า...กับการท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย นะคะ
จบแล้วจ้า.... ^^
----------------------------------------------------
เที่ยวแบบประหยัด l จังหวัดที่ 77 [ณ บึงกาฬ]
29 - 30 สิงหา 2558
พอดีว่า...สมัครสมาชิกพันทิปยากเกิน ก็เลยขอยืมไอดีแฟนมารีวิวซะเลย แหะๆ ^^"
รีวิวนี้..เป็นการรีวิวพันทิปกระทู้แรก พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่าาา
------------------------------------------------
[ภาษาที่ใช้อาจจะดูร่าเริงไปหน่อย แต่ก็เพื่ออรรถรสในการอ่าน ทนอ่านหน่อยละกันเนอะ 55 5 ]
-----------------------------
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดน้องใหม่ล่าสุดของประเทศไทย
หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า จังหวัดที่ 77
ที่ได้แยกตัวออกมาจากจังหวัดหนองคาย อยู่ภาคอีสานตอนบน
ที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนอิสาน มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำโขง (เผื่อใครยังไม่รู้จักเนอะ^^)
และ...เจ้าของกระทู้ เป็นคนจังหวัดบึงกาฬเองค่ะ...เรื่องค่าที่พักก็เลยสบายใจ หายห่วง
แต่ครั้งนี้...แฟนมาเที่ยว ก็เลยต้องนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวประจำจังหวัดกันหน่อยยย ^____^
-------------------------------------------------------
แต่ เดี๋ยวก่อน...!!
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราไปหาอะไรทานเป็นมื้อเช้ากันก่อนดีกว่า เย้!!
------------------------
ถ้าพูดถึงมื้อเช้า...ก็ต้องเป็นเมนูนี้ กันเลย “ต้มข้าวเปียกเส้น” ค่ะ
ข้าวเปียกเส้นเป็นเมนูขึ้นชื่อของชาวบึงกาฬ สำหรับใครมาเยือนจังหวัดบึงกาฬ แล้วไม่ทานต้มข้าวเปียกเส้น
แสดงว่า...มาไม่ถึงค่ะ ^^
วันนี้เราเลือกร้าน “ข้าวเปียกบ้านต้น” ที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาร้านนี้ค่ะ
และปิดท้ายกันด้วยเมนู “โอวัลตินร้อน”
----------------------------------
เมื่ออิ่มท้องแล้ว...เราก็พร้อมออกเดินทางค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางกันด้วย รถมอเตอร์ไซค์ นะคะ ^^
ที่แรกที่เราจะไปในวันนี้ก็คือ...วัดอาฮง สถานที่ได้ขึ้นชื่อว่า.. “สะดือแม่น้ำโขง”
ไปกันเล้ยยย!!
เราเดินทางบนถนนสายบึงกาฬ – หนองคาย
จากตัวเมืองบึงกาฬ ระยะทางเพียง 20 กิโล ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
ขับมอ’ไซค์ ชิลๆ ไป ไม่เร่งรีบค่ะ ^^
แท่น แท่น แท้นน นน ... ถึงแล้วค่า
เข้าไปดูข้างในกันค่ะ
“วัดอาฮง หรือ วัดอาฮงศิลาวาส”
ตั้งอยู่ บ้านอาฮง ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
บนถนนเส้นบึงกาฬ – หนองคาย
สถานที่แห่งนี้ ถูกเรียกกันว่า “สะดือแม่น้ำโขง” โดยน้ำโขงที่ไหลมาจากจังหวัดหนองคาย
จะมีลักษณะเป็นน้ำวนอย่างเห็นได้ชัด และมีความลึกถึง 200 เมตร
แต่ตอนที่เราไปเป็นหน้าฝน..น้ำเยอะมากๆ ก็เลยไม่เห็นค่ะ ^^”
ชมภาพกันเรื่อยๆ เลยละกันเนอะ ^^
บรรยากาศริมฝั่งโขง
นอกจาก “สะดือน้ำโขง” ที่เป็นจุดเด่นของวัดอาฮงแล้ว ยังมีโขดหินยักษ์มากมายอยู่บริเวณสวน
นับว่าเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาเป็นอย่างมาก
ในช่วงออกพรรษา ผู้คนจากหลายๆ จังหวัด ก็มักจะหลังไหลมาชม “บั้งไฟพญานาค”
ที่วัดอาฮงศิลาวาสเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันกับหลายๆ ที่ในจังหวัดหนองคาย
บริเวณริมโขง จะมีการประดับประดาด้วยธงอาเซียน ประจำชาติต่างๆ ค่ะ
อันนี้เป็นธงชาติ สาธารณรัฐประชาธิปประไตรประชาชนลาว
แอบเสนอหน้ามาหน่อยนึง ^^"
ค่ำแล้วววว...ถ่ายรูปกันเพลินไปหน่อย ^^”
เหมือนฝนกำลังจะตก เราก็เลยรีบแว๊นมอ’ไซค์กลับตัวเมืองบึงกาฬค่ะ
ตกเย็น...นั่งชิลที่ “ร้านสยามบาร์” แล้วก็รีบพักผ่อนค่ะ
เพราะพรุ่งนี้เรามีนัด ไปสร้างแลนมาร์คกันที่ “น้ำตกถ้ำพระ” กัน
^_____________^
เช้าแล้ววววว.....ยังไม่อยากตื่นเลยค่ะ >////<
หน้าฝนที่จังหวัดบึงกาฬปีไหนๆ ถ้าฝนได้ตก ก็ตกติดต่อกัน 4-5 วัน
อยากจะนอนตื่นสายแบบนี้ไปนานๆ แต่ก็ทำไม่ได้...
ไม่ได้ๆ เพราะเช้านี้เรามีนัดไปเที่ยวน้ำตกถ้ำพระกัน
.......................................................................
. . . . . . . . . . . .
“น้ำตกถ้ำพระ” ตั้งอยู่บน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ
จากตัวเมืองบึงกาฬ มุ่งหน้าสู่อำเภอเซกา ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 ชม.
ถ้าจะให้ดี เดินทางด้วยรถส่วนตัวจะเหมาะกว่าค่ะ เพราะไม่มีรถโดยสารผ่าน
น้ำตกถ้ำพระ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดบึงกาฬ
โดยจังหวัดบึงกาฬนั้น นับว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกอยู่เป็นจำนวนมาก
อาทิ เช่น น้ำตกเจ็ดสี น้ำตกถ้ำฝุ่น น้ำตกตาดนกเขียน และน้ำตกถ้ำพระที่เราไปกันในวันนี้
น้ำตกถ้ำพระ เปิดให้บริการแค่วัน เสาร์ – อาทิตย์ เท่านั้นนะคะ
. . . . . .
ในวันที่เราไป...คนเยอะมากค่ะ แต่ด้วยน้ำตกแห่งนี้ มีพื้นที่กว้าง มีหลายโซนให้เล่นน้ำ
ก็เลยไม่เป็นปัญหาค่ะ ^^
(แอบถามผู้ที่เดินทางมาเที่ยว...มาจากจังหวัดภูเก็ต ก็มีค่ะ)
ไปชมภาพกันดีกว่า
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวเยอะมากจริงๆ ค่ะ
ก่อนจะถึงน้ำตก เราต้องนั่งเรือเข้าไปค่ะ (ค่าเรือคนละ 20 บาท) จ่ายครั้งเดียวขาไป
ขากลับก็ขึ้นเรือกลับมาได้เล้ยยยย
ระยะทางจากท่าเรือมาถึงน้ำตกก็ประมาณ กิโลกว่าๆ
นั่งเรือชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ชิลดีค่ะ ^^
แอบเห็นหลายๆ คน ขนเสบียงไปกินข้างบนน้ำตก เตรียมเนื้อไปย่างข้างบน
(ก่อไฟ หาเตาเองนะคะ) ส่วนขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ถ้าใครชอบราคาถูก ก็แนะนำว่า
ให้ซื้อมาจากตัวเมืองเลยค่ะ ถ้ามาซื้อที่น้ำตกก็แพงหน่อย
อย่างเบียร์ลีโอกระป๋องก็ 45 บาทค่ะ ^^
. . . . . . . . .
พอลงเรือ ก็เดินต่ออีก 500 เมตร ก็ถึงน้ำตกแล้วค่ะ
สไลด์เดอร์กันจนกางเกงขาดตูด 5555
พอกลับถึงบ้านก็ทำเอาหมดแรงกันเลยทีเดียว ถึงจะเหนื่อย
แต่สำหรับทริปนี้ก็ถือว่าเป็นทริปที่ประทับใจมากกกค่ะ
------------------------------------
การเดินทางมายังจังหวัดบึงกาฬ จากกรุงเทพฯ
1. โดยเครื่องบิน จากสนามบินดอนเมือง > สนามบินอุดรธานี > นั่งรถตู้จากหน้าเซ็นทรัลอุดรมาลงที่ปตท.บึงกาฬ
ค่าตั๋วเครื่องบิน (แล้วแต่สายการบิน) ค่ารถตู้ 200 บาท
2. โดยรถทัวร์ จากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต) > จังหวัดบึงกาฬ
ถ้าเป็นบริษัทแอร์อุดร (นั่งประจำ) ค่าโดยสารอยู่ที่ 526 บาท ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง
แต่ก็มีหลายบริษัทให้เลือกนะคะ เช่น
- ชาญทัวร์
- 407 พัฒนา
- บขส.
^__________^
ไว้เจอกันทริปหน้า...กับการท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย นะคะ
จบแล้วจ้า.... ^^
----------------------------------------------------