ยาวหน่อยแต่ก็พยายามอ่านกันหน่อยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าแอบชอบเพื่อนที่ทำงานครับ คือเมื่อก่อนเคยเป็นลูกค้าเค้าครับ ตอนที่ผมทำงานอยู่กรุงเทพนะครับ ตอนนั้นได้เห็นรูปเค้าทางเฟสก็จะรออะไรครับ ส่องสิครับ ปรากฎว่าเห็นเค้ามีลูกแล้ว ก็แสดงว่าเค้ามีครอบครัวแล้ว ตอนนั้นก็เลยไม่คิดอะไร จนกระทั่งผมเบื่อกรุงเทพแล้วอยากกลับมาอยู่บ้าน เลยไปสมัครงานที่บริษัทใกล้ๆ บ้าน ก็คือบริษัทที่ผมเคยเป็นลูกค้าและเค้าคนนั้นก็ทำงานอยู่ครับ ช่วงแรกผมยังต้องเรียนรู้งานใหม่เลยยังวุ่นกับการเรียนรู้งานเลยยังไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย แต่รู้แล้วละครับ ว่าตอนนี้เธอเป็นโสดและมีลูก 1 คน ช่วงนี้ผมยังไม่สนิทกับเธอเลยยังไม่ได้รู้เรื่องราวของเธอมากนัก จากความที่ผมเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่ายก็เลยสนิทกับคนที่ทำงานใหม่ง่ายๆ และอีกอย่างก็องค์กรเล็กๆแบบนี้แหละ มักจะไม่ค่อยมีความลับมาก ใครเป็นอย่างไรเราก็จะรู้เรื่องราวของคนอื่นง่ายมากครับ และงานของผมเนี่ยเป็นงานที่ต้องออกไปหาลูกค้าบ่อยๆ และต้องออกบูธบ่อยด้วย(ส่วนใหญ่เป็นบูธตอนกลางคืนด้วย) เลยทำให้ช่วงหลังเริ่มสนิทกับเธอแล้ว เพราะเวลานั่งรถไปออกบูธกันก็จะต้องคุยกัน มายิ่งสนิทขึ้นไปอีกตอนที่เราต้องมาทำงานอยู่ทีมเดียวกัน คราวนี้เลยได้รู้เรื่องราวมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไร นิสัยเป็นอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร ช่วงนี้รู้หมด เพราะอยากรู้เรื่องอะไรก็แกล้งถามไปเรื่อยๆ..อิอิ และช่วงนี้เองจึงทำให้รู้ว่าเธอก็คนที่เธอชอบอยู่ จะเรียกว่าแฟนก็คงได้ แต่ว่าผู้ชายคนนั้นบ้างานมากๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาให้เธอมากนัก แต่ก็ดูว่าเธอจะชอบคนนั้นมาก ไอ้เราก็ถามไปเรื่อยละครับว่าความรักเป็นอย่างไรบ้าง ก็อยากมีความหวังนี่ครับ555 แต่เป็นความหวังที่ลมๆแล้งๆมากครับ ช่วงนี้แหละที่ทำให้รู้สึกชอบเธอมาก แต่นั่นแหละยิ่งชอบเธอมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองมากขึ้นครับ เพราะจากการที่ได้สนิทกับเธอทำให้รู้ว่าเราไม่ใช่สเปคเธอเลยสักนิด ทำได้ก็แค่ส่งกำลังใจเล็กน้อยๆให้ เวลาเธอป่วย คอยทำโน้นทำนี่ให้ต่างๆนาๆ แต่มันก็คงไม่มีค่าสำหรับเธอมากนัก เพราะคนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อยู่ดีใช่มั้ยครับ ยิ่งช่วงหลังมีหลายเรื่องที่ทำให้เราไม่สนิทกันเหมือนเก่า มันยิ่งทำให้ทรมานครับ การที่เราต้องเก็บความรู้สึกไว้นานๆโดยที่บอกออกไปไม่ได้นี้มันทรมานจริงๆ ครับ มันทรมานสำหรับผมขนาดที่ว่าเรากลับจากบูธตอนกลางคืน เธอนั่งอีกคันอยู่ข้างหน้า มันทำให้ผมอึดอัดจนต้องขับรถไปตะโกนออกมาดังๆอยู่ในรถคนเดียวด้วย(สงสัยบ้าไปแล้ว) จริงก่อนหน้านี่ผมก็มีแฟนนะครับ แต่ต้องเลิกกันเพราะเธอกลับไปคบกับแฟนเก่าแล้วครับ ช่วงนั้นก็ทำให้ผมเสียใจไปพักใหญ่อยู่เหมือนกัน และผมก็ได้นั่งคิดนะครับว่าสาเหตุที่ต้องการหาคนใหม่มาแทนคนเก่านี้หรือเปล่าที่ทำให้ผมชอบเธอมาก แต่ก็มานั่งคิดทบทวนใหม่ว่าจริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ แต่เป็นเพราะเธอมีหลายๆอย่างที่เป็นสเปคของผมมากกว่าครับ ที่ทำให้ผมชอบเธอมาก ตอนนี้ก็เลยทรมานมากครับ ที่ชอบเธอ แต่ไม่สามารถ บอกเธอได้ จนตอนนี้รู้สึกว่าถ้าตัวผมยังเป็นเช่นนี้อยู่ผมคงต้องไปจากที่นี้ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเธออึดอัดเวลาที่ต้องคุยกับผม ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมเลือกที่จะถอยไปเองดีกว่า ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ทำได้แค่นี้จริงๆครับ อึดอัดจริงๆครับที่พูดออกมาไม่ได้..เรื่องมีเท่านี้ครับตอนนี้ ขอบคุณครับที่ทนอ่านกันจนจบ..ส่วนผมขอไปนั่งทำใจแถวริมทะเลก่อนครับ(เป็นสถานที่ๆชอบไปตอนที่มีอะไรที่ไม่สบายใจ)ส่งท้ายด้วยเพลงเพราะๆ เพลงนี้ครับ..จริงๆมันมีหลายเพลงที่ตรง แต่ขอเลือกเพลงนี้ละกันครับ
แอบชอบเพื่อนที่ทำงานครับแต่ไม่กล้าบอก อึดอัดมาก..อยากระบาย
เรื่องมีอยู่ว่าแอบชอบเพื่อนที่ทำงานครับ คือเมื่อก่อนเคยเป็นลูกค้าเค้าครับ ตอนที่ผมทำงานอยู่กรุงเทพนะครับ ตอนนั้นได้เห็นรูปเค้าทางเฟสก็จะรออะไรครับ ส่องสิครับ ปรากฎว่าเห็นเค้ามีลูกแล้ว ก็แสดงว่าเค้ามีครอบครัวแล้ว ตอนนั้นก็เลยไม่คิดอะไร จนกระทั่งผมเบื่อกรุงเทพแล้วอยากกลับมาอยู่บ้าน เลยไปสมัครงานที่บริษัทใกล้ๆ บ้าน ก็คือบริษัทที่ผมเคยเป็นลูกค้าและเค้าคนนั้นก็ทำงานอยู่ครับ ช่วงแรกผมยังต้องเรียนรู้งานใหม่เลยยังวุ่นกับการเรียนรู้งานเลยยังไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย แต่รู้แล้วละครับ ว่าตอนนี้เธอเป็นโสดและมีลูก 1 คน ช่วงนี้ผมยังไม่สนิทกับเธอเลยยังไม่ได้รู้เรื่องราวของเธอมากนัก จากความที่ผมเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่ายก็เลยสนิทกับคนที่ทำงานใหม่ง่ายๆ และอีกอย่างก็องค์กรเล็กๆแบบนี้แหละ มักจะไม่ค่อยมีความลับมาก ใครเป็นอย่างไรเราก็จะรู้เรื่องราวของคนอื่นง่ายมากครับ และงานของผมเนี่ยเป็นงานที่ต้องออกไปหาลูกค้าบ่อยๆ และต้องออกบูธบ่อยด้วย(ส่วนใหญ่เป็นบูธตอนกลางคืนด้วย) เลยทำให้ช่วงหลังเริ่มสนิทกับเธอแล้ว เพราะเวลานั่งรถไปออกบูธกันก็จะต้องคุยกัน มายิ่งสนิทขึ้นไปอีกตอนที่เราต้องมาทำงานอยู่ทีมเดียวกัน คราวนี้เลยได้รู้เรื่องราวมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเธอเป็นคนอย่างไร นิสัยเป็นอย่างไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร ช่วงนี้รู้หมด เพราะอยากรู้เรื่องอะไรก็แกล้งถามไปเรื่อยๆ..อิอิ และช่วงนี้เองจึงทำให้รู้ว่าเธอก็คนที่เธอชอบอยู่ จะเรียกว่าแฟนก็คงได้ แต่ว่าผู้ชายคนนั้นบ้างานมากๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาให้เธอมากนัก แต่ก็ดูว่าเธอจะชอบคนนั้นมาก ไอ้เราก็ถามไปเรื่อยละครับว่าความรักเป็นอย่างไรบ้าง ก็อยากมีความหวังนี่ครับ555 แต่เป็นความหวังที่ลมๆแล้งๆมากครับ ช่วงนี้แหละที่ทำให้รู้สึกชอบเธอมาก แต่นั่นแหละยิ่งชอบเธอมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองมากขึ้นครับ เพราะจากการที่ได้สนิทกับเธอทำให้รู้ว่าเราไม่ใช่สเปคเธอเลยสักนิด ทำได้ก็แค่ส่งกำลังใจเล็กน้อยๆให้ เวลาเธอป่วย คอยทำโน้นทำนี่ให้ต่างๆนาๆ แต่มันก็คงไม่มีค่าสำหรับเธอมากนัก เพราะคนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อยู่ดีใช่มั้ยครับ ยิ่งช่วงหลังมีหลายเรื่องที่ทำให้เราไม่สนิทกันเหมือนเก่า มันยิ่งทำให้ทรมานครับ การที่เราต้องเก็บความรู้สึกไว้นานๆโดยที่บอกออกไปไม่ได้นี้มันทรมานจริงๆ ครับ มันทรมานสำหรับผมขนาดที่ว่าเรากลับจากบูธตอนกลางคืน เธอนั่งอีกคันอยู่ข้างหน้า มันทำให้ผมอึดอัดจนต้องขับรถไปตะโกนออกมาดังๆอยู่ในรถคนเดียวด้วย(สงสัยบ้าไปแล้ว) จริงก่อนหน้านี่ผมก็มีแฟนนะครับ แต่ต้องเลิกกันเพราะเธอกลับไปคบกับแฟนเก่าแล้วครับ ช่วงนั้นก็ทำให้ผมเสียใจไปพักใหญ่อยู่เหมือนกัน และผมก็ได้นั่งคิดนะครับว่าสาเหตุที่ต้องการหาคนใหม่มาแทนคนเก่านี้หรือเปล่าที่ทำให้ผมชอบเธอมาก แต่ก็มานั่งคิดทบทวนใหม่ว่าจริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ แต่เป็นเพราะเธอมีหลายๆอย่างที่เป็นสเปคของผมมากกว่าครับ ที่ทำให้ผมชอบเธอมาก ตอนนี้ก็เลยทรมานมากครับ ที่ชอบเธอ แต่ไม่สามารถ บอกเธอได้ จนตอนนี้รู้สึกว่าถ้าตัวผมยังเป็นเช่นนี้อยู่ผมคงต้องไปจากที่นี้ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเธออึดอัดเวลาที่ต้องคุยกับผม ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมเลือกที่จะถอยไปเองดีกว่า ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ทำได้แค่นี้จริงๆครับ อึดอัดจริงๆครับที่พูดออกมาไม่ได้..เรื่องมีเท่านี้ครับตอนนี้ ขอบคุณครับที่ทนอ่านกันจนจบ..ส่วนผมขอไปนั่งทำใจแถวริมทะเลก่อนครับ(เป็นสถานที่ๆชอบไปตอนที่มีอะไรที่ไม่สบายใจ)ส่งท้ายด้วยเพลงเพราะๆ เพลงนี้ครับ..จริงๆมันมีหลายเพลงที่ตรง แต่ขอเลือกเพลงนี้ละกันครับ