บล.เออีซี แจงยิบขั้นตอนโอนหุ้นชูวงษ์ถูกต้อง ยันมีกระบวนการรับรู้การโอนมาโดยตลอด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440925504
นายธาดา จันทร์ประสิทธิ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายอังกูร พิมพะกร กรรมการ และคณะกรรมการบริหาร ของ บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่26มิถุนายน ที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวต่างๆเกี่ยวกับการรับโอนหุ้นตามมามากมาย ซึ่งบริษัทยอมรับว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อคุณค่าทางจิตใจของบริษัทอย่างมาก
โดยยืนยันว่าการโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้นนายชูวงษ์ได้ให้พนักงานนำใบคำขอถอน/โอนหลักทรัพย์มามอบให้นางสาวอุรชา วชิรกุลฑล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด เพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกและจัดส่งให้แก่ฝ่ายปฏิบัติการดำเนินการ ซึ่งฝ่ายปฏิบัติการได้ตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องของเอกสาร รวมทั้งตรวจสอบลายมือชื่อเปรียบเทียบกับในระบบซึ่งถูกต้องตรงกัน ต่อมานายชูวงษ์ติดต่อกลับมายังบริษัทโดยโทรศัพท์ผ่านนางสาวอุรชา ก่อนที่จะโอนโทรศัพท์ให้นายชูวงษ์พูดคุยกับฝ่ายปฏิบัติการโดยตรง มีการพิสูจน์ด้วยการคอนเฟิร์มและอีเมล์ติดต่อกันเสมอ
ซึ่งกรณีของนายชูวงษ์จึงเป็นเรื่องที่ลูกค้าติดต่อมายังฝ่ายปฏิบัติการซึ่งบริษัทได้สอบถามรายละเอียดการโอนหุ้นกับนายชูวงษ์แล้วได้รับการยืนยันว่ามีความประสงค์จะโอนหุ้นจริงและบัญชีที่โอนเป็นของนางสาวศรีธรา พรมมาทางฝ่ายปฏิบัติการจึงดำเนินการโอนหุ้นให้ตามความประสงค์ของลูกค้า โดยบริษัทได้มีการตรวจสอบยืนยันการโอน ตามระบบของบริษัทหลักทรัพย์และมีขั้นตอนยืนยันป้องกันการแอบอ้างในทุกๆขั้นตอน อีกทั้งมีการสอบทานภายในด้วย
ซึ่งภายหลังจากการโอนหุ้น บริษัทได้จัดส่งใบยืนยันการโอนหุ้นไปให้นายชูวงษ์ตามที่อยู่ที่ให้ไว้ภายใน 2 วันทำการ และทุกๆสิ้นเดือนจะส่ง Statement รายการหุ้นคงเหลือให้ ซึ่งมีกระบวนการที่นายชูวงษ์รับรู้การโอนหุ้นและทราบจำนวนหุ้นคงเหลือตลอดมา
ส่วนประเด็นที่มีการสงสัยถึงการใช้ปากกาที่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถลบได้เป็นเรื่องบริษัทไม่สามารถทราบได้เพราะได้ตรวจสอบลายเซ็นตรวจสอบใช้สายตาตรวจสอบตามหลักฐานที่ประจักษ์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ แต่กรณีปากกาพิเศษนี้ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางพิสูจน์
ทั้งนี้ยืนยันว่าตั้งแต่เกิดเรื่องราวขึ้น บริษัทมีการสอบสวนพนักงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและมอบหลักฐานทุกอย่างให้กับกองปราบปรามและมีทาง กลต.มาตรวจสอบการทำงานแล้ว และทางบริษัทเองได้ ย้ายนางสาวอุรชาออกจากหน้างานที่รับผิดชอบทันที แต่ว่านางสาวอุรชาได้ขาดงานเกินกว่า 3 วันซึ่งตามกฎบริษัทต้องปลดออก
https://www.facebook.com/baitongpost/posts/914221438659686
โอนหุ้นผ่านโบรกเกอร์กลายเป็นปลอมได้อย่างไร? ในเมื่อการโอนเกิดก่อนเจ้าของหุ้นเสียชีวิตตั้งหลายวัน
ข่าวนี้เป็นข่าวที่ควรฟังอย่างไตร่ตรองให้มาก เพราะลักษณะการทำข่าวของสื่อเป็นลักษณะที่ยิ่งกว่าชี้นำ (แทบจะปรักปรำและพิพากษาเลยล่ะ) ทั้งที่มันมีมุมให้คิดให้โต้แย้งด้วยตรรกะเยอะมาก มองเรื่องทั้งหมดแล้วโอกาสที่จะเป็นเรื่อง conspiracy สมคบกันปลอม-โอนหุ้น แล้วฆ่า (ด้วยการขับรถไปชน) มันมีราว 10% หรือไม่ถึงด้วยซ้ำ แม้อีกด้านมีข้อสงสัยเรื่องรถชนแค่นั้นทำไมตายง่ายจัง โอกาสความเป็นไปได้ก็ยังเยอะกว่า conspiracy แต่สังคมไทยกลับอยากเชื่อ conspiracy มากกว่า โดยเฉพาะเมื่อสื่อกระพือ
ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ฟันธง "ไม่ผิด" นั่นต้องว่าตามพยานหลักฐาน สังคมต้องรู้จักชั่งน้ำหนัก ที่ผมตั้งข้อสังเกตการทำงานของสื่อต่างหากที่มันเทไปทางเดียวกัน
จากประสบการณ์ที่ผมเคยเห็น (ถึงแม้อยู่หนังสือพิมพ์เล็กๆ อย่างแนวหน้า ไทยโพสต์ ไม่มีนักข่าวตระเวณ-นักข่าวโรงพัก) ผมมองว่าสื่อสายอาชญากรรมมีปัญหาในลักษณะการทำข่าว นักข่าวตำรวจมักจะไม่ทำงานแบบตั้งคำถามตรวจสอบการทำงานของตำรวจ แต่จะแข่งขันกันหา "ข่าวเจาะ" จากตำรวจมากกว่า "พี่ๆ คดีนี้เป็นไง ใครฆ่าใครอยู่เบื้องหลัง" ตำรวจก็จะบอกข้อสันนิษฐานของตนซึ่งยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอแถลงข่าว แต่นักข่าวเอาไปขายข่าว สร้างความตื่นเต้นได้
ด้วยวิธีการทำงานแบบนี้ ตำรวจจึงชี้นำนักข่าว มากกว่านักข่าวตรวจสอบตำรวจ แถมนักข่าวตำรวจยังทำงานกับตำรวจจนกลายติดนิสัยตำรวจ คือไม่ค่อยเห็นความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน การเอาผู้ต้องหามาแถลงประจานหรือทำแผนแบบที่นักสิทธิเคยวิจารณ์ จริงๆ ตำรวจก็สนอง need ให้สื่อนี่ละ
นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องผลประโยชน์ที่บางคนก็พัวพันพึ่งพากัน (ลามไปถึงต้นสังกัดด้วยที่มักจะใช้ประโยชน์นักข่าวตำรวจ อย่างขี้หมูขี้หมาก็ใช้ไปเอาใบสั่ง)
ขอแถมอีกข่าวนะ ...
รางวัลนำจับ 7 ล้านบาทจาก "พานทองแท้"
พร้อมเสิร์ฟทันที ที่ "โฆษกรัฐบาล"
แถลงอย่างเป็นทางการ ให้คนทั้งโลกรับทราบว่า
"ทางการไทยจับแก๊งวางระเบิดที่ราชประสงค์ได้แล้ว" ครับ..!! .
https://www.facebook.com/oakpanthongtae/photos/a.556110511104053.1073741826.186006744781100/909428535772247/?type=1
สลิ่มไม่ต้องรีบทวงนะ ... อิอิอิ
บล.เออีซี แจงยิบขั้นตอนโอนหุ้นชูวงษ์ถูกต้อง ยันมีกระบวนการรับรู้การโอนมาโดยตลอด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440925504
นายธาดา จันทร์ประสิทธิ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายอังกูร พิมพะกร กรรมการ และคณะกรรมการบริหาร ของ บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่26มิถุนายน ที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวต่างๆเกี่ยวกับการรับโอนหุ้นตามมามากมาย ซึ่งบริษัทยอมรับว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อคุณค่าทางจิตใจของบริษัทอย่างมาก
โดยยืนยันว่าการโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้นนายชูวงษ์ได้ให้พนักงานนำใบคำขอถอน/โอนหลักทรัพย์มามอบให้นางสาวอุรชา วชิรกุลฑล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด เพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกและจัดส่งให้แก่ฝ่ายปฏิบัติการดำเนินการ ซึ่งฝ่ายปฏิบัติการได้ตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องของเอกสาร รวมทั้งตรวจสอบลายมือชื่อเปรียบเทียบกับในระบบซึ่งถูกต้องตรงกัน ต่อมานายชูวงษ์ติดต่อกลับมายังบริษัทโดยโทรศัพท์ผ่านนางสาวอุรชา ก่อนที่จะโอนโทรศัพท์ให้นายชูวงษ์พูดคุยกับฝ่ายปฏิบัติการโดยตรง มีการพิสูจน์ด้วยการคอนเฟิร์มและอีเมล์ติดต่อกันเสมอ
ซึ่งกรณีของนายชูวงษ์จึงเป็นเรื่องที่ลูกค้าติดต่อมายังฝ่ายปฏิบัติการซึ่งบริษัทได้สอบถามรายละเอียดการโอนหุ้นกับนายชูวงษ์แล้วได้รับการยืนยันว่ามีความประสงค์จะโอนหุ้นจริงและบัญชีที่โอนเป็นของนางสาวศรีธรา พรมมาทางฝ่ายปฏิบัติการจึงดำเนินการโอนหุ้นให้ตามความประสงค์ของลูกค้า โดยบริษัทได้มีการตรวจสอบยืนยันการโอน ตามระบบของบริษัทหลักทรัพย์และมีขั้นตอนยืนยันป้องกันการแอบอ้างในทุกๆขั้นตอน อีกทั้งมีการสอบทานภายในด้วย
ซึ่งภายหลังจากการโอนหุ้น บริษัทได้จัดส่งใบยืนยันการโอนหุ้นไปให้นายชูวงษ์ตามที่อยู่ที่ให้ไว้ภายใน 2 วันทำการ และทุกๆสิ้นเดือนจะส่ง Statement รายการหุ้นคงเหลือให้ ซึ่งมีกระบวนการที่นายชูวงษ์รับรู้การโอนหุ้นและทราบจำนวนหุ้นคงเหลือตลอดมา
ส่วนประเด็นที่มีการสงสัยถึงการใช้ปากกาที่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถลบได้เป็นเรื่องบริษัทไม่สามารถทราบได้เพราะได้ตรวจสอบลายเซ็นตรวจสอบใช้สายตาตรวจสอบตามหลักฐานที่ประจักษ์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ แต่กรณีปากกาพิเศษนี้ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางพิสูจน์
ทั้งนี้ยืนยันว่าตั้งแต่เกิดเรื่องราวขึ้น บริษัทมีการสอบสวนพนักงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและมอบหลักฐานทุกอย่างให้กับกองปราบปรามและมีทาง กลต.มาตรวจสอบการทำงานแล้ว และทางบริษัทเองได้ ย้ายนางสาวอุรชาออกจากหน้างานที่รับผิดชอบทันที แต่ว่านางสาวอุรชาได้ขาดงานเกินกว่า 3 วันซึ่งตามกฎบริษัทต้องปลดออก
https://www.facebook.com/baitongpost/posts/914221438659686
โอนหุ้นผ่านโบรกเกอร์กลายเป็นปลอมได้อย่างไร? ในเมื่อการโอนเกิดก่อนเจ้าของหุ้นเสียชีวิตตั้งหลายวัน
ข่าวนี้เป็นข่าวที่ควรฟังอย่างไตร่ตรองให้มาก เพราะลักษณะการทำข่าวของสื่อเป็นลักษณะที่ยิ่งกว่าชี้นำ (แทบจะปรักปรำและพิพากษาเลยล่ะ) ทั้งที่มันมีมุมให้คิดให้โต้แย้งด้วยตรรกะเยอะมาก มองเรื่องทั้งหมดแล้วโอกาสที่จะเป็นเรื่อง conspiracy สมคบกันปลอม-โอนหุ้น แล้วฆ่า (ด้วยการขับรถไปชน) มันมีราว 10% หรือไม่ถึงด้วยซ้ำ แม้อีกด้านมีข้อสงสัยเรื่องรถชนแค่นั้นทำไมตายง่ายจัง โอกาสความเป็นไปได้ก็ยังเยอะกว่า conspiracy แต่สังคมไทยกลับอยากเชื่อ conspiracy มากกว่า โดยเฉพาะเมื่อสื่อกระพือ
ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ฟันธง "ไม่ผิด" นั่นต้องว่าตามพยานหลักฐาน สังคมต้องรู้จักชั่งน้ำหนัก ที่ผมตั้งข้อสังเกตการทำงานของสื่อต่างหากที่มันเทไปทางเดียวกัน
จากประสบการณ์ที่ผมเคยเห็น (ถึงแม้อยู่หนังสือพิมพ์เล็กๆ อย่างแนวหน้า ไทยโพสต์ ไม่มีนักข่าวตระเวณ-นักข่าวโรงพัก) ผมมองว่าสื่อสายอาชญากรรมมีปัญหาในลักษณะการทำข่าว นักข่าวตำรวจมักจะไม่ทำงานแบบตั้งคำถามตรวจสอบการทำงานของตำรวจ แต่จะแข่งขันกันหา "ข่าวเจาะ" จากตำรวจมากกว่า "พี่ๆ คดีนี้เป็นไง ใครฆ่าใครอยู่เบื้องหลัง" ตำรวจก็จะบอกข้อสันนิษฐานของตนซึ่งยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอแถลงข่าว แต่นักข่าวเอาไปขายข่าว สร้างความตื่นเต้นได้
ด้วยวิธีการทำงานแบบนี้ ตำรวจจึงชี้นำนักข่าว มากกว่านักข่าวตรวจสอบตำรวจ แถมนักข่าวตำรวจยังทำงานกับตำรวจจนกลายติดนิสัยตำรวจ คือไม่ค่อยเห็นความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน การเอาผู้ต้องหามาแถลงประจานหรือทำแผนแบบที่นักสิทธิเคยวิจารณ์ จริงๆ ตำรวจก็สนอง need ให้สื่อนี่ละ
นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องผลประโยชน์ที่บางคนก็พัวพันพึ่งพากัน (ลามไปถึงต้นสังกัดด้วยที่มักจะใช้ประโยชน์นักข่าวตำรวจ อย่างขี้หมูขี้หมาก็ใช้ไปเอาใบสั่ง)
ขอแถมอีกข่าวนะ ...
รางวัลนำจับ 7 ล้านบาทจาก "พานทองแท้"
พร้อมเสิร์ฟทันที ที่ "โฆษกรัฐบาล"
แถลงอย่างเป็นทางการ ให้คนทั้งโลกรับทราบว่า
"ทางการไทยจับแก๊งวางระเบิดที่ราชประสงค์ได้แล้ว" ครับ..!! .
https://www.facebook.com/oakpanthongtae/photos/a.556110511104053.1073741826.186006744781100/909428535772247/?type=1
สลิ่มไม่ต้องรีบทวงนะ ... อิอิอิ