ตอนเดิมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทนำ - ตอนที่1 http://ppantip.com/topic/34088111
ตอนที่ 2 - ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/34089767
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/34090924
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/34093894
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/34104191
ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/34111042
ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/34116378
ตอนที่ 9
สิ้นเสียงทุ้ม ราวกับเวลาจะหยุดเดิน แม้กระทั่งอากาศยังนิ่งสงบ เงียบขนาดได้ยินเสียงเดินของเข็มนาฬิกาข้อมือสีเงินวาวตรงข้อมือหนา เขายังคงยึดที่วางแขนเก้าอี้แน่น และเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาจากหลังมือ
ภีมวัชช์กำลังรอคำตอบที่ทำให้เขาแทบตายได้ตรงนั้น!
ตั้งแต่เกิดมา เขาเคยบอกรักสาวมามากกว่าสามครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ภีมวัชช์รู้สึกเหมือนกำลังรอฟังคำตัดสินประหารชีวิตอย่างตอนนี้ หัวใจเต้นแรงบีบแน่นระหว่างมองริมฝีปากจิ้มลิ้มเปิดออกทีละนิด แต่สิ่งที่ตามมาคือเขาต้องร้องโอยดังลั่น นิ้วมือเล็กๆของมาหยายกขึ้นบิดแก้มเขาอย่างแรง
“โอ๊ย! นี่ อยู่ดีๆมาหยิกแก้มอาทำไม!”
ภีมวัชช์ถอยห่างไปถึงสามก้าว ยกมือขึ้นลูบแก้มป้อยๆ ถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ให้ตายเถอะ เวลาแบบนี้มันใช่จะมาบีบแก้มกันเหรอ!
“ก็ ... ก็หนูคิดว่าหนูฝันอยู่นี่คะ" มาหยาขยับลุก มองภีมวัชช์อย่างไม่เชื่อว่านี่คือความจริง
“ถ้าอยากพิสูจน์ก็หยิกแก้มตัวเองสิ แบบนี้" มือหนาจัดการบีบแก้มยุ้ยของมาหยาทันที ร่างเล็กจะเบี่ยงตัวหนีก็ไม่ทันเลยโดนบิดแก้มทดสอบว่าฝันหรือไม่ มาหยารู้เลยว่าเธอไม่ได้ฝัน!
“โอ๊ย อาภีม หนูเจ็บ" เธอร้องบอกเขา ภีมวัชช์ถึงยอมปล่อยมือออก หากดวงตายังไม่เลิกคาดโทษไปยังตัวแสบที่ทำลายบรรยากาศพังยับ
จะว่าไป บรรยากาศก็ไม่ได้เรื่อง ... เขาควรหาสถานที่ที่ดีกว่านี้ แต่เวลาไม่คอยท่า ทำให้ภีมวัชช์ต้องสารภาพกันในห้องทำงานนี่แหละ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เธอควรจะรู้!
“รู้บ้างไหมว่าคนจะขอแต่งงานเขาต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน มาทำเสียเรื่องหมด ยัยบ๊อง"
ภีมวัชช์หมดอารมณ์ซึ้ง หมุนตัวหันหนี มือกอดอกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ วงหน้าเข้มขุ่นเคือง
“ก็ ... ก็หนูตกใจนี่คะ อาภีมล้อหนูเล่นหรือเปล่า" มาหยายังไม่อยากเชื่อหูเลย
“เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกัน คิดว่าอาเป็นคนแบบนั้นหรือไง" ภีมวัชช์ถาม เสียงขึ้นจมูก ยังหันหน้าหนีแม้สาวน้อยตาสีฟ้าจะเดินไปจ้องหน้าก็ตามคนตัวใหญ่ที่งอนเหมือนเด็ก
“แต่เรารู้จักกันมาตั้ง ... สิบห้าปีแล้วนะคะ ไหมก็ต้องแปลกใจสิ อยู่ดีๆ ...” มาหยานับนิ้วแล้วพูดออกมา
เธอพูดไม่ผิดหรอก สิบห้าปีจริงๆนั่นล่ะ ... ภีมวัชช์ถอนหายใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกว่ามันแปลก
สิบห้าปีก่อน ... ภีมวัชช์อายุแค่ยี่สิบเอ็ดปี ยังทั้งห่ามทั้งเกเรตามประสาลูกที่ถูกตามใจ แถมพ่อยังไม่ค่อยมีเวลาให้อีก ส่วนแม่น่ะหรือทิ้งเขาไปนานแล้ว มีเงิน มีความสบาย ทำให้เขาไม่สนใจอะไรนัก
กิจกรรมหนึ่งที่ภีมวัชช์ตอนนั้นชอบมากคือการขับรถเร็ว เร็วชนิดไม่มีใครกล้านั่งไปกับเขา และคืนหนึ่งรถก็เสียหลักพลิกคว่ำ เขาติดในซากรถขยับตัวแทบไม่ได้ นับว่าโชคดีที่ชัชชวินขับรถผ่านมาเลยดึงเขาออกมาจากใต้ซากรถ ก่อนรถจะระเบิดไฟลุกท่วม เล่นเอาภีมวัชช์ใจสั่น ใจหาย ถ้าชัชชวินไม่มาช่วย ถ้าเขายังติดอยู่ใต้ซากรถนั่น เขาคงตายไปแล้ว!
เหมือนเกิดใหม่!
ภีมวัชช์รู้สึกเช่นนั้น การเฉียดตายครั้งนั้น ภีมวัชช์พบความรักของพ่อที่แม้จะมีภรรยาใหม่หลายคน แต่พ่อก็แสดงออกว่ารักเขามาก ทำให้คนเกเรยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ กลายเป็นคนเต็มคน ไม่สร้างปัญหาหรือเกเรอะไรอีก กลับไปตั้งใจเรียนจนประสบความสำเร็จเช่นวันนี้
วันแรกที่ภีมวัชช์เจอมาหยานั้น เธอยังเป็นเด็กหญิงมาหยาวัยสิบขวบอยู่เลย ใบหน้าเล็กน่ารัก ผมลอนสวยถูกมัดแกละสองข้าง ดวงตาสีฟ้า เหมือนตุ๊กตาเด็กฝรั่ง เธออยู่ในชุดนักเรียน สะพายกระเป๋าเป้วิ่งลงจากรถรับส่งหลังโรงเรียนเลิก โดยมีชลลดาเดินตามหลัง ตอนนั้นชัชชวินกับชลลดายังทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่เลย
เพราะภีมวัชช์นับถือชัชชวินเหมือนพี่ชาย เด็กหญิงมาหยาจึงเรียกขานภีมวัชช์ว่าอาภีม แม้อาภีมจะหน้าดุแต่มาหยาก็รู้ว่าอาภีมใจดี จึงสนิทสนมกันเรื่อยมา
สำหรับมาหยาเป็นเด็กน่ารักตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นคนที่เขารักในที่สุด ... ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ
ภีมวัชช์เองยังไม่อยากจะเชื่อเลย!
“ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราก็จูบกันมาตั้งหลายทีแล้วไม่ใช่หรือ" ภีมวัชช์เตือนความจำให้ ใบหน้าขาวระเรื่อแดงกับการปลุกความจำ มาหยารู้สึกร้อนไปทั้งหน้า
“หรือต้องฟื้นความจำให้" สองเท้าหนาขยับเดินหน้า มาหยาถอยหนีอัตโนมัติ หากไม่ทันเมื่อเขาตวัดแขนไปโอบรั้งกายเล็กไว้
“อาภีม ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง ... หนูจำได้" มาหยารีบบอกก่อน ภีมวัชช์กระตุกยิ้ม แม้จะไม่ฉกชิงจูบคนในอ้อมแขน แต่เขาก็ไม่ปล่อยเธอไป ก้มลงกระซิบเสียงแผ่วเบา ปลายจมูกโด่งชนจมูกเล็กๆ ริมฝีปากก็เกือบจะชิดกันอยู่แล้ว
“เรื่องเก่าๆช่างมันไป ... แค่ไหมรู้ว่าตอนนี้อาชอบไหมก็พอแล้ว และอาก็ไม่ยอมให้พวกผู้ชายคนอื่นทำคะแนนโดยที่อาไม่ลงมือทำอะไร"
มาหยาหายใจลำบากกับความใกล้ชิดที่หลอมละลายหัวใจดวงน้อย เธอยืนแทบไม่อยู่หากไม่ถูกโอบไว้
“ทำไมคะ หนูไม่เข้าใจเลย ทั้งป้าดา ทั้งยัยลูกแก้ว อาภีมอีก ทำไม่ทุกคนต้องวุ่นวายกับเรื่องนี้ของไหมด้วย" มาหยาถามอย่างกระท่อนกระแท่น หาเสียงตัวเองแทบไม่เจอ จนเสียงเบาหวิว ตัวเธอในแขนหนาก็เช่นกัน ยิ่งยามนิ้วหนาของอาภีมเกี่ยวเส้นผมข้างใบหน้า ความร้อนบางอย่างตามติดจนร่างเล็กรู้สึกหวามไปทั้งตัว
“คนอื่นอาไม่รู้เหตุผล .... แต่สำหรับอา ความรู้สึกตรงนี้..."
เขากุมมือเธอไปวางตรงแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ อาภีมกลับมาพร้อมร่างกายบึกบึนหลังจากหายไปหนึ่งปี มาหยายังสงสัยว่าเขาไปทำอะไรมาถึงได้ดูมาดแมนกว่าเดิมขึ้นมาก
เมื่อเขาวางมือเธอบนอก มาหยาสัมผัสจังหวะการเต้นของหัวใจที่แรงและดัง ดวงตาสีฟ้าจ้องลึกไปในแววตาที่ออดอ้อนให้เธอรับฟังเสียงหัวใจของเขา
“มันท่วมท้นจนอาต้องรีบคว้าไหมไว้ ไม่อยากให้หลุดมือไปกับใครที่ไหน ... แต่งงานกับอานะครับ กระต่ายน้อย" เสียงทุ้มหวานจนเรียกมดได้ทั้งรังกำลังทำให้เธอเกือบพลาดตกหลุมที่เขาสร้างไว้
“อาภีมขา หนู... " มาหยาไม่รู้ว่าควรตอบไปอย่างไร เธอสับสนเหลือเกิน
“นะ?" ภีมวัชช์ดึงมือน้อยมาจูบลงตรงปลายนิ้ว หนวดเคราสั้นๆใต้ริมฝีปากหยักสร้างความจักจี๋กับเจ้าของมือจนรู้สึกแปลกๆ
โชคดีของเธอ แต่อาจจะเป็นโชคร้ายของอาภีม รวมถึงเป็นคราวซวยของแม่เลขาสาวหน้าห้องที่เคาะประตูห้องทำงานตอนนี้ กระต่ายน้อยชื่อ มาหยา รีบตะกายขึ้นจากหลุม หาทางหนีจากบ่วงนายพรานภีมวัชช์ได้ ก่อนจะเผลอตอบตกลงไปเพราะสายตาหวานของเขา!
“อาภีม คุณเลขาเคาะประตูค่ะ" มาหยาก้มหน้าหลบ ได้ยินภีมวัชช์ส่งเสียงรำคาญในคอ แต่ก็ยอมปล่อยมือจากเธอ หันไปขานรับแม่เลขาสาว ที่เขาจะคาดโทษไว้ก่อน
“คุณภีมคะ ลูกค้ามารอที่ห้องประชุมแล้วค่ะ" อรอนงค์ เลขานุการสาวงุนงงไปทันทีที่พอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าเจ้านายหนุ่มร่างบึ้กมองเธออย่างโกรธๆ ภีมวัชช์พยักหน้ารับรู้
“เดี๋ยวผมตามออกไป"
“ค่ะ" เจ้าหล่อนรับคำ อดสอดส่ายสายตาสงสัยมองทั้งภีมวัชช์ และพนักงานสาวหน้าลูกครึ่งที่ยืนใกล้กันตรงกลางห้องไม่ได้ จนถูกภีมวัชช์ขมวดคิ้วใส่ถึงยอมปิดประตูออกไปโดยไว
เสียงประตูปิดลง เสียงทุ้มต่ำของอาภีมก็ดังขึ้น
“ไหมเก็บไปคิดก่อนก็ได้ ... อาจะรอคำตอบนะ หวังว่าจะไม่ทำให้อาผิดหวังนะ กระต่ายน้อย"
มาหยามองเขาอย่างหนักใจ แต่ภีมวัชช์ก็กลัวๆขึ้นมาเมื่อมาหยาเปิดปากจะพูดอะไรบางอย่าง เขาแตะไหล่เล็กแผ่วเบา ออกแรงดันให้เธอเดินไปกับเขาที่ประตู
“ไปทำงานต่อเถอะ ได้คำตอบเมื่อไหร่ค่อยมาตอบอาก็ได้ แต่ห้ามตอบตกลงคบคนอื่น หรือไปกับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองเด็ดขาด"
ภีมวัชช์ไม่วายทิ้งท้าย สั่งเสียงเข้ม มาหยาสบสายตาเขาก็รับรู้ได้ว่า ถ้าเธอฝืนคำสั่ง มีหวังเธอคงโดนหมีตัวใหญ่ที่ชื่อภีมวัชช์ขย้ำกินแน่ๆ!
+มีต่อ+
เจ้าสาวเงากุหลาบ ตอนที่ 9 : โดย ปิ่นนลิน
ตอนเดิมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 9
สิ้นเสียงทุ้ม ราวกับเวลาจะหยุดเดิน แม้กระทั่งอากาศยังนิ่งสงบ เงียบขนาดได้ยินเสียงเดินของเข็มนาฬิกาข้อมือสีเงินวาวตรงข้อมือหนา เขายังคงยึดที่วางแขนเก้าอี้แน่น และเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาจากหลังมือ
ภีมวัชช์กำลังรอคำตอบที่ทำให้เขาแทบตายได้ตรงนั้น!
ตั้งแต่เกิดมา เขาเคยบอกรักสาวมามากกว่าสามครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ภีมวัชช์รู้สึกเหมือนกำลังรอฟังคำตัดสินประหารชีวิตอย่างตอนนี้ หัวใจเต้นแรงบีบแน่นระหว่างมองริมฝีปากจิ้มลิ้มเปิดออกทีละนิด แต่สิ่งที่ตามมาคือเขาต้องร้องโอยดังลั่น นิ้วมือเล็กๆของมาหยายกขึ้นบิดแก้มเขาอย่างแรง
“โอ๊ย! นี่ อยู่ดีๆมาหยิกแก้มอาทำไม!”
ภีมวัชช์ถอยห่างไปถึงสามก้าว ยกมือขึ้นลูบแก้มป้อยๆ ถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ให้ตายเถอะ เวลาแบบนี้มันใช่จะมาบีบแก้มกันเหรอ!
“ก็ ... ก็หนูคิดว่าหนูฝันอยู่นี่คะ" มาหยาขยับลุก มองภีมวัชช์อย่างไม่เชื่อว่านี่คือความจริง
“ถ้าอยากพิสูจน์ก็หยิกแก้มตัวเองสิ แบบนี้" มือหนาจัดการบีบแก้มยุ้ยของมาหยาทันที ร่างเล็กจะเบี่ยงตัวหนีก็ไม่ทันเลยโดนบิดแก้มทดสอบว่าฝันหรือไม่ มาหยารู้เลยว่าเธอไม่ได้ฝัน!
“โอ๊ย อาภีม หนูเจ็บ" เธอร้องบอกเขา ภีมวัชช์ถึงยอมปล่อยมือออก หากดวงตายังไม่เลิกคาดโทษไปยังตัวแสบที่ทำลายบรรยากาศพังยับ
จะว่าไป บรรยากาศก็ไม่ได้เรื่อง ... เขาควรหาสถานที่ที่ดีกว่านี้ แต่เวลาไม่คอยท่า ทำให้ภีมวัชช์ต้องสารภาพกันในห้องทำงานนี่แหละ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เธอควรจะรู้!
“รู้บ้างไหมว่าคนจะขอแต่งงานเขาต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน มาทำเสียเรื่องหมด ยัยบ๊อง"
ภีมวัชช์หมดอารมณ์ซึ้ง หมุนตัวหันหนี มือกอดอกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ วงหน้าเข้มขุ่นเคือง
“ก็ ... ก็หนูตกใจนี่คะ อาภีมล้อหนูเล่นหรือเปล่า" มาหยายังไม่อยากเชื่อหูเลย
“เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกัน คิดว่าอาเป็นคนแบบนั้นหรือไง" ภีมวัชช์ถาม เสียงขึ้นจมูก ยังหันหน้าหนีแม้สาวน้อยตาสีฟ้าจะเดินไปจ้องหน้าก็ตามคนตัวใหญ่ที่งอนเหมือนเด็ก
“แต่เรารู้จักกันมาตั้ง ... สิบห้าปีแล้วนะคะ ไหมก็ต้องแปลกใจสิ อยู่ดีๆ ...” มาหยานับนิ้วแล้วพูดออกมา
เธอพูดไม่ผิดหรอก สิบห้าปีจริงๆนั่นล่ะ ... ภีมวัชช์ถอนหายใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกว่ามันแปลก
สิบห้าปีก่อน ... ภีมวัชช์อายุแค่ยี่สิบเอ็ดปี ยังทั้งห่ามทั้งเกเรตามประสาลูกที่ถูกตามใจ แถมพ่อยังไม่ค่อยมีเวลาให้อีก ส่วนแม่น่ะหรือทิ้งเขาไปนานแล้ว มีเงิน มีความสบาย ทำให้เขาไม่สนใจอะไรนัก
กิจกรรมหนึ่งที่ภีมวัชช์ตอนนั้นชอบมากคือการขับรถเร็ว เร็วชนิดไม่มีใครกล้านั่งไปกับเขา และคืนหนึ่งรถก็เสียหลักพลิกคว่ำ เขาติดในซากรถขยับตัวแทบไม่ได้ นับว่าโชคดีที่ชัชชวินขับรถผ่านมาเลยดึงเขาออกมาจากใต้ซากรถ ก่อนรถจะระเบิดไฟลุกท่วม เล่นเอาภีมวัชช์ใจสั่น ใจหาย ถ้าชัชชวินไม่มาช่วย ถ้าเขายังติดอยู่ใต้ซากรถนั่น เขาคงตายไปแล้ว!
เหมือนเกิดใหม่!
ภีมวัชช์รู้สึกเช่นนั้น การเฉียดตายครั้งนั้น ภีมวัชช์พบความรักของพ่อที่แม้จะมีภรรยาใหม่หลายคน แต่พ่อก็แสดงออกว่ารักเขามาก ทำให้คนเกเรยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ กลายเป็นคนเต็มคน ไม่สร้างปัญหาหรือเกเรอะไรอีก กลับไปตั้งใจเรียนจนประสบความสำเร็จเช่นวันนี้
วันแรกที่ภีมวัชช์เจอมาหยานั้น เธอยังเป็นเด็กหญิงมาหยาวัยสิบขวบอยู่เลย ใบหน้าเล็กน่ารัก ผมลอนสวยถูกมัดแกละสองข้าง ดวงตาสีฟ้า เหมือนตุ๊กตาเด็กฝรั่ง เธออยู่ในชุดนักเรียน สะพายกระเป๋าเป้วิ่งลงจากรถรับส่งหลังโรงเรียนเลิก โดยมีชลลดาเดินตามหลัง ตอนนั้นชัชชวินกับชลลดายังทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่เลย
เพราะภีมวัชช์นับถือชัชชวินเหมือนพี่ชาย เด็กหญิงมาหยาจึงเรียกขานภีมวัชช์ว่าอาภีม แม้อาภีมจะหน้าดุแต่มาหยาก็รู้ว่าอาภีมใจดี จึงสนิทสนมกันเรื่อยมา
สำหรับมาหยาเป็นเด็กน่ารักตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นคนที่เขารักในที่สุด ... ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ
ภีมวัชช์เองยังไม่อยากจะเชื่อเลย!
“ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราก็จูบกันมาตั้งหลายทีแล้วไม่ใช่หรือ" ภีมวัชช์เตือนความจำให้ ใบหน้าขาวระเรื่อแดงกับการปลุกความจำ มาหยารู้สึกร้อนไปทั้งหน้า
“หรือต้องฟื้นความจำให้" สองเท้าหนาขยับเดินหน้า มาหยาถอยหนีอัตโนมัติ หากไม่ทันเมื่อเขาตวัดแขนไปโอบรั้งกายเล็กไว้
“อาภีม ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง ... หนูจำได้" มาหยารีบบอกก่อน ภีมวัชช์กระตุกยิ้ม แม้จะไม่ฉกชิงจูบคนในอ้อมแขน แต่เขาก็ไม่ปล่อยเธอไป ก้มลงกระซิบเสียงแผ่วเบา ปลายจมูกโด่งชนจมูกเล็กๆ ริมฝีปากก็เกือบจะชิดกันอยู่แล้ว
“เรื่องเก่าๆช่างมันไป ... แค่ไหมรู้ว่าตอนนี้อาชอบไหมก็พอแล้ว และอาก็ไม่ยอมให้พวกผู้ชายคนอื่นทำคะแนนโดยที่อาไม่ลงมือทำอะไร"
มาหยาหายใจลำบากกับความใกล้ชิดที่หลอมละลายหัวใจดวงน้อย เธอยืนแทบไม่อยู่หากไม่ถูกโอบไว้
“ทำไมคะ หนูไม่เข้าใจเลย ทั้งป้าดา ทั้งยัยลูกแก้ว อาภีมอีก ทำไม่ทุกคนต้องวุ่นวายกับเรื่องนี้ของไหมด้วย" มาหยาถามอย่างกระท่อนกระแท่น หาเสียงตัวเองแทบไม่เจอ จนเสียงเบาหวิว ตัวเธอในแขนหนาก็เช่นกัน ยิ่งยามนิ้วหนาของอาภีมเกี่ยวเส้นผมข้างใบหน้า ความร้อนบางอย่างตามติดจนร่างเล็กรู้สึกหวามไปทั้งตัว
“คนอื่นอาไม่รู้เหตุผล .... แต่สำหรับอา ความรู้สึกตรงนี้..."
เขากุมมือเธอไปวางตรงแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ อาภีมกลับมาพร้อมร่างกายบึกบึนหลังจากหายไปหนึ่งปี มาหยายังสงสัยว่าเขาไปทำอะไรมาถึงได้ดูมาดแมนกว่าเดิมขึ้นมาก
เมื่อเขาวางมือเธอบนอก มาหยาสัมผัสจังหวะการเต้นของหัวใจที่แรงและดัง ดวงตาสีฟ้าจ้องลึกไปในแววตาที่ออดอ้อนให้เธอรับฟังเสียงหัวใจของเขา
“มันท่วมท้นจนอาต้องรีบคว้าไหมไว้ ไม่อยากให้หลุดมือไปกับใครที่ไหน ... แต่งงานกับอานะครับ กระต่ายน้อย" เสียงทุ้มหวานจนเรียกมดได้ทั้งรังกำลังทำให้เธอเกือบพลาดตกหลุมที่เขาสร้างไว้
“อาภีมขา หนู... " มาหยาไม่รู้ว่าควรตอบไปอย่างไร เธอสับสนเหลือเกิน
“นะ?" ภีมวัชช์ดึงมือน้อยมาจูบลงตรงปลายนิ้ว หนวดเคราสั้นๆใต้ริมฝีปากหยักสร้างความจักจี๋กับเจ้าของมือจนรู้สึกแปลกๆ
โชคดีของเธอ แต่อาจจะเป็นโชคร้ายของอาภีม รวมถึงเป็นคราวซวยของแม่เลขาสาวหน้าห้องที่เคาะประตูห้องทำงานตอนนี้ กระต่ายน้อยชื่อ มาหยา รีบตะกายขึ้นจากหลุม หาทางหนีจากบ่วงนายพรานภีมวัชช์ได้ ก่อนจะเผลอตอบตกลงไปเพราะสายตาหวานของเขา!
“อาภีม คุณเลขาเคาะประตูค่ะ" มาหยาก้มหน้าหลบ ได้ยินภีมวัชช์ส่งเสียงรำคาญในคอ แต่ก็ยอมปล่อยมือจากเธอ หันไปขานรับแม่เลขาสาว ที่เขาจะคาดโทษไว้ก่อน
“คุณภีมคะ ลูกค้ามารอที่ห้องประชุมแล้วค่ะ" อรอนงค์ เลขานุการสาวงุนงงไปทันทีที่พอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าเจ้านายหนุ่มร่างบึ้กมองเธออย่างโกรธๆ ภีมวัชช์พยักหน้ารับรู้
“เดี๋ยวผมตามออกไป"
“ค่ะ" เจ้าหล่อนรับคำ อดสอดส่ายสายตาสงสัยมองทั้งภีมวัชช์ และพนักงานสาวหน้าลูกครึ่งที่ยืนใกล้กันตรงกลางห้องไม่ได้ จนถูกภีมวัชช์ขมวดคิ้วใส่ถึงยอมปิดประตูออกไปโดยไว
เสียงประตูปิดลง เสียงทุ้มต่ำของอาภีมก็ดังขึ้น
“ไหมเก็บไปคิดก่อนก็ได้ ... อาจะรอคำตอบนะ หวังว่าจะไม่ทำให้อาผิดหวังนะ กระต่ายน้อย"
มาหยามองเขาอย่างหนักใจ แต่ภีมวัชช์ก็กลัวๆขึ้นมาเมื่อมาหยาเปิดปากจะพูดอะไรบางอย่าง เขาแตะไหล่เล็กแผ่วเบา ออกแรงดันให้เธอเดินไปกับเขาที่ประตู
“ไปทำงานต่อเถอะ ได้คำตอบเมื่อไหร่ค่อยมาตอบอาก็ได้ แต่ห้ามตอบตกลงคบคนอื่น หรือไปกับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองเด็ดขาด"
ภีมวัชช์ไม่วายทิ้งท้าย สั่งเสียงเข้ม มาหยาสบสายตาเขาก็รับรู้ได้ว่า ถ้าเธอฝืนคำสั่ง มีหวังเธอคงโดนหมีตัวใหญ่ที่ชื่อภีมวัชช์ขย้ำกินแน่ๆ!
+มีต่อ+