จากมติชนออนไลน์
เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท. ประธาน ขวักชัยภูมิ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุผู้ผูกคนตนเองจนเสียชีวิต ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เหตุเกิดภายในบ้าน ม.18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง พร้อมแพทย์จากโรงพยาบาลภูมิพลและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่บริเวณห้องนอนชั้นสอง เจ้าหน้าที่พบศพชายใช้ผ้าปูที่นอนผูกคอตนเองกับขื่อบ้านจนเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนายกิติศักดิ์ มีมั่ง ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำนำร่างลงมาตรวจชันสูตรในเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยกายถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
สอบสวนนางอุษา มีมั่ง ป้าของนายกิติศักดิ์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุนั้น มีน้องชายของตนคือพ่อของผู้ตายซึ่งป่วยนอนอยู่ที่บ้าน ตนเอง พยาบาลที่มาดูแลน้องชาย และผู้ตายอยู่อาศัยด้วยกัน โดยผู้ตายนั้นทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรังสิต ก่อนหน้านี้นายกิติศักดิ์ ผู้ตาย ได้มาบ่นกับตนเองว่าเฟซบุ๊กของเขาโดนแฮก และคนที่แฮกนั้นก็ได้ลงรูปลงข้อความในทำนองไม่ดีๆ เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์
หลังจากที่รู้ว่ามีคนแฮกและลงรูปลงข้อความ ก็ทำให้นายกิติศักดิ์ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะมีคนในโลกออนไลน์ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองด่าทอและข่มขู่ต่างๆ นานา จนนายกิติศักดิ์ รู้สึกหวั่นกลัว ซึ่งตนเองและพี่สาวของนายกิติศักดิ์ก็ได้เข้าไปช่วยลบรูปลบข้อความต่างๆ ที่ปรากฏในเฟซบุ๊กของเขา
จากนั้น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนจึงได้พานายกิติศักดิ์เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต เนื่องจากมีคนโพสต์จะขู่ทำร้ายเขา
จนมาวันที่ 26 สิงหาคม เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น.นายกิติศักดิ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน สักพักก็ขี่รถกลับมาบ้านโดยมีสภาพร่างกายที่ถูกคนทำร้ายมา โดยนายกิติศักดิ์ กล่าวว่า มีคนร้ายเป็นชายสองคนขี่จักรยานยนต์มาปาดหน้าและลงมาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บปากแตก ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่น่าปลอดภัยจึงได้ให้หลานชายหยุดทำงานและพาไปหาหมอและให้ไปนอนพักผ่อนในห้องนอนที่ชั้น 2 ของบ้าน
นางอุษากล่าวต่อว่าจนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30น. ตนเองทำกับข้าวเสร็จแล้วแต่ไม่เห็นหลานชายลงมาจากห้องนอนจึงขึ้นไปตาม ก็พบว่า เขาผูกคอตายเสียแล้ว สาเหตุที่ผูกคอตายนั้นคาดว่าคงมาจากเรื่องเฟซบุ๊กของเขาที่โดนแฮก ไปทำในทางไม่ดีอย่างแน่นอน
ด้านนางอัญชิษฐา พี่สาวของผู้ตายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น้องชายของตนบ่นมากๆ เรื่องที่เฟซบุ๊กส่วนตัวโดนแฮก และผู้แฮกได้โพสต์ข้อความในทำนองที่ว่า นายกิติศักดิ์นี่แหละที่เป็นคนลงมือระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งตนเองนั้นก็ได้พูดคุยและเข้าลบข้อความต่างๆ ในเฟซบุ๊กของน้องชาย และปิดเฟซบุ๊กไปด้วยเพื่อตัดปัญหา รวมทั้งพาน้องชายไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คูคต ซึ่งสาเหตุการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน
หลังการสอบสวนในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดยังโรงพยาบาลภูมิพลและจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุและแรงจูงใจที่แท้จริงจนนายกิติศักดิ์ผูกคอตายต่อไป
ล่าสุดวันนี้(27 ส.ค.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.พิชาญ ทองสุกแก้ว ผกก.สภ.คูคต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คูคต ได้เข้าตรวจสอบร้านเกมที่ผู้เสียชีวิตได้เข้าไปเล่น พร้อมทั้งได้มีการสอบถามเพื่อนที่ร่วมทำงานด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรังสิต
พ.ต.อ.พิชาญเปิดเผยว่าจากการสอบถามเพื่อนที่ทำงานด้วยกันทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัวอยู่แล้ว ในส่วนของเรื่องที่ผู้เสียชีวิตได้มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเองว่าเป็นผู้วางระเบิดนั้นจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตได้มีการเล่นเฟซบุ๊กในช่วงนั้นแล้วลืมปิดเฟซบุ๊กของตนเองจึงได้มีผู้ที่เข้ามาใช้บริการรายใหม่เปิดเข้าไปแล้วใช้เฟซบุ๊กของผู้ตายแทน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกลั่นแกล้งในเรื่องการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนหาข้อมูลอย่างละเอียดอีกต่อไป
หนุ่มปทุมเครียดเฟซบุ๊กถูกแฮก ใส่ร้ายเป็นมือบึ้มราชประสงค์ ผูกคอดับคาห้องนอน
เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท. ประธาน ขวักชัยภูมิ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุผู้ผูกคนตนเองจนเสียชีวิต ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เหตุเกิดภายในบ้าน ม.18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง พร้อมแพทย์จากโรงพยาบาลภูมิพลและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่บริเวณห้องนอนชั้นสอง เจ้าหน้าที่พบศพชายใช้ผ้าปูที่นอนผูกคอตนเองกับขื่อบ้านจนเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนายกิติศักดิ์ มีมั่ง ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำนำร่างลงมาตรวจชันสูตรในเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยกายถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
สอบสวนนางอุษา มีมั่ง ป้าของนายกิติศักดิ์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุนั้น มีน้องชายของตนคือพ่อของผู้ตายซึ่งป่วยนอนอยู่ที่บ้าน ตนเอง พยาบาลที่มาดูแลน้องชาย และผู้ตายอยู่อาศัยด้วยกัน โดยผู้ตายนั้นทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรังสิต ก่อนหน้านี้นายกิติศักดิ์ ผู้ตาย ได้มาบ่นกับตนเองว่าเฟซบุ๊กของเขาโดนแฮก และคนที่แฮกนั้นก็ได้ลงรูปลงข้อความในทำนองไม่ดีๆ เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์
หลังจากที่รู้ว่ามีคนแฮกและลงรูปลงข้อความ ก็ทำให้นายกิติศักดิ์ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะมีคนในโลกออนไลน์ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองด่าทอและข่มขู่ต่างๆ นานา จนนายกิติศักดิ์ รู้สึกหวั่นกลัว ซึ่งตนเองและพี่สาวของนายกิติศักดิ์ก็ได้เข้าไปช่วยลบรูปลบข้อความต่างๆ ที่ปรากฏในเฟซบุ๊กของเขา
จากนั้น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนจึงได้พานายกิติศักดิ์เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต เนื่องจากมีคนโพสต์จะขู่ทำร้ายเขา
จนมาวันที่ 26 สิงหาคม เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น.นายกิติศักดิ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน สักพักก็ขี่รถกลับมาบ้านโดยมีสภาพร่างกายที่ถูกคนทำร้ายมา โดยนายกิติศักดิ์ กล่าวว่า มีคนร้ายเป็นชายสองคนขี่จักรยานยนต์มาปาดหน้าและลงมาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บปากแตก ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่น่าปลอดภัยจึงได้ให้หลานชายหยุดทำงานและพาไปหาหมอและให้ไปนอนพักผ่อนในห้องนอนที่ชั้น 2 ของบ้าน
นางอุษากล่าวต่อว่าจนกระทั่งเวลาประมาณ 17.30น. ตนเองทำกับข้าวเสร็จแล้วแต่ไม่เห็นหลานชายลงมาจากห้องนอนจึงขึ้นไปตาม ก็พบว่า เขาผูกคอตายเสียแล้ว สาเหตุที่ผูกคอตายนั้นคาดว่าคงมาจากเรื่องเฟซบุ๊กของเขาที่โดนแฮก ไปทำในทางไม่ดีอย่างแน่นอน
ด้านนางอัญชิษฐา พี่สาวของผู้ตายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น้องชายของตนบ่นมากๆ เรื่องที่เฟซบุ๊กส่วนตัวโดนแฮก และผู้แฮกได้โพสต์ข้อความในทำนองที่ว่า นายกิติศักดิ์นี่แหละที่เป็นคนลงมือระเบิดที่แยกราชประสงค์ ซึ่งตนเองนั้นก็ได้พูดคุยและเข้าลบข้อความต่างๆ ในเฟซบุ๊กของน้องชาย และปิดเฟซบุ๊กไปด้วยเพื่อตัดปัญหา รวมทั้งพาน้องชายไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คูคต ซึ่งสาเหตุการฆ่าตัวตายน่าจะมาจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน
หลังการสอบสวนในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดยังโรงพยาบาลภูมิพลและจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุและแรงจูงใจที่แท้จริงจนนายกิติศักดิ์ผูกคอตายต่อไป
ล่าสุดวันนี้(27 ส.ค.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.พิชาญ ทองสุกแก้ว ผกก.สภ.คูคต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คูคต ได้เข้าตรวจสอบร้านเกมที่ผู้เสียชีวิตได้เข้าไปเล่น พร้อมทั้งได้มีการสอบถามเพื่อนที่ร่วมทำงานด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรังสิต
พ.ต.อ.พิชาญเปิดเผยว่าจากการสอบถามเพื่อนที่ทำงานด้วยกันทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีอาการป่วยด้วยโรคประจำตัวอยู่แล้ว ในส่วนของเรื่องที่ผู้เสียชีวิตได้มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กของตนเองว่าเป็นผู้วางระเบิดนั้นจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตได้มีการเล่นเฟซบุ๊กในช่วงนั้นแล้วลืมปิดเฟซบุ๊กของตนเองจึงได้มีผู้ที่เข้ามาใช้บริการรายใหม่เปิดเข้าไปแล้วใช้เฟซบุ๊กของผู้ตายแทน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกลั่นแกล้งในเรื่องการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนหาข้อมูลอย่างละเอียดอีกต่อไป