สั่งจำคุกลูกเทพบุตรชายนักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ เมืองศรีสะเกษ หลังมีพฤติกรรมแสบประชดแม่ไม่ยอมซื้อรถ จยย.บิ๊กไบค์ ราคา 5 แสนบาทให้ ใช้ก้อนหินทุบรถยนต์เพื่อนร่วมงานแม่พังยับ แต่ไม่เคยต้องโทษมาก่อน ศาลให้กักขังแทนจำคุก 3 เดือน ด้านผู้ต้องหาอ้างต้องการให้แม่รู้ถึงสิ่งที่ตนกระทำ ขณะที่ญาติยอมชดใช้ค่าเสียหาย 20,000 บาท ให้เจ้าของรถแล้ว

จากกรณี นางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ทำการจับกุมนายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนางรุจิราภรณ์ หลาวทอง นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ ที่ได้ก่อเหตุใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบกระจกด้านหลังรถยนต์ได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนายกิติศักดิ์ได้แล้ว โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ส่วนความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 เม.ย.59 พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ผู้พิพากษาศาล จ.ศรีสะเกษ ได้มีการพิจารณาคดีที่นายกิติศักดิ์ วงษ์เลิศ อายุ 20 ปี เป็นผู้ต้องหาในคดีทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย โดยมีนายพรชัย แท่นสละ ผจก.สหกรณ์การเกษตรยางชุมน้อย จำกัด ซึ่งเป็นสามีของนางวัทรา แท่นสละ และเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ถูกทุบทำลาย เป็นผู้เสียหายในคดีนี้

ซึ่งศาลได้พิพากษาแล้ว ตัดสินจำคุกนายกิติศักดิ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นเวลา 3 เดือน แต่เนื่องจากว่านายกิติศักดิ์ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้กักขังแทนจำคุก 3 เดือน ส่วนค่าเสียหายที่รถโดนทุบกระจกนั้น ญาติของนายกิติศักดิ์ ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้ ได้นำเอาเงินสดจำนวน 20.000 บาท มาจ่ายเป็นค่าเสียหายให้แก่นายพรชัย และนางวัทรา แท่นสละแล้ว ซึ่งหลังจากที่ศาล จ.ศรีสะเกษได้พิพากษาคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายกิติศักดิ์ ไปส่งที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ



เนื่องจากถูกจับกุมตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัว ในข้อหาขัดคำสั่งศาลที่ห้ามไม่ให้เข้าไปภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 แต่นายกิติศักดิ์ได้ขัดคำสั่งศาลเข้าไปทุบกระจกรถยนต์ถึง 9 คัน ทั้งนี้เพื่อให้ศาลเยาวชนแลชะครอบครัวพิจารณาคดีตามกฎหมายต่อไป

นายกิติศักดิ์ ให้การว่า สาเหตุที่กลับมาก่อเหตุทุบรถอีกครั้ง เพราะแม่ของตนไม่ยอมให้เงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อนำไปซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อดัง ไม่เป็นไปตามคำขอ ตนจึงได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่ต้องมาทุบรถภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 นั้น เพราะต้องการให้แม่รู้ถึงสิ่งที่ตนกระทำ ซึ่งขณะที่ตนก่อเหตุนั้นก็มีอาการมือไม้สั่น ด้วยความหวาดกลัว จิตใจก็เกิดอาการสับสนว่าไม่อยากทำ แต่ก็ไม่รู้ทำไมสุดท้ายถึงได้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ตามรีสอร์ทในจังหวัด จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด

ด้านนางวัทราซึ่งเป็นผู้เสียหายคดีนี้ กล่าวว่า การที่ศาลพิพากษาออกมาดังกล่าว ตนเห็นว่าเป็นดุลพินิจของศาลตามกฎหมาย ในส่วนของตนนั้นไม่ได้มีความโกรธแค้นกับนายกิติศักดิ์เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้อัยการ จ.ศรีสะเกษ เป็นโจทก์ ซึ่งตนและสามีเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ส่วนจะมีการอุทธรณ์คดีนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอัยการ จ.ศรีสะเกษ โดยขณะนี้ญาตินายกิตติศักดิ์ได้นำเช็คจำนวน 20,000 บาท นำไปจ่ายไว้ที่ศาลเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้เรียบร้อยแล้ว

ที่มา : บ้านเมือง





ที่ว่า ขัง 3 เดือน แทน โทษจำคุก ต่างกันอย่างไร

หรือเพื่อไม่ให้มีประวัติอาชญากรรม ท่านใดรู้ช่วยไขที


ไม่รู้เจ้าลูกเวรลูกกรรมคนนี้เมื่อไหร่จะคิดได้สักทีนะ