อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ไม่ใช่เด็ดๆ แต่เด็กๆ หน่ะถูกแล้ว เพราะมันเหมือนหลอกเด็กจริงๆ
อาการติดน้ำอัดลมของเราเรียกได้เลยว่า เข้าขั้นโคม่า เหมือนคนติดยา 5555
เราต้องดื่มน้ำอัดลมทุกวัน ทุกครั้งที่กินข้าว และตอนนอนดูทีวี ดูละคร ดูหนังตอนกลางคืน ก็ต้องมีขนมพร้อมน้ำอัดลมด้วยเสมอ เป็นอย่างนี้ทุกวัน ทุกวัน และทุกวัน
ในแต่ละวัน จะได้ดื่มน้ำเปล่าทีนี่ก็เฉพาะตอนกินข้าวนะ คือมีแก้วน้ำ 2 แก้ว แก้วน้ำเปล่า และแก้วน้ำอัดลม น้ำอัดลมนี่ต้องเป็นพวกน้ำดำด้วยนะถึงจะอร่อย ซาบซ่านไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ คริคริ
ถามว่ากินขนมน้ำอัดลมขนาดนี้อ้วนไหม เราสูง 165 หนัก 48 ลงพุงนิดๆ ต้องถามคนอื่นละล่ะว่าอ้วนไหม โดนส่วนตัว เราไม่ค่อยแคร์รูปร่างไปสักเท่าไหร่ จะมีแคร์ก็เป็นบางอารมณ์ เห่อตามกระแสเป็นทีๆไป 55555
แต่แล้ววันหนึ่งก็มาตระหนักได้เอง คือคิดได้เองอ่ะว่าเรากินของพวกนี้เยอะเกินไปไหม ถึงแม้มันไม่ได้ทำให้เราอ้วน ไม่ได้ทำร้ายเราขณะนี้ แต่ต่อไปอนาคตข้างหน้าล่ะ?? หรืออวัยวะภายในที่เรามองไม่เห็นล่ะ?? มันจะเป็นยังไง ถ้ามันตะโกนด่าได้มันคงด่าเราไปนานแล้ว เราก็เลยเริ่มที่จะลดละเลิกน้ำอัดน้ำลมพวกนี้ ตอนแรกบอกได้คำเดียวว่า อื้อหืออออออออออออ หรือนี่เรากำลังลงแดง
อะไรมันจะหงุดหงิด ทุรนทุรายต้องการอยากจะกินขนาดนี้เนี่ยยยยยย ไม่ไหวๆๆๆ ของสักอึกเหอะ >>>>> ล่อมา 1 ขวด
เวลาผ่านไป ความตั้งใจอยากเลิก มันก็หายไปจนไม่เหลือ นึกได้อีกทีขณะดูดน้ำอัดลมอย่างเอร็ดอร่อย "เห้ย!! นี่ตรูกะลังทำไรอยู่เนี่ย ไหนว่าจะลดน้ำพวกนี้ไง" อยากเขวี้ยงแก้วลงกับพื้น แต่ทำไม่ลง เพราะเสียดาย ดูดไปจนหมด แล้วก็ขว้างแก้วทิ้งถังขยะอย่างแรง เพราะโกธตัวเอง
เอาใหม่ๆ ไม่ได้ๆ นี่เราต้องรักตัวเองนะ รู้โทษของพวกนี้นะ ทำไงดี๊.....ดี.... กับอาการเป็นเด็กน้อยหอยสังใหญ่อย่างเรา ปิ๊ง!! ลองวิธีนี่ค่ะ (ขอภัยในความไม่สุภาพค่ะ) "วิธีโคตรเด็กน้อย" เลยค่ะ
เอาแก้วสเลอปี้ (คือเวลาไปซื้อน้ำอัดลมเซเว่น ส่วนมากจะซื้อแบบแก้วสเลอปี้ แบบบิ๊กกั๊ป1 และ ขวดน้ำอัดลมขวดเล็กอีก1 เอาไว้เติมดับกระหาย
เราเอาแก้วสเลอปี้ที่ใช้แล้ว มาใส่น้ำ จะน้ำเย็นหรือน้ำไม่เย็น ขอเป็นน้ำเปล่าก็พอ ตามความชอบค่ะ ใส่น้ำจนเต็มและเอาไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา เช่น นั่งโต๊ะทำงานก็เอาวางบนโต๊ะ เดินไปทำงานในโรงงานก็หยิบติดมือไปด้วย กินข้าวมีแก้วส่วนตัว บลาๆๆๆ .....พกแก้วมาด้วยเหรอ พกแก้วมาด้วยเหรอเนี่ย พกแก้วมาด้วยเหรอ พกแก้วมาด้วยเหรอเนี๊ยยยยย....ฮิ๊ววววว ต่อ ค่ะ ต่อ ไอ่ที่ว่าหลอกเด็กมันต่อจากนี้ค่ะ คือ เราต้องมีจินตมโนระดับสูงสุดยอด ทั้งภาพ รส กลิ่น เสียง
1.รส ดื่มกินกลืนเข้าไป ให้เป็นรสชาติอันซาบซ่านกระเทือนใจกระดิ่งตุ้งติ่งแมวแบบน้ำอัดลม
2.ภาพ มองน้ำเปล่าค่ะ มองให้มันเป็นน้ำอัดลม
3.กลิ่น สูดเข้าไปค่ะ สูดให้เป็นกลิ่นน้ำอัดลม
4.เสียง ฟังค่ะ เงี่ยงหูฟังดีๆ ให้มีเสียง ซ่าาาาาาาาา ซ่าาาาาาาาาาา (น้ำเปล่าบ้านแกเด๊ มีเสียงซ่าๆๆ
)
****สรุปนะคะ เราต้องหลอกตัวเองว่าเรากำลังดูดน้ำอัดลมอยู่ ทั้งๆที่เรากำลังดูดน้ำเปล่าไร้รสชาตินี่อยู่
- บางคนอาจมีคำถาม ต้องทำถึงขั้นนี่เลยเหรอ ต้องถึงขั้นหลอกตัวเองอย่างนี้เลยเหรอ อยากบอกคำเดียวที่อิตกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ว่า "ไม่ลองมาติดไม่รู้หรอก"
- บ้างอาจมีคำถาม ทำไมต้องแก้วสเลอปี้ ซึ่งความจริงแล้วจะเป็นแก้วอะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความชอบ และความถนัดหลอกตัวเอง ชอบคิตตี้หาแก้วคิตตี้ ชอบโดเรมอนหาแก้วโดเรมอน
เอาที่สบายใจอ่ะ ของเราที่ต้องเป็นแก้วสเลอปี้เพราะอะไร เรามองว่าแก้วสเลอปี้นี่เป็นตัวแทนแก้วแห่งน้ำอัดลม คือถ้าได้มอง ได้เห็น หรือใครถือไว้ มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของแก้วที่ใส่น้ำอัดลมค่ะ เราจึงเลือกแก้วสเลอปี้เพราะจะอี้ๆๆๆๆๆ
- และทำไมต้องเอาไว้ใกล้ตัว ธรรมชาติของมนุษย์กินจุกกินจิก หรืออาจรวมไปถึงมนุษย์ธรรมดา ค่ะ มันเป็นธรรมชาติของคนที่จะหยิบสิ่งใกล้มือเข้าปาก (หมายถึงไอ่ที่กินได้อ่ะนะ) เราเป็นประเภท หิวๆๆๆ มองซ้ายมองขวา หยิบเข้าปากเลย เราเลยเคลียร์โต๊ะทำงาน วางขวดน้ำไว้พร้อมกับแก้วสเลอปี้ไว้บนโต๊ะ วันๆหนึง หมดน้ำเป็น 2-3 ขวด นี่ไม่นับรวมตอนกินข้าวนะคะ 2-3 ขวดนี่ แค่ระหว่างวัน และสำหรับคนกินน้ำน้อยอย่างเรา มันช่วยเราได้เยอะนะคะ ทั้งเรื่องน้ำหนัก รูปร่าง ผิวพรรณ มันดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลสุขภาพดีมากเลยคะ
บางคนอาจมองว่าไร้สาระ แต่ในความเป็นจริง สำหรับคนติดน้ำอีดลม หรือติดอะไรสักอย่างนี่มันโหดร้ายนะคะ คนไม่เคยมาอยู่ ณ จุดๆนี้ไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันเลิกอยากยังไง บอกให้เลิก มันพูดง่ายมากคะ ทำยากนะคะ
และที่พูดๆ เขียนๆ พิมพ์ๆ มานี่ มิบังอาจบอกหรือห้ามให้ใครด่าว่าไร้สาระ หรือให้ใครหลงเชื่อได้ อย่าเชื่อคะ อยากรู้ต้องพิสูจน์เองคะ
ใครติดน้ำอัดลม เชิญทางนี้ เรามีวิธีเลิกแบบ "เด็กๆ" มาฝาก.....^^
อาการติดน้ำอัดลมของเราเรียกได้เลยว่า เข้าขั้นโคม่า เหมือนคนติดยา 5555
เราต้องดื่มน้ำอัดลมทุกวัน ทุกครั้งที่กินข้าว และตอนนอนดูทีวี ดูละคร ดูหนังตอนกลางคืน ก็ต้องมีขนมพร้อมน้ำอัดลมด้วยเสมอ เป็นอย่างนี้ทุกวัน ทุกวัน และทุกวัน
ในแต่ละวัน จะได้ดื่มน้ำเปล่าทีนี่ก็เฉพาะตอนกินข้าวนะ คือมีแก้วน้ำ 2 แก้ว แก้วน้ำเปล่า และแก้วน้ำอัดลม น้ำอัดลมนี่ต้องเป็นพวกน้ำดำด้วยนะถึงจะอร่อย ซาบซ่านไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ คริคริ
ถามว่ากินขนมน้ำอัดลมขนาดนี้อ้วนไหม เราสูง 165 หนัก 48 ลงพุงนิดๆ ต้องถามคนอื่นละล่ะว่าอ้วนไหม โดนส่วนตัว เราไม่ค่อยแคร์รูปร่างไปสักเท่าไหร่ จะมีแคร์ก็เป็นบางอารมณ์ เห่อตามกระแสเป็นทีๆไป 55555
แต่แล้ววันหนึ่งก็มาตระหนักได้เอง คือคิดได้เองอ่ะว่าเรากินของพวกนี้เยอะเกินไปไหม ถึงแม้มันไม่ได้ทำให้เราอ้วน ไม่ได้ทำร้ายเราขณะนี้ แต่ต่อไปอนาคตข้างหน้าล่ะ?? หรืออวัยวะภายในที่เรามองไม่เห็นล่ะ?? มันจะเป็นยังไง ถ้ามันตะโกนด่าได้มันคงด่าเราไปนานแล้ว เราก็เลยเริ่มที่จะลดละเลิกน้ำอัดน้ำลมพวกนี้ ตอนแรกบอกได้คำเดียวว่า อื้อหืออออออออออออ หรือนี่เรากำลังลงแดง อะไรมันจะหงุดหงิด ทุรนทุรายต้องการอยากจะกินขนาดนี้เนี่ยยยยยย ไม่ไหวๆๆๆ ของสักอึกเหอะ >>>>> ล่อมา 1 ขวด เวลาผ่านไป ความตั้งใจอยากเลิก มันก็หายไปจนไม่เหลือ นึกได้อีกทีขณะดูดน้ำอัดลมอย่างเอร็ดอร่อย "เห้ย!! นี่ตรูกะลังทำไรอยู่เนี่ย ไหนว่าจะลดน้ำพวกนี้ไง" อยากเขวี้ยงแก้วลงกับพื้น แต่ทำไม่ลง เพราะเสียดาย ดูดไปจนหมด แล้วก็ขว้างแก้วทิ้งถังขยะอย่างแรง เพราะโกธตัวเอง
เอาใหม่ๆ ไม่ได้ๆ นี่เราต้องรักตัวเองนะ รู้โทษของพวกนี้นะ ทำไงดี๊.....ดี.... กับอาการเป็นเด็กน้อยหอยสังใหญ่อย่างเรา ปิ๊ง!! ลองวิธีนี่ค่ะ (ขอภัยในความไม่สุภาพค่ะ) "วิธีโคตรเด็กน้อย" เลยค่ะ
เอาแก้วสเลอปี้ (คือเวลาไปซื้อน้ำอัดลมเซเว่น ส่วนมากจะซื้อแบบแก้วสเลอปี้ แบบบิ๊กกั๊ป1 และ ขวดน้ำอัดลมขวดเล็กอีก1 เอาไว้เติมดับกระหาย เราเอาแก้วสเลอปี้ที่ใช้แล้ว มาใส่น้ำ จะน้ำเย็นหรือน้ำไม่เย็น ขอเป็นน้ำเปล่าก็พอ ตามความชอบค่ะ ใส่น้ำจนเต็มและเอาไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา เช่น นั่งโต๊ะทำงานก็เอาวางบนโต๊ะ เดินไปทำงานในโรงงานก็หยิบติดมือไปด้วย กินข้าวมีแก้วส่วนตัว บลาๆๆๆ .....พกแก้วมาด้วยเหรอ พกแก้วมาด้วยเหรอเนี่ย พกแก้วมาด้วยเหรอ พกแก้วมาด้วยเหรอเนี๊ยยยยย....ฮิ๊ววววว ต่อ ค่ะ ต่อ ไอ่ที่ว่าหลอกเด็กมันต่อจากนี้ค่ะ คือ เราต้องมีจินตมโนระดับสูงสุดยอด ทั้งภาพ รส กลิ่น เสียง
1.รส ดื่มกินกลืนเข้าไป ให้เป็นรสชาติอันซาบซ่านกระเทือนใจกระดิ่งตุ้งติ่งแมวแบบน้ำอัดลม
2.ภาพ มองน้ำเปล่าค่ะ มองให้มันเป็นน้ำอัดลม
3.กลิ่น สูดเข้าไปค่ะ สูดให้เป็นกลิ่นน้ำอัดลม
4.เสียง ฟังค่ะ เงี่ยงหูฟังดีๆ ให้มีเสียง ซ่าาาาาาาาา ซ่าาาาาาาาาาา (น้ำเปล่าบ้านแกเด๊ มีเสียงซ่าๆๆ )
****สรุปนะคะ เราต้องหลอกตัวเองว่าเรากำลังดูดน้ำอัดลมอยู่ ทั้งๆที่เรากำลังดูดน้ำเปล่าไร้รสชาตินี่อยู่
- บางคนอาจมีคำถาม ต้องทำถึงขั้นนี่เลยเหรอ ต้องถึงขั้นหลอกตัวเองอย่างนี้เลยเหรอ อยากบอกคำเดียวที่อิตกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ว่า "ไม่ลองมาติดไม่รู้หรอก"
- บ้างอาจมีคำถาม ทำไมต้องแก้วสเลอปี้ ซึ่งความจริงแล้วจะเป็นแก้วอะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความชอบ และความถนัดหลอกตัวเอง ชอบคิตตี้หาแก้วคิตตี้ ชอบโดเรมอนหาแก้วโดเรมอน เอาที่สบายใจอ่ะ ของเราที่ต้องเป็นแก้วสเลอปี้เพราะอะไร เรามองว่าแก้วสเลอปี้นี่เป็นตัวแทนแก้วแห่งน้ำอัดลม คือถ้าได้มอง ได้เห็น หรือใครถือไว้ มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของแก้วที่ใส่น้ำอัดลมค่ะ เราจึงเลือกแก้วสเลอปี้เพราะจะอี้ๆๆๆๆๆ
- และทำไมต้องเอาไว้ใกล้ตัว ธรรมชาติของมนุษย์กินจุกกินจิก หรืออาจรวมไปถึงมนุษย์ธรรมดา ค่ะ มันเป็นธรรมชาติของคนที่จะหยิบสิ่งใกล้มือเข้าปาก (หมายถึงไอ่ที่กินได้อ่ะนะ) เราเป็นประเภท หิวๆๆๆ มองซ้ายมองขวา หยิบเข้าปากเลย เราเลยเคลียร์โต๊ะทำงาน วางขวดน้ำไว้พร้อมกับแก้วสเลอปี้ไว้บนโต๊ะ วันๆหนึง หมดน้ำเป็น 2-3 ขวด นี่ไม่นับรวมตอนกินข้าวนะคะ 2-3 ขวดนี่ แค่ระหว่างวัน และสำหรับคนกินน้ำน้อยอย่างเรา มันช่วยเราได้เยอะนะคะ ทั้งเรื่องน้ำหนัก รูปร่าง ผิวพรรณ มันดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลสุขภาพดีมากเลยคะ
บางคนอาจมองว่าไร้สาระ แต่ในความเป็นจริง สำหรับคนติดน้ำอีดลม หรือติดอะไรสักอย่างนี่มันโหดร้ายนะคะ คนไม่เคยมาอยู่ ณ จุดๆนี้ไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันเลิกอยากยังไง บอกให้เลิก มันพูดง่ายมากคะ ทำยากนะคะ
และที่พูดๆ เขียนๆ พิมพ์ๆ มานี่ มิบังอาจบอกหรือห้ามให้ใครด่าว่าไร้สาระ หรือให้ใครหลงเชื่อได้ อย่าเชื่อคะ อยากรู้ต้องพิสูจน์เองคะ