เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายอยากให้คนไทยเลิกติดน้ำหวานและน้ำอัดลม หรืออยากเก็บภาษีมากขึ้นก็แล้วแต่ เลยจะขึ้นภาษีน้ำตาลตามที่เป็นข่าวดังในปัจจุบัน
http://www.posttoday.com/biz/news/498740 และเจ้าของกระทู้เป็นคนติดน้ำอัดลมมากๆ มาตั้งแต่เด็ก จำความได้ก็ขอแม่ซื้อน้ำอัดลมสีดำ ดื่มเป็นประจำวันละขวด สองขวด ปริมาณ 280 มิลลิตร พอโตขึ้นมาหน่อยพออายุ 15-16 ก็ดื่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกจากวันละขวด สองขวดเล็กกลายเป็นวันละ 1 ลิตร ดื่มแบบนี้ทุกวันแต่ก็ไม่ก็ไม่อ้วน เนื่องจากวัยนั้นเป็นวัยที่เจริญเติบโต แข็งแรง ใช้พลังงานเยอะมากในแต่ละวัน ทั้งเรียน ทั้งเล่นกีฬา แต่ก็เลิกไม่ได้เลย พอมาถึงวัยทำงานซึ่งตอนนี้ผมอายุ 36 ก็ยังดื่มตามปกติ แต่เพิ่มปริมานเข้าไปอีกกลายเป็นดื่มวันละ 1.5 - 2.0 ลิตร เป็นแบบนี้ประจำ พร้อมทั้งบางทีดื่มชาเย็น ชามะนาว อื่นๆ ไปอีก เท่ากับว่าวันนึงแทบไม่ได้ดื่มน้ำเปล่าเลย ผลที่ได้จากการดื่มน้ำอัดลมตั้งแต่เด็กคือ นอนหลับไม่ค่อยเพียงพอ ร้อนในเป็นประจำ ร่างกายบางทีถ้าขาดน้ำอัดลมแล้วจะหงุดหงิด ปวดท้องเป็นประจำ มีลมตีในท้อง ช่วงไหนที่คิดว่าอาการหนักแล้วก็จะหยุดดื่มอย่างมากก็ได้แค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น เคยไปตรวจที่โรงพยาบาล ว่าเป็นเบาหวานมั้ย สรุปคือไม่เป็นแต่ก็ยังไม่เลิกดื่ม จนมีวันนึงเกิดอาการจุกเสียดท้องเหมือนเดิม มีลมในท้องเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ขมคอ พอไปหาหมอๆ บอกว่าน่าจะเป็นกรดไหลย้อน แต่คนอย่างผมไม่เคยกลัวก็ดื่มมันต่อไป จนถึงสุดสิ้นสุดที่ต้องเลิก เพราะอาการกรดไหลย้อนไม่หายซักที ไม่รู้จะทำยังไง ทานยาก็แล้วก็ช่วยไม่ได้เพราะพฤติกรรมเรายังดื่มน้ำอัดลมอยู่ สุดท้ายต้องหักห้ามใจไม่กิน แต่เดียวก่อนน้ำอัดลมมันมีกาแฟอีนซึ่งทำให้เรารู้สึกติด รู้สึกโหยหาเหมือนมีอะไรมาสิงให้เราต้องการตลอดเวลา แล้วทำยังไงถึงจะเลิกได้เลยได้ศึกษาข้อมูลจากหลายๆ ท่านในพันทิพบ้าง ที่อื่นๆบ้าง ตามนี้
วันแรกของการเลิกดื่มน้ำอัดลม ตื่นเช้ามาดื่มน้ำเปล่าก่อนเลย 1 แก้วใหญ่ แล้วก็ไปซื้อน้ำมะพร้าวติดไว้ 2 ถุง แต่ถ้าหาไม่ได้ก็เอาเป็นขวดในร้านสะดวกซื้อแทน เพราะเรายังติดหวานอยู่เพียงแต่เปลี่ยนจากน้ำอัดลมเป็นน้ำมะพร้าวที่ให้ความหวานเหมือนกัน เพราะถ้าหากหักดิบเกรงว่าจะทำได้ไม่กิน 3 วัน ซึ่งผมเคยล้มเลิกมาหลายครั้งแล้ว หลังจากดื่มน้ำมะพร้าววันละ 2 ขวดไป 3 วัน
เราก็ลดเหลือแค่วันละขวด
และหลังจากเราลดเหลือวันละขวด ผ่านไปซัก 5 - 7 วัน คราวนี้ถึงเวลาน้ำเปล่าบ้างแล้ว ตามเวลาต่อไปนี้ อาจจะปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมของแต่ละท่านก็ได้
เช้าตื่นมา ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
10.00 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
11.30 ดื่มครึ่งแก้ว ก่อนทานข้าวเที่ยง
12.00 ดื่มครึ่งแก้ว ระหว่างทานข้าวเที่ยง
14.00 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
16.00 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
18.00 ดื่มครึ่งแก้ว ก่อนทานข้าวเย็น
19.00 ดื่มครึ่งแก้ว ระหว่างทานข้าวเย็น
20.30 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
21.30 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
ถ้าใครดื่มได้มากกว่านี้ก็ได้นะครับตามสะดวกเลย
เท่ากับว่าเราดื่มน้ำครบ 8 แก้วต่อวันก็พียงพอแล้ว และตั้งแต่ทำตามตารางนี้ น้ำหนักลงไปหลังจากดื่มแต่น้ำเปล่า 5 กิโลกรัม ภายใน 1 เดือนอย่างเวอร์เลยครับ แต่ก็ทำได้แล้ว แต่ต้องประกอบกับการออกกำลังกายบ้างนะครับ เมื่อก่อนผมออกกำลังกายด้วยการวิ่งน้ำหนักก็ไม่ค่อยลงเพราะยังไม่เลิกดื่มแต่หลังจากเลิกดื่มน้ำหนักก็ลงเรื่อยๆ โดยปัจจุบันนี้ผมสามารถเลิกดื่มน้ำอัดลมได้โดยเด็ดขาดแล้วไม่รู้สึกอยากดื่มอีกเลย ได้ทั้งลดน้ำหนัก ได้สุขภาพที่ดีขึ้น อาการกรดไหลย้อนก็น้อยลง หน้าตาก็สดใสขึ้น เพราะน้ำเปล่าเป็นน้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ท้ายนี้ทุกอย่างไม่มีสูตรตายตัวขอให้ทุกคนเลิกดื่มน้ำอัดลมและน้ำหวานต่างๆ ได้นะครับ เพราะใช้วิธีการเดียวกันสำหรับคนอยากเลิกน้ำหวานด้วยครับ และไว้โอกาสหน้าจะมาพูดถึงประโยชน์ที่ผมได้รับจากการเลิกดื่มน้ำอัดลมและกินอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย ที่สามารถลดความอ้วนได้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
เลิกดื่มน้ำอัดลม ง่ายนิดเดียว คลิกเลยกระทู้นี้
วันแรกของการเลิกดื่มน้ำอัดลม ตื่นเช้ามาดื่มน้ำเปล่าก่อนเลย 1 แก้วใหญ่ แล้วก็ไปซื้อน้ำมะพร้าวติดไว้ 2 ถุง แต่ถ้าหาไม่ได้ก็เอาเป็นขวดในร้านสะดวกซื้อแทน เพราะเรายังติดหวานอยู่เพียงแต่เปลี่ยนจากน้ำอัดลมเป็นน้ำมะพร้าวที่ให้ความหวานเหมือนกัน เพราะถ้าหากหักดิบเกรงว่าจะทำได้ไม่กิน 3 วัน ซึ่งผมเคยล้มเลิกมาหลายครั้งแล้ว หลังจากดื่มน้ำมะพร้าววันละ 2 ขวดไป 3 วัน
เราก็ลดเหลือแค่วันละขวด
และหลังจากเราลดเหลือวันละขวด ผ่านไปซัก 5 - 7 วัน คราวนี้ถึงเวลาน้ำเปล่าบ้างแล้ว ตามเวลาต่อไปนี้ อาจจะปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมของแต่ละท่านก็ได้
เช้าตื่นมา ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
10.00 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
11.30 ดื่มครึ่งแก้ว ก่อนทานข้าวเที่ยง
12.00 ดื่มครึ่งแก้ว ระหว่างทานข้าวเที่ยง
14.00 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
16.00 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
18.00 ดื่มครึ่งแก้ว ก่อนทานข้าวเย็น
19.00 ดื่มครึ่งแก้ว ระหว่างทานข้าวเย็น
20.30 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
21.30 ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว
ถ้าใครดื่มได้มากกว่านี้ก็ได้นะครับตามสะดวกเลย
เท่ากับว่าเราดื่มน้ำครบ 8 แก้วต่อวันก็พียงพอแล้ว และตั้งแต่ทำตามตารางนี้ น้ำหนักลงไปหลังจากดื่มแต่น้ำเปล่า 5 กิโลกรัม ภายใน 1 เดือนอย่างเวอร์เลยครับ แต่ก็ทำได้แล้ว แต่ต้องประกอบกับการออกกำลังกายบ้างนะครับ เมื่อก่อนผมออกกำลังกายด้วยการวิ่งน้ำหนักก็ไม่ค่อยลงเพราะยังไม่เลิกดื่มแต่หลังจากเลิกดื่มน้ำหนักก็ลงเรื่อยๆ โดยปัจจุบันนี้ผมสามารถเลิกดื่มน้ำอัดลมได้โดยเด็ดขาดแล้วไม่รู้สึกอยากดื่มอีกเลย ได้ทั้งลดน้ำหนัก ได้สุขภาพที่ดีขึ้น อาการกรดไหลย้อนก็น้อยลง หน้าตาก็สดใสขึ้น เพราะน้ำเปล่าเป็นน้ำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ท้ายนี้ทุกอย่างไม่มีสูตรตายตัวขอให้ทุกคนเลิกดื่มน้ำอัดลมและน้ำหวานต่างๆ ได้นะครับ เพราะใช้วิธีการเดียวกันสำหรับคนอยากเลิกน้ำหวานด้วยครับ และไว้โอกาสหน้าจะมาพูดถึงประโยชน์ที่ผมได้รับจากการเลิกดื่มน้ำอัดลมและกินอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย ที่สามารถลดความอ้วนได้ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ