พิสูจน์การมีอยู่จริงของพระเจ้า ตอนการเกิดจักรวาล ตอนที่ 1
(พิสูจน์การเกิดขึ้นของจักรวาลด้วยกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์)

มุตตาฆีน เจ๊ะและ เรียบเรียง
ตีพิมพ์ครั้งแรก วารสารเสียงสมัย ลำดับที่ 2

ข้าพเจ้าได้ลองอ่านบทความเกี่ยวกับการพิสูจน์การมีอยู่จริงของพระเจ้าของนักวิชาการฝ่ายบันดาลนิยม (creationism) โดยใช้วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์สัจธรรมที่ปรากฏในอัลกุรอาน ซึ่งมีนักวิชาการหลายคนที่ใช้ความอุตสาหะของตนเพื่อพิสูจน์ว่าอัลเลาะฮฺ (ซุบฮานะฮุวะตาอาลา) เป็นพระเจ้าผู้ทรงมีอยู่จริงและเป็นพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่ควบคุมความเป็นไปของจักรวาลทั้งหมด

เท่าที่สังเกตแนวทางการพิสูจน์ของนักวิชาการฝ่ายบันดาลนิยมนี้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ข้อมูลสนับสนุนที่เป็นที่ยอมรับทางวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า ความจริงสากล เช่น โลกมีลักษณะสัณฐานเป็นทรงกลม ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล การเกิดขึ้นของเอมบริโอ (Embryo) เป็นต้น

ความจริงเหล่านี้มีความสอดคล้องกับพระดำรัสในอัลกุรอาน หรือแม้กระทั่งความเข้าใจของปวงปราชญ์มุสลิมในสมัยอดีต[1] แต่ถึงกระนั้นก็ตาม อีกฝ่ายที่เป็นขั้วตรงข้ามมักอ้างว่า ฝ่ายบันดาลนิยมชอบเอาหลักฐานมาปรุงแต่งเองหรือโยงหลักฐานเองโดยที่ไม่ตรงกับเป้าประสงค์ที่แท้จริงของอัลกุรอาน[2]

อย่างไรก็ตามความจริงสากลก็ย่อมเป็นความจริงสากลต่อไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำความจริงสากลนี้มาสนับสนุนอัลกุรอาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการบอกแก่ชาวโลกรับรู้ว่า ความจริงสากลซึ่งได้รับการพิสูจน์เมื่อไม่นานมานี้ ได้ถูกดำรัสไว้ในอัลกุรอานเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว และความเข้าใจที่มีต่อมันถูกถ่ายทอดมาตลอดเรื่อยมา โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่ล้ำสมัย หากมีเพียงความเชื่อมั่นที่มีต่อพระเจ้าผู้สร้างจักรวาลเพียงเท่านั้น และเราศรัทธาว่า  อัลกุรอานจะไม่มีวันผิดพลาดแม้แต่จุดเดียว เพราะนั้นเป็นพระดำรัสของอัลเลาะฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าของทุกสรรพสิ่ง ผู้ทรงรอบรู้เหนือกาลเวลา  อัลเลาะฮฺทรงยืนยันตัวเองเป็นผู้สร้างจักรวาลไว้ในหลายโองการในอัลกุรอาน[3] และเป็นการยืนยันจักรวาลไม่ใช่สิ่งที่มีมาแต่เดิม

أَوَلَيْسَ الَّذِي خَلَقَ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ بِقَادِرٍ عَلَىٰ أَن يَخْلُقَ مِثْلَهُم بَلَىٰ وَهُوَ الْخَلَّاقُ الْعَلِيمُ ﴿٨١﴾ إِنَّمَا أَمْرُهُ إِذَا أَرَادَ شَيْئًا أَن يَقُولَ لَهُ كُن فَيَكُونُ﴿٨٢﴾

“พระองค์ผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน จะไม่ทรงสามารถที่จะสร้างเช่นเดียวกับพวกเขากระนั้นหรือ ? แน่นอน และพระองค์เป็นผู้ทรงสร้างที่ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงรอบรู้ (81) แท้จริงพระบัญชาของพระองค์ เมื่อทรงประสงค์สิ่งใด พระองค์ก็จะตรัสแก่มันว่า ‘จงเป็น’ แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา” (82)  (อัลกุรอาน 36 : 81-82)

สมมติฐานหรือข้ออ้างหนึ่งของฝ่ายปฏิเสธพระเจ้า เชื่อว่าจักรวาลนี้มีมายาวนานจนไม่สามารถนับได้[4] หรือมากกว่าระยะเวลาที่ฝ่ายบันดาลนิยมเข้าใจ[5] ดังนั้นเมื่อเกิดข้อขัดแย้งกัน เราจึงพยายามใช้ความจริงทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนอัลกุรอาน และหักล้างความเชื่อขั้วตรงข้าม โดยใช้การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนอยู่สามประการ ดังนี้

กฎที่สองของเทอร์โมไดนามิก (The second law of thermodynamics)
การอ้างความเป็นอนันต์ (The absurdity of an infinite history of past events)
หลักฐานทางดาราศาสตร์ฟิสิกส์ (Astrophysical evidence)
ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดในแต่ละข้อ เริ่มต้นจากการพิสูจน์ลักษณะการเคลื่อนที่ของพลังงานและการอยู่ของมัน โดยอาศัย

กฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์ (The second law of Thermodynamics) กล่าวคือตามหลักวิทยาศาสตร์ทั่วไป เราจะเข้าใจกันว่าพลังงาน (energy) มีตัวตนสามารถจะเคลื่อนที่ได้ หากแหล่งสองแหล่งมีพลังงานไม่เท่ากัน พลังงานก็จะเกิดการแทนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เพื่อให้พลังงาน ณ สองตำแหน่งเกิดการสมดุลกัน โดยทั่วไปแล้ว พลังงานจะเคลื่อนที่ในทิศทางจากจุดที่มีพลังงานสูงหรืออุณหภูมิสูง (พลังงานมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับอุณหภูมิ) ไปยังจุดที่มีพลังงานต่ำกว่าหรืออุณหภูมิต่ำ ซึ่งตามหลักของอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamics) นั้นเขาจะเรียกค่าที่บอกทิศทางการเคลื่อนที่ของพลังงาน ว่า เอนโทรปี (entropy) โดยที่จุดที่มีพลังงานสูงจะมีค่าเอนโทรปีต่ำ และจุดที่มีพลังงานต่ำจะมีค่าเอนโทรปีสูง ดังนั้นทิศทางการเคลื่อนที่ของพลังงานจะเคลื่อนที่จากจุดที่มีเอนโทรปีต่ำไปยังจุดที่มีค่าเอนโทรปีสูง[6] ท่านลองนึกภาพดูไปพร้อมๆกัน หากมีภาชนะปิดฝา บรรจุแก๊สอยู่ โดยที่ภายในภาชนะมีฝากั้นอีกทีหนึ่ง โดยที่ฟากหนึ่งมีแก๊ส (ซึ่งเป็นฟากที่มีพลังงานสูงหรือเอนโทรปีต่ำ) อีกฟากหนึ่งเป็นสุญญากาศ(ไม่มีแก๊ส หรือจุดที่มีพลังงานต่ำหรือเอนโทรปีสูง) เมื่อเราทำการเปิดรูฝากั้น (ดูรูปที่ 1) แก๊สที่อยู่ฟากหนึ่งก็จะเคลื่อนที่ไปยังจุดที่เป็นสุญญากาศ(หรือมีความหนาแน่นแก๊สน้อยกว่า) จนกว่าจำนวนแก๊สในสองฟากจะเท่ากัน มันจึงจะหยุดการถ่ายเท หรือที่เรียกว่า มันเข้าสู่สภาวะสมดุล (equilibrium stage) หรือจุดแก๊สตาย (dead gas)
ดดดดด

รูปที่ 1 แสดงการแพร่ของก๊าซผ่านช่องรูจากจุดที่มีความดันก๊าซสูงไปสู่จุดที่เป็นสุญญากาศ[7]

ซึ่งตามกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์ กล่าวว่า ในสภาวะที่ระบบปิด[8]ใดๆ พลังงานในระบบจะพยายามทำตัวให้มันมีค่าเอนโทรปีที่สูง เพื่อจะให้ระบบเกิดภาวะที่สมดุล[9]  จากกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์นี้ สามารถประยุกต์ได้กับจักรวาล(universe)ซึ่งเป็นระบบปิดได้เช่นกัน กล่าวคือพลังงานจะไม่ออกไปจากจักรวาลแน่นอน พลังงานจะวนเวียนอยู่ในจักรวาลของเรานั้นเอง และการเคลื่อนที่ของพลังงานจะเป็นไปตามกฎข้อที่สองของเทอร์โมไดนามิกส์ จากกฎนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่า จักรวาลเรานี้ เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ล้านปี!!! เพราะถ้าจักรวาลเกิดขึ้นมานมนานมาอย่างไม่มีเวลาจำกัด (ตามความเข้าใจของนักวิวัฒนาการ หรือกลุ่มคนที่ปฏิเสธพระเจ้าแล้ว)  แสดงว่า จักรวาลเราซึ่งมีการถ่ายเทพลังงานภายในอยู่ตลอดเวลา ด้วยกับระยะเวลามากๆนี้ จักรวาลก็ต้องถึงจุดที่ไม่สามารถมีการถ่ายเทพลังงานแล้ว หรืออยู่ในจุดที่เอนโทรปีสูงมาก (เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ค่าเอนโทรปีก็จะเพิ่มสูงไปด้วย) หรือกล่าวอีกอย่างคือ ณ ตอนนี้จักรวาลของเราก็ต้องเข้าสู่สภาวะสมดุล หรือจุดแก๊สตาย ไปแล้ว!!! ซึ่งหากถึงจุดนั้นจริง จักรวาลเราก็คงต้องพินาศ หรือไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือแล้ว[10] ?

##ฉบับหน้าว่าด้วยการพิสูจน์การอ้างความเป็นอนันต์และหลักการทางดาราศาสตร์ อินชาอัลเลาะฮฺ##

[1] ฝ่ายปฏิเสธพระเจ้าได้พยายามหาจุดผิดในอัลกุรอานในหลายที่ เช่นกล่าวหาว่าอัลกุรอานไม่ได้ระบุว่าโลกเป็นทรงกลมดั่งที่มุสลิมเข้าใจ (อ่านเอกสารตอบโต้ พร้อมเสนอหลักฐานความเข้าใจของปราชญ์ในอดีต: http://www.answering-christianity.com/earth_in_islam.htm), เอมบริโอ(http://www.answering-christianity.com/bones_then_muscles_wrapping.htm ), การเป็นศูนย์กลางของโลก (http://www.answering-christianity.com/blog//index.php?topic=1198.0) เป็นต้น

[2] Zegers, B. (2013). My Questions to Muslims. p 45.

[3] โองการที่ว่าด้วยการสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน รวมไปถึงการสนับสนุนทฤษฎีบิ๊กแบ็งค์ เช่น 6:101,36:81-82, 21:30, 52:35-36 เป็นต้น

[4] อ่านที่  Lerner, E. J. (1992). The big bang never happened. Random House LLC.

[5] จริงๆแล้วจักรวาลมีอายุประมาณ 13.7 พันล้านปี (ดูที่: http://www.speed-light.info/miracles_of_quran/age_of_universe.htm  สืบค้นวันที่ 22-11-2557)

[6] เอนโทรปี (enthropy)   คือ ปริมาณทางกายภาพซึ่งบ่งบอกสภาพความไม่เป็นระเบียบ (disorder) ของระบบ ค่าเอนโทรปีที่เปลี่ยนแปลงไปสามารถคำนวณได้จากปริมาณความร้อนที่ถ่ายโอนจากบริเวณ หนึ่งไปอีกบริเวณหนึ่ง และ อุณหภูมิของทั้งสองบริเวณนั้น  ( คัดจาก http://www.neutron.rmutphysics.com สืบค้น 24-11-14)

[7] ดัดแปลงจาก : แก๊ส ( Gas ). (n.d.). Retrieved from http://enchemcom2g.wordpress.com/gas/

[8] ระบบปิด คือ บริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนเฉพาะพลังงาน

[9] Schneider, E. D., & Kay, J. J. (1994). Life as a manifestation of the second law of thermodynamics. Mathematical and computer modelling, 19(6), 25-48.

[10] อ่านบทความวิจัยเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะแก๊สตาย: Smolka, L., Borkowski, J., & Zaton, M. (2014). The Effect of Additional Dead Space on Respiratory Exchange Ratio and Carbon Dioxide Production Due to Training. Journal of Sports Science & Medicine, 13(1), 36–43.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Ref : http://assabiqoon.com/node/3538