มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่มีวัฒนธรรมทางอารยธรรมโดยเริ่มต้นจากสัตว์สังคมสู่การร่วมมือในด้านต่างๆทั้งด้านอาหารที่อยู่อาศัยซึ่งการหาที่อยู่อาศัยจึงได้อาหารที่เหมาะสมแก่การกินจึงได้สารอาหารที่เหมาะสมและมีการช่วยกันรากเมื่อมนุษย์เริ่มรู้จักการใช้ไฟเช่นหาวัตถุที่มีความร้อนมากอย่างเช่นปล่องภูเขาไฟหรือว่าสิ่งที่กำลังลุกไหม้เช่นลาวา ไฟป่า หรือสะเก็ดไฟต่างๆ พูดอย่างนี้บางคนอาจจะงงแต่ว่าถิ่นฐานของมนุษย์มีเหตุการณ์ทั้งถิ่นฐานที่ใกล้กับปล่องภูเขาไฟและเริมไปร่วมกับการประกอบอาหารต่างๆเพื่อให้อาหารมีควาการที่มนุษย์จะเจริญเติบโตได้ก็ต้องมีสังคมมสุขมากขึ้นจึงลดระยะเวลาในการใช้เวลามีการร่วมมือกันทำสิ่งต่างๆมีการแสดงความคิดเห็นในภาพวาดต่างๆที่สื่อสารกันโดยใช้ภาษากายและการเขียนมีการเริ่มก่อสร้างมีการเริ่มสื่อสารจึงเข้าใจซึ่งกันและกันซึ่งนั่นก็เกิดจากความร่วมมือเชื่อใจและก็สิ่งดีๆที่เขาทำร่วมกันจึงทำให้เขาสามารถในชีวิตได้นานและมีข้อแตกต่างจากสัตว์ตัวอื่นๆเพราะปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในที่ต้องทำให้เขาร่วมมือกันจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายซึ่งเราต้องขอบคุณเขา แอมพูดอย่างนี้มันอาจจะเข้าใจโดยไม่เห็นภาพรวมดังนั้นจะต้องขยายถึงปัจจัยถึงจะทำให้เขาได้ดำรง 1การแก้ปัญหาการแก้ปัญหาของมนุษย์ในอดีตจะเกี่ยวกับการล่าสัตว์ซึ่งคณะกำลังของเขาจะให้วิวัฒนาการก็คงใช้เวลาอีกนานจึงต้องใช้อย่างอื่นที่อยู่รอบตัวเช่นกันใช้ทรัพยากรต่างๆซึ่งสิ่งที่มันอัศจรรย์มากคือสมองของพี่โตไม่เร็วมากในช่วงแสงปี เขามี สมองที่โตขึ้น 2 เท่าจากความรู้ที่ผมได้มา 2การอาศัยแบบสังคมการที่ภูเขาอาศัยแบบสังคมทำให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือกันและกันได้สามารถแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นเพราะว่ามีคนช่วยกันคิดทำให้ลดระยะเวลาการคิดและไปหาการคิดอย่างอื่นได้เช่นอีกคนนึงล่าสัตว์อีกคนหนึ่งก่อสร้างอีกคนนึงเก็บเกี่ยวผลผลิตคนนึงไปหาทรัพยากรน้ำและปัจจัยอื่นๆทีจะทำให้เขารอดไปจนวันตายในอดีต 3สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงมีหลายอย่างที่ทำให้มนุษย์นั้นเจริญเติบโตขึ้นมาจากธรรมชาติทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นไฟความร้อนหรือไม่ก็สร้างเสื้อผ้าชื่อมนุษย์เมื่อ 10,000 ปีที่แล้วมันก็มีเสื้อผ้านะเดี๋ยวค่อยอธิบายในอีก project หนึ่งซึ่งทางที่มนุษย์ไปหาทรัพยากรอาจจะพบกับสิ่งที่เขาจินตนาการที่มาจากการเอาตัวรอดสุภาพรเพื่อป้องกันตัวชั้นสูงความเชื่อที่คิดว่านั่นคือพระเจ้าจากท่านทั้ง 4 ที่เขาได้พบที่เขามีคนเคยทิ้งมันน่าจะไปมากสำหรับพวกเขาจนเกิดเป็นปรัชญาอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่เห็นก็เกิดเป็นวิทยาศาสตร์ในช่วงหนึ่งพันในเรื่องต่างๆเพือตอบสนองหาคู่เท็จจริงเพื่อโต้ตอบออกไปเมื่อมนุษย์ได้พบกับสิ่งที่เรียกว่าข้อพิสูจน์จึงเริ่มออกแบบเป็นความรู้เริ่มมีวิวัฒนาการทางสมองบทความวงจรชีวิตในเรื่องตระหนักได้ถึงชีวิตของตนจากสังคมที่ค่อยๆพูดและการดำรงที่มีปัจจัยทำให้เขาได้รู้ว่าการพัฒนาคืออะไร..นั่นก็คือพวกเรามีหลักปัจจุบันนี้เราตั้งคำถามจากวงจรชีวิตที่รัตนะไปถึงสถานการณ์ต่างๆเราได้รู้แล้วว่าทำอย่างนี้จะเป็นยังไงเราได้รู้เราได้เรียนและเรารู้ในสิ่งที่มันน่าจะรู้อยู่แล้วเช่นไฟจะได้จากธรรมชาติแต่เราศึกษาเพื่อที่เราจะควบคุมธรรมชาติไม่มีธรรมชาติยังจะมีสิ่งที่ใหญ่กว่าธรรมชาติคือจักรวาลในจักรวาลได้สร้างสิ่งที่เล็กกว่าต้นไปเรื่อยๆๆอิเล็กตรอนที่เป็นพลังงานหมุนเวียนจากอะตอมอิเล็กตรอนสู่สิ่งที่เล็กที่สุดก็สร้างพลังงานอีกทีนึงคือสตรีจะสปริงเพื่อสร้างพลังงานที่มากที่สุดจากสิ่งที่เป็นพลังงานเพื่อสร้างพลังงานน้ำตาลจากอะตอมคือความพลังงานคือพลังงานพลังงานไฟแนนซ์พลังงานไปได้มีความเร็วจากความคงที่ของพลังงานทุกสิ่งที่พลังงานและพลังงานและพลังงาน(ความคิดถึงนะอย่าซีเรียสครับพี่น้อง)ออกมาคุยเล่นๆนะเครียดมา อิอิ🙄🙄🙄ขอโทษกับคนที่ไม่พอใจนะแต่ว่าถ้าเกิดสมมุติว่าไม่พอใจจริงๆก็
กฎของมนุษย์และความคิดของผู้แต่ง (😅😅😅อ้างอิงถึงความรู้ต่างๆและความคิดต่างๆที่สอดแทรกจึงมีความรู้ที่น่าจะเบียดเบียน)🙄