**สปอยล์เท่าตัวอย่างหนัง

เรื่องย่อ : เรื่องราวช่วงเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยรุ่นของเด็กผู้หญิงที่ชื่อ ไรลีย์ ซึ่งนำเสนออารมณ์ต่างๆที่หลากหลายภายในสมองของเธอซึ่งประกอบไปด้วย Joy (ลั้ลลา) Sadness (เศร้าซึม) Anger (ฉุนเฉียว) Disgust (หยะแหยง) และ Fear (กลั๊วกลัว)

ก่อนอื่นต้องลุกขึ้นปรบมือดังๆให้กับผู้กำกับและผู้เขียนบทอย่าง Pete Docter ที่สามารถนำเสนอความรู้สึกอันซับซ้อนมากมายของคนเราให้ออกมาน่ารักน่าชังและเข้าใจง่ายขนาดนี่ ทั้งการแทนเชิงสัญลักษณ์ของสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นเกาะครอบครัว, เกาะแห่งความซื่อสัตย์ รวมไปถึงการแทนภาพพื้นที่ในจิตใจของเราให้กลายเป็นห้องบัญชาการ ที่มีปุ่มแป้นและอุปกรณ์มากมายในการขับเคลื่อนทุกการกระทำของตัวละคร

ด้วยความที่หนังอยู่ในจำพวกการข้ามพ้นวัย(coming of age) สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของหนังจำพวกนี้ก็คงหนีไม่พ้นพัฒนาการความคิดของตัวละครหลักอย่างไรลีย์ ซึ่งในส่วนนี้ Inside Out เองก็ตอบโจทย์ของตัวเองได้อย่างหมดจดและในขณะเดียวกันก็ไม่พลาดที่จะแฝงความเป็นปรัชญาเกี่ยวกับใช้ชีวิตที่เรียบง่ายเอาไว้

อาจสังเกตได้จากการเปรียบเทียบ 'ห้องบัญชาการ' ของสองตัวละคร ซึ่งในหัวของไรลีย์นั้น บรรดาอารมณ์ต่างๆจะตีและแย่งกันกดปุ่มตลอดเวลา ในขณะเดียวกันในสมองของตัวละครพ่อ/แม่นั้นบรรดาอารมณ์ต่างๆกลับนั่งปรึกษากันอย่างสงบสุขุมแถมยังมีแผงควบคุมที่กว้างพอสำหรับทุกคนอีกต่างหาก สื่อถึงความแตกต่างของวัยวุฒิและเน้นย้ำถึงการผสมผสานกันระหว่างอารมณ์ที่หลากหลายผ่านการเติบโตมาหลายช่วงชีวิต

หนังใช้เวลาส่วนใหญ่ชี้ปมไปที่ลั๊ลลา ที่ยึดติดกับ 'ความสุข' และเชื่อมั่นว่าชีวิตที่ดีจะต้องขับเคลื่อนไปด้วยเรื่องราวดีๆและเสียงหัวเราะเท่านั้น และเลือกที่จะกีดกันต้นกำเนิดของความเศร้าออกไปจากชีวิตของไรลีย์อยู่เสมอ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยจากสมดุลของชีวิตที่เธอได้เรียนรู้ในเวลาถัดมาว่าบางครั้งความสุขก็ไม่อาจเกิดได้โดยปราศจากความเศร้าโศก หรือในเรื่องราวยากลำบากต่างๆที่หมุนผ่านเข้ามาในชีวิตก็ไม่สามารถก้าวข้ามมันไปโดยปราศจากน้ำตาได้.

Inside Out จึงเป็นการ์ตูนที่มากกว่าการ์ตูน แต่มันคือคู่มือของการเข้าใจชีวิตที่ถูกย่อยลงมาให้อยู่ในวิสัยที่เสพได้โดยง่ายและเพลิดเพลินพอที่จะโน้มน้าวเราได้ไม่ยากนัก อีกทั้งข้อคิดจากหนังที่สอดแทรกเข้ามาอย่างแยบคายมีคุณค่าชนิดประเมินค่าไม่ได้ ยิ่งโดยในข้อสรุปตอนท้ายอาจจะถือเป็นสิ่งที่ดีงามที่สุด หนังชี้ให้เห็นถึงสารของตัวเองที่รวบยอดออกมาเป็นความรู้สึกขมุกขมัวที่สมบูรณ์แบบ ในหลายๆสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมันอาจมีสุข/ทุกข์ ปนกันไป อาจเป็นอะไรเกรี้ยวกราดหรือมาพร้อมกับการใช้อารมณ์รุนแรงที่ดี หรือความหวาดกลัวก็กลายเป็นส่วนผสมของความรอบคอบที่เหมาะสม.

สิ่งดีงามสุดท้ายที่ต้องชื่นชม คืออารมณ์ขันของหนังที่ถูกวางเข้ามาได้อย่างมีชั้นเชิงผ่านบทสนทนาน้ำไหลไฟดับของตัวละครความคิดทั้ง 5 ถึงแม้ด้วยเนื้อหาใจความอาจจะไม่ได้สร้างมาเพื่อสื่อให้เด็กน้อยดูได้อย่างเข้าใจถ่องแท้เสียเท่าไหร่ หากแต่เป็นผู้ใหญ่อย่างเราที่เป็นเป้าหมายหลักของหนังเรื่องนี้ที่อดจะขำไปกับอารมณ์ต่างๆที่ตัวเองได้ประสบมามิได้ หรือแม้แต่มุกตลกที่นำเสนอความคิดในหัวของตัวละครรอบข้างอื่นๆออกมาก็ทำออกมาได้ดีจนอดขำไม่ได้ (บอกตรงๆว่าขำหลุดหลายฉากมาก)

"ก็คงไม่มีอะไรที่จะอวยไปมากกว่านี้ นอกจากการยอมรับที่มีให้ Inside Out ว่าคงเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Disney-Pixar ถัดจากเรื่อง Ups, ทั้งความพร้อมในสารที่ตัวหนังเองทำการบ้านมาเป็นอย่างดี และวิธีนำเสนอที่มีเสน่ห์เข้าใจง่าย ทั้งหมดทั้งมวลคือส่วนประกอบที่สมบูรณ์แบบ ถือว่าไม่ควรพลาดในโรงด้วยประการใดใด"

คะแนนความเห็น : 12/10
ไม่ทุกข์ ไม่สุข by Kanok Jayz Hunhaboon

ติดตามรีวิวย้อนหลังได้ที่ : https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1