มหาอำมาตย์จื่อฉั่น และ ชายขาเดียว

กระทู้คำถาม
เซินถูจยาผู้สูญเสียขาข้างหนึ่ง และจื่อฉั่นมหาอำมาตย์แห่งแคว้นเจิ้ง ศึกษาร่ำเรียนอยู่กับปั๋วฮุนอู๋เหริน
วันหนึ่งจื่อฉั่นบอกกับเซินถูจยาว่า “หากข้าออกไปก่อน ท่านจงรออยู่ข้างหลัง หากท่านออกไปก่อน ข้าจะรออยู่ข้างหลัง”
       
       วันต่อมา ทั้งสองนั่งอยู่บนเสื่อผืนเดียวกันในห้องโถง จื่อฉั่นบอกกับเซินถูจยาอีกว่า “หากข้าออกไปก่อน
ท่านจงรออยู่ข้างหลัง หากท่านออกไปก่อน ข้าก็จะรออยู่ข้างหลัง และบัดนี้ข้ากำลังจะออกไปแล้ว ท่านจะรั้งรอ
อยู่ข้างหลังนี้ได้หรือไม่? เมื่อเห็นเสนาบดีก็อย่าได้ขยับออกนอกลู่นอกทาง ท่านคิดว่าท่านอาจตีเสมอเสนาบดีหรือ?”
       
       เซินถูจยาจึงกล่าวว่า “ภายในสำนักของอาจารย์ ยังมีสิ่งที่เรียกว่าเสนาบดีด้วยหรือ? ท่านมีความภาคภูมิในยศ
ตำแหน่ง และผลักไสให้ผู้อื่นอยู่ข้างหลัง แต่ข้าได้ยินมาว่า กระจกที่ใสหมดจดนั้นย่อมไร้ฝุ่นละอองจับ หากมีฝุ่น
ละอองจับย่อมไม่ใสจริง เมื่อท่านได้อยู่ใกล้ชิดปราชญ์เป็นเวลานานย่อมจะไม่หลงผิด เมื่อท่านนับถืออาจารย์เป็น
มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ ทว่ายังกล่าวออกมาเช่นนี้ นี่จะสมควรแล้วหรือ?”
       
       จื่อฉั่นกล่าวโต้ว่า “คนเยี่ยงเจ้านี้ ยังบังอาจกล่าวอ้างว่าตนดีกว่าเหยา ลองพิจารณาดูคุณธรรมของเจ้าเสียใหม่
ไตร่ตรองดูว่าเจ้ามีสิทธิ์จะกล่าววาจาเยี่ยงนี้หรือ”
       
       เซินถูจยากล่าวว่า “บรรดาผู้คนที่พูดจาแก้ต่างให้กับความผิดของตน และกล่าวอ้างว่าตนไม่สมควรได้รับโทษ
ทัณฑ์นั้น มีอยู่เป็นอันมาก แต่ผู้คนที่ไม่บ่ายเบี่ยงต่อความผิด และยอมรับว่าตนไม่สมควรได้รับการละเว้นนั้น มีอยู่น้อย
แสนน้อย การตระหนักรู้ในสิ่งที่ท่านไม่อาจหลีกเลี่ยง และน้อมรับอย่างสงบว่านั่นเป็นชะตานั้น มีเพียงผู้ทรงคุณธรรม
เท่านั้นที่สามารถทำได้ หากท่านยืนขวางทางเป้าหมายของนักแม่นธนูอี้เท่ากับไปอยู่ในวิถีของลูกศร และหากท่านยัง
รอดปลอดภัย นั่นก็เป็นเรื่องของชะตา
       
       “คนผู้มีสองขาครบถ้วนเป็นอันมากพากันหัวเราะเย้ยหยันข้าที่มีขาเพียงข้างเดียว นั่นทำให้ข้าโกรธเกรี้ยวยิ่งนัก
แต่เมื่อมายังสำนักของอาจารย์แห่งนี้ก็รู้สึกสงบ ไม่รู้ว่าอาจารย์ได้ชำระข้าด้วยคุณความดี หรือว่าข้าได้บังเกิดความเข้าใจ
ในสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง อาจารย์และข้าได้คบหาเป็นสหายกันมาเป็นเวลานานถึงสิบเก้าปี ทว่าเขาไม่เคยแสดงออกเลยว่า
ข้ามีขาเดียว บัดนี้ตัวท่านและข้าซึ่งสมควรจะไปพ้นจากอาณาจักรของรูปและกาย แต่ท่านกลับมองดูข้าจากภายในอาณาจักร
แห่งนั้น ท่านผิดพลาดไปแล้ว หรือมิใช่?”
       
       จื่อฉั่นรู้สึกละอาย จึงเปลี่ยนท่าทีและปรับสีหน้าเสียใหม่ พลางกล่าวว่า “อย่าได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย”
       
       แปลเรียบเรียงตัดตอนจากหนังสือจวงจื่อ(庄子) บทที่ห้าคุณธรรมที่แท้ 德充符
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่