[เม้าส์หนังหลังดู] "Inside Out" เพราะทุกอารมณ์ล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นเรา
ตอนแรกที่เห็นตัวอย่างเรื่องนี้มีคิดในใจว่าจะเล่นเรื่องราวของความรู้สึกยังไงกันนะ แอบแบ่งใจ50/50ว่าหนังสนุกแน่ๆแต่ไม่น่าจะมีอะไรมากนัก แต่พอดู Inside Out จบ สิ่งแรกที่แวบมาในหัวเลยคือ ปีนี้ PIXARต้องได้รางวัลแน่ๆ ผลงานระดับมาเตอร์พีชขนาดนี้!!!!!
Inside Out ไม่ใช่แค่การ์ตูนที่ทำออกมาให้น่ารักสนุกประทับใจคนดูเพียงอย่างเดียวแต่ในเนื้อเรื่องมันลึกซึ้งและซับซ้อน อาจจะไม่ได้ทำให้เราหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแต่มันจะทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วย ลุ้น และติดตามว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง หนังเอาเรื่องของความรู้สึกในตัวคนเรามาผจญภัยได้อย่างน่าทึ่ง และระหว่างทางก็มีอะไรหลายๆอย่างที่จะทำให้เรารู้สึกประทับใจกับความใส่ใจในรายละเอียดของผู้สร้าง
แต่ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดต่างๆของหนังขอพูดรวมๆถึงบทและภาพก่อน
บท แน่นอนทำออกมาได้ดีสุดๆเป็นแอนนิแมชั่นที่ดูได้ทุกวัยจริงๆตั้งแต่เด็กๆไปจนถึงผู้ใหญ่ บทละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว เป็นแอนนิเมชั่นที่ไอเดียบรรเจิดไปไกลมาก(ถ้าเทียบกับแอนนิเมชั่นด้วยกัน) สามารถสอนคนดูให้เข้าใจกระบวนการต่างๆในตัวเองได้อย่างเนียนๆ
ภาพ สวยสีสันสดใสช่วยทำให้ดึงทุกอย่างกลับมาว่าชั้นเป็นแอนนิเมชั่นน่ารักสดใสนะอย่าหลุดไปจริงจังกับเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากนักจนไม่ได้เพลิดเพลินกับความเป็นการ์ตูน55555 ตัวการ์ตูนทุกตัวตอนแรกที่เห็นเป็นภาพนิ่งจะยังเฉยๆแต่พอไปดูแล้วจะหลงรักตัวการ์ตูนเหล่านี้ PIXAR ใส่คาแรคเตอร์มาให้ทุกตัวแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างน่ารัก ส่วนตัวชอบ SADNESS สุด เปื่อยดีจริงๆ55555
แต่ส่วนตัวเสียดายอยู่เรื่องนึงคือเพลงประกอบ คือมีซาวประกอบนะแต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ามีเพลงซึ้งๆปังๆมาช่วยจะดี รึว่ามีแต่จำไม่ได้ก็ไม่รู้แฮะ(ไม่นับเพลงของปิ๊งป่องนะ) แต่เพลง I LAVA YOU ของการ์ตูนเปิดเรื่องนี่กลับยังวนอยู่ในหัวจนถึงตอนนี้
มาถึงส่วนที่ชอบมากๆในหนังคือเรื่องของรายละเอียดต่างๆ คือ หนังจะเริ่มด้วยความรู้สึกของเด็กทารกคนนึง ที่เกิดความรู้สึกแรกคือJoy (ลั้ลลา) หลังจากนั้นความรู้สึกอื่นก็ตามมาคือ Sadness (เศร้าซึม) Anger (โกรธ) Disgust (หยะแหยง) และ Fear (กลัว) ความรู้สึกต่างก่อให้เกิดประสบการณ์แล้วประสบการณ์ต่างๆก็หล่อหลอมให้เกิดเป็นตัวเรา นิสัยแบบที่เราเป็น
ซึ่งทั้งในเรื่องและชีวิตจริงคนเรามักจะไม่ชอบอาการเศร้า และกีดกันมันออกไปแต่ในเรื่องหลายๆครั้งที่หนังสื่อว่าความเศร้านี่แหละที่เป็นตัวคอยแก้ปัญหาต่างๆและนำมาซึ่งความสุข และในขณะเดียวกันอารมณ์โกรธก็จะนำมาซึ่งความคิดโง่ๆทำให้เราทำอะไรพลาดอยู่เสมอเวลาที่อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือถ้าสังเกตในแต่ละคนผู้บัญชาการณ์อารมณ์จะแตกต่างกันไป อย่างตัวไรลีย์เด็กน้อยคนดำเนินเรื่องจะมีผู้บัญชาการหลักเป็น Joy (ลั้ลลา) อาจเพราะยังเด็กยังโลกสวยอยู่ชีวิตยังไม่มีอะไรมากก็ลั้นลาไปตามแต่ละวัน คุณพ่อมีผู้บัญชาการหลักเป็น Anger (โกรธ) คงเพราะต้องรับภาระมากมายในครอบครัวจะให้อารมณ์ดีมุ้งมิ้งตลอดคงไม่ใช่ อารมร์หลักเลยต้องเป็นภาวะเครียดและตามมาด้วยอารมณ์ไม่ดี ส่วนคุณแม่มีผู้บัญชาการหลักเป็น Sadness (เศร้าซึม)เดาว่าผู้หญิงส่วนใหญ่คงมีอารมณ์นี้เป็นตัวหลักกันเพราะมีความเซนซิทีฟง่าย ชอบคิดมาก ดราม่า ละสุดท้ายก็ร้องไห้เศร้าซะงั้น!!! คือที่พูดมานี่มั่ว มโนเองล้วนๆว่าเป็นแบบนี้5555 ลองดูค่ะว่าคิดเหมือนกันรึปล่าว และสุดท้ายเมื่อไรลีย์เริ่มโตขึ้นได้ผ่านประสบการณ์ต่างๆมากขึ้นอารมณ์ในตัวก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามประสบการณ์ต่างๆที่เคยเผชิญมา เช่น แผงควบคุมอารมณ์ก็จะมีคำสบถมากขึ้น55555 น่าร๊ากกกก
สรุปดีกว่า ควรดู!!!!! พูดมาตั้งยาวแต่ในเรื่องยังมีความน่ารักและรายละเอียดให้เราค้นหาอีกมากมาย ทั้งปิ้งป่อง ทั้งจิตใต้สำนึก ทั้งเรื่องความฝัน บลาๆๆๆที่บอกได้เลยว่าไปดูเถอะ เรื่องนี้ใครก็ดูได้ ถึงจะไม่ใช่แนวขำกลิ้งแต่มันสนุกน่ารักและดี
คะแนน 9/10
ภาพ 1/1 คะแนน
เพลง 0/1 คะแนน
การแสดง 2/2 คะแนน(ในเรื่องนี้ขอหมายถึงการทำคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนออกมาเป็นยังไงแล้วกัน)
บท 2/2 คะแนน
ความสนุก 2/2 คะแนน
คะแนนความชอบส่วนตัว 2/2 คะแนน
[เม้าส์หนังหลังดู] ขอ"Inside Out" อีกซักกระทู้หน่า เพราะทุกอารมณ์ล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นเรา
ตอนแรกที่เห็นตัวอย่างเรื่องนี้มีคิดในใจว่าจะเล่นเรื่องราวของความรู้สึกยังไงกันนะ แอบแบ่งใจ50/50ว่าหนังสนุกแน่ๆแต่ไม่น่าจะมีอะไรมากนัก แต่พอดู Inside Out จบ สิ่งแรกที่แวบมาในหัวเลยคือ ปีนี้ PIXARต้องได้รางวัลแน่ๆ ผลงานระดับมาเตอร์พีชขนาดนี้!!!!!
Inside Out ไม่ใช่แค่การ์ตูนที่ทำออกมาให้น่ารักสนุกประทับใจคนดูเพียงอย่างเดียวแต่ในเนื้อเรื่องมันลึกซึ้งและซับซ้อน อาจจะไม่ได้ทำให้เราหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแต่มันจะทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วย ลุ้น และติดตามว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง หนังเอาเรื่องของความรู้สึกในตัวคนเรามาผจญภัยได้อย่างน่าทึ่ง และระหว่างทางก็มีอะไรหลายๆอย่างที่จะทำให้เรารู้สึกประทับใจกับความใส่ใจในรายละเอียดของผู้สร้าง
แต่ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดต่างๆของหนังขอพูดรวมๆถึงบทและภาพก่อน
บท แน่นอนทำออกมาได้ดีสุดๆเป็นแอนนิแมชั่นที่ดูได้ทุกวัยจริงๆตั้งแต่เด็กๆไปจนถึงผู้ใหญ่ บทละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว เป็นแอนนิเมชั่นที่ไอเดียบรรเจิดไปไกลมาก(ถ้าเทียบกับแอนนิเมชั่นด้วยกัน) สามารถสอนคนดูให้เข้าใจกระบวนการต่างๆในตัวเองได้อย่างเนียนๆ
ภาพ สวยสีสันสดใสช่วยทำให้ดึงทุกอย่างกลับมาว่าชั้นเป็นแอนนิเมชั่นน่ารักสดใสนะอย่าหลุดไปจริงจังกับเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากนักจนไม่ได้เพลิดเพลินกับความเป็นการ์ตูน55555 ตัวการ์ตูนทุกตัวตอนแรกที่เห็นเป็นภาพนิ่งจะยังเฉยๆแต่พอไปดูแล้วจะหลงรักตัวการ์ตูนเหล่านี้ PIXAR ใส่คาแรคเตอร์มาให้ทุกตัวแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างน่ารัก ส่วนตัวชอบ SADNESS สุด เปื่อยดีจริงๆ55555
แต่ส่วนตัวเสียดายอยู่เรื่องนึงคือเพลงประกอบ คือมีซาวประกอบนะแต่ส่วนตัวคิดว่าถ้ามีเพลงซึ้งๆปังๆมาช่วยจะดี รึว่ามีแต่จำไม่ได้ก็ไม่รู้แฮะ(ไม่นับเพลงของปิ๊งป่องนะ) แต่เพลง I LAVA YOU ของการ์ตูนเปิดเรื่องนี่กลับยังวนอยู่ในหัวจนถึงตอนนี้
มาถึงส่วนที่ชอบมากๆในหนังคือเรื่องของรายละเอียดต่างๆ คือ หนังจะเริ่มด้วยความรู้สึกของเด็กทารกคนนึง ที่เกิดความรู้สึกแรกคือJoy (ลั้ลลา) หลังจากนั้นความรู้สึกอื่นก็ตามมาคือ Sadness (เศร้าซึม) Anger (โกรธ) Disgust (หยะแหยง) และ Fear (กลัว) ความรู้สึกต่างก่อให้เกิดประสบการณ์แล้วประสบการณ์ต่างๆก็หล่อหลอมให้เกิดเป็นตัวเรา นิสัยแบบที่เราเป็น
ซึ่งทั้งในเรื่องและชีวิตจริงคนเรามักจะไม่ชอบอาการเศร้า และกีดกันมันออกไปแต่ในเรื่องหลายๆครั้งที่หนังสื่อว่าความเศร้านี่แหละที่เป็นตัวคอยแก้ปัญหาต่างๆและนำมาซึ่งความสุข และในขณะเดียวกันอารมณ์โกรธก็จะนำมาซึ่งความคิดโง่ๆทำให้เราทำอะไรพลาดอยู่เสมอเวลาที่อารมณ์โกรธเข้าครอบงำ
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือถ้าสังเกตในแต่ละคนผู้บัญชาการณ์อารมณ์จะแตกต่างกันไป อย่างตัวไรลีย์เด็กน้อยคนดำเนินเรื่องจะมีผู้บัญชาการหลักเป็น Joy (ลั้ลลา) อาจเพราะยังเด็กยังโลกสวยอยู่ชีวิตยังไม่มีอะไรมากก็ลั้นลาไปตามแต่ละวัน คุณพ่อมีผู้บัญชาการหลักเป็น Anger (โกรธ) คงเพราะต้องรับภาระมากมายในครอบครัวจะให้อารมณ์ดีมุ้งมิ้งตลอดคงไม่ใช่ อารมร์หลักเลยต้องเป็นภาวะเครียดและตามมาด้วยอารมณ์ไม่ดี ส่วนคุณแม่มีผู้บัญชาการหลักเป็น Sadness (เศร้าซึม)เดาว่าผู้หญิงส่วนใหญ่คงมีอารมณ์นี้เป็นตัวหลักกันเพราะมีความเซนซิทีฟง่าย ชอบคิดมาก ดราม่า ละสุดท้ายก็ร้องไห้เศร้าซะงั้น!!! คือที่พูดมานี่มั่ว มโนเองล้วนๆว่าเป็นแบบนี้5555 ลองดูค่ะว่าคิดเหมือนกันรึปล่าว และสุดท้ายเมื่อไรลีย์เริ่มโตขึ้นได้ผ่านประสบการณ์ต่างๆมากขึ้นอารมณ์ในตัวก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามประสบการณ์ต่างๆที่เคยเผชิญมา เช่น แผงควบคุมอารมณ์ก็จะมีคำสบถมากขึ้น55555 น่าร๊ากกกก
สรุปดีกว่า ควรดู!!!!! พูดมาตั้งยาวแต่ในเรื่องยังมีความน่ารักและรายละเอียดให้เราค้นหาอีกมากมาย ทั้งปิ้งป่อง ทั้งจิตใต้สำนึก ทั้งเรื่องความฝัน บลาๆๆๆที่บอกได้เลยว่าไปดูเถอะ เรื่องนี้ใครก็ดูได้ ถึงจะไม่ใช่แนวขำกลิ้งแต่มันสนุกน่ารักและดี
คะแนน 9/10
ภาพ 1/1 คะแนน
เพลง 0/1 คะแนน
การแสดง 2/2 คะแนน(ในเรื่องนี้ขอหมายถึงการทำคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนออกมาเป็นยังไงแล้วกัน)
บท 2/2 คะแนน
ความสนุก 2/2 คะแนน
คะแนนความชอบส่วนตัว 2/2 คะแนน