ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ
ซ้องกั๋ง.....ขุนนางใจแม่น้ำ
ตอนที่ ๕ เวรยังไม่ระงับ
"เล่าเซี่ยงชุน"
เมื่อ อึงซิน ขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายทหารของเมืองเซงจิวฮู้ เดินทางมาถึงบ้านของ เล่ากอ ขุนนางฝ่ายบุ๋นของตำบลเซงฮวงแจ เล่ากอก็ออกมาต้อนรับ เชิญให้นั่งในที่อันสมควร แล้วเอาตัว ซ้องกั๋ง ซึ่งปลอมชื่อเป็นเตียซา ออกมาสอบสวน
อึงซินบอกว่าไม่ต้องแล้ว ให้เอาตัวใส่เกวียนที่มีกรงขัง เขียนป้ายไว้ว่า เตียซาโจรเขาเซงฮวงซัว บ้านอยู่ตำบลหุนเสียกุ้ยแขวงเมืองเจ๋จิวฮู้ จะเอาตัวไปชำระที่เมืองเซงจิวฮู้
ซ้องกั๋งเลยไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร ยอมให้เขาเอาตัวขังไว้ในเกวียนแต่โดยดี
อึงซินถามเล่ากอว่า ที่จับเอาโจรคนนี้มาได้นั้น ฮวยหยง รู้หรือเปล่า เล่ากอบอกว่ายังไม่รู้ อึงซินจึงให้เชิญฮวยหยงมาที่บ้านเล่ากอ นั่งโต๊ะอาหารด้วยกันทั้งสามคน ฮวยหยงถามว่ามีธุระสิ่งใด อึงซินบอกว่าเจ้าเมืองเซงจิวฮู้ รู้ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองของตำบลนี้ขัดเคืองกัน จึงให้มาช่วยไกล่เกลี่ยเสียจะได้ทำราชการของเจ้านายสืบต่อไป แล้วอึงซินก็เชิญชวนให้ดื่มสุราคนละจอก
ฮวยหยงกับเล่ากอก็ดื่มสุราคนละถ้วย แต่อึงซินโยนถ้วยสุราขึ้น ทหารที่ซุ่มอยู่ก็กรูกันเข้ามาจับฮวยหยงมัดไว้ โดยไม่ทันรู้ตัว
ฮวยหยงถามว่าที่ทำดังนี้มีโทษสิ่งใด อึงซินว่าเป็นข้าราชการไปคบกับโจรเขาเซงฮวงซัว ฮวยหยงจะแก้ตัวอึงซินก็ไม่ยอมฟัง ให้เอาตัวใส่เกวียนอีกเล่มหนึ่ง คุมไปเมืองเซงจิวฮู้พร้อมกับเตียซา
ตัวของอึงซินกับเล่ากอก็ถือกระบี่ขึ้นม้า นำทหารร้อยห้าสิบคน คุมเกวียนเดินทางไปทันที ฮวยหยงเห็นเกวียนอีกเล่มหนึ่งมีหนังสือปักอยู่ รู้ว่าซ้องกั๋งถูกจับมาด้วยกัน แต่ไม่สามารถจะแก้ไขได้จึงเฉยอยู่
ขบวนเกวียนนักโทษเดินทาง ผ่านมาถึงเขาเซงฮวงซัว ก็เจอนายโจรทั้งสามคือ เอียนสุน อองเอง และ แต้เทียนซิว คุมพวกโจรมาซุ่มดักอยู่ในป่า
อึงซินจึงให้เล่ากอดูแลเกวียน ตนเองนำทหารออกไปคอยสู้กับพวกโจร นายโจรแกล้งร้องว่า พวกที่จะเดินทางผ่านไปนี่ ต้องเอาเงินค่าทางสามพันตำลึงมามอบให้ก่อน จึงจะผ่านไปได้
อึงซินชักม้าออกมาหน้าทหาร ร้องบอกว่าเงินไม่มีจะทำไม นายโจรทั้งสามก็เข้ารุมรบกับอึงซิน จนเห็นท่าจะไม่ไหว อึงซินกลัวจะเสียทีจึงควบม้าหนีออกจากขบวน เอาตัวรอดไปแต่ผู้เดียว
พวกทหารก็รวนเรไม่เป็นอันจะต่อสู้ พวกโจรจึงไล่ฆ่าฟันแตกหนีไปหมด แล้วจับตัวเล่ากอมัดไว้ และแก้ไขเอาซ้องกั๋งกับฮวยหยงออกมาจากเกวียนได้ ซ้องกั๋งก็ให้นำตัวเล่ากอมาซักถามว่า
"....เจ้ากับเราก็ไม่ได้มีสาเหตุสิ่งใดกัน เหตุใดจึงเชื่อภรรยาหญิงร้าย ให้เฆี่ยนเราจนยับเยิน...."
ฮวยหยงห้ามว่าคนเช่นนี้ไปถามมันทำไม พูดแล้วก็คว้ากระบี่ฟันเล่ากอคอขาดตาย
พอรุ่งขึ้นอีกวัน พวกโจรไปสืบข่าวได้ความว่า อึงซินกลับไปตั้งหลักอยู่ที่ตำบลเซงฮวงแจ เกณฑ์ทหารรักษาประตูเชิงเทินไว้ แล้วให้ม้าใช้ถือหนังสือไปแจ้งข่าวที่เมืองเซงจิวฮู้ บัดนี้เจ้าเมืองได้สั่งให้ ฉินเหม็ง นายทหารใหญ่ที่มีฝีมือ ยกกองทัพมีกำลังทหารม้าร้อยหนึ่ง เดินเท้าอีกสี่ร้อย มาจวนถึงเซงฮวงซัวอยู่แล้ว
ฮวยหยงก็อาสาพวกโจร คุมไพร่พลลงจากเขามาคอยรับมือ โดยใช้ให้ลิ่วล้อขุดคูไว้ที่เชิงเขาเป็นทางให้น้ำไหลลงมาจากข้างบน แล้วเอากระสอบใส่ดินทรายปิดเป็นทำนบไว้ตอนเหนือ และขุดหลุมพรางไว้ตามทางที่จะขึ้นเขาเอาหญ้าปิดคลุมไว้
ฉินเหมงยกทหารมาตั้งค่ายอยู่ห่างเขาประมาณสิบลี้ พอพักหายเหนื่อยก็พา ทหารออกจากค่ายขึ้นไปบนเขา ฮวยหยงจึงคุมบริวารมาประจันหน้ากันแล้วยกมือคำนับ ฉินเหมง ร้อง ตวาดว่า
"...เจ้าเป็นขุนนางฝ่ายทหารได้เบี้ยหวัดเงินเดือน เจ้านายใช้ให้มาดูแลว่ากล่าวอยู่ที่ตำบลเซงฮวงแจ เหตุใดจึงมาคบกับพวกโจรคิดเป็นขบถดังนี้..."
ฮวยหยงก็หัวเราะตอบว่า
"....เรามิได้คิดขบถประทุษร้ายต่อแผ่นดิน แต่เห็นว่าที่ตำบลเซงฮวงแจนี้อยู่เป็นสุขมาไม่มีเหตุการณ์สิ่งใด เล่ากอคิดก่อเหตุหาความขึ้น แล้วก็ไม่ว่ากล่าวตามกฎหมาย แกล้งข่มเหงกดขี่ทำให้เราได้รับความเดือดร้อน พลัดพรากจากญาติพี่น้อง จึงได้มาสำนักอยู่ที่เขานี้....."
ฉินเหมงก็ ไม่ฟังขับม้าพาทหารเข้ามาใกล้ ฮวยหยงจึงว่า
"....เราเห็นท่านเป็นใหญ่กว่า จึงได้พูดแต่โดยดี สำคัญว่าเรากลัวฝีมือและสติปัญญาหรือ..."
ฉินเหมงได้ฟังก็โกรธควงกระบองเข้าตี ฮวยหยงสู้รบอยู่ได้ถึงห้าสิบเพลง ก็แกล้งทำเป็นแพ้ชักม้าหนี ฉินเหมงรีบไล่ตามไป ฮวยหยงหันมายิงเกาทัณฑ์ถูกหมวกฉินเหมงหลุดตกลง แล้วก็ขับม้าขึ้นเขาไป ฉินเหม งก็ไม่กล้าไล่ตาม
ขณะนั้นเวลาเย็นค่ำลงแล้ว พวกสมุนโจรที่ซุ่มอยู่ตามชายเขา ก็ตีม้าล่อขึ้นทางทิศตะวันออก ฉินเหมง นำทหารไปค้นหาก็ไม่เจอ พวกโจรก็ตีม้าล่อไปทางทิศอื่นอีก แล้วก็แอบซ่อนเสีย ฉิ นเหมงคุ มทหารไปค้นหาทั่วทั้งสี่ทิศ ก็ไม่เจอตัวพวกโจร จนเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก พวกโจรเห็นเป็นทีก็กรูกันออกมาระดมยิงเกาทัณฑ์ ลงจากยอดเขาดังห่าฝน พลทหารของฉินเหมงหาที่หลบลูกเกาทัณฑ์ ก็พากันโดดลงไปในคูชายเขาที่น้ำแห้งอยู่ พวกโจรที่อยู่ทางเหนือก็เปิดทำนบ ปล่อยน้ำไหลบ่าลงมาท่วมทหาร ที่นอนคุดคู้อยู่ในคูตายไปเป็นอันมาก พวกที่ตะกายหนีน้ำขึ้นมาได้ ก็ถูกพวกโจรจับไปได้ร้อยเจ็ดสิบคน กับม้าแปดสิบตัว
ฉินเหมงเหลืออยู่ตัวคนเดียว เห็นฮวยหยงกับซ้องกั๋งนั่งเสพสุราอยู่บนเขา ก็ร้องด่าท้าทายขึ้นไป ฮัวหยงบอกว่าวันนี้มืดค่ำลงแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาสู้กันใหม่ ฉิ นเหมงไม่ฟังหาทางจะขึ้นไปบนเขา ขับม้าเลาะไปตามทางเล็ก ๆ เลยตกลงไปในหลุมที่ขุดดักไว้ม้าล้มลง ฉิ นเหมง กระเด็นลงไปนอนอยู่บนพื้น สมุนโจรก็กลุ้มรุมกันจับมัดไว้ได้ พาตัวขึ้นไปให้นายบนเขา
ฮวยหยงก็แก้มัดฉินเหมงออก หาเสื้อผ้าใหม่มาให้เปลี่ยน เชิญให้นั่งในที่อันสมควร แล้วฮวยหยงก็ลงคุกเข่าคำนับ ฉิ นเหมงก็ว่าเมื่อจับมาได้แล้ว จงฆ่าเสียตามอาญาศึก จะคุกเข่าคำนับด้วยเหตุใด
ฮวยหยงก็แนะนำฉินเหมงให้รู้จักกับซ้องกั๋ง และนายโจรทั้งสาม ฉินเหมงก็ลุกขึ้นไปคุกเข่าคำนับซ้องกั๋ง เมื่อเห็นรอยแผลที่ขาทั้งสองข้าง ก็ถามว่าเป็นเพราะเหตุใด
ซ้องกั๋งก็เล่าความตั้งแต่ช่วยเหลือภรรยาเล่ากอ แล้วเล่ากอกลับเนรคุณจับเอาตัวไปใส่ความ และทำโทษโดยพละการ ฉิ นเหมงก็สดุ้งใจว่าตนฟังความข้างเดียว พาทหารมาล้มตายลงเป็นอันมาก จึงบอกว่าจะไปเล่าเรื่องให้เจ้าเมืองเซงจิวฮู้ได้ทราบความจริง
ซ้องกั๋งกับฮวยหยงก็ชวนให้พักอยู่ด้วยกันก่อน แล้วจัดโต๊ะมาเลี้ยงดู พร้อมทั้งทหารที่ถูกจับเป็นเชลยด้วย
ซ้องกั๋งกับฮวยหยงก็พยายามเกลี้ยกล่อม ให้ฉินเหมงเป็นพรรคพวกด้วยแต่ฉินเหมง ไม่ยินยอมแม้จะตายก็ตาม ฮวยหยงจึงจัดที่พักให้ฉิ นเหมงอยู่ก่อน แล้วแอบทำอุบายหาคนปลอมเป็นฉินเหมง คุมกองทหารกับสมุนโจรเข้าปล้นเมืองเซงจิวฮู้ ฆ่าฟันผู้คนล้มตาย และเผาบ้านช่องเสียหาย
พอฉิ นเหมงกลับไปถึงเมืองเซงจิวฮู้ ก็เข้าเมืองไม่ได้ ภรรยาและครอบครัวก็ถูกเจ้าเมืองจับไปประหารเสียสิ้น และยังมีโทษติดตัวอีกด้วย จึงต้องกลับมาเข้าเป็นพวกฮวยหยงและซ้องกั๋งด้วยความจำใจ
อยู่ต่อมาไม่นาน ซ้องกั๋งปรึกษากับนายโจรทั้งสามคน จะยกพลไปตีตำบลเซงฮวงแจ เพื่อรับเอาบุตรภรรยากับญาติของฮวยหยงมาอยู่ด้วยกัน และจะจับภรรยาเล่ากอมาชำระโทษด้วย ฉิ นเหมงก็ขออาสาจะไปทำการครั้งนี้แต่ผู้เดียว
พอเช้าวันรุ่งขึ้น ฉิ นเหมงก็แต่งตัวขึ้นม้าถือกระบองคู่มือ ลงจากเขาเข้าไปที่ตำบลเซงฮวงแจ เมื่ออึงซินเห็นว่าฉินเหมงนายทหารผู้ใหญ่จากเมืองเซงจิวฮู้มาเพียงคนเดียว ก็เชิญเข้าไปข้างในจัดที่อันสมควรให้นั่ง แล้วก็ถามว่ามาด้วยธุระสิ่งใดหรือ
ฉิ นเหมงก็เกลี้ยกล่อมให้อึงซิน เข้าเป็นพวกซ้องกั๋งเช่นเดียวกับตน อึงซินได้ยินชื่อเสียงของซ้องกั๋งมานานแล้ว ก็ว่าซ้องกั๋งอยู่ที่ไหนจะไปหา ฉิ นเหมงว่าคนที่เอาตัวบรรทุกเกวียนจำขัง และเขียนชื่อว่าเตียซานั่นแหละคือซ้องกั๋ง เวลานี้อยู่กับพรรคพวกที่เขาเซงฮวงซัว
อึงซึนก็ว่าไม่รู้เลย ถ้ารู้ก็คงจะปล่อยไปเสียแล้ว ไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงจนชีวิตเกือบจะไม่รอดกลับมา ทั้งนี้เป็นเพราะฟังความข้างเดียวจากเล่ากอนั่นเอง
ฝ่ายซ้องกั๋งเมื่อฉิ นเหมงลงจากเขาไปแล้ว ก็จัดไพร่พลให้เอียนสุนกับอองเองคุมไปทางหนึ่ง ตนเองกับฮวยหยงคุมไปอีกทางหนึ่ง มาบรรจบกันที่ตำบล เซงฮวงแจ อึงซินก็ต้อนรับเป็นอันดี
ซ้องกั๋งให้พวกพ้องไปจับบุตรภรรยาและญาติมิตรของ เล่ากอ และขนทรัพย์สมบัติบรรทุกใส่เกวียนมาให้หมดสิ้น แต่อย่าได้ทำอันตรายแก่ราษฎรชาวบ้าน ฮัวหยงก็ไปรับภรรยากับรวบรวมทรัพย์สินของตนขึ้นเกวียน พากันกลับมาที่เขาเซงฮวงซัว พร้อมกับอึงซินด้วย
อองเองนายโจรที่สองก็ยังต้องการภรรยาของเล่ากอไว้ ซ้องกั๋งว่านางนี้เป็นหญิงชั่วจะเลี้ยงไว้ทำไมจงเอาตัวมาไต่สวน อองเองก็พาภรรยาเล่ากอเข้ามา นางก็ร้องขอชีวิต ซ้องกั๋งก็ว่า
".....เราก็ได้บอกแล้วว่าไม่ได้อยู่ที่เขานี้ เป็นคนเมืองเจ๋จิวฮู้ เจ้าก็ย่อมรู้อยู่ทั้งสิ้น ยังกลับไปบอกเล่ากอสามีว่าเราเป็นโจร จับไปเฆี่ยนตีจนยับเยิน ใจของเจ้านี้ช่างกระไร จะแกล้งฆ่าคนเสียทั้งเป็น....."
เอียนสุนก็ว่าหญิงเช่นนี้ไปถามมันทำไม แล้วก็ชักกระบี่ฟันภรรยาเล่ากอ ตัวขาดสองท่อนตายไป
อองเองก็โกรธชักกระบี่ออกจะต่อสู้กับเอียนสุน ซ้องกั๋งกับพรรคพวกห้ามปรามไว้ว่าจะเลี้ยงหญิงนี้ไว้ทำไม จงหาที่อื่นเอาใหม่เถิด แล้วก็เกลี้ยกล่อมจนอองเองได้สติหายโกรธ
เมื่อพักอยู่ที่เขาเซงฮวงซัวได้สามสี่วัน ถึงฤกษ์ดีซ้องกั๋งก็เป็นเถ้าแก่ขอน้องสาวของฮวยหยง ให้เป็นภรรยาฉิ นเหมงแทนภรรยาที่ถูกฆ่าตายไป ฉิ นเหมงก็อยู่กับขบวนโจรเขาเซงฮวงซัวต่อไปด้วยความเต็มใจ
อีกไม่นานได้ข่าวว่าเจ้าเมืองเซงจิวฮู้มีหนังสือไปยังเมืองหลวง ให้ยกกองทัพมาปราบปรามโจรเขาเซงฮวงซัว ซ้องกั๋งจึงชวนพรรคพวก ให้อพยพไปอยู่ที่เขาเนียซัวเปาะ ซึ่งมี เตียวไก่ เพื่อนของซ้องกั๋งเป็นหัวหน้าอยู่
ซ้องกั๋งถามความสมัครใจของพวกสมุนโจร กับทหารเลวที่ได้มาใหม่ ผู้ใดไม่เต็มใจก็ให้เงินทองไว้ทำมาหากินต่อไป
ซ้องกั๋งจึงให้พรรคพวกทั้งหมดรออยู่ที่นั้นก่อน ตนเองกับเอียนสุน จะพาไพร่พลประมาณสามพัน เดินทางล่วงหน้าไปบอกกล่าวให้เตียวไก่รู้ตัวก่อน
แต่เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมชายเขตแดนเขาเนียซัวเปาะ ก็เจอ เจียย้ง ซึ่งซ้องเซ็งน้องชายของซ้องกั๋ง ใช้ให้มาตามซ้องกั๋งกลับไปบ้าน เพราะบิดาถึงแก่ความตายเสียแล้ว ซ้องกั๋งก็เสียใจยิ่งนัก จำต้องรีบกลับบ้าน จึงเขียนหนังสือ แนะนำตัวพวกพ้องฝากเอียนสุน ให้พาขบวนที่ตามมาข้างหลังเข้าไปหาเตียวไก่
ส่วนตนเองก็เร่งเดินทาง กลับไปยังตำบลหุนเสียกุ้ย ที่เมืองเจ๋จิวฮู้บ้านเดิม พร้อมกับเจียย้งโดยด่วน
พรรคพวกของซ้องกั๋งทั้งแปดคน จึงพากันไปเขาเนียซัวเปาะโดยไม่มีผู้นำ แต่เตียวไก่ โงวหยง และ ลิมชอง ซึ่งเป็นใหญ่อยู่ในขบวนการนี้ ได้รับหนังสือแนะนำของซ้องกั๋งจากเอียนสุน แล้ว ก็ยินดีต้อนรับด้วยความเต็มใจ จัดที่อยู่ที่พักและเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
รวมหัวหน้าที่อยู่เขาเนียซัวเปาะแต่เดิมมีสิบสองคน ได้เพิ่มมาใหม่อีกแปดคนรวมเป็นยี่สิบคน ก็แบ่งตำแหน่งหน้าที่การปกครองบังคับบัญชา ลดหลั่นกันไปโดยไม่มีผู้ใดขัดข้อง.
##########
นิตยสารโล่เงิน
เมษายน ๒๕๔๐
ขุนนางใจแม่น้ำ (๕) ๑๔ ส.ค.๕๘
ซ้องกั๋ง.....ขุนนางใจแม่น้ำ
ตอนที่ ๕ เวรยังไม่ระงับ
"เล่าเซี่ยงชุน"
เมื่อ อึงซิน ขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายทหารของเมืองเซงจิวฮู้ เดินทางมาถึงบ้านของ เล่ากอ ขุนนางฝ่ายบุ๋นของตำบลเซงฮวงแจ เล่ากอก็ออกมาต้อนรับ เชิญให้นั่งในที่อันสมควร แล้วเอาตัว ซ้องกั๋ง ซึ่งปลอมชื่อเป็นเตียซา ออกมาสอบสวน
อึงซินบอกว่าไม่ต้องแล้ว ให้เอาตัวใส่เกวียนที่มีกรงขัง เขียนป้ายไว้ว่า เตียซาโจรเขาเซงฮวงซัว บ้านอยู่ตำบลหุนเสียกุ้ยแขวงเมืองเจ๋จิวฮู้ จะเอาตัวไปชำระที่เมืองเซงจิวฮู้
ซ้องกั๋งเลยไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร ยอมให้เขาเอาตัวขังไว้ในเกวียนแต่โดยดี
อึงซินถามเล่ากอว่า ที่จับเอาโจรคนนี้มาได้นั้น ฮวยหยง รู้หรือเปล่า เล่ากอบอกว่ายังไม่รู้ อึงซินจึงให้เชิญฮวยหยงมาที่บ้านเล่ากอ นั่งโต๊ะอาหารด้วยกันทั้งสามคน ฮวยหยงถามว่ามีธุระสิ่งใด อึงซินบอกว่าเจ้าเมืองเซงจิวฮู้ รู้ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองของตำบลนี้ขัดเคืองกัน จึงให้มาช่วยไกล่เกลี่ยเสียจะได้ทำราชการของเจ้านายสืบต่อไป แล้วอึงซินก็เชิญชวนให้ดื่มสุราคนละจอก
ฮวยหยงกับเล่ากอก็ดื่มสุราคนละถ้วย แต่อึงซินโยนถ้วยสุราขึ้น ทหารที่ซุ่มอยู่ก็กรูกันเข้ามาจับฮวยหยงมัดไว้ โดยไม่ทันรู้ตัว
ฮวยหยงถามว่าที่ทำดังนี้มีโทษสิ่งใด อึงซินว่าเป็นข้าราชการไปคบกับโจรเขาเซงฮวงซัว ฮวยหยงจะแก้ตัวอึงซินก็ไม่ยอมฟัง ให้เอาตัวใส่เกวียนอีกเล่มหนึ่ง คุมไปเมืองเซงจิวฮู้พร้อมกับเตียซา
ตัวของอึงซินกับเล่ากอก็ถือกระบี่ขึ้นม้า นำทหารร้อยห้าสิบคน คุมเกวียนเดินทางไปทันที ฮวยหยงเห็นเกวียนอีกเล่มหนึ่งมีหนังสือปักอยู่ รู้ว่าซ้องกั๋งถูกจับมาด้วยกัน แต่ไม่สามารถจะแก้ไขได้จึงเฉยอยู่
ขบวนเกวียนนักโทษเดินทาง ผ่านมาถึงเขาเซงฮวงซัว ก็เจอนายโจรทั้งสามคือ เอียนสุน อองเอง และ แต้เทียนซิว คุมพวกโจรมาซุ่มดักอยู่ในป่า
อึงซินจึงให้เล่ากอดูแลเกวียน ตนเองนำทหารออกไปคอยสู้กับพวกโจร นายโจรแกล้งร้องว่า พวกที่จะเดินทางผ่านไปนี่ ต้องเอาเงินค่าทางสามพันตำลึงมามอบให้ก่อน จึงจะผ่านไปได้
อึงซินชักม้าออกมาหน้าทหาร ร้องบอกว่าเงินไม่มีจะทำไม นายโจรทั้งสามก็เข้ารุมรบกับอึงซิน จนเห็นท่าจะไม่ไหว อึงซินกลัวจะเสียทีจึงควบม้าหนีออกจากขบวน เอาตัวรอดไปแต่ผู้เดียว
พวกทหารก็รวนเรไม่เป็นอันจะต่อสู้ พวกโจรจึงไล่ฆ่าฟันแตกหนีไปหมด แล้วจับตัวเล่ากอมัดไว้ และแก้ไขเอาซ้องกั๋งกับฮวยหยงออกมาจากเกวียนได้ ซ้องกั๋งก็ให้นำตัวเล่ากอมาซักถามว่า
"....เจ้ากับเราก็ไม่ได้มีสาเหตุสิ่งใดกัน เหตุใดจึงเชื่อภรรยาหญิงร้าย ให้เฆี่ยนเราจนยับเยิน...."
ฮวยหยงห้ามว่าคนเช่นนี้ไปถามมันทำไม พูดแล้วก็คว้ากระบี่ฟันเล่ากอคอขาดตาย
พอรุ่งขึ้นอีกวัน พวกโจรไปสืบข่าวได้ความว่า อึงซินกลับไปตั้งหลักอยู่ที่ตำบลเซงฮวงแจ เกณฑ์ทหารรักษาประตูเชิงเทินไว้ แล้วให้ม้าใช้ถือหนังสือไปแจ้งข่าวที่เมืองเซงจิวฮู้ บัดนี้เจ้าเมืองได้สั่งให้ ฉินเหม็ง นายทหารใหญ่ที่มีฝีมือ ยกกองทัพมีกำลังทหารม้าร้อยหนึ่ง เดินเท้าอีกสี่ร้อย มาจวนถึงเซงฮวงซัวอยู่แล้ว
ฮวยหยงก็อาสาพวกโจร คุมไพร่พลลงจากเขามาคอยรับมือ โดยใช้ให้ลิ่วล้อขุดคูไว้ที่เชิงเขาเป็นทางให้น้ำไหลลงมาจากข้างบน แล้วเอากระสอบใส่ดินทรายปิดเป็นทำนบไว้ตอนเหนือ และขุดหลุมพรางไว้ตามทางที่จะขึ้นเขาเอาหญ้าปิดคลุมไว้
ฉินเหมงยกทหารมาตั้งค่ายอยู่ห่างเขาประมาณสิบลี้ พอพักหายเหนื่อยก็พา ทหารออกจากค่ายขึ้นไปบนเขา ฮวยหยงจึงคุมบริวารมาประจันหน้ากันแล้วยกมือคำนับ ฉินเหมง ร้อง ตวาดว่า
"...เจ้าเป็นขุนนางฝ่ายทหารได้เบี้ยหวัดเงินเดือน เจ้านายใช้ให้มาดูแลว่ากล่าวอยู่ที่ตำบลเซงฮวงแจ เหตุใดจึงมาคบกับพวกโจรคิดเป็นขบถดังนี้..."
ฮวยหยงก็หัวเราะตอบว่า
"....เรามิได้คิดขบถประทุษร้ายต่อแผ่นดิน แต่เห็นว่าที่ตำบลเซงฮวงแจนี้อยู่เป็นสุขมาไม่มีเหตุการณ์สิ่งใด เล่ากอคิดก่อเหตุหาความขึ้น แล้วก็ไม่ว่ากล่าวตามกฎหมาย แกล้งข่มเหงกดขี่ทำให้เราได้รับความเดือดร้อน พลัดพรากจากญาติพี่น้อง จึงได้มาสำนักอยู่ที่เขานี้....."
ฉินเหมงก็ ไม่ฟังขับม้าพาทหารเข้ามาใกล้ ฮวยหยงจึงว่า
"....เราเห็นท่านเป็นใหญ่กว่า จึงได้พูดแต่โดยดี สำคัญว่าเรากลัวฝีมือและสติปัญญาหรือ..."
ฉินเหมงได้ฟังก็โกรธควงกระบองเข้าตี ฮวยหยงสู้รบอยู่ได้ถึงห้าสิบเพลง ก็แกล้งทำเป็นแพ้ชักม้าหนี ฉินเหมงรีบไล่ตามไป ฮวยหยงหันมายิงเกาทัณฑ์ถูกหมวกฉินเหมงหลุดตกลง แล้วก็ขับม้าขึ้นเขาไป ฉินเหม งก็ไม่กล้าไล่ตาม
ขณะนั้นเวลาเย็นค่ำลงแล้ว พวกสมุนโจรที่ซุ่มอยู่ตามชายเขา ก็ตีม้าล่อขึ้นทางทิศตะวันออก ฉินเหมง นำทหารไปค้นหาก็ไม่เจอ พวกโจรก็ตีม้าล่อไปทางทิศอื่นอีก แล้วก็แอบซ่อนเสีย ฉิ นเหมงคุ มทหารไปค้นหาทั่วทั้งสี่ทิศ ก็ไม่เจอตัวพวกโจร จนเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก พวกโจรเห็นเป็นทีก็กรูกันออกมาระดมยิงเกาทัณฑ์ ลงจากยอดเขาดังห่าฝน พลทหารของฉินเหมงหาที่หลบลูกเกาทัณฑ์ ก็พากันโดดลงไปในคูชายเขาที่น้ำแห้งอยู่ พวกโจรที่อยู่ทางเหนือก็เปิดทำนบ ปล่อยน้ำไหลบ่าลงมาท่วมทหาร ที่นอนคุดคู้อยู่ในคูตายไปเป็นอันมาก พวกที่ตะกายหนีน้ำขึ้นมาได้ ก็ถูกพวกโจรจับไปได้ร้อยเจ็ดสิบคน กับม้าแปดสิบตัว
ฉินเหมงเหลืออยู่ตัวคนเดียว เห็นฮวยหยงกับซ้องกั๋งนั่งเสพสุราอยู่บนเขา ก็ร้องด่าท้าทายขึ้นไป ฮัวหยงบอกว่าวันนี้มืดค่ำลงแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาสู้กันใหม่ ฉิ นเหมงไม่ฟังหาทางจะขึ้นไปบนเขา ขับม้าเลาะไปตามทางเล็ก ๆ เลยตกลงไปในหลุมที่ขุดดักไว้ม้าล้มลง ฉิ นเหมง กระเด็นลงไปนอนอยู่บนพื้น สมุนโจรก็กลุ้มรุมกันจับมัดไว้ได้ พาตัวขึ้นไปให้นายบนเขา
ฮวยหยงก็แก้มัดฉินเหมงออก หาเสื้อผ้าใหม่มาให้เปลี่ยน เชิญให้นั่งในที่อันสมควร แล้วฮวยหยงก็ลงคุกเข่าคำนับ ฉิ นเหมงก็ว่าเมื่อจับมาได้แล้ว จงฆ่าเสียตามอาญาศึก จะคุกเข่าคำนับด้วยเหตุใด
ฮวยหยงก็แนะนำฉินเหมงให้รู้จักกับซ้องกั๋ง และนายโจรทั้งสาม ฉินเหมงก็ลุกขึ้นไปคุกเข่าคำนับซ้องกั๋ง เมื่อเห็นรอยแผลที่ขาทั้งสองข้าง ก็ถามว่าเป็นเพราะเหตุใด
ซ้องกั๋งก็เล่าความตั้งแต่ช่วยเหลือภรรยาเล่ากอ แล้วเล่ากอกลับเนรคุณจับเอาตัวไปใส่ความ และทำโทษโดยพละการ ฉิ นเหมงก็สดุ้งใจว่าตนฟังความข้างเดียว พาทหารมาล้มตายลงเป็นอันมาก จึงบอกว่าจะไปเล่าเรื่องให้เจ้าเมืองเซงจิวฮู้ได้ทราบความจริง
ซ้องกั๋งกับฮวยหยงก็ชวนให้พักอยู่ด้วยกันก่อน แล้วจัดโต๊ะมาเลี้ยงดู พร้อมทั้งทหารที่ถูกจับเป็นเชลยด้วย
ซ้องกั๋งกับฮวยหยงก็พยายามเกลี้ยกล่อม ให้ฉินเหมงเป็นพรรคพวกด้วยแต่ฉินเหมง ไม่ยินยอมแม้จะตายก็ตาม ฮวยหยงจึงจัดที่พักให้ฉิ นเหมงอยู่ก่อน แล้วแอบทำอุบายหาคนปลอมเป็นฉินเหมง คุมกองทหารกับสมุนโจรเข้าปล้นเมืองเซงจิวฮู้ ฆ่าฟันผู้คนล้มตาย และเผาบ้านช่องเสียหาย
พอฉิ นเหมงกลับไปถึงเมืองเซงจิวฮู้ ก็เข้าเมืองไม่ได้ ภรรยาและครอบครัวก็ถูกเจ้าเมืองจับไปประหารเสียสิ้น และยังมีโทษติดตัวอีกด้วย จึงต้องกลับมาเข้าเป็นพวกฮวยหยงและซ้องกั๋งด้วยความจำใจ
อยู่ต่อมาไม่นาน ซ้องกั๋งปรึกษากับนายโจรทั้งสามคน จะยกพลไปตีตำบลเซงฮวงแจ เพื่อรับเอาบุตรภรรยากับญาติของฮวยหยงมาอยู่ด้วยกัน และจะจับภรรยาเล่ากอมาชำระโทษด้วย ฉิ นเหมงก็ขออาสาจะไปทำการครั้งนี้แต่ผู้เดียว
พอเช้าวันรุ่งขึ้น ฉิ นเหมงก็แต่งตัวขึ้นม้าถือกระบองคู่มือ ลงจากเขาเข้าไปที่ตำบลเซงฮวงแจ เมื่ออึงซินเห็นว่าฉินเหมงนายทหารผู้ใหญ่จากเมืองเซงจิวฮู้มาเพียงคนเดียว ก็เชิญเข้าไปข้างในจัดที่อันสมควรให้นั่ง แล้วก็ถามว่ามาด้วยธุระสิ่งใดหรือ
ฉิ นเหมงก็เกลี้ยกล่อมให้อึงซิน เข้าเป็นพวกซ้องกั๋งเช่นเดียวกับตน อึงซินได้ยินชื่อเสียงของซ้องกั๋งมานานแล้ว ก็ว่าซ้องกั๋งอยู่ที่ไหนจะไปหา ฉิ นเหมงว่าคนที่เอาตัวบรรทุกเกวียนจำขัง และเขียนชื่อว่าเตียซานั่นแหละคือซ้องกั๋ง เวลานี้อยู่กับพรรคพวกที่เขาเซงฮวงซัว
อึงซึนก็ว่าไม่รู้เลย ถ้ารู้ก็คงจะปล่อยไปเสียแล้ว ไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงจนชีวิตเกือบจะไม่รอดกลับมา ทั้งนี้เป็นเพราะฟังความข้างเดียวจากเล่ากอนั่นเอง
ฝ่ายซ้องกั๋งเมื่อฉิ นเหมงลงจากเขาไปแล้ว ก็จัดไพร่พลให้เอียนสุนกับอองเองคุมไปทางหนึ่ง ตนเองกับฮวยหยงคุมไปอีกทางหนึ่ง มาบรรจบกันที่ตำบล เซงฮวงแจ อึงซินก็ต้อนรับเป็นอันดี
ซ้องกั๋งให้พวกพ้องไปจับบุตรภรรยาและญาติมิตรของ เล่ากอ และขนทรัพย์สมบัติบรรทุกใส่เกวียนมาให้หมดสิ้น แต่อย่าได้ทำอันตรายแก่ราษฎรชาวบ้าน ฮัวหยงก็ไปรับภรรยากับรวบรวมทรัพย์สินของตนขึ้นเกวียน พากันกลับมาที่เขาเซงฮวงซัว พร้อมกับอึงซินด้วย
อองเองนายโจรที่สองก็ยังต้องการภรรยาของเล่ากอไว้ ซ้องกั๋งว่านางนี้เป็นหญิงชั่วจะเลี้ยงไว้ทำไมจงเอาตัวมาไต่สวน อองเองก็พาภรรยาเล่ากอเข้ามา นางก็ร้องขอชีวิต ซ้องกั๋งก็ว่า
".....เราก็ได้บอกแล้วว่าไม่ได้อยู่ที่เขานี้ เป็นคนเมืองเจ๋จิวฮู้ เจ้าก็ย่อมรู้อยู่ทั้งสิ้น ยังกลับไปบอกเล่ากอสามีว่าเราเป็นโจร จับไปเฆี่ยนตีจนยับเยิน ใจของเจ้านี้ช่างกระไร จะแกล้งฆ่าคนเสียทั้งเป็น....."
เอียนสุนก็ว่าหญิงเช่นนี้ไปถามมันทำไม แล้วก็ชักกระบี่ฟันภรรยาเล่ากอ ตัวขาดสองท่อนตายไป
อองเองก็โกรธชักกระบี่ออกจะต่อสู้กับเอียนสุน ซ้องกั๋งกับพรรคพวกห้ามปรามไว้ว่าจะเลี้ยงหญิงนี้ไว้ทำไม จงหาที่อื่นเอาใหม่เถิด แล้วก็เกลี้ยกล่อมจนอองเองได้สติหายโกรธ
เมื่อพักอยู่ที่เขาเซงฮวงซัวได้สามสี่วัน ถึงฤกษ์ดีซ้องกั๋งก็เป็นเถ้าแก่ขอน้องสาวของฮวยหยง ให้เป็นภรรยาฉิ นเหมงแทนภรรยาที่ถูกฆ่าตายไป ฉิ นเหมงก็อยู่กับขบวนโจรเขาเซงฮวงซัวต่อไปด้วยความเต็มใจ
อีกไม่นานได้ข่าวว่าเจ้าเมืองเซงจิวฮู้มีหนังสือไปยังเมืองหลวง ให้ยกกองทัพมาปราบปรามโจรเขาเซงฮวงซัว ซ้องกั๋งจึงชวนพรรคพวก ให้อพยพไปอยู่ที่เขาเนียซัวเปาะ ซึ่งมี เตียวไก่ เพื่อนของซ้องกั๋งเป็นหัวหน้าอยู่
ซ้องกั๋งถามความสมัครใจของพวกสมุนโจร กับทหารเลวที่ได้มาใหม่ ผู้ใดไม่เต็มใจก็ให้เงินทองไว้ทำมาหากินต่อไป
ซ้องกั๋งจึงให้พรรคพวกทั้งหมดรออยู่ที่นั้นก่อน ตนเองกับเอียนสุน จะพาไพร่พลประมาณสามพัน เดินทางล่วงหน้าไปบอกกล่าวให้เตียวไก่รู้ตัวก่อน
แต่เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมชายเขตแดนเขาเนียซัวเปาะ ก็เจอ เจียย้ง ซึ่งซ้องเซ็งน้องชายของซ้องกั๋ง ใช้ให้มาตามซ้องกั๋งกลับไปบ้าน เพราะบิดาถึงแก่ความตายเสียแล้ว ซ้องกั๋งก็เสียใจยิ่งนัก จำต้องรีบกลับบ้าน จึงเขียนหนังสือ แนะนำตัวพวกพ้องฝากเอียนสุน ให้พาขบวนที่ตามมาข้างหลังเข้าไปหาเตียวไก่
ส่วนตนเองก็เร่งเดินทาง กลับไปยังตำบลหุนเสียกุ้ย ที่เมืองเจ๋จิวฮู้บ้านเดิม พร้อมกับเจียย้งโดยด่วน
พรรคพวกของซ้องกั๋งทั้งแปดคน จึงพากันไปเขาเนียซัวเปาะโดยไม่มีผู้นำ แต่เตียวไก่ โงวหยง และ ลิมชอง ซึ่งเป็นใหญ่อยู่ในขบวนการนี้ ได้รับหนังสือแนะนำของซ้องกั๋งจากเอียนสุน แล้ว ก็ยินดีต้อนรับด้วยความเต็มใจ จัดที่อยู่ที่พักและเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
รวมหัวหน้าที่อยู่เขาเนียซัวเปาะแต่เดิมมีสิบสองคน ได้เพิ่มมาใหม่อีกแปดคนรวมเป็นยี่สิบคน ก็แบ่งตำแหน่งหน้าที่การปกครองบังคับบัญชา ลดหลั่นกันไปโดยไม่มีผู้ใดขัดข้อง.
##########
นิตยสารโล่เงิน
เมษายน ๒๕๔๐