แฟนผมเกือบโดนข่มขืนเพราะความไว้ใจ แวะมาเตือนครับ

สวัสดีครับผมชื่อเนส เรียนคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวบางเขน ส่วนแฟนผม ผมขอเรียกว่าปิ่นแล้วกัน เธอเรียนบริหารครับที่เดียวกัน ผมรู้จักเธอตั้งแต่เธอเขามาเป็นเฟรชชี่แล้ว เด็กผู้หญิงคอนแวนต์ที่ยืนเอ๋อๆไปคณะไม่ถูก เธอไม่ใช่คนสวยผมกล้าพูดเลยว่าเธอไม่สวย แต่เธอน่ารัก มีเสน่ห์ของตัวเอง เธอไม่แต่งหน้าจัด แค่ทาแป้ง ทาลิปมัน กรีดอาย มีแค่นั้นตั้งแต่คบกันมา เธอเป็นผู้หญิงสนุกๆ บ้าๆบอๆ เฟรนลี่ไปกับทุกคน จนไปเตะตารุ่นพี่ที่คณะเธอล่ะ เธอไว้ใจรุ่นพี่คนนี้มาก ซึ่งผมเป็นแฟน ผมหึงอยู่แล้ว จนวันเลี้ยงรุ่นหรือวันอยากจะเลี้ยงก็ไม่รู้ รู้ว่าเธอเมามาก แล้ววันนั้นผมเรียนอยู่เลิกดึก เพื่อนเธอก็มาบอกให้ไปรับ ผมรีบไปผมรู้ดีว่าแฟนผมเมาแล้วเธอกล้าและบ้าบิ่นไปหมดทุกเรื่อง พอจอดรถผมก็เห็นรุ่นพี่คนนั้นกำลังยัดแฟนผมเข้าไปในรถ ต้องใช้คำว่ายัดล่ะเพราะเธออาละวาด ผมเลยไปดึงตัวออกมา วันต่อมาผมเลยตัดสินใจขอหมั้นเธอ ด้วยความที่ว่าพ่อแม่ผมและพ่อแม่เธอ อยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่ แต่มันดีตรงที่ว่าพ่อแม่ผมซื้อบ้านไว้แถวมหาลัยและทำเป็นลานจอดรถ เธอก็โอเค ก็ไปหมั้นตามพิธีล้านนาเพราะเธอเป็นคนเหนือ พ่อแม่ผมและพ่อแม่เธอ ยินดีมาก เราก็อยู่กันแบบสามีภรรยาล่ะครับ เลิกเรียนรอกลับบ้านพร้อมกัน กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวห้างแถวนั้นด้วยกัน หยุดยาวก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ใครบอกว่ายิ่งคบนานยิ่งหมดรัก ยิ่งทำนั้นนี้ยิ่งไม่รู้จะทำอะไร เชื่อเถอะครับ ทำไปให้เหมือนวันแรกที่คบกัน อยู่กันอย่างวันสุดท้ายของชีวิต มันจะดีมาก ดูแลกันเหมือนเพื่อน เธอเป็นคนน่ารักนะ เวลาผมเครียดเอาล่ะเสียงเพลง หรืออะไรที่หลุดโลก มาทำให้หายเครียด ชีวิตคู่ที่กำลังไปในทางที่ดี แต่มันเกือบตกเหวเพราะเมื่อวาน ย้ำครับว่าเมื่อวานจริงๆ เพราะเธอขอผมไปคุยงานรับปริญญาเพราะต้องทำซุ้มนั้นนี่ ผมก็พยักหน้าไม่ว่าอะไร แต่ในใจผมก็ไม่วางใจหรอกเพราะคนที่เธอไปคุยมันคือไปรุ่นพี่คนนั้น ผมเลยวานให้รุ่นน้องผมไปตามดู ไม่ได้ระแวงแฟนนะ ผมระแวงไอรุ่นพี่นั้นมาก พอเลิกเรียนผมก็รีบโทรหารุ่นน้อง รุ่นน้องผมบอกว่าไอรุ่นพี่นั้นพาไปคอนโด ผมเลยรีบโทรหาแฟนถามว่าจะกลับยัง แฟนผมก็บอกว่ามาคุยงานต่อที่คอนโดพี่เขาอ่า พี่เขาลืมเอาแบบมาให้ดู ผมเลยแบบโอเคเดี๋ยวรออยู่ข้างล่างนะ ไม่ต้องวางโทรศัพท์ แฟนผมก็ขำนิดหน่อยๆ เธอก็ไม่ได้วางสายอะไร ผมก็นั่งฟังไปเรื่อยๆจับใจความได้ว่า "พี่รอเรามานานล่ะนะ รอตั้งแต่เราเป็นเฟรชชี่ จนเราหมั้นกับไอหมอหมานั้น ทำไมเราไม่เห็นใจพี่หรอ" ผมก็เห้อม...จุกอกแท้ๆ รอแต่ไม่จีบ จะได้อะไรว่ะ นั่งฟังไปเรื่อยจนได้ยินทะเลาะกัน ข้าวของแตก แฟนผมหลุดตะโกนว่า "พี่กล้าข่มขืนคนท้องหรอ" เอิ่ม...อึ้งล่ะสิ กูนี่อึ้งล่ะสิ ใช่เลยครับอึ้ง- ผมรีบกดวางสายขอให้คนช่วยเปิดประตูบอกว่าลืมคีย์การ์ดไว้ กว่าจะเปิดได้เกือบครึ่งชั่วโมงที่ยืนซักฟอกประวัติกัน พอเข้ามาได้ แฟนผมวิ่งลงมาพอดี สภาพเธอพาผมอึ้งมากทั้งรอยตบ รอยต่อย เสื้อขาด ผมยุ่ง เธอกอดผมแน่นมาก สักพักไอรุ่นพี่นั้นวิ่งตามลงมา สภาพหนักกว่าเยอะ หัวแตก โดนแทง ผมเลยพาแฟนกลับโดยโทรแจ้งตำรวจเรียบร้อยข้อหาพยายามข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ผมพาเธอมาทำแผลก่อน เธอก็บ่นปวดท้องผมก็รีบเลยสิงานนี้ หมอก็บอกว่าปลอดภัยทั้งคู่ แต่ก็ระวังอย่าหาโดนอะไรกระทบกระเทือนอีก ผมก็รีบโทรบอกพ่อแม่ผมและพ่อแม่แฟนผม พวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแฟนผมเรียนหลักสูตร3ปีครึ่ง เหลือแค่ฝึกงาน คุยกับทางมหาลัยได้อยู่และ

*** ผมมาพูดเพื่อเตือนไว้ว่าภัยสังคมหรือเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดได้ทุกเมื่อ อยากให้ผู้หญิงทุกคนระวังตัวไว้ เราไม่สามารถอ่านใจเขาได้ว่าเขาจะมาแบบไหน ไม่ได้มาตั้งกระทู้เพื่ออวดแฟนหรืออะไร มาเตือนจริงๆ อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจนะครับ สำหรับผมในโชคร้ายมีโชคดีคือผมยังมีลูกและลูกยังอยู่ ยังไงก็ขอบคุณที่รับฟังนะครับ ***
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
สพ.บข นี่ vet เท่าไหร่หรอคะ พอดีไม่ค่อยคุ้นชื่อน้องผชชื่อนี้ในคณะค่ะ พอดีคณะมันแคบรู้จักกันทั้งคณะนะคะ


แล้วบอกว่าแฟนเรียน 3 ปีครึ่งอีกแปปจบ..แสดงว่าเรียนปี 3-6

ปี 3 ไม่มีน้องผู้ชายชื่อเนส
ปี 4-5 อยู่ฝั่งกำแพงแสนแล้ว
ปี 6 ก็ไม่มีทางได้เจอเฟรชชี่บางเขนแน่ เพราะข้ามฝั่งมาตอนแฟนจขกทขึ้นปี1

แล้วปี 4-6 ก็ไม่มีคนชื่อเนสด้วย...ถ้าเป็นเรื่องแต่งก็อย่าอ้างสถาบันนะคะ

ปล. ที่คณะไม่มีเลิกเรียนดึกด้วยนะคะ ตารางเรียนเย็นสุดคือ 4 โมงเย็นนะคะ
ความคิดเห็นที่ 20
บัตรผ่าน กระทู้แรก มีกระทู้เดียว บอกสถานที่หรือมหาวิทยาลัยชัดเจน ครบองค์ประกอบ เชิญห้องนิยาย
ความคิดเห็นที่ 91
ถ้าเป็นเด็กที่เรียนสัตวแพทย์จริงๆ เรื่องนี้น่าจะใกล้เคียงความจริงได้มากกว่านี้นะครับ
ช่องโหว่ของเรื่อง ความไม่สมเหตุสมผลเยอะมากครับ
1. ตอนเกิดเหตครั้งแรก แฟนคุณไปเลี้ยงรุ่น คิดว่าน่าจะเป็นช่วงปี 1 - 2 ซึ่ง ช่วงนี้นั้น เด็ก สพ. มีเรียนเลิกดึกด้วยเหรอครับ?
2. คุณขับรถไปเจอพอดี พร็อตละครไทยมากครับ อะไรมันจะพอดีขนาดนั้น?
แถมถ้าแฟนคุณโวยวายขนาดนั้น เพื่อนในรุ่นนี่ไม่ได้สนใจเลยหรือครับ? หรือเพื่อนในรุ่นของน้องผู้หญิงคนอื่นๆเป็นอากาศธาตุครับ?
3. งานเลี้ยงรุ่นของแฟนคุณ แล้วรุ่นพี่คนนั้นไปโผล่ในงานได้อย่างไร? ไปเนียนเลี้ยงรุ่นด้วย? หรือไปดักรอที่ๆจอดรถครับ?
4. เรื่องหมั้นอันนี้ไม่แปลกครับ เพราะหลายๆคนที่รู้จักก็มีกรณีแบบนี้ แต่มักจะเป็นปีท้ายๆคือปีสุดท้ายในการเรียนนะครับ
แต่แปลกใจที่เหมือนคุณหมั้นในช่วงปีแรกๆคือ ปี 1 - 2 ซึ่งมันไม่มีพ่อแม่ที่ไหนจะยินดีหรอกครับ ยกเว้นลูกมันสุดๆจริงๆ ห้ามไมไปก็แค่นั้น
5. ตรงนี้ทศไว้ในใจนะครับว่าคุณ จขกท. อยู่กับแฟน แฟนเรียน บข. ดังนั้น คุณต้องเรียนอยู่ บข. ซึ่งก็แสดงว่าคุณอยู่ไม่เกินปี 3
เพราะถ้าปีกสูงกว่านี้คุณต้องย้ายไป กพส. แล้วยกเว้นว่าโคตรฟิตขับรถไป-กลับจาก กพส. มา บข. ได้ทุกวันนะครับ
6. การคุยงานเรื่องซุ้ม ทำกันแค่สองชีวิต ทั้งคณะนี้ทั้งชั้นปีมีแค่สองชีวิตที่มีหน้าที่ทำซุ้มหรือครับ ถึงไปคอนโดกันแค่สองคน
หรือเพื่อนคนอื่นๆในคณะนี้นี้เป็นอากาศธาตุจริงๆ? มันควรจะมีหลายคน มีประชุมเป็นทีมครับ แล้วนี้มันยุค 2458 หรืออย่างไรครับที่ทุกอย่างอยู่ในกระดาษจนทำให้ต้องวื่งไปเอาที่หอ ที่บ้านอย่างเดียว ข้อมูลเป๋ไปเป๋มาแล้วมาหลวมๆแบบนี้....ชีวิตนี้เคยผ่านสิ่งที่เรียกการทำซุ้มจริงหรือเปล่าครับ?
7. เสียงคุยจากมือถือ แหมะอะไรจะได้ยินชัดขนาดนั้นครับ แฟนคุณ จขกท เปิดสปีกเกอร์ไว้หรือครับ? หรือมือถือไมค์เทพฯจะได้ไปหามาใช้บ้าง
ลองวางมือถือบนโต๊ะ ไม่เปิดสปีกเกอร์ แล้วคุยเสียงปกติซิครับ ดูว่าปลายทางจะฟังรู้เรื่องไหมครับ?
หรือรุ่นพี่คนนั้นมาแบบหื่นจัด ตะโกนด้วยน้ำเสียงแสดงความกำหนัดจน จขกท. ได้ยินครับ?
8. ถ้าแฟนผมกำลังโดนข่มขืนจริงๆ ผมคงจะค่อยๆนั่งคุยกับคุณซิเคียวริตี้ เพื่อขอความกรุณาให้เปิดประตู เป็นเวลาถึง 30 นาทีหรอกครับ
ถ้าไม่ให้คุณซีเคียวริตี้ฟังเสียงจากมือมือที่แสนชัดของคุณเพื่อให้เข้าใจสถานะการณ์ ผมคงไม่แย่งกุญแจ/คีย์การ์ด ขอจากคนแถวนั้น
หรือกระทั่งพังประตูเข้าไปเองครับ (ซึ่งกรณีแบบนี้น่าจะเกิดได้มากกว่า เพราะดูคุณรักกันมากกกกกกก ตามน้ำใส่มาตลอดเรื่องนะครับ)
9. แฟนคุณโคตรอึดเลยนะครับ วิ่งไล่จับกันเป็นหนังบอลลี่วูดตั้งครึ่งชั่วโมง ไม่ทราบว่าในห้องรุ่นพี่นั้นมีต้นไม้ หรือสนามหญ้าด้วยไหมครับ?
สภาวะที่ไม่ปกติแบบนี้ผมว่าในความเป็นจริงเราไม่สามารถมีพลังงานหรือแรงเหลือได้มากมายขนาดนั้นหรอกครับ
เพราะในสภาวะตื่นเต้น การขยับร่างกายมากกว่าปกติ การต่อสู้หรือการหลบหนี
ร่างกายจะมีการเผาผลาญพลังงานมีมากกว่าปกติ ยิ่งมีสภาพที่สภาวะทางจิตใจไม่ปกติ (เครียด ตื่นเต้น ตะหนก ตกใจ กลัว)
การควบคุมการใช้พลังงานของร่างกายยิ่งแย่นะครับ แถมร่างกายของแฟนคุณ จขกท. ยังมีร่องรอยการถูกตัว การโดนทำร้ายมาอีก
คิดว่าจะเหลือแรงวิ่งเป็นหนังบอลลี่วูดหรือครับ?
*ข้อนี้มั่วนะครับ เป็นความคิดส่วตัว ไม่ได้อ้างหลักวิทยศาสตร์ใดๆ*
10. การที่แฟนท้อง หากมหาวิทยาลัยไม่ทราบเรื่องคงไม่มีปัญหาอะไร
แต่การที่แฟนคุณอยู่ปี 3 ตอนนี้ก็ประมาณเทอมสอง จบปี 3 ต้นปีหน้า ถ้าจะเรียนจบ 3 ปีครึ่ง ต้องบวกปิดเทอม กับเรียนอีกเทอมหนึ่ง
แล้วกว่าจะรู้ว่าท้องอย่างเร็วที่สุดก็เกือบๆ 2 เดือน รวมเวลาแล้วยังไงก็ลูกคลอดก่อนจบแน่นอนครับ
หากแฟนคุณ จขกท. ต้องทำการศึกษาต่อคือยังอยากได้วุฒิ ได้ใบปริญญา
ต้องทำเรื่องระงับสภาพนักศึกษาก่อนนะครับ (ดรอปเรียนไปคลอดลูกก่อน)
และหากจะทำเรื่องได้ ก่อนหน้านั้นต้องมีการยื่นเอกสารขอระงับสภาพนักศึกษากรณีคลอดลูก ให้ทางมหาวิทยาลัย
จะมีเอกสารหนึ่งในนั้นคือใบทะเบียนสมรส ดูจากอายุตอนนี้ทั้งสองน่าจะบรรลุนิติภาวะแล้ว สามารถจดทะเบียนสมรสได้เรื่องนี้รอดไป
สุดท้ายมันไม่ได้ง่ายประเภทเดินไปพบฝ่ายการศึกษาว่า แฟนผมท้องขอเรียนต่อนะครับ แล้วเดินออกมาเลย
แล้วตามเวลาแฟนคุณจะคลอดช่วงก่อนจบพอสมควร
ดังนั้นหลังจากคลอด แฟนต้องพักฟื้น ต้องเลี้ยงลูก กว่าจะกลับมาเรียนได้ก็นานเกือบปีนะครับ
11. แฟนปี 3 คุณเรียนสัตวแพทย์ รู้ไหมครับว่าคณะนี้เรียนกี่ปี มันยังเรียนไม่จบนะครับเหลืออีก 3 - 4 ปี
คุณพร้อมจะมีรับผิดชอบลูกที่เกิดมาจริงๆเหรอครับ? ทั้งๆที่ยังแบบมือขอเงินพ่อแม่อยู่เลย กว่าคุณจะเรียนจบลูกก็เกือบเข้าอนุบาลแล้ว
และแน่นอนว่าเวลาที่ลูกคลอดจริงๆนั้นคุณก็ย้ายไป กพส. แล้ว แล้วปีสูงๆคุณต้องใช้เวลาในการเรียนมากขึ้น
เอาละซิลูกก็ต้องเลี้ยง เรียนก็ต้องเรียน เมียก็อยู่ห่างอีกแถมไม่รู้จะกลับมาเรียนอีกเมื่อไหร่ เงินก็หาเองไม่ได้ ฝึกงานก็ต้องไป
ชีวิตดูมีความสุขดีนะครับ

ปล. ถ้าผมเป็นเป็นคนพิจารณาผลงานคุณ คงโยนลงถังแล้วบอกว่างานขยะเหมาะกับถังขยะ ครั้งหน้าไปทำรีเสิร์ทใหม่มาก่อนนะ
ความคิดเห็นที่ 85
ที่โดนว่าเรื่องแต่งเพราะ ครึ่งชม.นั่นแหละค่ะ
ประสบการ์ณจริง สู้ไม่ถึงสามนาที นับจากโดนลาก
และยื้อกระชาก ล้มคว่ำกระแทกพื้น  พอหลุดได้ก็วิ่งอย่างเดียว
ครึ่งชม. คงตายอะค่ะ  โชคดีของเราผู้ชายไม่มีอาวุธ ส่วนเรา
ขาเป็นอาวุธถีบกระเด็นจังหวะ คร่อมถ้าคร่อมได้ตัวเราคงโดนต่อยแน่ๆ
เรื่องจริงมันไม่สู้กันนานขนาดนั้นหรอกค่ะ ถ้าเคสที่รอดอย่างเรานะคะ
เคยสู้กับผู้ชาย จากกรณีข่มขืนนะ แต่รอดเพราะฝ่ายชายไม่มีอาวุธ
โชคดีมากๆ สติอยู่กับตัวเลยรอดค่ะ
มีสู้ไม่รอดก็สามีเรานี้แหละ
ครึ่งชม. นี้คงโดนแล้วอะค่ะ  สามีเรามีอรัมภบทนะ  แบบว่าจะเก็บไว้ทำไม
จะเก็บให้ใคร ต้องให้แม่มาขอก่อนป่าว  ท้องเดี๋ยวรับผิดชอบเอง(ได้สามี
เพราะสู้ไม่ไหวนี้แหละ    โดน ในห้องเรานะ) ยื้อกับสามีจนหมดแรงอะค่ะ
เกือบสิบนาที พอโดนกระชากกางเกงขาด ก็ปล่อย แม่...เลย เหนื่อยแหละ
ความคิดเห็นที่ 67
"พี่กล้าข่มขืนคนท้องหรอ" เอิ่ม...อึ้งล่ะสิ กูนี่อึ้งล่ะสิ ใช่เลยครับอึ้ง- ผมรีบกดวางสายขอให้คนช่วยเปิดประตูบอกว่าลืมคีย์การ์ดไว้ กว่าจะเปิดได้เกือบครึ่งชั่วโมงที่ยืนซักฟอกประวัติกัน
^
^
^
เรื่องแต่งชัวร์ วิสัยคนเรา เจอเรื่องอย่างนี้ จะไม่กดวางหรอก  จะตกใจด่าไอ้ผู้ชายออกมา แล้วบอกมันว่า จะเเจ้งตำรวจ จะเล่นงานมันอะไรก็ว่าไป
เเล้วตอนโดนซักเปิดประตู  ไม่ใจเย็นเเบบนี้หรอก  ต้องโทรเเจ้ง 191  หรือบอกคนมีคีย์การ์ดเรื่องเเฟน เเล้วให้เขาไปพร้อมกัน  เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ขโมย

เเถมเกิดเรื่องเมื่อวานยิ่งเป็นไปไม่ได้ว่าจะมาอารัมภบทอะไรยืดยาวเเบบนี้  จะมาเล่าเเค่ที่เป็นใจความหลัก  เเล้วต้องมีน้ำเสียงเคียดเเค้นกว่านี้



-----
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่