…ถ้าถนนสายนี้ยาวมากพอ เราอาจจะได้พบกันในสักวันนะ...
ตระการตา นั่งมองภาพถนนสายนี้วันละหลายๆรอบ เป็นภาพถนนที่ตัดผ่านทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ไม่มีบ้านเรือน ไม่มีผู้คน ไม่มีใครเลยสักคน เป็นภาพที่สวยงาม หากแต่เธอรู้สึกเหงา...
ตระการตากำลังคิดว่า....
ถ้าเธอเข้าไปอยู่ในภาพนี้ จะเป็นอย่างไร...
ถ้าเธอเดินตามถนนสายนี้ มันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน....
ถ้าเดินไปแล้ว เธอจะได้พบกับใครคนนั้นที่เธอเฝ้ารอไหม...
...ตอนนี้ไม่มีใครให้คำตอบเธอได้เลย...
ภาพนี้ตระการตาได้มันมาโดยบังเอิญ เธอได้พบกับมันที่แกลอรี่วาดภาพในจังหวัดเชียงใหม่ เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายภาพนี้ เจ้าของร้านบอกเพียงว่าเป็นภาพที่รุ่นน้องฝากมาขาย
ตระการตาจ้องมองภาพนี้เนิ่นนาน...นานจนน้ำตาเริ่มเอ่อล้นหัวใจ
ใช่...หัวใจเธอกำลังร้องไห้...
ตระการตาคิดว่าบุคคลที่ถ่ายภาพนี้คงใช้หัวใจในการถ่ายภาพ เช่นเดียวกับที่เธอกำลังใช้หัวใจมองดูภาพนี้เช่นกัน....
......ช่างเหงาจับใจ.............
ตระการตาไม่ลังเลที่จะซื้อภาพนั้นติดตัวกลับมา โดยทิ้งที่อยู่ของเธอไว้ที่ร้าน ถ้าหากโชคเข้าข้างเธอ
เขาคนนั้น-เจ้าของภาพถ่ายใบนี้ จะกลับมาที่ร้านอีกครั้ง
ทุกๆวันตระการตาจะมองภาพนี้และยิ้มให้กับมัน รอยยิ้มเธอช่างน่าเศร้า...
ไม่มีการติดต่อกลับจากเจ้าของภาพถ่าย จากอาทิตย์เป็นเดือน จากเดือนเป็นปี....
...ตอนนี้ตระการตาดูเหงายิ่งกว่าภาพถ่ายใบนั้นเสียอีก...
เหมือนดั่งสายรุ้งทอแสงหลังจากที่ฝนตกอย่างหนัก ตระการตายิ้มได้อีกครั้ง เธอเปรียบเสมือนลูกนกที่หัดบินต้อนรับแสงอรุณยามเช้า
ภาพโปสการ์ดหลายใบถูกส่งมาที่บ้านของเธอทุกวัน โดยภาพเหล่านั้นเป็นภาพเกี่ยวกับถนนทั้งสิ้น มันถูกส่งมาถึงเธอ เขียนเล่าเรื่องราวที่ได้พบเจอในชีวิตประจำวัน ทว่าไม่ระบุชื่อผู้ส่ง...
...ถนนเหล่านั้น เขาถ่ายเมื่อไปเที่ยวตามที่ต่างๆ และส่งมาถึงเธอ...
ตระการตาหลงรักภาพถ่ายเหล่านั้น...และเธอก็กำลังหลงรักคนที่ถ่ายภาพเช่นกัน
ตระการตาสงสัยว่าเหตุใดเขาจึงต้องถ่ายภาพถนนเหล่านี้เพื่อส่งมาให้เธอ ภาพเหล่านี้มีความหมายอย่างไรหรือ..
เธอเพิ่งค้นพบคำตอบเมื่อไม่นานมานี้ เธอหยิบภาพถ่ายโปสการ์ดเหล่านั้นมาเรียงลำดับตั้งแต่ใบแรกจนถึงใบล่าสุดที่ส่งมา
ภาพเหล่านั้นนอกจากจะมีถนนเป็นองค์ประกอบหลักแล้ว ยังมีป้ายชื่อจังหวัดต่างๆ นั้นๆ ติดมาด้วย
ภาพถ่ายใบสุดท้ายเป็นถนนหน้าปากซอยบ้านของเธอเอง...
ใช่แล้ว...เขากำลังเดินทางมาหาเธอ...
เช้าวันนี้ตระการตาสดใสเป็นพิเศษ เธอแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน และออกเดินทางไปยังร้านถ่ายรูป เธอนำรูปถ่ายโปสการ์ดไปจัดเป็นภาพขนาดใหญ่ เพื่อมอบให้แก่เขา
ตระการตากลับเข้าบ้านในตอนบ่าย เธอเห็นหลายคนกำลังมุงอยู่ที่หน้าบ้านของเธอ ตระการตาไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นกำลังมุงดูอะไร แต่สัญชาตญาณบอกให้เธอวิ่ง
วิ่ง....วิ่ง........วิ่ง .........
ภาพตรงหน้าคือ....ชายคนหนึ่ง
ชายคนนั้นนอนจมกองเลือดขณะที่ในมือถือรูปถ่ายใบหนึ่งไว้ ชาวบ้านบอกว่าชายคนนี้กำลังยืนถ่ายรูปหน้าบ้านของเธอ และถูกรถชน เขาพยายามที่จะคลานพาตัวเองมาอยู่ตรงหน้าบ้าน แล้วเขียนข้อความลงในภาพถ่ายใบนั้น หลายคนพยายามที่จะพาเขาไปโรงพยาบาล แต่เขาก็ยืนยันที่จะรอเธอ...
รอ...จนลมหายใจสุดท้าย
ตระการตาทรุดลงร่ำไห้ เธอหยิบภาพถ่ายใบนั้นขึ้นมาดู มันเป็นภาพประตูหน้าบ้านของเธอเอง
“ ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน...”
ข้อความสุดท้ายที่เขาเขียนถึงเธอ
ตระการตามองดูภาพถ่ายโปสการ์ดรูปถนนที่เขาบรรจงถ่ายเพื่อเธอ แล้วน้ำตาก็หลั่งริน...
......บางครั้ง ถนนสายนี้อาจจะกว้างและไกลเกินกว่าที่เราจะได้พบกัน...
ถนนสายความรัก
ตระการตา นั่งมองภาพถนนสายนี้วันละหลายๆรอบ เป็นภาพถนนที่ตัดผ่านทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ไม่มีบ้านเรือน ไม่มีผู้คน ไม่มีใครเลยสักคน เป็นภาพที่สวยงาม หากแต่เธอรู้สึกเหงา...
ตระการตากำลังคิดว่า....
ถ้าเธอเข้าไปอยู่ในภาพนี้ จะเป็นอย่างไร...
ถ้าเธอเดินตามถนนสายนี้ มันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน....
ถ้าเดินไปแล้ว เธอจะได้พบกับใครคนนั้นที่เธอเฝ้ารอไหม...
...ตอนนี้ไม่มีใครให้คำตอบเธอได้เลย...
ภาพนี้ตระการตาได้มันมาโดยบังเอิญ เธอได้พบกับมันที่แกลอรี่วาดภาพในจังหวัดเชียงใหม่ เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายภาพนี้ เจ้าของร้านบอกเพียงว่าเป็นภาพที่รุ่นน้องฝากมาขาย
ตระการตาจ้องมองภาพนี้เนิ่นนาน...นานจนน้ำตาเริ่มเอ่อล้นหัวใจ
ใช่...หัวใจเธอกำลังร้องไห้...
ตระการตาคิดว่าบุคคลที่ถ่ายภาพนี้คงใช้หัวใจในการถ่ายภาพ เช่นเดียวกับที่เธอกำลังใช้หัวใจมองดูภาพนี้เช่นกัน....
......ช่างเหงาจับใจ.............
ตระการตาไม่ลังเลที่จะซื้อภาพนั้นติดตัวกลับมา โดยทิ้งที่อยู่ของเธอไว้ที่ร้าน ถ้าหากโชคเข้าข้างเธอ
เขาคนนั้น-เจ้าของภาพถ่ายใบนี้ จะกลับมาที่ร้านอีกครั้ง
ทุกๆวันตระการตาจะมองภาพนี้และยิ้มให้กับมัน รอยยิ้มเธอช่างน่าเศร้า...
ไม่มีการติดต่อกลับจากเจ้าของภาพถ่าย จากอาทิตย์เป็นเดือน จากเดือนเป็นปี....
...ตอนนี้ตระการตาดูเหงายิ่งกว่าภาพถ่ายใบนั้นเสียอีก...
เหมือนดั่งสายรุ้งทอแสงหลังจากที่ฝนตกอย่างหนัก ตระการตายิ้มได้อีกครั้ง เธอเปรียบเสมือนลูกนกที่หัดบินต้อนรับแสงอรุณยามเช้า
ภาพโปสการ์ดหลายใบถูกส่งมาที่บ้านของเธอทุกวัน โดยภาพเหล่านั้นเป็นภาพเกี่ยวกับถนนทั้งสิ้น มันถูกส่งมาถึงเธอ เขียนเล่าเรื่องราวที่ได้พบเจอในชีวิตประจำวัน ทว่าไม่ระบุชื่อผู้ส่ง...
...ถนนเหล่านั้น เขาถ่ายเมื่อไปเที่ยวตามที่ต่างๆ และส่งมาถึงเธอ...
ตระการตาหลงรักภาพถ่ายเหล่านั้น...และเธอก็กำลังหลงรักคนที่ถ่ายภาพเช่นกัน
ตระการตาสงสัยว่าเหตุใดเขาจึงต้องถ่ายภาพถนนเหล่านี้เพื่อส่งมาให้เธอ ภาพเหล่านี้มีความหมายอย่างไรหรือ..
เธอเพิ่งค้นพบคำตอบเมื่อไม่นานมานี้ เธอหยิบภาพถ่ายโปสการ์ดเหล่านั้นมาเรียงลำดับตั้งแต่ใบแรกจนถึงใบล่าสุดที่ส่งมา
ภาพเหล่านั้นนอกจากจะมีถนนเป็นองค์ประกอบหลักแล้ว ยังมีป้ายชื่อจังหวัดต่างๆ นั้นๆ ติดมาด้วย
ภาพถ่ายใบสุดท้ายเป็นถนนหน้าปากซอยบ้านของเธอเอง...
ใช่แล้ว...เขากำลังเดินทางมาหาเธอ...
เช้าวันนี้ตระการตาสดใสเป็นพิเศษ เธอแต่งตัวสวยกว่าทุกวัน และออกเดินทางไปยังร้านถ่ายรูป เธอนำรูปถ่ายโปสการ์ดไปจัดเป็นภาพขนาดใหญ่ เพื่อมอบให้แก่เขา
ตระการตากลับเข้าบ้านในตอนบ่าย เธอเห็นหลายคนกำลังมุงอยู่ที่หน้าบ้านของเธอ ตระการตาไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นกำลังมุงดูอะไร แต่สัญชาตญาณบอกให้เธอวิ่ง
วิ่ง....วิ่ง........วิ่ง .........
ภาพตรงหน้าคือ....ชายคนหนึ่ง
ชายคนนั้นนอนจมกองเลือดขณะที่ในมือถือรูปถ่ายใบหนึ่งไว้ ชาวบ้านบอกว่าชายคนนี้กำลังยืนถ่ายรูปหน้าบ้านของเธอ และถูกรถชน เขาพยายามที่จะคลานพาตัวเองมาอยู่ตรงหน้าบ้าน แล้วเขียนข้อความลงในภาพถ่ายใบนั้น หลายคนพยายามที่จะพาเขาไปโรงพยาบาล แต่เขาก็ยืนยันที่จะรอเธอ...
รอ...จนลมหายใจสุดท้าย
ตระการตาทรุดลงร่ำไห้ เธอหยิบภาพถ่ายใบนั้นขึ้นมาดู มันเป็นภาพประตูหน้าบ้านของเธอเอง
“ ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน...”
ข้อความสุดท้ายที่เขาเขียนถึงเธอ
ตระการตามองดูภาพถ่ายโปสการ์ดรูปถนนที่เขาบรรจงถ่ายเพื่อเธอ แล้วน้ำตาก็หลั่งริน...
......บางครั้ง ถนนสายนี้อาจจะกว้างและไกลเกินกว่าที่เราจะได้พบกัน...