1. สมาทานวิรัติ .. คือ การเอาพระเป็นพยานในการรับและรักษา
2. เจตนาวิรัติ .. คือ การรักษาศีลโดยไม่ต้องมีผู้ใดเป็นพยาน(สมาทาน)
3. สัมปัตตวิรัติ .. คือ งดเว้นเฉพาะหน้า อย่างมีสัตว์ที่จะฆ่า แต่เรางดเว้นซะ ด้วยความละอายบาป
4. สมุจเฉทวิรัติ .. คือ งดเว้นตลอดไป โดยมากเป็นคุณสมบัติของพระอริยะเจ้า
ที่เราสมาทานกันอยู่นี้คือการเอาพระเป็นพยานนะ ไม่ใช่ท่านมอบศีลให้เรา ศีลจะเกิดขึ้นแก่ท่านผู้มีเจตนางดเว้นเท่านั้น
--- หลวงตามหาบัว กล่าวในงานบำเพ็ญกุศล 100 วัน หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ---
ปล. จขกท. แกะคำเทศน์ของท่านมีใจความโดยสรุปตามเนื้อกระทู้ แต่ไม่ได้ตรงเปะทุกคำ เพื่อความกระชับของเนื้อความ
ศีล .. โดย หลวงตามหาบัว
2. เจตนาวิรัติ .. คือ การรักษาศีลโดยไม่ต้องมีผู้ใดเป็นพยาน(สมาทาน)
3. สัมปัตตวิรัติ .. คือ งดเว้นเฉพาะหน้า อย่างมีสัตว์ที่จะฆ่า แต่เรางดเว้นซะ ด้วยความละอายบาป
4. สมุจเฉทวิรัติ .. คือ งดเว้นตลอดไป โดยมากเป็นคุณสมบัติของพระอริยะเจ้า
ที่เราสมาทานกันอยู่นี้คือการเอาพระเป็นพยานนะ ไม่ใช่ท่านมอบศีลให้เรา ศีลจะเกิดขึ้นแก่ท่านผู้มีเจตนางดเว้นเท่านั้น
--- หลวงตามหาบัว กล่าวในงานบำเพ็ญกุศล 100 วัน หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ---
ปล. จขกท. แกะคำเทศน์ของท่านมีใจความโดยสรุปตามเนื้อกระทู้ แต่ไม่ได้ตรงเปะทุกคำ เพื่อความกระชับของเนื้อความ