คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 33
..ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายตำรวจเก่าที่เรียนเก่งได้รับทุนไปเรียนจนจบด๊อกเตอร์จากเมืองนอก เมื่อกลับมารับราชการไม่นานก็ลาออกไปทำธุรกิจ..ล้มลุกคลุกคลานมานาน จนบางครั้งมีเงินเหลือในกระเป๋า แค่ 200 บาท..ทักษิณมาประสบผลสำเร็จในธุรกิจ เมื่อใจกล้า บ้าบิ่นสร้างดาวเทียมดวงแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของคนไทยประเทสไทยมากจนได้รับพระมหากรูณาธิคุณจากในหลวงทรงตั้งชื่อให้ว่า " ไทยคม"..เป็นดาวเทียมที่ใช้ประโยชน์ทางการสื่อสารมากมาย....และทักษิณก็ประสบผลสำเร็จจากธุรกิจการสื่อสารให้บริการคลื่นโทรศัพท์มือถือ AIS จนร่ำรวยมหาศาลมีทรัพย์สินนับหมื่นๆล้าน
..ต่อมาทักษิณเข้าสู่การเมือง จนได้ก้าวมาได้ตำแหน่ง รมต. และอยู่ในสังกัดพรรคพลังธรรมของมหาจำลอง เมื่อมหาจำลองลงจากหัวหน้าพรรคก็ผลักดันให้ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ทำให้นายชัยวัฒน์ สินสุวงค์โกรธแค้น เกลียดชังทักษิณ และแตกแยกกับมหาจำลองเพราะทักษิณตัดหน้าเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคไป..เมื่อทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคก็ยังอยู่ในการครอบงำของมหาจำลอง ทำให้ทักษิณอึดอัด จนลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังธรรม ทำให้พรรคพลังธรรมสูยสลาย..เป็นที่มาสร้างความโกรธแค้น เกลียดชังแก่มหาจำลองอย่างมาก
..ต่อมาทักษิณเข้าสังกัดพรรคความหวังใหม่ของคุณชวลิต ได้ตำแหน่ง รมต.ช่วงนั้นประเทศไทยกำลังเกิดภาวะเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จนชวลิตประกาศยุบสภา
..พรรค ประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลต่อแต่แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ หนำซ้ำทีมเศรษฐกิจแตกแยกจนคุณธารินทร์ กับคุณศุภชัยได้ฉายา " เกาเหลา" และกลับทำผิดพลาดจนทำให้ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านจากการขายทรัพย์สินสถาบันการเงิน ไฟแนนซ์จนต้องเข้าไปกู้ยืมเงินเป็นทาส IMF ยอมทำสัญญาญาทาส 11 ฉบับกับ IMF ประเทศไทยเป็ยหนี้มหาศาล จนมีการกล่าวว่าคนไทยเกิดมาปุ๊บจะมีหนี้ติดตัวทันทีคนละ 2000 กว่าบาท
.....ทักษิณมาตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคไทยรักไทย ที่ตั้งสโลแกนว่า คิดใหม่ ทำใหม่ เพราะทักษิณเป็นคนหัวก้าวหน้า คิดนอกกรอบ และหาเสียงด้วยการชูนโยบายใช้หนี้ปลดปล่อยประเทศจาก IMF ภายใน 2ปี ประชาชนคนไทยกำลังหมดความหวังก้หันมาเทคะแนนให้ทักษิณจนพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลายได้เป็นรัฐบาล และทักษิณก็ทำได้ตามที่ประกาศหาเสียง สามารถใช้หนี้ IMF ได้ภายใน 2 ปีจริงๆ.
...หลังจากเป็นรัฐบาลทักษิณก็มาปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่โดยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจระบบจุลภาค รากฐานคือประชาชน ธุรกิจ การผลิตขนาดเล็ก ขนาดย่อมในประเทศ ให้เข้มแข็ง ควบคู่ไปกับธุรกิจมหภาคคือสถาบันการเงินต่างๆ โรงงานการผลิตขนาดใหญ่ การส่งออก การค้าการขายกับต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความสมดุลย์ ค้ำยันกัน ..ผลที่ตามมาคือเมื่อธุรกิจมหภาคประสบปัญหา ก็จะยังมีธุรกิจจุลภาคค้ำยันไว้ ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศทั้งหมดยังยืนหยัดอยู่ได้..นี่คือระบบเศรษฐกิจที่ทีมเศรษฐกิจของทักษิณสร้างไว้จนมาถึงปัจจุบัน ทำให้เศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งไม่มีปัญหา ได้รับผลกระทบน้อยแม้ระบบเศรษฐกิจโลกจะประสบปัญหาดังที่ผ่านมาก็ตาม
...นี่คือที่มาของนโยบายของทักษิณเกี่ยวกับ SME SML การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน การพักหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ ก็เพื่อสนับสนุน ระบบเศรษฐกิจจุลภาคให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสร้างความเข้มแข็ง
....ซึ่งแต่เดิมก่อนทักษิณมานั้นนั้นระบบเสรษฐกิจของไทยขึ้นอยู่กับระบบมหภาค สถาบันการเงิน การผลิตขนาดใหญ่ การค้าการขายการส่งออกเป็นหลักเพราะได้รับนโยบายการสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ระบบจุลภาคคือประชาชน การผลิตการขายขนาดเล้ก ขนาดย่อมในประเทศอ่อนแอเพราะไม่มีนโยบาย ไม่ได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุนให้โอกาส ....ดังนั้นเมื่อระบบเศรษฐกิจมหภาคประสบปัยหา ล้มลง ก็พาให้ระบบจุลภาคล้มลงไป ทำให้ระบบเศรฐกิจของประเทศล้มไปทั้งระบบ
...ต่อมาทักษิณมีนโยบายใหญ่คือการปฎิรูประบบราชการ ปรับเปลี่ยน ยกเลิก ปรับรวม และตั้งกระทรวง ทบวงกรมใหม่หมด โดยเน้นเล็ก ประหยัดงบประมาณ+บุคลากร แต่มีประสิทธิภาพ ฉับไว รวดเร็วในทุกๆด้าน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นรากฐานให้ระบบราชการกระทรวง ทบวงกรมไทยมาจนถึงทุกวันนี้
..ผู้ว่าราชการแต่เดิมเป็นระบบเจ้าขุนมูลนาย เป็นเจ้าเมืองที่ประชาชนต้องหมอบกราบ แต่มายุคทักษิณ ผู้ว่าราชการต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ต้องเก่ง รอบรู้ ฉับไว บริหารจัดการแก้ไขปัญหาในจังหวัดได้ เป็นที่มาของคำว่า " ผู้ว่า CEO"
...นอกจากนี้ทักษิณยังมีนโยบาย " เปลี่ยนเส้นทางชีวิต" ให้ข้าราชการที่ต้องการลาออกจากราชการก่อนเกษียณ ที่เรียกว่า เออรี่รีไทม์ ก็คือการจ้างให้ข้าราชการที่ต้องการ สมัครใจลาออกไปก่อนเกษียณ เพื่อลดจำนวนข้าราชการ และลดข้าราชการประเภท " เช้าชามเย็นชาม" ให้พ้นไปจากระบบราชการนั่นแหละ
...แน่นอนนโยบายนี้ย่อมสร้างความไม่พอใจแก่ข้าราชการระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัดรุ่นเก่า เหลาเหย่มากมาย เพราะจากที่เคยเป็นเจ้าคนนายคน สบาย มีอำนาจบารมีมาก ต้องกลับตาละปัดมาเป็นต้องทำงานหนัก ต้องเป็นขี้ข้าประชาชนตามคำว่า " ข้าราชการ" มันเป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้
..จากนั้นทักษิณก็มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคอันลือลั่น..ความจริง 30 บาทนี้ไม่ใช่ทักษิณคิดนะครับ เป็นหมอท่านหนึ่งคิด แต่ทักษิณนำมาเป็นนโยบายผลักดันจนสำเร็จ..ประชาชนคนยากจนได้ประฌยชน์มหาศาล...แต่หมอมากมายเดือดร้อน ต้องทำงานหนัก มีภาระเพิ่ม และได้รับผลกระทบจาก พรบ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่เพิ่มเติมมากับโครงการ 30 บาท..ทำให้ทักษิณกลายเป็นคนที่หมอมากมายทั่งประเทศจงเกลีบดจงชัง ต่อต้าน ล้มล้าง....( เรื่องนี้ไปหาอ่านรายละเอียด พรบ.หลักประกัน ฯ เอาเอง)
...นโยบายต่อมาคือการปราบปรามยาเสพติด ยาบ้า...การปรามปราบหวยเถื่อน มือปืน เจ้าพ่ออิทธิพล..การเอาหวยเถื่อนมาทำหวยบนดินที่นำเอารายได้มาเป็นทุนส่งเด็กชนบทไปเรียนต่างประเทศ..การจัดระเบียบสังคม..บ้านเอื้ออาทร แท็กซี่เอื้ออาทร ขับมอไซด์เปิดไฟใส่หมวกฯลฯ..
..นอกจากนี้ทักษิณยังเป็นผู้สนับสนุนให้มีสายการบิน โลว์คอส ต้นทุนต่ำ ตั๋วราคาถูกขึ้นมา เพื่อช่วยสนับสนุนให้คนระดับกลาง ระดับล่างได้มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินที่รวดเร็ว ปลอดภัย เพราะเดิมมีแต่การบินไทยที่ราคาแพง คนรวย เทวดาเท่านั้นมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินคนจนหมดสิทธิ์..ทำให้การบินไทยมีคู่แข่งเสียผลประโยชน์ไปมากมายก็จึงเป็นที่มาของความเกลียดชัง ต่อต้านจากการบินไทยตั้งแต่ผู้บริหาร นักบินมาจนถึงพนักงานทุกคนที่ออกมาร่วมม็อบไล่ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์อย่างที่เห็นๆกัน
..จะเห็นว่าทุกอย่างที่ทักษิณทำมานั้น ทำให้ก่อเกิดศรัตรู คนเกลียดชัง ต่อต้าน ต้องการล้มล้างขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล... เพราะสูญเสียผลประโยชน์ อำนาจ บารมี ความสุข สะดวกสบายจากที่เคยได้รับมาก่อนอย่างยาวนาน..ซึ้งนับว่าทักษิณนั้นเป็นคนที่มีคนรักมากที่สุดในโลก และมีคนเกลียดชังมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
.....
..ซึ่งในตอนนั้นทักษิณได้รับการชื่นชมจากคุณสนธิ ลิ้มทองกุล จนยกย่องทักษิณว่าเป็นนายกที่ดีที่สุดของประเทสไทย...ต่อมาทักษิณมีปัญหากับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ( ไปหาอ่านเอาเองว่ามีสาเหตุจากอะไร หาง่าย มีมากมาย) คุณสนธิก็โจมตี และตอนหลังก็ไปร่วมกับคนที่เกลียดชังทักษิณคือคุณจำลอง คุณชัยวัฒน์ และคนอื่นๆเกิดเป็นกลุ่ม " พันธมิตร".....และที่ขาดไม่ได้ก็คือพรรคประชาธิปัตย์..สร้างม็อบมาล้มล้างทักษิณ.......อาวุธหลักที่ใช้กับทักษิณ และสร้างแนวร่วมมวลชนอย่างมากมายก็คือ..การล้มล้างเจ้า..ซึ่งผู้วางแผนอันแยบยลก็คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ศาสดาของพันธมิตร คนเสื้อเหลือง ( ลองไปหาข้อมูลว่าคุณสนธิทำอะไรแบบไหน อย่างไรเอาเอง)
.....จนกลายมาเป็นมหากาพย์ การต่อสู้มายาวนาน เมื่อพันธมิตรล่มสลายก็กลายร่างมาเป็น กปปส. ศาสดาเปลี่ยนมาเป็นคุณสุเทพ
..ฟากทักษิณก็เกิด นปช. มวลชนคนเสื้อแดง..ฟาดฟันต่อสู้กันมายาวนาน อย่างที่รู้เห็นกัน
..เอาย่อๆเท่านี้นะครับ
.....
.....คนชุดขาว
**************************************************************
..ขอโทษนะครับคุณห่านป่านี้คือใคร..ช่วยกระชิบตัวจริงให้ผมทราบที เห็นชอบที่จะแสดงพาวเวอร์ แต่อ่านการแสดงความคิดเห็นมาหลายๆครั้งแล้ว มันไม่ใช่เลย...มันเต็มไปด้วยอคติ ความรู้สึกส่วนตัวที่ต่อต้าน เกลียดชังทักษิณเป็นที่ตั้ง..ลองเขียน คิดแบบบูรณาการ ด้วยสติ ความคิด หลักการหน่อยเถอะครับ..
..ต่อมาทักษิณเข้าสู่การเมือง จนได้ก้าวมาได้ตำแหน่ง รมต. และอยู่ในสังกัดพรรคพลังธรรมของมหาจำลอง เมื่อมหาจำลองลงจากหัวหน้าพรรคก็ผลักดันให้ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ทำให้นายชัยวัฒน์ สินสุวงค์โกรธแค้น เกลียดชังทักษิณ และแตกแยกกับมหาจำลองเพราะทักษิณตัดหน้าเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคไป..เมื่อทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคก็ยังอยู่ในการครอบงำของมหาจำลอง ทำให้ทักษิณอึดอัด จนลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังธรรม ทำให้พรรคพลังธรรมสูยสลาย..เป็นที่มาสร้างความโกรธแค้น เกลียดชังแก่มหาจำลองอย่างมาก
..ต่อมาทักษิณเข้าสังกัดพรรคความหวังใหม่ของคุณชวลิต ได้ตำแหน่ง รมต.ช่วงนั้นประเทศไทยกำลังเกิดภาวะเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จนชวลิตประกาศยุบสภา
..พรรค ประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลต่อแต่แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ หนำซ้ำทีมเศรษฐกิจแตกแยกจนคุณธารินทร์ กับคุณศุภชัยได้ฉายา " เกาเหลา" และกลับทำผิดพลาดจนทำให้ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านจากการขายทรัพย์สินสถาบันการเงิน ไฟแนนซ์จนต้องเข้าไปกู้ยืมเงินเป็นทาส IMF ยอมทำสัญญาญาทาส 11 ฉบับกับ IMF ประเทศไทยเป็ยหนี้มหาศาล จนมีการกล่าวว่าคนไทยเกิดมาปุ๊บจะมีหนี้ติดตัวทันทีคนละ 2000 กว่าบาท
.....ทักษิณมาตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคไทยรักไทย ที่ตั้งสโลแกนว่า คิดใหม่ ทำใหม่ เพราะทักษิณเป็นคนหัวก้าวหน้า คิดนอกกรอบ และหาเสียงด้วยการชูนโยบายใช้หนี้ปลดปล่อยประเทศจาก IMF ภายใน 2ปี ประชาชนคนไทยกำลังหมดความหวังก้หันมาเทคะแนนให้ทักษิณจนพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลายได้เป็นรัฐบาล และทักษิณก็ทำได้ตามที่ประกาศหาเสียง สามารถใช้หนี้ IMF ได้ภายใน 2 ปีจริงๆ.
...หลังจากเป็นรัฐบาลทักษิณก็มาปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่โดยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจระบบจุลภาค รากฐานคือประชาชน ธุรกิจ การผลิตขนาดเล็ก ขนาดย่อมในประเทศ ให้เข้มแข็ง ควบคู่ไปกับธุรกิจมหภาคคือสถาบันการเงินต่างๆ โรงงานการผลิตขนาดใหญ่ การส่งออก การค้าการขายกับต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความสมดุลย์ ค้ำยันกัน ..ผลที่ตามมาคือเมื่อธุรกิจมหภาคประสบปัญหา ก็จะยังมีธุรกิจจุลภาคค้ำยันไว้ ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศทั้งหมดยังยืนหยัดอยู่ได้..นี่คือระบบเศรษฐกิจที่ทีมเศรษฐกิจของทักษิณสร้างไว้จนมาถึงปัจจุบัน ทำให้เศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งไม่มีปัญหา ได้รับผลกระทบน้อยแม้ระบบเศรษฐกิจโลกจะประสบปัญหาดังที่ผ่านมาก็ตาม
...นี่คือที่มาของนโยบายของทักษิณเกี่ยวกับ SME SML การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน การพักหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ ก็เพื่อสนับสนุน ระบบเศรษฐกิจจุลภาคให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสร้างความเข้มแข็ง
....ซึ่งแต่เดิมก่อนทักษิณมานั้นนั้นระบบเสรษฐกิจของไทยขึ้นอยู่กับระบบมหภาค สถาบันการเงิน การผลิตขนาดใหญ่ การค้าการขายการส่งออกเป็นหลักเพราะได้รับนโยบายการสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ระบบจุลภาคคือประชาชน การผลิตการขายขนาดเล้ก ขนาดย่อมในประเทศอ่อนแอเพราะไม่มีนโยบาย ไม่ได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุนให้โอกาส ....ดังนั้นเมื่อระบบเศรษฐกิจมหภาคประสบปัยหา ล้มลง ก็พาให้ระบบจุลภาคล้มลงไป ทำให้ระบบเศรฐกิจของประเทศล้มไปทั้งระบบ
...ต่อมาทักษิณมีนโยบายใหญ่คือการปฎิรูประบบราชการ ปรับเปลี่ยน ยกเลิก ปรับรวม และตั้งกระทรวง ทบวงกรมใหม่หมด โดยเน้นเล็ก ประหยัดงบประมาณ+บุคลากร แต่มีประสิทธิภาพ ฉับไว รวดเร็วในทุกๆด้าน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นรากฐานให้ระบบราชการกระทรวง ทบวงกรมไทยมาจนถึงทุกวันนี้
..ผู้ว่าราชการแต่เดิมเป็นระบบเจ้าขุนมูลนาย เป็นเจ้าเมืองที่ประชาชนต้องหมอบกราบ แต่มายุคทักษิณ ผู้ว่าราชการต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ต้องเก่ง รอบรู้ ฉับไว บริหารจัดการแก้ไขปัญหาในจังหวัดได้ เป็นที่มาของคำว่า " ผู้ว่า CEO"
...นอกจากนี้ทักษิณยังมีนโยบาย " เปลี่ยนเส้นทางชีวิต" ให้ข้าราชการที่ต้องการลาออกจากราชการก่อนเกษียณ ที่เรียกว่า เออรี่รีไทม์ ก็คือการจ้างให้ข้าราชการที่ต้องการ สมัครใจลาออกไปก่อนเกษียณ เพื่อลดจำนวนข้าราชการ และลดข้าราชการประเภท " เช้าชามเย็นชาม" ให้พ้นไปจากระบบราชการนั่นแหละ
...แน่นอนนโยบายนี้ย่อมสร้างความไม่พอใจแก่ข้าราชการระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัดรุ่นเก่า เหลาเหย่มากมาย เพราะจากที่เคยเป็นเจ้าคนนายคน สบาย มีอำนาจบารมีมาก ต้องกลับตาละปัดมาเป็นต้องทำงานหนัก ต้องเป็นขี้ข้าประชาชนตามคำว่า " ข้าราชการ" มันเป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้
..จากนั้นทักษิณก็มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคอันลือลั่น..ความจริง 30 บาทนี้ไม่ใช่ทักษิณคิดนะครับ เป็นหมอท่านหนึ่งคิด แต่ทักษิณนำมาเป็นนโยบายผลักดันจนสำเร็จ..ประชาชนคนยากจนได้ประฌยชน์มหาศาล...แต่หมอมากมายเดือดร้อน ต้องทำงานหนัก มีภาระเพิ่ม และได้รับผลกระทบจาก พรบ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่เพิ่มเติมมากับโครงการ 30 บาท..ทำให้ทักษิณกลายเป็นคนที่หมอมากมายทั่งประเทศจงเกลีบดจงชัง ต่อต้าน ล้มล้าง....( เรื่องนี้ไปหาอ่านรายละเอียด พรบ.หลักประกัน ฯ เอาเอง)
...นโยบายต่อมาคือการปราบปรามยาเสพติด ยาบ้า...การปรามปราบหวยเถื่อน มือปืน เจ้าพ่ออิทธิพล..การเอาหวยเถื่อนมาทำหวยบนดินที่นำเอารายได้มาเป็นทุนส่งเด็กชนบทไปเรียนต่างประเทศ..การจัดระเบียบสังคม..บ้านเอื้ออาทร แท็กซี่เอื้ออาทร ขับมอไซด์เปิดไฟใส่หมวกฯลฯ..
..นอกจากนี้ทักษิณยังเป็นผู้สนับสนุนให้มีสายการบิน โลว์คอส ต้นทุนต่ำ ตั๋วราคาถูกขึ้นมา เพื่อช่วยสนับสนุนให้คนระดับกลาง ระดับล่างได้มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินที่รวดเร็ว ปลอดภัย เพราะเดิมมีแต่การบินไทยที่ราคาแพง คนรวย เทวดาเท่านั้นมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินคนจนหมดสิทธิ์..ทำให้การบินไทยมีคู่แข่งเสียผลประโยชน์ไปมากมายก็จึงเป็นที่มาของความเกลียดชัง ต่อต้านจากการบินไทยตั้งแต่ผู้บริหาร นักบินมาจนถึงพนักงานทุกคนที่ออกมาร่วมม็อบไล่ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์อย่างที่เห็นๆกัน
..จะเห็นว่าทุกอย่างที่ทักษิณทำมานั้น ทำให้ก่อเกิดศรัตรู คนเกลียดชัง ต่อต้าน ต้องการล้มล้างขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล... เพราะสูญเสียผลประโยชน์ อำนาจ บารมี ความสุข สะดวกสบายจากที่เคยได้รับมาก่อนอย่างยาวนาน..ซึ้งนับว่าทักษิณนั้นเป็นคนที่มีคนรักมากที่สุดในโลก และมีคนเกลียดชังมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
.....
..ซึ่งในตอนนั้นทักษิณได้รับการชื่นชมจากคุณสนธิ ลิ้มทองกุล จนยกย่องทักษิณว่าเป็นนายกที่ดีที่สุดของประเทสไทย...ต่อมาทักษิณมีปัญหากับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ( ไปหาอ่านเอาเองว่ามีสาเหตุจากอะไร หาง่าย มีมากมาย) คุณสนธิก็โจมตี และตอนหลังก็ไปร่วมกับคนที่เกลียดชังทักษิณคือคุณจำลอง คุณชัยวัฒน์ และคนอื่นๆเกิดเป็นกลุ่ม " พันธมิตร".....และที่ขาดไม่ได้ก็คือพรรคประชาธิปัตย์..สร้างม็อบมาล้มล้างทักษิณ.......อาวุธหลักที่ใช้กับทักษิณ และสร้างแนวร่วมมวลชนอย่างมากมายก็คือ..การล้มล้างเจ้า..ซึ่งผู้วางแผนอันแยบยลก็คือคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ศาสดาของพันธมิตร คนเสื้อเหลือง ( ลองไปหาข้อมูลว่าคุณสนธิทำอะไรแบบไหน อย่างไรเอาเอง)
.....จนกลายมาเป็นมหากาพย์ การต่อสู้มายาวนาน เมื่อพันธมิตรล่มสลายก็กลายร่างมาเป็น กปปส. ศาสดาเปลี่ยนมาเป็นคุณสุเทพ
..ฟากทักษิณก็เกิด นปช. มวลชนคนเสื้อแดง..ฟาดฟันต่อสู้กันมายาวนาน อย่างที่รู้เห็นกัน
..เอาย่อๆเท่านี้นะครับ
.....
.....คนชุดขาว
**************************************************************
..ขอโทษนะครับคุณห่านป่านี้คือใคร..ช่วยกระชิบตัวจริงให้ผมทราบที เห็นชอบที่จะแสดงพาวเวอร์ แต่อ่านการแสดงความคิดเห็นมาหลายๆครั้งแล้ว มันไม่ใช่เลย...มันเต็มไปด้วยอคติ ความรู้สึกส่วนตัวที่ต่อต้าน เกลียดชังทักษิณเป็นที่ตั้ง..ลองเขียน คิดแบบบูรณาการ ด้วยสติ ความคิด หลักการหน่อยเถอะครับ..
ทิวาจรดราตรี ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2084093 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1398236 ถูกใจ, Arrtit@Clayton ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1979696 ถูกใจ, ริมน้ำน่าน ถูกใจ, brainsick ถูกใจ, tong_ss ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1901981 ถูกใจ, สองล้อรอรักนะจ๊ะ ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ทักกี้ก็แค่ตัวเลือกใหม่ที่สดใสกว่านักการเมืองหน้าเดิมๆที่คนไทยเบื่อกัน
ที่สำคัญ ทักกี้คือนักธุรกิจที่รวยด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นคนรวยติดอันดับในประเทศไทย
ซึ่งต่างจากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอื่นๆในอดีตที่ไม่เคยมีธุรกิจที่ชัดเจนแต่กลับรวยเอาๆยามได้เป็นรัฐบาล จนภาพลักษณ์ของนักการเมืองดูย่ำแย่ และเบื่อที่จะไปลงคะแนนเลือกตั้ง
แต่หลังจากที่พรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะ และสร้างผลงานตามที่สัญญากับประชาชนไว้ได้แทบทุกเรื่องและทำมากกว่าที่เคยสัญญาเสียอีก ทำให้การเลือกตั้งในครั้งต่อมานั้น ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์กันล้นหลาม และเริ่มเข้าใจดีว่า หากมีนักการเมืองดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เหมือนที่ทักกี้พูดว่า ประชาธิปไตยกินได้นี่แหละ
เสียดายที่นิสัยขี้อิจฉาในตัวคนไทยนั้นมีมากกว่าประเทศใดๆในโลกนี้. คนเก่งๆจึงต้องถูกขับไล่และเหลือแต่พวกดีแต่พูดเป็นฝ่ายครองอำนาจ จนประเทศนี้กลายเป็นสาละวันเตี้ยลงอย่างที่เห็นนี่แหละฮ้า
ที่สำคัญ ทักกี้คือนักธุรกิจที่รวยด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นคนรวยติดอันดับในประเทศไทย
ซึ่งต่างจากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอื่นๆในอดีตที่ไม่เคยมีธุรกิจที่ชัดเจนแต่กลับรวยเอาๆยามได้เป็นรัฐบาล จนภาพลักษณ์ของนักการเมืองดูย่ำแย่ และเบื่อที่จะไปลงคะแนนเลือกตั้ง
แต่หลังจากที่พรรคไทยรักไทยได้รับชัยชนะ และสร้างผลงานตามที่สัญญากับประชาชนไว้ได้แทบทุกเรื่องและทำมากกว่าที่เคยสัญญาเสียอีก ทำให้การเลือกตั้งในครั้งต่อมานั้น ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์กันล้นหลาม และเริ่มเข้าใจดีว่า หากมีนักการเมืองดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เหมือนที่ทักกี้พูดว่า ประชาธิปไตยกินได้นี่แหละ
เสียดายที่นิสัยขี้อิจฉาในตัวคนไทยนั้นมีมากกว่าประเทศใดๆในโลกนี้. คนเก่งๆจึงต้องถูกขับไล่และเหลือแต่พวกดีแต่พูดเป็นฝ่ายครองอำนาจ จนประเทศนี้กลายเป็นสาละวันเตี้ยลงอย่างที่เห็นนี่แหละฮ้า
ทิวาจรดราตรี ถูกใจ, Kurt15 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1398236 ถูกใจ, Arrtit@Clayton ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1979696 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 865801 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1901981 ถูกใจ, สองล้อรอรักนะจ๊ะ ถูกใจ, a curious kitty ถูกใจ, แถวดินแดง ถูกใจรวมถึงอีก 23 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ช่วงก่อนที่ทักษิณจะได้ขึ้นเป็นนายกฯ ทักษิณมีบทบาทสำคัญอะไรบ้างคะ ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะเทคะแนนให้
แต่แปลกใจจากคนที่เคยเป็น รมว. รองนายกฯ แล้วก่อตั้งพรรคขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค
ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ถึงให้ความไว้วางใจให้บริหารประเทศ ทั้งที่ผลงานตอนนั้นก็ไม่ได้เด่นเท่าไหร่
เพราะถึงมีผลงานดีๆ ความดีความชอบก็คงตกอยู่กับนายกฯ ในสมัยนั้น