อายุ 23 ค่ะ
ทำงานไม่ตรงสาย มาได้ปีกว่า เป็นเซล มีความสุขดี ไม่มีปัญหาเรื่องคนในแผนกเลย
ซึ่งขายสินค้าที่ไม่ได้เกี่ยวกะความรู้ที่จบมาแม้แต่นิด
เลยคิดจะกลับไปหางานที่มันตรงสายทำ เพราะรู้สึกเสียดาย และมันมีแรงบันดาลใจ และความก้าวหน้ากว่ามาก
เลยได้ งานใหม่ ตกลงไว้ว่า กลางเดือน ก.ย. จะไปทำ
เงินเดือน เยอะกว่าที่เก่าหมื่นนึง ระยะทางไกลกว่ากัน ซัก 10 โล แต่ไม่เป็นปัญหา อยู่แถวสาทรนี่แหละ
และเป็นงานที่เราคิดว่าทำได้ดี เพราะตอนเรียน เรารู้สึกชอบและสนุกไปกะมัน เกรดก็ได้ดี
ปัญหามันอยู่ที่ว่า บ.ที่เราทำอยู่ตอนนี้เขารับเรามา เพราะเห็น เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ ซึ่งเขาต้องการเซลคุณสมบัตินี้มาก ทั้งแผนกมีเราเป็นเซลคนเดียวที่คล่องอังกฤษ เพื่อดิวงานกะลูกค้าต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหัวหน้าก็พูดได้
ประเด็นสำคัญอยู่ที่
1. ณ ตอนนี้ผู้จัดการ(หน.)แผนกเรา เขาลาออกไปได้ 3 เดือนแล้ว
2. งานของ รองหน.ก็เลยเยอะขึ้น
ซึ่งรอง หน. และเซลคนอื่น ไม่ได้อังกฤษเลย พี่งเราตลอด บางทีก็เครียดงานโปรเจคใหญ่ ที่มีฝรั่ง ก็ต้องเราตลอด
3. แถม กลางเดือน ก.ย. พอดี พี่เซล อีกคนจะลาคลอด (เราออก งานจะตกไปอยู่ที่เซลที่เหลือ หนักขึ้นมากๆๆ)
ปัญหาเลยตกมาอยู่ที่เรา
ไปคุยกะ รองหน. ว่าเราจะลาออกแล้ว ได้งานใหม่ แต่เขารั้ง ว่าให้ ช่วยหน่อย ถึงสิ้นปี เอาโบนัสก่อน
ในใจก็สงสารเขานะ เหมือนเขากดดันมาก มีลูกต้องดูแล เขาก็พูดเปรยๆไว้
คือตอน ที่ หน. ลาออกไปเมื่อ 3 เดือนก่อน เห็นได้ชัดว่า รองหน.ท้อ และเครียดมาก ที่ต้องมาทำหน้าที่แทน
(ตลอดชีวิต เขาทำงานที่นี่ที่เดียว มาเกือบ 20 ปี ถ้าเขากดดันจนออก ชีวิตคงลำบากน่าดู เพราะใครที่ไหนจะรับ)
เซลคนอื่นก็เหมือนกัน ร้องขอให้อยู่ต่อ
เราก็ต้องมารับความกดดัน มากๆ ณ ตอนนี้ เห้ออ
ปล. บ.ที่ทำอยู่ก็ถือว่าใหญ่ระดับนึง เจ้าของต่างชาติครึ่ง ไทยครึ่ง แต่เป็นแนวครอบครัวดูแล
เชื่อไหมกว่าเขาจะหาคนที่คุณสมบัติแบบ เราได้ เขาบอกใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
เขาก็ยื่นข้อเสนอให้เงินเพิ่มขึ้นนะคะ แต่ใจเราไปแล้ว
รองหน. ก็บอก จะให้ทำยังไง
ทำอย่างไรดี คะ
ถ้าไม่ติดที่ว่า รองหน. กะคนในแผนกดีกะเรามากๆ ไม่เคยมา กดดันอะไรเรา เราก็คงออกไปอย่างสบายใจ แบบฉันไปดีแล้วนะ เชอะ
แต่นี่มันไม่ใช่
ได้งานใหม่ แต่โดนที่เก่ารั้งไว้ ด้วยการขอความเห็นใจ มีลูกที่ต้องดูแล ทำไงดี?
ทำงานไม่ตรงสาย มาได้ปีกว่า เป็นเซล มีความสุขดี ไม่มีปัญหาเรื่องคนในแผนกเลย
ซึ่งขายสินค้าที่ไม่ได้เกี่ยวกะความรู้ที่จบมาแม้แต่นิด
เลยคิดจะกลับไปหางานที่มันตรงสายทำ เพราะรู้สึกเสียดาย และมันมีแรงบันดาลใจ และความก้าวหน้ากว่ามาก
เลยได้ งานใหม่ ตกลงไว้ว่า กลางเดือน ก.ย. จะไปทำ
เงินเดือน เยอะกว่าที่เก่าหมื่นนึง ระยะทางไกลกว่ากัน ซัก 10 โล แต่ไม่เป็นปัญหา อยู่แถวสาทรนี่แหละ
และเป็นงานที่เราคิดว่าทำได้ดี เพราะตอนเรียน เรารู้สึกชอบและสนุกไปกะมัน เกรดก็ได้ดี
ปัญหามันอยู่ที่ว่า บ.ที่เราทำอยู่ตอนนี้เขารับเรามา เพราะเห็น เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ ซึ่งเขาต้องการเซลคุณสมบัตินี้มาก ทั้งแผนกมีเราเป็นเซลคนเดียวที่คล่องอังกฤษ เพื่อดิวงานกะลูกค้าต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหัวหน้าก็พูดได้
ประเด็นสำคัญอยู่ที่
1. ณ ตอนนี้ผู้จัดการ(หน.)แผนกเรา เขาลาออกไปได้ 3 เดือนแล้ว
2. งานของ รองหน.ก็เลยเยอะขึ้น ซึ่งรอง หน. และเซลคนอื่น ไม่ได้อังกฤษเลย พี่งเราตลอด บางทีก็เครียดงานโปรเจคใหญ่ ที่มีฝรั่ง ก็ต้องเราตลอด
3. แถม กลางเดือน ก.ย. พอดี พี่เซล อีกคนจะลาคลอด (เราออก งานจะตกไปอยู่ที่เซลที่เหลือ หนักขึ้นมากๆๆ)
ปัญหาเลยตกมาอยู่ที่เรา
ไปคุยกะ รองหน. ว่าเราจะลาออกแล้ว ได้งานใหม่ แต่เขารั้ง ว่าให้ ช่วยหน่อย ถึงสิ้นปี เอาโบนัสก่อน
ในใจก็สงสารเขานะ เหมือนเขากดดันมาก มีลูกต้องดูแล เขาก็พูดเปรยๆไว้
คือตอน ที่ หน. ลาออกไปเมื่อ 3 เดือนก่อน เห็นได้ชัดว่า รองหน.ท้อ และเครียดมาก ที่ต้องมาทำหน้าที่แทน
(ตลอดชีวิต เขาทำงานที่นี่ที่เดียว มาเกือบ 20 ปี ถ้าเขากดดันจนออก ชีวิตคงลำบากน่าดู เพราะใครที่ไหนจะรับ)
เซลคนอื่นก็เหมือนกัน ร้องขอให้อยู่ต่อ
เราก็ต้องมารับความกดดัน มากๆ ณ ตอนนี้ เห้ออ
ปล. บ.ที่ทำอยู่ก็ถือว่าใหญ่ระดับนึง เจ้าของต่างชาติครึ่ง ไทยครึ่ง แต่เป็นแนวครอบครัวดูแล
เชื่อไหมกว่าเขาจะหาคนที่คุณสมบัติแบบ เราได้ เขาบอกใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
เขาก็ยื่นข้อเสนอให้เงินเพิ่มขึ้นนะคะ แต่ใจเราไปแล้ว
รองหน. ก็บอก จะให้ทำยังไง
ทำอย่างไรดี คะ
ถ้าไม่ติดที่ว่า รองหน. กะคนในแผนกดีกะเรามากๆ ไม่เคยมา กดดันอะไรเรา เราก็คงออกไปอย่างสบายใจ แบบฉันไปดีแล้วนะ เชอะ
แต่นี่มันไม่ใช่