เราเป็นจบใหม่ที่พึ่งได้งานไม่นานมานี้ และอยู่ในช่วงผ่านโปรได้ทำงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ข้างงานดี สวัสดิ์การดี เงินโอเคเลยสำหรับเด็กจบใหม่ เพื่อนสังคมการทำงานพี่ๆดีหมด หัวหน้าน่ารักเป็นกันเอง อยู่กันแบบครอบครัวสุดๆ ทำงาน จ-ศ เข้างาน 9 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น ลากิจลาป่วยงานมาก เข้างานสายได้พี่บางคนเข้างานเกือบเที่ยงก็มี (เข้าสายลาง่ายแต่ต้อง มีความรับผิดชอบงานตัวเองไม่กระทบต่อเพื่อนหรือบริษัทขอแค่งานเสร็จโอเค )
. . . แต่ทำไมถึงอยากลาออกละถ้าดีขนาดนี้ ?
ส่วนตัวเราคิดว่ามีอยู่ 2 เหตุผลหลักๆ และอีก 1 เหตุผลหลักๆที่เกิดจากตัวเอง
ตัวเราเรียนสายการออกแบบดีไซน์มา แต่ไม่ใช่กราฟฟิกขนาดนั้น แต่ก็มีพื้นฐานพอทำได้ ตอนที่เรียนมหาลัยอาจารย์ไม่ได้สอนในจับโปรแกรมกราฟฟิกเท่าไร คือให้ไปศึกษาเรียนรู้เอง เราเลยจบออกมาแบบมีความรู้วิชาการนะ แต่ด้านโปรแกรมไม่ได้เป็นจุดแข็งของเรา
ที่เรามาสมัครงานที่นี้เราก็มองๆดูแล้วว่าบริษัทนี้ทำเกี่ยวกับอะไร เราเข้าไปสมัครงานในแผนกดีไซน์ เราก็ศึกษาเกี่ยวกับบริษัทนี้แล้วล่ะ ว่าถ้าเราจะดีไซน์ให้มันต้องกับทิศทางของแบรนด์เขา ได้รึปล่าว คำตอบคือได้ แต่ . . . ไม่ใช่แนวที่เราถนัดเท่าไร เราก็คิดนะถ้าได้ค่อยถามพี่เรียนรู้เอาในเรื่องโปรแกรมที่เราไม่ค่อยได้
ปัญหาแรก แนวงานไม่ใช่ทางถนัดเรา
พอเข้าไปทำงานได้ประมาณครึ่งเดือน ช่วงนั้นคือไม่ได้จับงานจริงเพราะจะเป็นช่วงนี้เข้าไปเรียนกับหัวหน้า สรุปที่เรียนคือการปูพื้นฐานให้แน่นก่อนจะไปดีไซน์จริง แล้วมันยิ่งรู้สึกตอกย้ำว่างานดีไซน์นี้ ไม่เหมาะกับเรา เราแค่ไม่ถนัดแต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่เราเป็นนักออกแบบนะ ต้องมีครีเอทีฟสิ . . . ใช่มันมีแต่ยากหน่อยเพราะมันไม่ใช่แนวที่ถนัด
ปัญหาที่สอง บรรยากาศในห้องทำงานที่ไร้ตัวตน + ตึงๆใส่
หัวหน้าแผนกพูดกดดันในห้อง พูดให้เราเสียหน้าเสีความรู้สึก รู้สึกว่าเราทำไม่ได้ เราช้า เราจำไม่ได้ ไม่เข้าใจ แล้วเราก็รู้สึกว่าเข้ากับพี่ๆในห้องไม่ได้เลยจนปัจจุบัน ไม่มีการถามไม่มีการคุยอะไรเลย แต่พี่ๆแนกอื่นคือน่ารักคุยปกตินะ แค่เข้ากับแนกตัวเองไม่ได้ แต่อาจด้วยเราเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เราเลยเข้าหาพี่เข้าลำบากรึป่าวนะ แต่เวลาพี่เขาตอบก็เหมือนตึงๆใส่ แต่ในห้องบางช่วงก็เฮฮาดีนะ แต่เราไม่ได้อยู่ในนั้นเลย รู้สึกล่องหนและกดดัน หรือยังไม่ได้ลลายพฤติกรรมกันนะ . . . เป็นหนึ่งปัญหาที่ไม่อยากไปทำงานเพราะหัวหน้าแผนก ร่นพี่ที่ทำงานโอเครับได้ แนกอื่นสบายมากแต่ตัวหน้าแผนกทำให้เราไม่อยากไปเจอทุกวัน
ปัญหาที่สาม จากตัวเราเอง ความจำสั้น คิดมาก เรียนรู้ช้า
ปัญหานี้เกิดจากนิสัยพื้นฐานเราเอง ซึ่งปัจจุบันก็แก้ปัญหาความจำสั้นด้วยการที่เวลาไปเรียนรู้งานกับบอส ( คือเขาโอเคน่ารัก ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขา ) เราจะเอาสมุดจดไปจดเวลาเขาสอนงาน เวลาเราเรียนเสร็จเขาก็จะให้เราไปทำสรุปหาความรู้มาให้อธิบายให้เขา แล้วเราก็นั่งทำที่แผนกนะแต่บางครั้งพี่หัวหน้าแผนกก็เหมือนเร่งให้ไปคุยให้ไปเรียนกับบอสไวๆ เพราะเหมือนเราจะหาข้อมูลช้าอะไรทำนองนั้น บางครั้งเราเลยเอางานไปทำที่ห้องต่อแต่หัวโน้ตบุ๊กเราก็เริ่มเก่าทำงานก็อืดเลยไม่เป็นอันทำต่อที่ห้อง
ตอนี้กดดันเรื่องทำงานเรียนรู้งานช้า แล้วโดนกดดัน ไม่เป็นอันทำอะไรเลย เหมือนต้องทำงานไปพะวงๆกับการทำงาน เครียดจากหัวหน้าแล้วยังเครียดคิดแนวงานไม่ค่อยได้ไม่แนวที่ถนัด ตอนนี้มีความคิดว่าถึงไมผ่านโปรก็ยินดีที่จะยอมรับว่าไม่ผ่าน แต่ถ้าผ่านขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อหรือออกดี เพราะสถานการณ์ตอนนี้คืออยากออก มันเอาไปเทียบตอนนั้นไม่ได้ อนาคตอาจจะดีขึ้น ทำงานคล่องขึ้นพี่ที่ทำงานโอเคขึ้น แต่พอมองตัวเองมันกดดันไม่มีความสุขเลย ไม่อยากตื่นไปทำงาน กลับมาก็เครียดนอนร้องไห้ทุกคืนเลยหลังๆ ใครจะบอกว่า gen z ไม่มีความอดทนก็ไม่ได้สนใจ มันอยู่ที่ความสะบายใจแต่ละคน นิสัยความคิด การเลี้ยงดูทางบ้านก็ไม่เหมือนกันแล้ว เราเป็นคนติดบ้านไม่ถนัดคุยกับคนเยอะๆหรือแปลกหน้า พูดไม่เก่งถ้าตื่นเต้นจะพูดติดๆขัดๆแล้วอธิบายวนไปวนมา
รู้ตัวว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานที่ต้องมีการพูดคุย ชอบแนวงานทำคนเดียว แต่ถ้าบ้านอยากให้ลองมาทำในกรุงเทพ เพราะแถวต่างจังหวัดไม่ค่อยมีให้ทำ แต่ทางครอบครัวก็ไม่ได้กดดันว่าให้ทำต่อที่นั้นแต่ขอผ่านปีนี้ก่อน พ้นปีค่อยว่ากันว่าจะออกหรืออยู่ แต่ที่ยังออไม่ได้เพราะติดเรื่องค่าประกันห้อง 6 เดือน แต่พึ่งอยู่ได้แค่ 2 เดือนเอง + ไม่มีงานรองรับ ตอนนี้เลยเครียดว่าถ้าออกงานจะได้ตอนไหน ถ้าเป็นบริษัทเราก็อาจเป็นเหมือนเดิมที่ไม่ค่อยชอบงานที่คลุกคลีกับผู้คน แล้วแนวงานเราจะทำได้รึป่าวปัญหามันมีที่เราที่ไม่ค่อยเข้ากับบริษัทนี้ และเพื่อนร่วมงานที่รู้สึกไร้ตัวตนและรู้สึกกดดัน จนไมอยากไปทำงาน
ตอนนี้คือพยายามทนๆให้พ้นปีก่อน เราทำงานตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนปัจจุบันตอนนี้ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ถ้าทนพ้นปีนี้ก็จะเป็นเดือนที่ 3 ถึงจะผ่าน 3 หรือ 4 เดือนที่พ้นโปรแล้วถ้าเกิดเราไม่ไหวจริงๆ เราก็แค่เด็กจบใหม่ที่ออกมาทำงานเช่าหอคนเดียวแล้วต้องส่งเงินให้ทางบ้าน เลยไม่ได้มีเงินเก็บขนาดที่อยู่ได้นานขนาดนั้น อาจต้องหางานใหม่หรืองานอะไรทำไปก่อน
จึงอยากจะถามพี่ๆหรือคนที่ผ่านทางเข้ามาอ่านเรื่องราวนี้ มีวิธีการวางแผนหรือการเปลี่ยนความคิดยังไงให้ทำงานต่อ หรือมีอะไรแนะนำว่าถ้าจะออกแล้วจะมีแนวทางตั้งต้นยังไงในระหว่างที่รองานหรืองานฟรีแลนซ์ทางไหน จะขอบคุณล่วงหน้ามากๆเลย
เป็นเด็กจบใหม่ที่ยังไม่ผ่านโปรแล้วอยากลาออกแต่ลาออกไม่ได้ ไม่มีงานรองรับ + อยู่คนเดียว