นิมนต์หลวงพี่เตชช่วยอธิบายขั้นตอนวิธีการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นให้กระผมด้วยครับ
ตั้งแต่ตื่นเช้าจนล้มตัวลงนอน หลวงพี่เจริญสติภาวนาแบบไหน ยังไง เผื่อกระผมจะได้นำไปปฏิบัติบ้าง
KUNTIM
---------------------------------
หลักการปฏิบัติอริยมรรคนั้นไม่มีรูปแบบตายตัว เราสามารถปฏิบัติอริยมรรคได้ในการดำเนินชีวิตของเรานี่เอง โดยต้องศีล สมาธิ และปัญญาอยู่ตลอดเวลา
ศีล ก็คือ การตั้งใจที่จะไม่เบียดเบียนชีวิต-ทรัพย์สิน-กามารมณ์ของผู้อื่น รวมทั้งการตั้งใจที่จะไม่พูกโกหก คำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ
สมาธิ ก็คือ การทำอะไรๆด้วยความบริสุทธิ์จากกิเลสและนิวรณ์ ด้วยความตั้งใจอย่างต่อเนื่อง และด้วยความอ่อนโยน อยู่ตลอดเวลา
ปัญญา ก็คือ ความเข้าใจและเห็นแจ้งว่า มันไม่มีตัวเราและตัวตนของใครๆอยู่จริง (เห็นสุญญตา) (เรื่องสุญญตานี้จะใช้ความเชื่อตามตำราหรือตามคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด จะต้องเป็นทั้งความเข้าใจและเห็นแจ้งด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะเป็นปัญญาที่แท้จริง ซึ่งถ้าใครอยากมีปัญญา ก็ต้องไปศึกษาจากเว็บ "ฉันคืออะไร?" ของอาตมาเอาเอง)
สรุปก็คือ การปฏิบัติอริยมรรคก็คือ การมองเห็นความว่างจากตัวตนของทุกสิ่งด้วยสมาธิอยู่ตลอดเวลา เมื่อปฏิบัติถูกต้อง จิตก็จะหลุดพ้นได้แม้เพียงชั่วคราว (ตทังควิมุติ) เมื่อจิตหลุดพ้น นิพพานก็ปรากฏ แต่ถ้าเผลอสติทำให้กิเลสเกิดขึ้นมา ความหลุดพ้นก็หายไป ความทุกข์ก็กลับมาได้ใหม่ จนกว่าจะปฏิบัติอริยมรรคได้อย่างต่อเนื่องนานๆ จนความเคยชินที่จะเกิดกิเลสขึ้นมาได้อีกได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นจากจิตใต้สำนึก (สังโยชน์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง) จิตก็จะหลุดพ้นได้อย่างถาวร (สมุจเฉทวิมุติ) และนิพพานก็จะปรากฎได้อย่างถาวร หรือตลอดชีวิต (เรื่องหลุดพ้นอย่างถาวรนี้เป็นแค่ทฤษฎี อย่าเพิ่งไปสนใจว่าจะมีจริงหรือไม่ เอาแค่เพียงชั่วคราวให้ได้บ่อยๆก็นับว่ามีคุณค่าอย่างยิ่งแล้ว)
นิมนต์หลวงพี่เตชช่วยอธิบายขั้นตอนวิธีการปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นให้กระผมด้วยครับ
ตั้งแต่ตื่นเช้าจนล้มตัวลงนอน หลวงพี่เจริญสติภาวนาแบบไหน ยังไง เผื่อกระผมจะได้นำไปปฏิบัติบ้าง
KUNTIM
---------------------------------
หลักการปฏิบัติอริยมรรคนั้นไม่มีรูปแบบตายตัว เราสามารถปฏิบัติอริยมรรคได้ในการดำเนินชีวิตของเรานี่เอง โดยต้องศีล สมาธิ และปัญญาอยู่ตลอดเวลา
ศีล ก็คือ การตั้งใจที่จะไม่เบียดเบียนชีวิต-ทรัพย์สิน-กามารมณ์ของผู้อื่น รวมทั้งการตั้งใจที่จะไม่พูกโกหก คำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ
สมาธิ ก็คือ การทำอะไรๆด้วยความบริสุทธิ์จากกิเลสและนิวรณ์ ด้วยความตั้งใจอย่างต่อเนื่อง และด้วยความอ่อนโยน อยู่ตลอดเวลา
ปัญญา ก็คือ ความเข้าใจและเห็นแจ้งว่า มันไม่มีตัวเราและตัวตนของใครๆอยู่จริง (เห็นสุญญตา) (เรื่องสุญญตานี้จะใช้ความเชื่อตามตำราหรือตามคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด จะต้องเป็นทั้งความเข้าใจและเห็นแจ้งด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะเป็นปัญญาที่แท้จริง ซึ่งถ้าใครอยากมีปัญญา ก็ต้องไปศึกษาจากเว็บ "ฉันคืออะไร?" ของอาตมาเอาเอง)
สรุปก็คือ การปฏิบัติอริยมรรคก็คือ การมองเห็นความว่างจากตัวตนของทุกสิ่งด้วยสมาธิอยู่ตลอดเวลา เมื่อปฏิบัติถูกต้อง จิตก็จะหลุดพ้นได้แม้เพียงชั่วคราว (ตทังควิมุติ) เมื่อจิตหลุดพ้น นิพพานก็ปรากฏ แต่ถ้าเผลอสติทำให้กิเลสเกิดขึ้นมา ความหลุดพ้นก็หายไป ความทุกข์ก็กลับมาได้ใหม่ จนกว่าจะปฏิบัติอริยมรรคได้อย่างต่อเนื่องนานๆ จนความเคยชินที่จะเกิดกิเลสขึ้นมาได้อีกได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นจากจิตใต้สำนึก (สังโยชน์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง) จิตก็จะหลุดพ้นได้อย่างถาวร (สมุจเฉทวิมุติ) และนิพพานก็จะปรากฎได้อย่างถาวร หรือตลอดชีวิต (เรื่องหลุดพ้นอย่างถาวรนี้เป็นแค่ทฤษฎี อย่าเพิ่งไปสนใจว่าจะมีจริงหรือไม่ เอาแค่เพียงชั่วคราวให้ได้บ่อยๆก็นับว่ามีคุณค่าอย่างยิ่งแล้ว)