คือวันนี้ผมมีประชุมกับทางแผนก IT ก็ได้ทำการจองห้องประชุมแล้วเข้าไปประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ดันโชคร้ายในห้องประชุม ไม่มีจุดเชื่อมสายแลน เลยตกลงกันว่ามานั่งคุยที่โต๊ะทำงาน ก็แล้วกัน เพราะว่ามีกันสามคน
แต่โต๊ะผมมันเล็ก และ ข้าง ๆ ผมก็มีพี่ ๆ นั่งทำงานกันอยู่แล้ว คงอัดสามไม่ไหว เลยตัดสินใจไปนั่งคุยกัน คอกของ VP ตัวเอง
ซึ่งพี่เค้าลาออกไปแล้ว และโต๊ะเค้าก็ว่างอยู่ แถมยังมีจุดเชื่อมสายแลน และจอคอม สำหรับต่อ
พอคุยงานกันไปได้ 10 นาที VP แผนกข้างๆ ก็ ชะโงกหน้าข้าม พาดิชั่น มาดูแล้วบอกว่า
พวกคุณคุยกันเสียงเป่า ๆ หน่อยไหม ไม่งั้นก็ไปหาห้องประชุม คุยกันไป อย่ามาเสียดังพี่จะทำงานต้องการสมาธิ
ผมก็อธิบายไปว่าห้องประชุมที่จอดมันไม่มีจุดต่อ แลน ครับ
เค้าก็บอกว่า พี่ไม่สนอ่ะ พี่จะทำงาน พวกคุณก็ต้องไปหากันให้ได้
ผมได้ยินก็อึ้งไปเลย IT อีก 2 คนก็งงเป็นไก่ตาแตก ว่ามาไล่ทำไม พวกเราก็มาปรชุมคุยงานกัน แถมไม่ได้หัวเราะอะไรเลย
คุยว่า flow นี้จะวิ่งยังไงแก้ไข job ยังไง แต่คุณเธอดันมาไล่ให้ไปประชุมที่อื่นมันซะงั้น
โดน VP ต่างแผนกไล่ให้ไปประชุมที่อื่น เพราะว่าเสียงดัง รบกวนสมาธิเค้า
แต่ดันโชคร้ายในห้องประชุม ไม่มีจุดเชื่อมสายแลน เลยตกลงกันว่ามานั่งคุยที่โต๊ะทำงาน ก็แล้วกัน เพราะว่ามีกันสามคน
แต่โต๊ะผมมันเล็ก และ ข้าง ๆ ผมก็มีพี่ ๆ นั่งทำงานกันอยู่แล้ว คงอัดสามไม่ไหว เลยตัดสินใจไปนั่งคุยกัน คอกของ VP ตัวเอง
ซึ่งพี่เค้าลาออกไปแล้ว และโต๊ะเค้าก็ว่างอยู่ แถมยังมีจุดเชื่อมสายแลน และจอคอม สำหรับต่อ
พอคุยงานกันไปได้ 10 นาที VP แผนกข้างๆ ก็ ชะโงกหน้าข้าม พาดิชั่น มาดูแล้วบอกว่า
พวกคุณคุยกันเสียงเป่า ๆ หน่อยไหม ไม่งั้นก็ไปหาห้องประชุม คุยกันไป อย่ามาเสียดังพี่จะทำงานต้องการสมาธิ
ผมก็อธิบายไปว่าห้องประชุมที่จอดมันไม่มีจุดต่อ แลน ครับ
เค้าก็บอกว่า พี่ไม่สนอ่ะ พี่จะทำงาน พวกคุณก็ต้องไปหากันให้ได้
ผมได้ยินก็อึ้งไปเลย IT อีก 2 คนก็งงเป็นไก่ตาแตก ว่ามาไล่ทำไม พวกเราก็มาปรชุมคุยงานกัน แถมไม่ได้หัวเราะอะไรเลย
คุยว่า flow นี้จะวิ่งยังไงแก้ไข job ยังไง แต่คุณเธอดันมาไล่ให้ไปประชุมที่อื่นมันซะงั้น