[CR] ทริปตามหาหัวใจที่ลืมไว้กับใครสักคน (เปรโต๊ะลอซู)

วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางไปเที่ยวน้ำตกเปรโต๊ะลอซู  เรื่องราวระหว่างการเดินทาง  และข้อมูลความรู้เพิ่มเติมบางอย่างให้อ่านกันครับ  ผิดพลาดตรงไหนขออภัยและน้อมรับความผิดพลาดไว้คนเดียวครับผม
      
      วันหยุดยาวเมื่อไหร่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่จะต้องหาเรื่องเที่ยวให้ได้  พอดีวันที่  30  กรกฎาคม  ถึง  2  สิงหาคม เป็นวันหยุดยาว  พวกผมเลยหาสถานที่ท่องเที่ยว  หาไปหามาแล้วก็ภาพนี้  

และไอ้เจ้าภาพนี้แหละครับที่ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้น
       ภาพประกอบการรีวิวมาจากหลายกล้องมาครับ  ทั้ง canon   fuji  iphone  sony   และมาจากหลายคนถ่าย  เพราะฉะนั้นภาพอาจจะมีความแตกต่างในเรื่องรายละเอียดครับ

29  กรกฎาคม  2558
       23.00    ออกเดินทางจากกรุงเทพครับ  โดยพวกผมเลือกที่จะขับรถไปกันเอง (เลือกออกเดินทางเวลานี้เพราะว่ากะจะถึงแม่สอดตอนเช้า  จะได้ไปฝากท้องที่แม่สอดสักหน่อย  แล้วก็จะแวะเที่ยวน้ำตกพาเจริญด้วย  ถ้าออกเร็วไปก็ยังเข้าน้ำตกไม่ได้  ฮืออออๆๆๆๆ)
****  กรณีที่ไม่มีรถส่วนตัวเดินทางไป  สามารถเดินทางได้โดยนั่งรถทัวร์สายกรุงเทพ -  แม่สอด   เมื่อไปถึงแม่สอดแล้ว  ก็จะมีคิวรถสองแถวแม่สอดไปอุ้มผาง(ถ้าจำไม่ผิดราคาน่าจะคนละ  80  บาท)   ซึ่งสองแถวสายนี้คนค่อนข้างที่จะใช้บริการมาก  มากถึงขั้นจะต้องขึ้นไปนั่งบนหลังคารถกันเลยทีเดียว   แต่ถ้ากรณีไปกันเยอะหรือทุนหนาๆอาจจะใช้วิธีเหมารถไปก็ได้ครับ

30  กรกฎาคม  2558
        06.00   ถึงจุดชมวิวระหว่างเส้นทางตาก-แม่สอด  ก็เลยแวะชมทะเลหมอกกันสักหน่อยครับ

สวยงามตามท้องเรื่อง


         07.00  ถึงริมแม่น้ำเมย  เดินเล่นชิวๆ  รอร้านอาหารเปิด



หลังจากนั้นมาหาของกินกันครับ  แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ  เพราะว่าแร้งลง  ลืมถ่ายครับ  5555555555555

        08.45  ออกเดินทางไปน้ำตกพาเจริญ  น้ำตกพาเจริญทางเข้าอยู่ติดถนนสายแม่สอด - อุ้มผางเลยครับ  หาได้ไม่ยาก  พอถึงแล้วก็จัดแจงถ่ายรูปและเล่นน้ำกันครับ



            11.30  ออกเดินทางต่อไปอุ้มผาง  ระหว่างนั้นก็แวะพักที่อุ้มเปี้ยมกันครับ  
****อุ้มเปี้ยมจะเป็นจุดที่อยู่ครึ่งทางของเส้นทางแม่สอด - อุ้มผางพอดีครับ  นักเที่ยวมักจะมาแวะจุดนี้เสมอ  เพราะว่าการเดินทางจากแม่สอดมาอุ้มผางไกลถึง  164  กิโลเมตร  ใช้เวลาเดินทางประมาณ  3-4  ชั่วโมงแล้วแต่ความชำนาญ  และทางเป็นภูเขาที่สูงชัน  เพราะฉะนั้น  การแวะพักที่อุ้มเปี้ยมจึงเป็นที่นิยมมาก




ที่จุดแวะ  จะมีขายเป็นจำพวกของฝาก    กาแฟสด   อาหารก็จะเป็นมาม่า  ขนมจีบ  ซาลาเปา  และไข่ลวก  ไม่มีอาหารตามสั่งครับ  เน้นกินเพื่อรอท้อมากกว่า

          อีกทั้งแถวๆนั้น  ยังมีศูนย์พักพิงชั่วคราวอุ้มเปี้ยม  ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวของชาวพม่าที่หนีภัยการสู้รบมาอาศัยอยู่ที่ฝั่งไทย  ซึ่งศูนย์พักพิงนี้ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปได้  หากจะเข้าไปต้องทำเรื่องขออนุญาตกรมการปกครอง  กระทรวงมหาดไทย  เพราะฉะนั้นจึงมีรูปภาพจากด้านนอกเท่านั้นครับ


          หลังจากที่พักผ่อนพอสมควรแล้วก็เดินทางต่อกับระยะทางอีก  80  กิโลโดยประมาณครับ  ลุยๆๆๆๆๆๆๆ

บรรยากาศระหว่างเดินทางไปอุ้มผางครับ





มีจุดให้ชมวิวด้วย

***ที่ชื่อว่าจุดชมวิวลอยฟ้า  เพราะว่าเส้นทางที่เดินทางไปยังอุ้มผางจะมีชื่อเรียกว่า  ถนนลอยฟ้า  ก็เลยเป็นจุดชมวิวลอยฟ้านั่นเองครับ

          15.00  ถึงอุ้มผางแล้วครับ  พิชิตได้แล้ว  1219  โค้ง  เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

          หลังจากนั้นก็เข้าที่พัก  ซึ่งพวกผมไปพักบ้านคนรู้จักครับ  ทำให้ประหยัดค่าที่พัก   แล้วก็เอาเงินไปกินดีกว่า  5555555555555555
*****  เรื่องที่พักในอุ้มผางนั้นส่วนมากก็เป็นจำพวกโฮมสเตย์  เกสต์เฮ้าส์ซะเยอะครับ  หาข้อมูลได้ไม่ยาก
*****  ว่าด้วยเรื่องการเดินทางมาอุ้มผาง  ความจริงแล้วอุ้มผางเป็นอำเภอที่ติดกับอำเภอสังขละบุรี  กาญจนบุรี  แต่เราไม่สามารถเดินทางมาจากทางจังหวัดกาญจนบุรีได้  เพราะว่าปัจจุบันมีถนนเส้นเดียวที่สามารถเดินทางมาอุ้มผางได้  คือเส้นทางแม่สอด-อุ้มผางเท่านั้น  ด้วยเหตุนี้เอง  การเดินทางมาอุ้มผางจึงใช้เวลามาก  เพราะว่าเราต้องขับอ้อมขึ้นไปจังหวัดตาก  แล้วขับวกกลับลงมาทางจังหวัดกาญจนบุรีอีกทีหนึ่งครับ

            17.00  เดินทางไปดอยหัวหมด  ชมวิวตัวเมืองอุ้มผาง  และพระอาทิตย์ตก(แต่ไม่เห็นเพราะเมฆบัง  555555555)


ไกลๆโน้นแหละครับ  ตัวอำเภออุ้มผาง


ภาพนี้มีคนบอกว่า  มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาตรวจป่าด้วย  55555


มีหินสวยๆแปลกตาด้วย


           หลังจากที่ชมวิวกันอิ่มแล้ว  ก็ได้เวลาไปกิน  กิน  แล้วก็กินครับ  แต่ช่วงนี้ไม่มีภาพให้ดูนะครับ  เหตุผลเหมือนเดิม  เพราะแร้งลงครับ  55555  แต่แนะนำว่าไปอุ้มผางแล้วอย่าลืมลองกินแกงคั่วพริกกะเหรี่ยงครับ  อร่อยฝุดๆๆ  อิอิ

           หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ  เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา  ก็เข้าวัดเวียนเทียนกันที่วัดนี้ครับ
        
            วันนี้ภารกิจจบเท่านี้ครับ  ตัดภาพไปวันต่อไปเลย
*****  ว่าด้วยเรื่องประวัติของอำเภออุ้มผาง  
ปี  2432  อำเภออุ้มผางในสมัยเมื่อ  100  กว่าปีมาแล้วเรียกว่า  เมืองแม่กลอง  ถูกกำหนดให้เป็นเมืองหน้าด่านด้านชายแดนตะวันตก  โดยขึ้นอยู่กับจังหวัดอุทัยธานี(ผู้ว่าอุทัยเวลาจะตรวจราชการทีคงต้องเดินป่ามากันเลยทีเดียว  555555555)    มีด่านตรวจหนังสือเดินทางเข้าไทยกับพม่า  หนังสือเดินทางดังกล่าวจะบรรจุไว้ในกระบอกไม้ไผ่  เพื่อป้องกัน  ป้องกันการฉีกขาด  เนื่องจากเดินทางหลายวัน  ซึ่งกรัะบอกไม้ไผ่ดังกล่าวภาษากะเหรี่ยงเรียกว่า  อุผะ  แล้วก็มีการเพี้ยนมาเป็นอุ้มผางในปัจจุบันนั่นเอง
ปี  2441  ทางราชการได้ยกฐานะของตำบลแม่กลอง  เป็นอำเภอแม่กลอง
ปี  2469  โอนอำเภอแม่กลองจากจังหวัดอุทัยธานี  ไปขึ้นกับจังหวัดกำแพงเพชร
ปี  2499  ได้มีการย้ายที่ว่าการอำเภอไปอยู่ที่บ้านอุ้มผาง  แล้วเปลี่ยนจากอำเภอแม่กลองเป็นกิ่งอำเภออุ้มผาง
ปี  2502  ยกฐานะกิ่งอำเภออุ้มผาง  เป็นอำเภออุ้มผาง  และย้ายจากจังหวัดอุทัยธานีไปขึ้นกับจังหวัดตากจนถึงทุกวันนี้
ชื่อสินค้า:   เดินป่า ดำน้ำ แบกเป้ท่องโลก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่