หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำตก(waterfall)ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่มีความสวยงามแปลกตาน่าค้นหา ซึ่งมีมากมายกระจายตัวซุกซ่อนอยู่ตามป่าเขาของทุกภาคในประเทศไทย ขนาดเล็กบ้างใหญ่บ้าง เข้าถึงง่ายบ้างยากบ้างตามแต่สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไป แต่วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางไปเยี่ยมชมน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เนื่องด้วยขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร และการเดินทางที่ไม่ได้ยากเกินไปนัก "น้ำตกทีลอซู (Thi Lo Su Waterfall)"
      น้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของเอเชีย และมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
     ข้อมูลจากไกด์ท้องถิ่นชาวไทยภูเขาบอกว่า "ทีลอ" แปลว่า "น้ำตก" ส่วน "ซู" ในภาษาไทยภูเขาแปลว่า "ใหญ่" ในพื้นที่ยังมีน้ำตกที่ใกล้กันชื่อน้ำตก "ทีลอจ่อ" ซึ่งแปลว่าน้ำตกน้อง หรือน้ำตกเล็ก
      ทีลอซู ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงาม และมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน ระหว่าง 1 มิ.ย. - 31 พ.ย. ปริมาณน้ำฝนที่มากจะเพิ่มปริมาณน้ำในลำธารทำให้สายน้ำตกกว้างใหญ่กว่าฤดูอื่น แต่เป็นช่วงที่ทางรถเข้าน้ำตกปิด เพื่อป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้เส้นทางและถนอมสภาพทางไม่ให้เสียหาย นักท่องเที่ยวอาจเลี่ยงใช้เส้นทางนี้ได้ โดยการซื้อทัวร์กับบริษัทนำเที่ยวซึ่งจะเดินทางด้วยเรือยางและเดินป่าอีกราว 10 กม. แต่หากมาท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว - ฤดูร้อนระหว่าง 1 ธ.ค. - 31 พ.ค. ก็สามารถใช้ทางรถยนต์เข้าน้ำตกได้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เที่ยวได้สะดวกที่สุด ไม่ว่าจะเที่ยวแบบไปกลับหรือพักค้างแรม
      ก่อนอื่นเราต้องเดินทางมาที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เนื่องด้วยเป็นเมืองปิด เราจึงต้องมาทางอำเภอแม่สอดเท่านั้น ผ่านทางหลวงหมายเลข 1090 สายแม่สอด-อุ้มผาง เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวสลับซับซ้อนบนเทือกเขาถนนธงชัย ผ่านโค้งทั้งหมด 1,219 โค้ง เป็นที่รู้จักกันในนามของ "ถนนแผ่นดินลอยฟ้า" ห่างจาก กทม. ประมาณ 700 กม. ใช้เวลาเดินทางไม่น้อยกว่า 11 ชม.
      แผ่นที่แหล่งท่องเที่ยวใน อ. อุ้มผาง
      วัวของชาวบ้าน และไร่ข้างโพด
      เรามาที่จุดบรรจบกันของลำห้วยสองสาย คือแม่กลองน้อย กับอุ้มผาง
      อันเป็นต้นลำห้วยแม่กลอง ซึ่งจะไหลลงไปแม่น้ำแม่กลอง ผ่านจ.กาญจนบุรี
      เริ่มแรก เราจะเดินทางโดยนั่งแพยาง
      ล่องไปตามลำห้วยแม่กลอง
      เขาหินปูนถูกน้ำเสาะ ทำให้เกิดเพิงผา ถ้ำ มากมาย
      ชิมวิวสองฝั่งน้ำ
       หน้าฝน น้ำจะสีเข้มนิดนึง
       ล่องมาประมาณ 30 นาที จะเห็นน้ำตกทีลอจ่อ หรือ น้ำตกสายฝน
       สายน้ำตกทิ้งตัวจากความสูงระดับ 80 เมตร ลงสู่ลำน้ำเบื้องล่างแล้วแตกกระจายเป็นฝอย เกิดเป็นรุ้งกินน้ำที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเวลา 09.00 น.ที่จะปรากฏภาพความงามนี้ได้อย่างชัดเจน
        แต่วันที่ไปฝนตกตลอดทาง ฟ้าปิด
       ล่องมา 50 นาที ขี้นฝั่ง "บ่อน้ำร้อน"
       เป็นจุดแวะพักผ่อน มีห้องน้ำให้ใช้
        เป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติ อุณหภูมิประมาณ 39 องศา ไหลลงมาบรรจบกับน้ำแม่กลอง
ให้ลงไปแช่น้ำร้อนคลายหนาว
         
        ออกจากบ่อน้ำร้อนอีก 10 นาที จะพบกับแก่งตะโค๊ะบิ๊ ให้ได้หวาดเสียวกันเล็กน้อย
        "ผาผึ้ง" เมื่อก่อนมีผึ้งทำรังอยู่นับสิบรัง
        ล่องแพมาประมาณ 2 ชม. กว่าๆ ก็จะถึง"ผาเลือด" เกิดจากคราบของแร่ธาตุที่ไหลเคลือบผิวผา สีน้ำตาลแดงเป็นทางราวกับว่าเป็นเลือด
       จุดแวะพักทานอาหารกลางวัน
       
       เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาต่อรถเพื่อไปส่งยังเขตฯอุ้มผาง (ในฤดูแล้ง)
       ข้อคิดสะกิดใจ
       "ท่าทราย" จุดเริ่มเดินเท้า หลังจากล่องแพมา 3 ชม. ครึ่ง     

       ทางเดินช่วงแรกประมาณ 400 เมตรเป็นทางดินธรรมชาติ

       ที่ช่วงนี้จะชุ่มชื้นอยู่
       ออกไปก็จะเจอถนน
      ที่เราจะต้องเดินไปตามเส้นทางนี้ เป็นระยะทางเกือบ 10 กม. เพื่อไปยังเขตฯอุ้มผาง
      ถนนพังในหลายช่วง
       เป็นดินก็หลายช่วง
      มีความชุ่มฉ่ำ
       หลังจากเดินขึ้นเนินลงเนินมา 3 ชม. ก็ถึง(ป้าย) ตลอดทางไม่มีที่พัก และร้านค้านะครับ ต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม
       ต้องเดินต่อไปอีกราว 1 กม.
       มีคลื่นโทรศัพท์ของเจ้านี้เจ้าเดียว
       พักผ่อนกันที่นี่ 1 คืน
       ตื่นเช้ามา ค่อยออกเดินทางไปชมพระเอกของทริปนี้กันต่อ
       ยืดอกพกถุง (ขยะ)
       เมื่อเข้าป่าจงคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวและผู้พิทักษ์
       ทางเดินสบายๆ
       มีป้ายสื่อข้อมูล ความรู้เป็นระยะๆ
       ชื่อพันธุ์ไม้ต่างๆ
       วันก่อนฝนตกหนัก ทำให้มีไม้ล้มขวางทางเดิน
       หน่อไม้
       ดอกกระเจียวก็มีให้เห็น       
       เขียวชอุ่ม Green Season
       ยิ่งเดินเข้ามาเสียงน้ำยิ่งดังขึ้น แสดงให้เห็นว่าใกล้ถึงน้ำตกแล้ว
       ไฮไลต์ของทริปนี้
       ละอองน้ำกระจายไปทั่วบริเวณ
       ธรรมชาติยิ่งใหญ่เสมอ
       ขอตำหนิบุคคลที่ทำไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไร
       แถมท้ายด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของอุ้มผางอีกแห่งหนึ่ง คือ ดอยหัวหมด มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวหลายลูกติดต่อกัน บนภูเขาเหล่านี้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขี้น มีแต่ต้นหญ้าเตี้ย ๆ เช่น ปรง ต้นเทียน ซึ่งจะออกดอกบานในช่วงฤดูฝน ได้ชื่อว่า ดอยหัวหมด เพราะต้นไม้หายหมด
       ดอยหัวหมด เป็นจุดชมวิวซึ่งเหมาะที่จะดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตกและดูทะเลหมอกท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อน
       เหล่านายแบบ นางแบบ
       ส่งท้ายกันด้วยภาพนี้ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ