วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ในการซื้อคอนโดค่ะ
สำหรับเราคือมือใหม่มากๆ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะอยากลงทุนค่ะ
เก็บเงินเองมันควบคุมไม่ได้ 100% เท่ากับไปผ่อนซื้ออะไรไว้ เพราะเราจะมีวินัยมากกว่า ^^
ก็เลยมาตกลงซื้อคอนโดโซนใกล้บ้าน เพื่อจะได้ดูแลได้ง่ายค่ะ ตั้งใจจะปล่อยเช่าค่ะ
เราอยู่รังสิต เพราะฉะนั้นตัวเลือกก็มีไม่มากเท่าไร ก็ไปเจอเจ้านึงคอนโดชีวิตดี๊ดี (นามสมมุติ)
อยู่ใกล้คลองรังสิต (ติดเลยดีกว่า) เราก็เข้าไปดู เท่าที่คุยก็มีจุดต้องระวังหลายจุดค่ะ
1. เค้าไม่เคยทำโครงการอื่นมาก่อน ซึ่งจุดนี้คือจุดที่น่ากลัวจุดนึง อยากให้มือใหม่สังเกตุกันดีๆ นะคะ
เพราะถ้าเป็นเจ้าใหญ่ๆ ก็จะค่อนข้างมืออาชีพ หรืออย่างน้อยถ้ามีปัญหาอะไร ก็ตามง่ายกว่า
ทำไมถึงตามง่าย เพราะถ้าเค้ามีโครงการอื่นที่ขายอยู่ในเวลาใกล้กัน เค้าก็จะกลัวเสียชื่อเสียงโครงการอื่น
ก็มีผลทำให้เค้าเข้ามาปิดปัญหาของเราได้เร็วขึ้นค่ะ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)
2. โครงการยังไม่ผ่าน EIA (ใบอนุญาติสิ่งแวดล้อม) อันนี้ก็สำคัญ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะผ่านได้เมื่อไร
และถ้าไม่ผ่านต้องรอไปอีกเท่าไร เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อตรวจสอบใบอนุญาติให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
3. โครงการยังไม่เริ่มสร้าง อันนี้บางทีซื้อก่อนสร้างก็จะได้ราคาถูกกว่าสร้างก่อนขาย แต่ก็เสี่ยงพอสมควร
เพราะถ้ายอดจองไม่ได้ตามเป้า หรือเอกสารต่างๆ ไม่ผ่าน ก็มีสิทธิ์ไม่สร้างได้เช่นกัน และถึงเวลานั้น
เงินได้คืนก็จริงๆ ก็เสียเวลามากๆ และกว่าจะได้คืนครบนี่ก็เหนื่อยกันเหมือนกันนะคะ
สามข้อข้างต้นนี้เป็นจุดสังเกตุที่เราเจอตอนที่จะจองโครงการนี้ แต่นั่นคือจุดที่เรามองข้ามไปค่ะ
เรื่องมันก็เลยเกิด (บอกแล้วว่ามือใหม่ 555) มาฟังประสบการณ์ของเรากันนะคะ ^^
เราจองโครงการนี้ตอนเดือนกันยายนปี 55 ซึ่งทางเซลล์บอกว่ารอแค่เอกสาร EIA ซึ่งผ่านแน่ๆ
และกำหนดการสร้างคือเดือนตุลาคม อีกแค่เดือนเดียวจากที่เราจองแค่นั้น เซลล์ก็รับรองแข็งขันค่ะ
ว่าได้แน่ๆ เพราะเอกสารครบหมดแล้ว รอเซ็นแค่นั้น เราก็เออออจองไปสี่หมื่นกว่าบาท
และตามสัญญาคือเริ่มผ่อนดาวน์เมื่อเริ่มสร้าง (ก็คือเดือนหน้า) และกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 57
พอถึงเดือนตุลาคมปรากฎว่าก็ยังไม่ผ่าน เราก็เลยขอยังไม่ผ่อนดาวน์ (เพิ่งมาแอบฉลาด 55)
ทางโครงการก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร แค่ติดต่อกันทางโทรศัพท์
เราก็โทรถามทุกเดือน แต่ก็ไม่อนุมัติ ถามจนเซลล์บอกว่า ถ้าไม่สะดวกใจก็มายกเลิกสัญญาได้นะคะ
แต่เราก็คิดว่าเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน ก็เลยเชื่อใจรอไปก่อน
ผ่านไปจนถึงต้นปี 2557 โครงการก็ยังไม่มีทีท่าจะได้เริ่มสร้างแต่อย่างใด เราก็โทรไปถามเป็นระยะเช่นเคย
และอ่านสัญญาเจอว่า ถ้าเราผิดนัดชำระจะมีค่าปรับ เราก็เลยขอเข้าไปคุย เพื่อทำสัญญาเพิ่มเติมในกรณีที่ไม่ผ่อนดาวน์
เข้าไปคุยปรากฎว่าโครงการชี้แจงเรื่องการขออนุญาติหลายครั้งที่โดน reject กลับมา และเค้าจะมีการแจ้งลูกบ้านทุกครั้ง
เราก็ต่อว่าที่ไม่มีการแจ้งข่าวอะไรเราเลย ต้องตามเองตลอด เค้าก็อ้างว่าติดต่อเราไม่ได้ ทั้งทางจดหมายและทางโทรศัพท์
เป็นความซวยของคนซื้อสินะ
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจขอยกเลิกสัญญา เพราะโครงการผิดนัดและไม่มีการแจ้งข่าวความคืบหน้า
ปรากฎว่าเซลล์บอกว่าไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะในสัญญาจะสร้างเสร็จปี 2557 และตอนนี้โครงการก็ยังไม่ผิดสัญญา
เราก็เลยถามว่าก่อนสิ้นปียังเคยบอกว่าให้ยกเลิกสัญญาได้อยู่เลย ทำไมตอนนี้ไม่ได้แล้ว
เซลล์ก็บอกว่าธนาคารไม่ยอมให้เอาเงินออกมาแล้ว สุดท้ายก็เลยได้ทำแค่สัญญาที่จะไม่ผ่อนดาวน์จนกว่าจะเริ่มสร้าง
เป็นลายลักษณ์อักษรไว้แค่นั้น และจนถึงบัดนี้โครงการก็ยังไม่ผ่าน EIA ใดๆ ทั้งสิ้น
จนมาเข้าปีนี้โครงการก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเคย เดือนมิถุนายนเราจึงตัดสินใจติดต่อโครงการอีกครั้งเพื่อยกเลิกสัญญา
รอบนี้โครงการบอกว่าไม่มีปัญหาบอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกที ผ่านไป 2 อาทิตย์โทรถามก็ได้ความว่าต้องประชุมกันก่อน
และอาทิตย์ที่ผ่านมางดประชุมพอดี เราก็รอข่าวต่อไป จนมาเข้าเดือนกรกฎาคมโครงการถึงอนุมัติคืนเงินจองให้เรา
โดยจะโอนเข้าบัญชีให้ และจะแจ้งวันอีกที
โทรตามอีก 2 รอบเงินงวดแรกถึงเข้ามาเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี่เอง และแบ่งจ่ายเป็นสี่งวด (กว่าจะได้ครบก็พฤศจิการยนนู่น)
เหนื่อยใจนะคะ ตอนทำสัญญาเราจ่ายสดจ่ายเต็ม แต่ตอนจะขอคืน (ทั้งๆ ที่โครงการผิดสัญญา) เรากลับมาทวงเกือบสองเดือน
นี่ยังไม่รวมเวลาที่ขอยกเลิกมาก่อนหน้านั้น แต่โครงการไม่ทำให้นะคะ แล้วเงินที่ได้ก็ไม่ใช่ได้ทีเดียวด้วย มาแบ่งจ่ายสี่งวด
มันใช่เหรอคะ เงินหลักหมื่นแค่นี้เอาไปหมุนมันได้ดอกเยอะมากเลยเหรอคะ ถึงคืนลูกค้าเต็มจำนวนไม่ได้
แล้วเงินสี่หมื่นนี่คุณเอาของดิฉันไปดองไว้ 3 ปี โดยที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยนะคะ ดอกเบี้ยดิฉันก็ไม่ได้ค่ะ
เพลียเจ้าของกิจการเมืองไทยมาก เอาเปรียบลูกค้าสุดๆ
ประสบการณ์ที่แชร์มาวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่คิดจะซื้อคอนโดบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ ^^
บทเรียนซื้อคอนโดสำหรับมือใหม่ (แชร์ประสบการณ์นะคะ)
สำหรับเราคือมือใหม่มากๆ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะอยากลงทุนค่ะ
เก็บเงินเองมันควบคุมไม่ได้ 100% เท่ากับไปผ่อนซื้ออะไรไว้ เพราะเราจะมีวินัยมากกว่า ^^
ก็เลยมาตกลงซื้อคอนโดโซนใกล้บ้าน เพื่อจะได้ดูแลได้ง่ายค่ะ ตั้งใจจะปล่อยเช่าค่ะ
เราอยู่รังสิต เพราะฉะนั้นตัวเลือกก็มีไม่มากเท่าไร ก็ไปเจอเจ้านึงคอนโดชีวิตดี๊ดี (นามสมมุติ)
อยู่ใกล้คลองรังสิต (ติดเลยดีกว่า) เราก็เข้าไปดู เท่าที่คุยก็มีจุดต้องระวังหลายจุดค่ะ
1. เค้าไม่เคยทำโครงการอื่นมาก่อน ซึ่งจุดนี้คือจุดที่น่ากลัวจุดนึง อยากให้มือใหม่สังเกตุกันดีๆ นะคะ
เพราะถ้าเป็นเจ้าใหญ่ๆ ก็จะค่อนข้างมืออาชีพ หรืออย่างน้อยถ้ามีปัญหาอะไร ก็ตามง่ายกว่า
ทำไมถึงตามง่าย เพราะถ้าเค้ามีโครงการอื่นที่ขายอยู่ในเวลาใกล้กัน เค้าก็จะกลัวเสียชื่อเสียงโครงการอื่น
ก็มีผลทำให้เค้าเข้ามาปิดปัญหาของเราได้เร็วขึ้นค่ะ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)
2. โครงการยังไม่ผ่าน EIA (ใบอนุญาติสิ่งแวดล้อม) อันนี้ก็สำคัญ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะผ่านได้เมื่อไร
และถ้าไม่ผ่านต้องรอไปอีกเท่าไร เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อตรวจสอบใบอนุญาติให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
3. โครงการยังไม่เริ่มสร้าง อันนี้บางทีซื้อก่อนสร้างก็จะได้ราคาถูกกว่าสร้างก่อนขาย แต่ก็เสี่ยงพอสมควร
เพราะถ้ายอดจองไม่ได้ตามเป้า หรือเอกสารต่างๆ ไม่ผ่าน ก็มีสิทธิ์ไม่สร้างได้เช่นกัน และถึงเวลานั้น
เงินได้คืนก็จริงๆ ก็เสียเวลามากๆ และกว่าจะได้คืนครบนี่ก็เหนื่อยกันเหมือนกันนะคะ
สามข้อข้างต้นนี้เป็นจุดสังเกตุที่เราเจอตอนที่จะจองโครงการนี้ แต่นั่นคือจุดที่เรามองข้ามไปค่ะ
เรื่องมันก็เลยเกิด (บอกแล้วว่ามือใหม่ 555) มาฟังประสบการณ์ของเรากันนะคะ ^^
เราจองโครงการนี้ตอนเดือนกันยายนปี 55 ซึ่งทางเซลล์บอกว่ารอแค่เอกสาร EIA ซึ่งผ่านแน่ๆ
และกำหนดการสร้างคือเดือนตุลาคม อีกแค่เดือนเดียวจากที่เราจองแค่นั้น เซลล์ก็รับรองแข็งขันค่ะ
ว่าได้แน่ๆ เพราะเอกสารครบหมดแล้ว รอเซ็นแค่นั้น เราก็เออออจองไปสี่หมื่นกว่าบาท
และตามสัญญาคือเริ่มผ่อนดาวน์เมื่อเริ่มสร้าง (ก็คือเดือนหน้า) และกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 57
พอถึงเดือนตุลาคมปรากฎว่าก็ยังไม่ผ่าน เราก็เลยขอยังไม่ผ่อนดาวน์ (เพิ่งมาแอบฉลาด 55)
ทางโครงการก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร แค่ติดต่อกันทางโทรศัพท์
เราก็โทรถามทุกเดือน แต่ก็ไม่อนุมัติ ถามจนเซลล์บอกว่า ถ้าไม่สะดวกใจก็มายกเลิกสัญญาได้นะคะ
แต่เราก็คิดว่าเพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือน ก็เลยเชื่อใจรอไปก่อน
ผ่านไปจนถึงต้นปี 2557 โครงการก็ยังไม่มีทีท่าจะได้เริ่มสร้างแต่อย่างใด เราก็โทรไปถามเป็นระยะเช่นเคย
และอ่านสัญญาเจอว่า ถ้าเราผิดนัดชำระจะมีค่าปรับ เราก็เลยขอเข้าไปคุย เพื่อทำสัญญาเพิ่มเติมในกรณีที่ไม่ผ่อนดาวน์
เข้าไปคุยปรากฎว่าโครงการชี้แจงเรื่องการขออนุญาติหลายครั้งที่โดน reject กลับมา และเค้าจะมีการแจ้งลูกบ้านทุกครั้ง
เราก็ต่อว่าที่ไม่มีการแจ้งข่าวอะไรเราเลย ต้องตามเองตลอด เค้าก็อ้างว่าติดต่อเราไม่ได้ ทั้งทางจดหมายและทางโทรศัพท์
เป็นความซวยของคนซื้อสินะ
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจขอยกเลิกสัญญา เพราะโครงการผิดนัดและไม่มีการแจ้งข่าวความคืบหน้า
ปรากฎว่าเซลล์บอกว่าไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะในสัญญาจะสร้างเสร็จปี 2557 และตอนนี้โครงการก็ยังไม่ผิดสัญญา
เราก็เลยถามว่าก่อนสิ้นปียังเคยบอกว่าให้ยกเลิกสัญญาได้อยู่เลย ทำไมตอนนี้ไม่ได้แล้ว
เซลล์ก็บอกว่าธนาคารไม่ยอมให้เอาเงินออกมาแล้ว สุดท้ายก็เลยได้ทำแค่สัญญาที่จะไม่ผ่อนดาวน์จนกว่าจะเริ่มสร้าง
เป็นลายลักษณ์อักษรไว้แค่นั้น และจนถึงบัดนี้โครงการก็ยังไม่ผ่าน EIA ใดๆ ทั้งสิ้น
จนมาเข้าปีนี้โครงการก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นเคย เดือนมิถุนายนเราจึงตัดสินใจติดต่อโครงการอีกครั้งเพื่อยกเลิกสัญญา
รอบนี้โครงการบอกว่าไม่มีปัญหาบอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกที ผ่านไป 2 อาทิตย์โทรถามก็ได้ความว่าต้องประชุมกันก่อน
และอาทิตย์ที่ผ่านมางดประชุมพอดี เราก็รอข่าวต่อไป จนมาเข้าเดือนกรกฎาคมโครงการถึงอนุมัติคืนเงินจองให้เรา
โดยจะโอนเข้าบัญชีให้ และจะแจ้งวันอีกที
โทรตามอีก 2 รอบเงินงวดแรกถึงเข้ามาเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี่เอง และแบ่งจ่ายเป็นสี่งวด (กว่าจะได้ครบก็พฤศจิการยนนู่น)
เหนื่อยใจนะคะ ตอนทำสัญญาเราจ่ายสดจ่ายเต็ม แต่ตอนจะขอคืน (ทั้งๆ ที่โครงการผิดสัญญา) เรากลับมาทวงเกือบสองเดือน
นี่ยังไม่รวมเวลาที่ขอยกเลิกมาก่อนหน้านั้น แต่โครงการไม่ทำให้นะคะ แล้วเงินที่ได้ก็ไม่ใช่ได้ทีเดียวด้วย มาแบ่งจ่ายสี่งวด
มันใช่เหรอคะ เงินหลักหมื่นแค่นี้เอาไปหมุนมันได้ดอกเยอะมากเลยเหรอคะ ถึงคืนลูกค้าเต็มจำนวนไม่ได้
แล้วเงินสี่หมื่นนี่คุณเอาของดิฉันไปดองไว้ 3 ปี โดยที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยนะคะ ดอกเบี้ยดิฉันก็ไม่ได้ค่ะ
เพลียเจ้าของกิจการเมืองไทยมาก เอาเปรียบลูกค้าสุดๆ
ประสบการณ์ที่แชร์มาวันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่คิดจะซื้อคอนโดบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ ^^