Uber บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปฯ ที่กำลังมีปัญหาในหลายๆ ประเทศ รวมถึงในอินเดีย ประกาศที่จะเดินหน้าทุ่มเม็ดเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอินเดียในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพื่อตั้งเป้ารองรับการให้บริการ 1 ล้านเที่ยวต่อวันก่อนเดือนมีนาคมปี 2016 ทั้งนี้ เม็ดเงินดังกล่าวจะถูกใช้ในการขยายการให้บริการเพื่อครอบคลุมหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และระบบการชำระเงิน หลังมองว่า อินเดีย คือตลาดรายได้ใหญ่ของบริษัทและบริการก็มีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริการ Uber ได้เคยถูกสั่งห้ามให้บริการในอินเดีย หลังจากที่มีข่าวว่า หนึ่งในคนขับรถของ Uber ได้มีการก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสาร และนั่นก็ทำให้ต่อมารัฐบาลอินเดียตัดสินใจที่จะสั่งระงับการให้บริการแท็กซี่ที่ไม่ได้จดทะเบียน แต่กระนั้น Uber กลับนำใบอนุญาตทีได้รับจากกรุงนิวเดลีและเมืองมาใช้แก้ขัด ระหว่างรอการอนุมัติ และเมื่อเดือนต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลนิวเดลีก็ได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต และให้ดำเนินการขอใบอนุญาตใหม่
ทั้งนี้ แผนการลงทุนของ Uber ครั้งใหม่ ตามมาหลังจากที่บริษัทคู่แข่ง Ola ซึ่งเป็นบริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปฯ เช่นกัน ได้รับการสนับสนุนเงินก้อนโตจากบริษัทเทคโนโลยีญี่ปุ่น SoftBank และบริษัทเงินทุน Tiger Global ราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่มา TechSpot
Uber เตรียมทุ่ม 1 พันล้านเหรียญฯ เพื่อขยายกิจการในอินเดีย หลังตลาดไปได้สวย
Uber บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปฯ ที่กำลังมีปัญหาในหลายๆ ประเทศ รวมถึงในอินเดีย ประกาศที่จะเดินหน้าทุ่มเม็ดเงิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอินเดียในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพื่อตั้งเป้ารองรับการให้บริการ 1 ล้านเที่ยวต่อวันก่อนเดือนมีนาคมปี 2016 ทั้งนี้ เม็ดเงินดังกล่าวจะถูกใช้ในการขยายการให้บริการเพื่อครอบคลุมหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และระบบการชำระเงิน หลังมองว่า อินเดีย คือตลาดรายได้ใหญ่ของบริษัทและบริการก็มีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริการ Uber ได้เคยถูกสั่งห้ามให้บริการในอินเดีย หลังจากที่มีข่าวว่า หนึ่งในคนขับรถของ Uber ได้มีการก่อเหตุข่มขืนผู้โดยสาร และนั่นก็ทำให้ต่อมารัฐบาลอินเดียตัดสินใจที่จะสั่งระงับการให้บริการแท็กซี่ที่ไม่ได้จดทะเบียน แต่กระนั้น Uber กลับนำใบอนุญาตทีได้รับจากกรุงนิวเดลีและเมืองมาใช้แก้ขัด ระหว่างรอการอนุมัติ และเมื่อเดือนต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลนิวเดลีก็ได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต และให้ดำเนินการขอใบอนุญาตใหม่
ทั้งนี้ แผนการลงทุนของ Uber ครั้งใหม่ ตามมาหลังจากที่บริษัทคู่แข่ง Ola ซึ่งเป็นบริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปฯ เช่นกัน ได้รับการสนับสนุนเงินก้อนโตจากบริษัทเทคโนโลยีญี่ปุ่น SoftBank และบริษัทเงินทุน Tiger Global ราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่มา TechSpot