นิทานสามก๊ก ตอน ทำไมกวนอูจึงหน้าแดง และ กวนอูไม่กินเต้าหู้

กระทู้คำถาม
****** ทำไมกวนอูจึงหน้าแดง *******

   เมื่อครั้งกวนอูยังวัยรุ่นเป็นคนเลือดร้อนด้วยจิตใจรักความเป็นธรรม เกลียดชังการข่มเหงรังแกคนอ่อนแอ   
กวนอูเกิดเรื่องถึงขั้นทำร้ายคนชั่วเสียชีวิตไป จึงต้องหลบหนีอาญาแผ่นดิน กวนอูหนีเข้าไปถึงป่าพุทรา
ผู้เฒ่าที่ดูแลป่าพุทราอยู่เอ็นดูกวนอู จึงเสนองานให้กวนอูเป็นคนเฝ้าดูแลรักษาป่าพุทรานั้น   

   ที่ป่านั้น พุทราออกลูกดกเหลือจะกล่าว ลูกพุทราแดงเถือกเต็มต้นจนกิ่งจวนจะหัก พุทราสุกตกเกลื่อนเต็ม
แดงเถือกไปทั้งป่าพอลูกพุทราเน่าเกิดน้ำเฉอะแฉะไหลสู่ลำธารทำให้น้ำในแม่น้ำลำธารแดงแจ๋ไปด้วยแล้ว
มันก็อย่างภาษิตจีนเขาว่าไว้ว่า “ใกล้ภูก็หากินกับภู  ใกล้น้ำก็หากินกับน้ำ” กวนอูอยู่ป่าพุทรา  วันวันก็ต้อง
มองเห็นแต่พุทราสีแดง ต้องขายพุทราสีแดง ต้องกินพุทราสีแดงกินน้ำก็เป็นน้ำสีแดง อาบน้ำก็อาบน้ำสีแดง
เพราะลำธารกลายเป็นสีแดงไปแล้ว นานไป กินพุทราแดงเข้าไปมากๆ อาบน้ำสีแดงไปหลายปี ในที่สุด  
หน้าของกวนอูจึงสีแดงดั่งลูกพุทราสุก
               
    ส่วนที่ว่าทำไมตากวนอูจึงหรี่ปรือเหมือนตาพญาหงส์ นั่นเป็นเพราะว่ากวนอูต้องนอนเฝ้าพุทราอยู่ใต้ต้นพุทรา
ทุกวันป้องกันคนมาขโมยพุทรา ดวงตากวนอูจึงเหมือนกึ่งหลับกึ่งไม่หลับ หรี่ๆ ปรือๆ เป็นอยู่อย่างนี้นานปีตากวนอู
จึงหรี่ปรืออยู่ใต้กระจุกขนคิ้วหนา ๆ  มองดูแล้วจึงเหมือนตาพญาหงส์

   ***** กวนอูไม่กินเต้าหู้ ******

    กวนอูต้องหลบหนีอาญาแผ่นดินอีกเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เล่าว่า กวนอูหลบไปอาศัยอยู่กับคนทำเต้าหู้ ช่วยเขาทำเต้าหู้
ขายไปวันวัน วันหนึ่งมีพ่อค้าขายน้ำตาลมาเห็นกวนอูขายเต้าหู้ จึงแกล้งกล่าวเสียดสีว่า “ขายเต้าหู้นี่มันต้มตุ๋นคนซื้อ ดูซิ
ในเต้าหู้มีแต่น้ำทั้งนั้น”
   
    กวนอูก้มพิจารณาสินค้าของตัวเอง ในเต้าหู้ก็เป็นน้ำเสียเป็นส่วนใหญ่จริงๆ ด้วย กวนอูเป็นบุคคลรักความเที่ยงธรรม   
จึงรู้สึกอับอายมากทำให้หน้าแดงจัด นับแต่นั้นมาใบหน้าจึงเป็นสีแดงมาตลอด แต่กวนอูก็เกิดความรู้สึกว่าไม่ควรจะยอม
แพ้ง่ายๆ จึงโต้เถียงกลับไปว่า “เจ้าขายน้ำตาล คนก็ต้องเอาไปละลายน้ำเสียก่อนจึงกินได้ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ทำไม
มาด่าว่าข้าฝ่ายเดียว”

     พ่อค้าน้ำตาลตอบกลับไปว่า  “น้ำในสองสิ่งนี้ไม่เหมือนกัน น้ำในเต้าหู้ของเจ้ามันหลอกลวง แต่น้ำละลายน้ำตาลของข้า
มันของจริง” เอ้า ! อย่างนี้มันก็หาเรื่องกันชัดๆ นี่หว่า กวนอูบอก

      พ่อค้าน้ำตาลก็ลอยหน้าลอยตาอธิบายต่อไปว่า "ก้อนน้ำตาลนี้มันเป็นของจริงแท้ๆ น้ำหวานเมื่อตอนเป็นน้ำ เคี่ยวจนแห้ง
เป็นก้อนน้ำตาล เอาน้ำมาละลายน้ำตาลก็เป็นน้ำหวาน จะเปลี่ยนกลับไปกลับมากี่รอบ มันก็เหมือนเดิม แต่เต้าหู้ของเจ้านั้น  
เอาถั่วมาบดละลายน้ำ เติมน้ำปูนใสเกิดเป็นก้อนเต้าหู้ เต้าหู้นี่จะเอากลับไปแยกเป็นถั่วอีกก็ไม่ได้ เต้าหู้มันของมายาไม่จริง
แท้เหมือนน้ำตาลของข้า"

        คราวนี้กวนอูหมดทางโต้เถียง จำยอมรับว่าเต้าหู้เป็นของมายา ตนเองเป็นลูกผู้ชายคนจริง จึงตัดสินใจเลิกทำเต้าหู้  
เลิกขายเต้าหู้ และก็เลิกกินเต้าหู้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่