[กระทู้ระบาย]ใครเคยมีปัญหากับเพื่อนของแฟนบ้าง?

เรากับแฟนคบกันมาจะ 6 ปีแล้ว อายุ 21 เท่ากัน แฟนเราเรียนมหาลัย ส่วนเราทำงานอยู่ที่บ้าน สมัยเรียนด้วยกันก็ไม่มีปัญหากับเพื่อนของแฟนเลย เพื่อนแฟนชวนไปเที่ยวไหนเราก็คะยั้นคะยอให้แฟนไปจะได้มีเพื่อนเยอะๆ เวลามีงานกลุ่มเราก็ช่วยพวกเค้าทำงานจะได้เสร็จเร็วๆ ชอบให้แฟนเราไปขอเบอร์สาวๆเราก็ไม่เคยว่า พวกเพื่อนๆของแฟนบอกว่าคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน ทุกอย่างดูไม่น่ามีปัญหาอะไรเราก็เข้ากับเพื่อนของแฟนได้ดี เหมือนว่าเรื่องนี้จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง สุขสันต์ นิรันดรรรรร  แต่นั้นมันในหนัง นี่มันชีวิตจริง!!!
            ปัญหาเกิดตอนเรียนมหาลัย เพื่อนของแฟนเรามีแฟนขอเรียกนางว่า “นางเจือก” นางเจือกมีรุ่นน้องที่มหาลัยแล้วชอบพามานั่งด้วยกันที่โต๊ะของแฟนเรา ขอเรียกรุ่นน้องว่า “ชะนีน้อย” กลายเป็นว่าน้องชะนีน้อยได้ตกหลุมรักแฟนดิฉัน OMG!!! แฟนเราบอกว่าชะนีน้อยเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบดูแลเอาใจใส่ ซื้อนู้นซื้อนี้มาให้ ช่วยทำการบ้าน เพื่อนแฟนเราทุกคนชอบชะนีน้อยเป็นอย่างมาก ผู้ชายอาจจะคิดว่าอัธยาศัยดีแต่ผู้หญิงเรานั้นเรียกสิ่งที่ชะนีน้อยทำว่า “อ่อย” (ความคิดเห็นส่วนตัวและอารมณ์ล้วนๆ) แล้วเพื่อนของแฟนเรามาบอกแฟนเราว่าชะนีน้อยชอบ และได้เอาไลน์ชะนีน้อยมาให้แฟนเรา สองคนนี้จึงได้คุยกัน โดยที่เราไม่รู้เรื่องเลย เราเป็นคนที่ไว้ใจแฟนเรามาก แฟนเราเหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ คบกันมาไม่เคยนอกใจ นี่จึงเป็นครั้งแรก!!! หลายๆครั้งที่เพื่อนๆหรือคนอื่นๆบอกว่า แฟนแบบนี้หาได้ที่ไหนอีก รักษาไว้ให้ดีๆนะ นั้นคือความคิดที่ผิด เราลืมไปว่าเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนได้ จะไม่ให้เปลี่ยนได้ไงละในเมื่อแฟนเราไปมหาลัยเจอชะนีน้อยแต่งหน้าจัดเต็ม ใส่ชุดนักศึกษารัดๆสั้นๆ และเป็นคนอัธยาศัยดี๊ดี ส่วนพอมาเจอเราใส่เสื้อยืดกางเกงบอล มัดจุก ไม่แต่งหน้า มีหรอมันจะไม่หวั่นไหวไหนตอบ!!! (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าผู้หญิงอย่าหยุดสวยถึงแม้จะมีแฟนแล้วเพราะมีชะนีพร้อมมาสอยแฟนคุณทุกเมื่อ) และสุดท้ายพวกเค้าก็เลิกคุยกัน เพราะแฟนเราเริ่มสำนึกได้ ไม่อยากทำให้เราเสียใจ (เสียใจตั้งแต่แรกแล้วโว้ยย) แฟนเราทำใจอยู่นานจึงมาสารภาพยังพอมีความดีอยู่บ้างแต่ (นานจริงๆ เป็นเดือนๆ เกือบปี)  เราปรับความเข้าใจกันไม่ได้ทะเลาะกันมากมาย แต่ให้เค้าเล่ามาให้หมด ตอนแรกเรากะจะไปว่าชะนีน้อย แต่พรายกระซิบบอกว่ามันไม่จำเป็น เราโตแล้ว เราควรทำแบบที่ผู้ใหญ่ทำ มันไร้สาระเกินไป โอเคเราทำตามที่พรายกระซิบบอก (เพื่อนๆเรานั้นแหละ) แต่มันไม่จบไง ถึงวันเกิดแฟนเราชะนีน้อยนางได้ให้ของขวัญแฟนเรามา เป็นตุ๊กตาหมา เราเรียกมันว่า ไอ้หมาหน้าโง่ มันเป็นตุ๊กตามีกลิ่น แฟนเราแกะกล่องไปแล้วมันอยู่ในรถแฟนเรา แฟนเราเอามันออกอย่างเร็วเพราะกลิ่นมันหอมชวนอ้วกมากกก สุดท้ายแฟนเราเอาไปให้เด็กแถวบ้าน นอกเรื่องไปไกลละ เราทนทำตามที่พรายกระซิบบอกไม่ได้ เราบอกเพื่อนๆว่าถ้าการเป็นผู้ใหญ่คือการที่เราต้องระงับห้ามใจไม่ให้ทำตามใจตามที่เราต้องการแล้วต้องยอมทนเป็นเหมือนนางเอกละครบอกเลยว่า “เราไม่ทน” เราจึงจัดการโพสเฟสบุ๊คแฟน ว่าชะนีน้อยไป แต่กลายเป็นว่ามีคนร้อนตัวแทนชะนีน้อย นางเจือกนั้นเอง นางทนไม่ได้จึงร่วมด้วยช่วยกันกับชะนีน้อยมาว่าเรา และพวกเพื่อนๆแฟนก็มาว่าเรา โพสว่าเราในเฟสบุ๊คนั้นแหละ ทุกคนเข้าข้างชะนีน้อยกันหมด เหมือนว่าเราเป็นตัวร้ายและรังแกชะนีน้อย เกิดอาการงงสิค่ะ เกิดอะไรกับโลกของเรา  ทำไมคนที่จะโดนแย่งแฟนไปเป็นคนผิด OMG!!! ตรรกะป่วยมากๆ ลืมบอกไปว่าชะนีน้อยของเรานั้นนางมีแฟนอยู่แล้วค่ะ แต่นางมาคุยกับแฟนชาวบ้าน พอเลิกคุยกัน นางก็ไปคุยกับเพื่อนในกลุ่มแฟนเราต่อ และเพื่อนแฟนเราคนนี้ก็เข้าข้างนางสุดพลังเพราะว่าชอบนาง เราเลยคิดว่าความรักทำให้คนตาบอดสงสัยจะมีจริงๆ เรากะจะไปที่มหาลัยไปว่ากันต่อหน้าเลย แต่พรายกระซิบบอกเราอีกแล้วว่า “ไปก็โดนพวกนั้นรุมว่า ไม่เห็นต้องแคร์ ปล่อยมันไปเหอะ ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ไร้สาระมากๆ ขนาดเรียนมหาลัยแล้ว โตๆกันแล้วนะ” สุดท้ายเราเลยปลงไม่อยากมีเรื่องเราเลยไม่ได้ไปมหาลัย และนั้นคือความผิดอีกหน กลายเป็นว่าคนพวกนั้นคิดว่าเราผิดไม่กล้ามา โง่อยู่ในกะลา ปอดแหก แต่เราก็ไม่แคร์เสียงนกเสียงกา หมาเห่าอย่าไปเห่าตอบ
           จนมันมีเรื่องเกิดขึ้นอีกครั้ง มีรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าเรา ทักเฟสแฟนเรามา ซึ่งนางทักบ่อยไง ทั้งๆที่ก็มีแฟนอยู่แล้วทำไมไม่คุยกับแฟนตัวเอง จะมาคุยกับแฟนชาวบ้านทำไม ตรรกะป่วยๆอีกแล้ว บ้างคนอาจบอกว่าเราคิดมากไปไหมเค้าแค่คุยกันเอง แต่เรากลับคิดว่ามันเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เราเลยโพสสถานะแฟนเราไป แต่กลายเป็นว่าเพื่อนๆแฟนเราร้อนตัวคิดว่าว่าชะนีน้อย เลยมาโพสตอบโต้เรา สุดท้ายพวกนั้นก็ลากเราเข้ากลุ่มแชทในเฟสบุ๊คแล้วก็รุมว่าเรา ครั้งนี้เราทนไม่ได้พวกเค้าบอกคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน หาว่าเราไม่พอใจอะไรพวกเค้า หาว่าเราฟังความข้างเดียว พวกเพื่อนแฟนชอบว่าเราในแชทหลายครั้งแล้วก็รู้นะว่าเรามีรหัสแฟน ว่าเราว่าเป็นนักเลงคีย์บอร์ด เรายอมรับว่าเราก็มีส่วนผิด ที่จัดการปัญหาแบบนี้ ตอนแรกเราก็รู้สึกผิดนะแต่ว่าพวกเพื่อนของแฟนไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย รวมทั้งชะนีน้อยและนางเจือก สุดท้ายเราจึงได้ไปมหาลัยแฟนถึงแม้จะรู้ว่าจะโดนรุม แต่เราก็ไปคนเดียว เราไปถึงก่อนใครเลยไปพร้อมแฟน พวกเพื่อนๆแฟนก็ทยอยมาทีละคน นางเจือกก็มาพร้อมแฟนนาง นางก็ไม่กล้าเข้ามาว่าแต่อย่างใด เพราะนางรอฝูงของนางมาให้ครบก่อนนางไม่กล้าสู้ พอทุกคนมาครบก็ไม่มีใครพูดอะไรเงียบกริบ เรานึกขำในใจที่พวกเค้าว่าเรานักเลงคีย์บอร์ดพวกนั้นก็ไม่ต่างกันเลย ในเฟสบุ๊คเห็นว่าเอาๆ พอเราไปไม่มีใครกล้ามาว่าต่อหน้าสักคน เรารู้สึกสมเพชพวกนั้นมากที่ว่าคนอื่นแต่ไม่ดูตัวเองเลย เราเลยเป็นคนเริ่มพูดก่อน และคนที่ร้อนตัวยังกับโดนน้ำร้อนสาด นางเจือกอีกแล้วค่ะ นางพูดลอยๆอยากตบคน เราได้ยินถึงกับอึ้ง ไม่ใช่อึ้งเพราะกลัวนะ แต่นางเจือกเรียนมหาลัยแล้วแต่นางคิดได้แค่นี้? ตัดสินใจแก้ปัญหาได้แค่นี้ อึ้งค่ะ ตรรกะนางป่วยเข้าขั้นโคม่า สุดท้ายไม่เห็นมีใครพูดอะไรมากเราเลยกลับบ้าน แต่นางเจือกไม่จบค่ะ ทำอย่างกับว่าเราไปแย่งแฟนนางมา นางโทรมาด่าเราค่ะ เราก็พูดกับนางดีๆนะ รักษาภาพลักษณ์ไงเป็นผู้ใหญ่ต้องพูดจาไพเราะแต่นางเจือกเรียกเราว่าอี... เท่านั้นแหละค่ะ หมดกันความเป็นผู้ใหญ่ เราด่าไม่ยั้งด่าจนนางเจือกด่าไม่ทันแถมลอกคำด่าเราอีก สะใจมากค่ะ ณ จุดๆนั้น หลังจากนั้นเราจึงให้แฟนเลิกคบเพื่อนพวกนั้นเลย ยังมีอีกหลายอย่างที่เพื่อนแฟนทำถ้าเล่าอาจจะมีคนร้อนตัวอีก(ถ้ามีใครอยากรู้เล่าจะมาเล่าต่อ)

ปล. ถึงผู้หญิงที่มีแฟนแล้วนะคะ อย่าคบซ้อนเลยค่ะ “ประชากรชายมีน้อย โปรดใช้สอยอย่างประหยัด”  
ปล. ได้โปรดอภัยอายุยังน้อยประสบการณ์ไม่มากอาจใช้คำผิดไปบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่