เดี๋ยวนี้การหุงข้าวก็อันตรายแล้วเหรอเนี่ยะ กินยากขึ้น
มะเร็ง คือเนื้องอกชนิดร้ายที่กลายมาจากเนื้อเยื่อปกติของร่างกาย ที่เจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อยู่นอกเหนือการควบคุมของร่างกาย
มะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับแรกๆ ของคนไทย ที่พบบ่อยใน ประเทศไทยก็คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งไต่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งในช่องปาก ฯลฯ
เคยมีคนสังเกตมานานแล้วนะครับว่า ประเทศที่บริโภคข้าวโพด เผือก มัน หรือกล้วย เป็นอาหารหลัก มักจะไม่ค่อยเป็นมะเร็ง ส่วนประเทศที่ผู้คนบริโภคข้าวจะเป็นมะเร็งในสัดส่วนที่มากกว่า เป็นมะเร็งกันมากกว่า
แต่เดิม เราคิดว่าสาเหตุของการเป็นมะเร็งน่าจะมาจากสารกันมอดที่ถูกคลุกเคล้าเข้ากับเมล็ดข้าวสารผมเคยได้ยินท่านผู้ใหญ่พูดว่า คนทานข้าวกล้องเป็นมะเร็งมากกว่าทานข้าวขาว สมัยก่อนตอนที่ได้ยินครั้งแรกๆ ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะมอดชอบกินข้าวกล้อง โรงสีจึงใส่สารกันมอดในปริมาณมากกว่าที่ใส่ลงไปในข้าวขาว
ข้อสงสัยที่ผมมีมานานมากกว่า 20 ปี วันนี้ก็ได้รับการเฉลยโดยศาสตราจารย์ แอนดี เมฮาร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การ เกษตรและดิน สถาบันเพื่อความมั่นคงอาหารของโลก หรือ Institute for Global Food Security มหาวิทยาลัยควีนส์ ออฟเบลฟาสต์ สหราชอาณาจักร แกบอกว่า ข้าวมีสารอนินทรีย์ที่เป็นพิษสะสมในระดับสูง สารนี้เป็นต้นเหตุของมะเร็งปอดและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ถามว่าทำไมถึงมีสารอนินทรีย์ในข้าว ก็มีคำอธิบายว่า เพราะข้าวเป็นพืชที่ต้องเติบโตในสภาพที่น้ำท่วมถึง และในสภาพที่มีน้ำท่วมถึงจะมีปฏิกิริยาที่ทำให้มีการปล่อยสารหนูที่เป็นสารอนินทรีย์ตามธรรมชาติออกมา ส่วนมากสารนี้จะตกค้างอยู่ในดินและต่อมาก็ถูกดูดซึมโดยต้นกล้าที่ชาวนาเอาไปปลูก
ย้อนหลังไปเมื่อ พ.ศ.2552 ศาสตราจารย์แอนดี เมฮาร์ก ก็พบว่า ข้าวกล้องมีปริมาณสารหนูอนินทรีย์สะสมมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวขาว
ใครสนใจเรื่องนี้ สามารถหาอ่านได้จากงานวิจัยที่ชื่อว่า Arsenic in drinking water and risk of urinary tract cancer และงานวิจัยชื่อ Speciation and localization of arsenic in white and brown grains ซึ่งงานวิจัยชิ้นหลังนี้ หลังจากศึกษาปริมาณสารหนูในข้าวขาว 39 ตัวอย่าง และข้าวกล้อง 45 ตัวอย่าง ที่เก็บมาจากทั้งซุปเปอร์มาร์เกต แปลงทดลองนาข้าว ก็ค้นพบว่า ข้าวกล้องมีปริมาณสารหนูสูงกว่าข้าวขาว
“คนที่ทานข้าวเป็นอาหารหลักและได้รับสารหนูตกค้างเป็นเวลานาน ยังเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคระบบประสาทถูกทำลาย แต่ที่เลวร้ายที่สุดก็คือโรคมะเร็งปอดและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ”
European Food Safety Authority (EFSA) องค์การความปลอดภัยของอาหารแห่งยุโรป ยังพบเหมือนกับที่ศาสตราจารย์เมฮาร์กพบว่า ข้าวมีสารหนูสะสมมากกว่าอาหารประเภทอื่นถึง 10 เท่า
พ.ศ. 2553 ศาสตราจารย์เมฮาร์กออกไปสุ่มตัวอย่างหาสารหนูอนินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ข้าวขาวขัดสีจาก 10 ประเทศ พบว่า ตัวอย่างข้าวขาวจากประเทศอียิปต์และอินเดียมีปริมาณสารหนูทั้งหมดต่ำสุด (0.04 และ 0.07 mg/kg) ข้าวขาวจากสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสมีสารหนูตกทั้งหมดสูงสุด (0.25 และ 0.28 mg/kg) ส่วนข้าวขาวจากไทย 54 ตัวอย่าง มีปริมาณสารหนูทั้งหมด 0.14 mg/kg
ทว่า ผู้อ่านท่านผู้เจริญผู้บริโภคข้าวอย่าเพิ่งตกใจครับ ตอนนี้ สถาบันวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยควีนส์ออฟเบลฟาสต์ได้คนพบวิธีทำให้สารหนูลดน้อยลงไปในข้าว สามารถลดลงไปได้มากถึง 85% ด้วยการเปลี่ยนวิธีการหุงข้าว โดยใช้เทคโนโลยีกระบวนการกลั่นกาแฟ ซึ่งใช้เครื่องต้มกาแฟแบบตั้งเตาไฟ ที่ช่วยให้น้ำเดือดไหลผ่านไปยังข้าวในลักษณะที่ไหลอย่างสม่ำเสมอ
และก็สถาบันวิจัยแห่งนี้นี่แหละครับ ที่กำลังขอจดสิทธิบัตรสำหรับการคิดค้นหม้อหุงข้าวแบบใช้เทคโนโลยีการกลั่นกาแฟ นี่หมายความว่า ในอนาคต
แม้แต่การหุงข้าวที่ปลอดภัย ห่างไกลจากโรคมะเร็ง เรายังจะต้องจ่ายสตางค์ให้พวกฝรั่งมังค่า
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดนะครับ บ้านเราเจอเรื่องแย่หลายอย่างต่อเนื่อง เรื่องเทียร์ 3 ของกฎหมายการค้ามนุษย์ของอเมริกา โดนสหภาพยุโรป 28 ประเทศตัดจีเอสพีในสินค้า 6,200 รายการ โดยเรื่องไอเคโอ การบินที่ไม่ได้มาตรฐาน โดนเรื่องไอยูยู การทำประมงอย่างผิดกฎหมาย ไม่รายงาน ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ เรามีปัญหาเรื่องน้ำแล้ง ปลูกข้าวไม่ได้
เมื่อฝนตก มีน้ำ อ้าว น้ำขังในดินที่มีต้นข้าวปลูกอยู่
กลับมีสารหนูที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งซะอีกแล้ว.
ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/514181 
ข้าว สารหนู มะเร็ง
มะเร็ง คือเนื้องอกชนิดร้ายที่กลายมาจากเนื้อเยื่อปกติของร่างกาย ที่เจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อยู่นอกเหนือการควบคุมของร่างกาย
มะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับแรกๆ ของคนไทย ที่พบบ่อยใน ประเทศไทยก็คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งไต่ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งในช่องปาก ฯลฯ
เคยมีคนสังเกตมานานแล้วนะครับว่า ประเทศที่บริโภคข้าวโพด เผือก มัน หรือกล้วย เป็นอาหารหลัก มักจะไม่ค่อยเป็นมะเร็ง ส่วนประเทศที่ผู้คนบริโภคข้าวจะเป็นมะเร็งในสัดส่วนที่มากกว่า เป็นมะเร็งกันมากกว่า
แต่เดิม เราคิดว่าสาเหตุของการเป็นมะเร็งน่าจะมาจากสารกันมอดที่ถูกคลุกเคล้าเข้ากับเมล็ดข้าวสารผมเคยได้ยินท่านผู้ใหญ่พูดว่า คนทานข้าวกล้องเป็นมะเร็งมากกว่าทานข้าวขาว สมัยก่อนตอนที่ได้ยินครั้งแรกๆ ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะมอดชอบกินข้าวกล้อง โรงสีจึงใส่สารกันมอดในปริมาณมากกว่าที่ใส่ลงไปในข้าวขาว
ข้อสงสัยที่ผมมีมานานมากกว่า 20 ปี วันนี้ก็ได้รับการเฉลยโดยศาสตราจารย์ แอนดี เมฮาร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การ เกษตรและดิน สถาบันเพื่อความมั่นคงอาหารของโลก หรือ Institute for Global Food Security มหาวิทยาลัยควีนส์ ออฟเบลฟาสต์ สหราชอาณาจักร แกบอกว่า ข้าวมีสารอนินทรีย์ที่เป็นพิษสะสมในระดับสูง สารนี้เป็นต้นเหตุของมะเร็งปอดและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ถามว่าทำไมถึงมีสารอนินทรีย์ในข้าว ก็มีคำอธิบายว่า เพราะข้าวเป็นพืชที่ต้องเติบโตในสภาพที่น้ำท่วมถึง และในสภาพที่มีน้ำท่วมถึงจะมีปฏิกิริยาที่ทำให้มีการปล่อยสารหนูที่เป็นสารอนินทรีย์ตามธรรมชาติออกมา ส่วนมากสารนี้จะตกค้างอยู่ในดินและต่อมาก็ถูกดูดซึมโดยต้นกล้าที่ชาวนาเอาไปปลูก
ย้อนหลังไปเมื่อ พ.ศ.2552 ศาสตราจารย์แอนดี เมฮาร์ก ก็พบว่า ข้าวกล้องมีปริมาณสารหนูอนินทรีย์สะสมมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับข้าวขาว
ใครสนใจเรื่องนี้ สามารถหาอ่านได้จากงานวิจัยที่ชื่อว่า Arsenic in drinking water and risk of urinary tract cancer และงานวิจัยชื่อ Speciation and localization of arsenic in white and brown grains ซึ่งงานวิจัยชิ้นหลังนี้ หลังจากศึกษาปริมาณสารหนูในข้าวขาว 39 ตัวอย่าง และข้าวกล้อง 45 ตัวอย่าง ที่เก็บมาจากทั้งซุปเปอร์มาร์เกต แปลงทดลองนาข้าว ก็ค้นพบว่า ข้าวกล้องมีปริมาณสารหนูสูงกว่าข้าวขาว
“คนที่ทานข้าวเป็นอาหารหลักและได้รับสารหนูตกค้างเป็นเวลานาน ยังเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคระบบประสาทถูกทำลาย แต่ที่เลวร้ายที่สุดก็คือโรคมะเร็งปอดและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ”
European Food Safety Authority (EFSA) องค์การความปลอดภัยของอาหารแห่งยุโรป ยังพบเหมือนกับที่ศาสตราจารย์เมฮาร์กพบว่า ข้าวมีสารหนูสะสมมากกว่าอาหารประเภทอื่นถึง 10 เท่า
พ.ศ. 2553 ศาสตราจารย์เมฮาร์กออกไปสุ่มตัวอย่างหาสารหนูอนินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ข้าวขาวขัดสีจาก 10 ประเทศ พบว่า ตัวอย่างข้าวขาวจากประเทศอียิปต์และอินเดียมีปริมาณสารหนูทั้งหมดต่ำสุด (0.04 และ 0.07 mg/kg) ข้าวขาวจากสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสมีสารหนูตกทั้งหมดสูงสุด (0.25 และ 0.28 mg/kg) ส่วนข้าวขาวจากไทย 54 ตัวอย่าง มีปริมาณสารหนูทั้งหมด 0.14 mg/kg
ทว่า ผู้อ่านท่านผู้เจริญผู้บริโภคข้าวอย่าเพิ่งตกใจครับ ตอนนี้ สถาบันวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยควีนส์ออฟเบลฟาสต์ได้คนพบวิธีทำให้สารหนูลดน้อยลงไปในข้าว สามารถลดลงไปได้มากถึง 85% ด้วยการเปลี่ยนวิธีการหุงข้าว โดยใช้เทคโนโลยีกระบวนการกลั่นกาแฟ ซึ่งใช้เครื่องต้มกาแฟแบบตั้งเตาไฟ ที่ช่วยให้น้ำเดือดไหลผ่านไปยังข้าวในลักษณะที่ไหลอย่างสม่ำเสมอ
และก็สถาบันวิจัยแห่งนี้นี่แหละครับ ที่กำลังขอจดสิทธิบัตรสำหรับการคิดค้นหม้อหุงข้าวแบบใช้เทคโนโลยีการกลั่นกาแฟ นี่หมายความว่า ในอนาคต แม้แต่การหุงข้าวที่ปลอดภัย ห่างไกลจากโรคมะเร็ง เรายังจะต้องจ่ายสตางค์ให้พวกฝรั่งมังค่า
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดนะครับ บ้านเราเจอเรื่องแย่หลายอย่างต่อเนื่อง เรื่องเทียร์ 3 ของกฎหมายการค้ามนุษย์ของอเมริกา โดนสหภาพยุโรป 28 ประเทศตัดจีเอสพีในสินค้า 6,200 รายการ โดยเรื่องไอเคโอ การบินที่ไม่ได้มาตรฐาน โดนเรื่องไอยูยู การทำประมงอย่างผิดกฎหมาย ไม่รายงาน ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ เรามีปัญหาเรื่องน้ำแล้ง ปลูกข้าวไม่ได้
เมื่อฝนตก มีน้ำ อ้าว น้ำขังในดินที่มีต้นข้าวปลูกอยู่
กลับมีสารหนูที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งซะอีกแล้ว.
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/514181