สวัสดีค่า กระทู้รีวิวแรกนี้ ขอเรียกว่า เป็นการเล่าสู่กันฟัง เก็บความทรงจำดีๆในหนึ่งวันแล้วกันนะคะ
วันศุกร์ หรือวันสุขที่ใครหลายคนคงเคยได้ยินกัน สำหรับเรา ความสุขของผู้หญิงคนนี้คงหนีไม่พ้นการ 'ออกเดินทาง หาร้านขนมหวาน ' ถ่ายรูป นั่งกิน พูดคุย (กรณีมีคนไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ เรามักไปคนเดียวค่ะ 555 มันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว) ซึมซับบรรยากาศร้านน่ารักๆ แล้วก็เอามาโพสต์ลงfb , ig ตามประสาวัยรุ่นแบบเราเนี่ยแหละค่ะ แต่วันนี้นึกครึ้ม ขอโพสต์เล่นลงพันทิปบ้าง

        ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า รีวิวขำๆคงไม่ได้ดีอะไร ตามความรู้สึกของเราเอง ซึ่งแต่ละคนความชอบก็ไม่เหมือนกันเนอะ เป็นการเล่าสู่กันฟัง แล้วให้ตัดสินใจกันเองดีกว่าค่าา ^^ ส่วนรูปก็ไม่ได้สวยอะไร 55 ถ่ายไม่เก่งแต่ยังชอบถ่ายค่ะ มันสนุกดี ..

        หลังจากที่น้องสาว อ้อนวอนขอให้พาไปหาร้านน่ารักๆนั่งกินขนมหวานมาสักพัก ด้วยความที่เป็นพี่แสนดี ผลัดวันไปหลายอาทิตย์มากแล้วค่ะ จนน้องเริ่มบ่นประชดแล้วว่า สงสัยจะไม่ได้ไปแล้วล่ะ 55 เราเลยรีบจัดให้เลยค่ะ สงสาร YY วางแผนมาได้ 3ร้านนะคะ คือ Elmar Offwhite , vanilla bakeshop , perhaps rabbits  ค้นหาจากอากู๋ และแหล่งรวมรีวิวร้านต่างๆใน ig เลยต้องจัดค่ะ

        แรกเริ่มเดิมที สนใจร้าน Perhaps rabbits ก่อนค่ะ เพราะเห็นว่าร้านน่ารัก อยากถ่ายรูป เลยหาร้านอื่นๆเพิ่มเติมที่อยู่ในละแวก เอกมัย ใช่แล้วค่ะวันนี้จะพาไป 3 ร้าน ที่ละแวกเอกมัยทั้งสิ้นค่ะ ...

        การเดินทางของเรา เริ่มจาก bts แบริ่ง สถานีปลายทางคือ เอกมัย ค่ะ หลังจากนั้น เราเดินออกประตูที่ 1 ค่ะ เพื่อไปยังซอยสุขุมวิท 63 จุดหมายเเรกของเราคือ ร้าน Elmar Offwhite ค่ะ ปากซอยจะเป็นบ้านไร่กาแฟนะคะ เดินไปสักพัก (พกร่มด้วยก็จะดีมากเลยนะคะ แดดร้อนเอาเรื่องเลย ) จะเจอปั๊มesso ฝั่งตรงข้ามค่ะ แสดงว่า ใกล้ถึงร้านแล้วค่ะ เดินอีกนิดค่ะ เจอแล้วค่ะ ร้านสีขาวน่ารักๆ เงียบสงบ ไม่มีคนเลยค่ะ เราไปคนแรกของร้าน ขณะนั้นเวลาประมาณ 12.30ค่ะ ^^



        จะเห็นว่า เราต้องเดินมาสั่งขนมที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนนะคะ จ่ายเงินให้เรียบร้อย แล้วก็หาที่นั่งเลยจ้า .. ชั้นสองก็มีนะคะ แต่ว่าไม่ได้เดินขึ้นไป TT

         ที่ร้านมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปได้เยอะเลยนะคะ เราก็เลยจัดให้น้องค่ะ แต่เธอกลับบอกว่า ทำไมหน้าหนูอ้วนอย่างนี้ TT เลยไม่กล้าเอารูปลงเลยค่ะ

        สำหรับร้านนี้เราได้ค้นมาว่า เมนูที่ควรสั่งคือ Dutch Baby Pancake ค่ะ แต่เนื่องจากเราจะเก็บแพนเค้กไปทานที่ร้านอื่น เลยกลัวเลี่ยนค่ะ จึงสั่งเมนูเย็นชื่นใจมาทานแทน นั่นคือ cheesecake bingsu ค่า จะเห็นว่าช่วงนี้ bingsu กำลังฮิตมากก เราไปทานที่สยามมาสองครั้ง แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราแอบชอบที่นี่มากกว่านะ เพราะอะไรดูค่ะ ..




        อ้อ พี่แฟนเจ้าของร้าน จะเดินมาเสิร์ฟแล้วจะบอกวิธีทานด้วยนะคะ คือคลุกค่ะ คลุกให้เข้ากัน แล้วจะฟินมากค่าาา   เราชอบที่ ไอติม ไม่แน่ใจว่ารสนมหรือเปล่า แต่แบบว่าเหมือนนมอัดเม็ด มันหอม ละมุนอร่อยมากกกกค่ะ น้ำแข็งไส ที่มีตัวซอสบลูเบอรี่ ไม่เปรี้ยวมากจนเกินไป ผสมรวมกับคอนเฟล็คหวานกำลังพอดี และชีสเค้กที่ชิ้นใหญ่เบิ้ม พอคลุกให้เข้ากัน สภาพที่ได้อาจจะไม่น่าทาน (และบางส่วนของคอนเฟล็คมันกระเด็นง่ะ TT อยากได้ภาชนะที่ใส่เป็นจานมากกว่า 555) แต่พอตักชิมแล้ว มันอื้อหืมมเลยค่ะ (บิงซูที่สยาม เราต้องไปขอนมเพิ่มมาเติมราดในน้ำแข็งไส ไม่งั้นเราจะรู้สึกเหมือนกินน้ำแข็งเปล่าๆอะค่ะ แต่ที่นี่ มันผสมลงตัวหมดเลยค่ะ ) อร่อยและชอบมากค่ะ จริงๆอยากลองแพนเค้ก อยากลองทาร์ตฟักทอง งาดำด้วย TT แต่กระเพาะต้องเก็บไปร้านอื่นต่อ ซึ่งคิดว่าคราวหน้าต้องไปนั่งที่ร้านนี้นานๆและจัดเฉพาะร้านนี้เลยค่ะ

      


        น่ารักมากกกกกค่ะ แบบว่ามีดอกไม้อัดอยู่ในน้ำแข็งด้วย >< และที่สำคัญ พอดื่มเข้าไปปุ๊บ ! มันจี๊ดจ๊าดเลยค่าาา เปรี้ยวสะใจ แบบว่าตัดความเลี่ยน (ซึ่งเราว่าที่ร้านนี้เค้าเป็นสไตล์โฮมเมดที่ไม่หวานจนเกินไปอยู่แล้ว ได้เป็นอย่างดีค่ะ ถ้าใครชอบเปรี้ยวๆต้องจัดค่ะ และเราก็ปลื้มมากกกค่ะ
แต่น้องเราบอกว่า 'ไม่ไหวอะ แบบว่าดื่มปุ๊บ จะรู้สึกเหมือนน้ำลายจะไหลออกมา ' 55

        และหลังจากหมดเรียบร้อย เราก็ต้องย้ายก้นออกจากร้านค่ะ เพื่อไปร้านที่สองต่อ ซึ่งเมื่อเรากำลังจะลุกออก พบว่ามีลูกค้าเข้าเต็มร้านเลยค่า แล้วเค้าก็พูดว่า เนี่ยได้ยินมา เค้าว่าร้านเธอทำอร่อย จะมาลองๆ .. เราแอบอมยิ้มในใจ ว่าพี่มาถูกทางแล้วค่ะ อร่อยจริงๆ เราชอบค่ะ <3

        หลังจากนั้นเราก็โบกแท็กซี่ เพื่อไปร้านที่สองนะคะ อยู่ในซอย 10 เวิ้งโบราณ ตรงข้ามhealtland ซึ่งจะเห็นร้าน UN fashion cafe เด่นชัดเลยค่ะ (กะจะไปลอง ขอเก็บไว้คราวหน้านะคะ ใครเคยลองแล้วช่วยแนะนำด้วยนะค้าา )
ร้านนี้เลยค่า  perhaps rabbits

        เปิดประตูเข้าไปปุ๊บ จะเจอนาฬิกาเรือนใหญ่ เค้กน่ารักๆวางตั้งเรียงรายตรงเคาน์เตอร์เต็มไปหมด เสียงเพลงดิสนีย์ ที่ไพเราะ และบรรยากาศรอบๆร้าน ที่เห็นแล้วอดที่จะยิ้ม และพูดว่า น่ารัก ไม่ได้ค่ะ ก่อนจะหยิบมือถือ กดชัตเตอร์ให้นางแบบ (น้องสาว)ของเรา แม้เธอจะบ่น แต่พอถ่ายให้ก็ยิ้มมีความสุขได้ค่ะ 55






        หลังร้านก็มีมุมสวยๆเป็นสวนน่ารักๆให้ถ่ายรูปอีกด้วยนะคะ เราถ่ายมาแต่ติดนางแบบ เลยต้องขออภัยที่ไม่สามารถลงได้จริงๆค่ะ (มิเช่นนั้น น้องสาวคงมาสวดยาวเลยค่าา TT) หลังจากถ่ายภาพเป็นที่พอใจแล้ว ก็สั่งขนมเค้กมาชิมเลยค่า ขนมเค้กที่นี่ มีหลากหลายเมนูน่าทานมากๆเลยค่าา เราสั่งมาลองสองชิ้นนะคะ



        พี่พนักงานจะแจ้งบอกเราก่อนนะคะว่า เมนูนี้ช็อคโกแลตจะไม่หวานมาก สอดไส้ข้างในด้วยคาราเมล ซึ่งพอชิมแล้ว ช็อคโกแลตไม่หวานมากจริงๆค่ะ คาราเมลก็ไม่หวานเกินไป แต่โดยส่วนตัวแล้ว เรายังไม่ค่อยชอบเนื้อเค้กอะค่ะ แอบเเข็งๆแห้งๆนิดๆ แต่ถ้าใครชอบแบบไม่ฉ่ำๆ ก็อาจจะปลื้มนะคะ


        เมนูนี้เป็นเลมอนทาร์ตค่ะ ซึ่งเราชิมแล้ว มองหน้ากับน้อง 55 คือใน ig มีคนชอบเยอะนะ เราจึงขอบอกก่อนว่ามันแล้วแต่ความเห็นส่วนตัวเนอะ ซึ่งเราไม่ค่อยชอบอะ มันออกกลิ่นเหมือนไข่คาวมากไป แล้วก็เปรี้ยวๆแบบปะแล่มๆ 555 บอกไม่ถูกอะ TT

        ทำให้ร้านนี้ปลื้มที่บรรยากาศร้าน ถ่ายรูปสวย แต่ว่า เรากับน้องไม่ค่อยปลื้มเค้กเท่าไหร่ค่ะ มีน้ำเปล่าให้ฟรีด้วยนะ 555

        หลังจากเสร็จร้านนี้ จึงวางแพลนไปร้านสุดท้ายค่ะ เอกมัยซอย 12 ซึ่งเราสามารถเดินลงไปทะลุซอย 12 ได้ แปปเดียวเองค่ะ จะเห็นเป้าหมายของเรา เป้าหมายสุดท้ายค่ะ

        ร้าน vanilla bakeshop เมื่อใครมาร้านนี้ก็อดที่จะถ่ายรูปกับป้ายหน้าร้านไม่ได้ จุดที่ทุกคนต้องถ่าย ฉากหลังเป็นขนมปังอบต่างๆ เสมือนอยู่เมืองนอกเลยค่ะ ) จริงๆร้านนี้เค้ามี signature เป็นตัว the ring ที่ใครหลายๆคนคงเคยได้ยินเนอะ แต่ว่าเนื่องจากเรากลัวหวานเกินไปจนเลี่ยน จึงสั่งแพนเค้กมาทานแทนค่ะ (เหตุผลที่ยังไม่ทานแพนเค้กร้านแรก เก็บมานี่แหละค่ะ อิอิ)








        เบอรี่มาแบบจัดให้ฟินๆไปเลยค่ะ เปรี้ยวๆ ดีค่ะ ส่วนตัวแพนเค้กนุ่มนิ่ม รสไม่หวานเกินไป มี lemon cream ให้ด้วย แล้วก็เสิร์ฟพร้อมไอติมวนิลาค่ะ
        และเครื่องดื่มที่ประทับใจ สุดๆ Orange Cranberry Punch


        ไม่เปรี้ยวเกินไป ไม่หวานเกินไป มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชอบมากค่ะ มาแบบขวดโหลใหญ่ๆ ชื่นใจฝุดๆ คาดว่าคราวหน้าจะมาลองเมนูอื่นอีกแน่นอนค่ะ

Ps.ใครมีร้านไหนแนะนำ บอกได้เลยนะค้าา ><