ช่วงนี้เห็นคนอกหักกันหลายคน
เลยคิดถึงเรื่องราวของพี่สาวคนหนึ่งที่เรามีโอกาสได้คุยและรู้จักกับเธอในห้องพันทิปค่ะ
ขอใช้เป็นชื่อย่อแทนนะคะ ไม่รู้ป่านนี้เธอยังเล่นพันทิปอยู่มั้ย ^^
___________________________________________________________________

เมื่อปลายปี 2554 เรามีโอกาสได้รู้จักกับพี่สาวคนหนึ่งผ่านชุมชนพันทิปแห่งนี้
เรารู้จักกันเพราะต่างคนต่างเลิกกับแฟน อยู่ในอารมณ์เดียวกัน มาคุยกัน เลยเข้าใจกัน
พี่เออายุสามสิบปลายๆแล้ว ตอนที่ตัดสินใจเลิกกับคนรัก และกำลังอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างมาก
เพราะแฟนที่คบกันมานาน คิดว่าจะฝากชีวิตไว้ให้ก็ตัดสินใจมาเลิก
แถมอายุก็เยอะ หน้าตาไม่ได้สะสวย จะหาใครใหม่ก็ลำบาก มีปัญหามากมายทำให้พี่คิดเอไม่ตก

ตอนนั้นเราทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบใจพี่เอ
พอยิ่งพูด ยิ่งปลอบ ก็ยิ่งเหมือนสร้างกำลังใจให้กันไปด้วย
เราคุยกันทุกวันผ่านตัวหนังสือ วันแล้ววันเล่า
สนิทกันในระดับที่ผ่อนคลายสบายใจเมื่อได้พูดคุย
ผ่านมาครบหนึ่งปี เราสองคนตัดสินใจไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันตอนปลายปี 2555 ที่เมืองทองธานี
นั่นเป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้เจอกัน เป็นอีกวันที่ดีที่สุด

หนึ่งปีหลังจากนั้น เราต่างมีชีวิตของเรา พี่เอก็มีชีวิตของพี่เอที่เราเองไม่ได้รับรู้อะไรมากนัก
เราแอบคิดถึงพี่เออยู่เงียบๆในใจมาตลอด ทักทายกันบ้างในไลน์ที่ต่างคนต่างไม่ค่อยได้เล่น
นานๆทีพี่เอถึงจะเข้ามาอ่านและก็มีแต่ความเงียบงันที่ตอบกลับเรามา
จนมาวันนี้จู่ๆ ข้อความเขียวๆก็เด้งเข้ามาในมือถือ พี่เอทักมาและได้พูดคุยกันอีกครั้ง

ช่วงปีที่เราหายไปจากกัน ไม่ได้พูดคุยกัน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากมาย
พี่เอกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง เริ่มต้นเป็นคนใหม่ ทำตัวเองให้สดใสร่าเริง
พัฒนาตัวเองทั้งร่างกาย จิตใจ ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เก็บเงิน
ข่าวดีที่สุดคือพี่เอได้กลายเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆร้านนึงไปแล้ว
แถมเจอคนรู้ใจในช่วงปีที่ผ่านมาอีกด้วยตอนอายุ 39 ซึ่งกำลังจะแต่งงานกันในเร็วๆวันนี้

พี่เอบอกเราเสมอว่า พี่เอไม่ใช่คนสวยในแบบที่ผู้ชายจะชอบ
แต่พี่เอไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเองในแบบที่พี่เอเป็นเลยแม้แต่น้อย
เพราะใครๆต่างก็ชอบของสวยๆงามๆ ชอบคนที่หยิบยื่นความรัก ไม่ใช่โหยหาแต่ความรัก
เมื่อทำตัวเองให้สวยงาม(ในแบบของเรา) ทั้งจากภายนอกแล้วขัดเกลาภายในเข้าไปด้วย
มาถึงจุดหนึ่ง ถ้าเราทำดีและมีความสุขกับตัวเองมากพอ มันจะดึงดูดคนดีๆ สิ่งดีๆเข้ามาเอง

เราไม่มีทางรู้เลยว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง
อะไรที่ถือว่าเป็นจุดจบอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตบทใหม่ก็เป็นได้
ขอเพียงแค่เรายอมรับความจริงที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ความจริงที่ว่า ทุกๆอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราได้นาน
วันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นก็ต้องจากไป ทั้งความสุข หรือความทุกข์ และแม้กระทั่งความรัก

ถ้าทำดีที่สุดแล้วสุดท้ายไม่ว่าผลมันจะออกมาในรูปแบบไหน ก็มีแต่จะต้องยืดอกยอมรับเท่านั้น
ต้องรักตัวเองให้มากขึ้นและเดินออกมาด้วยความเชื่อมั่นว่าทุกๆอย่างจะต้องผ่านไป ทุกๆสิ่งจะต้องดีขึ้น

เวลาที่ใครกำลังท้อๆ อกหัก หรือเลิกกับแฟนตอนอายุเยอะ เราจะเล่าเรื่องของพี่เอให้ฟังเสมอ
สิ่งที่พี่เอทำไม่ใช่แค่คำพูด แต่พี่เอยืนยันให้เราเห็นแล้ว

.........................................
*ฝากข้อคิดเตือนใจด้านล่างไว้นิดนึงนะคะ เราอ่านบ่อยๆเวลาที่ตัวเองรู้สึกท้อๆ
ทั้งหมดเป็นข้อความจากงานเขียนของคุณดังตฤณค่ะ ให้กำลังใจได้ดีมากเลย
เราอ่านแล้วฟื้นตัวจากความผิดหวังได้เร็วมาก หันมาดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดี
ตอนนี้มีคนที่ดีเข้ามาในชีวิตแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่อยากรีบตัดสินอะไรมาก ขอดูๆกันไปก่อน
ความเจ็บปวดที่ผ่านมาสอนให้เรารอบคอบมากขึ้นเยอะเลย เลยไม่รีบร้อนอะไรอีก

เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ผิดหวังในความรักนะคะ
________________________________________________________________

• เรื่องดีๆในวันหน้า
มักมีรากจากการที่วันนี้
คุณต้องผ่านเรื่องไม่ดี
ด้วยความพยายามทำให้มันลงเอยดี

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• อย่าตอกย้ำซ้ำเติมตัวเอง
กับความผิดพลาดที่โง่เขลาในอดีต

แต่ให้หมั่นถามตัวเองว่า
บทเรียนที่ผ่านมา
สอนอะไรให้เราฉลาดขึ้นได้ในปัจจุบัน

• ชีวิตที่คุ้มท่ีสุด
คือชีวิตที่มีแต่ปัจจุบันดีๆ อยู่ในใจมากท่ีสุด
ไม่ปล่อยให้ใจกําอดีตเน่าๆ
ตลอดจนอนาคตเสียๆไว้อย่างสูญเปล่า

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• หน้าที่แท้จริงของมนุษย์
ไม่ได้อยู่ที่การเสียดายอดีต

ไม่ได้อยู่ที่การอยากย้อนกลับไป
เปลี่ยนแปลงอะไรๆที่ผ่านมาแล้ว

แต่อยู่ที่การเห็นค่าของปัจจุบัน
ซึ่งยังอยู่ในมือ
อยู่ในการตัดสินใจ
ว่าจะเลือกก่อกรรมอันใด

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• อดีต มีไว้สอนใจ
อนาคต มีไว้เตรียมใจ
ปัจจุบัน มีไว้ใส่ใจ

_________________________________________________________________

• อย่าเสียกำลังใจ
ที่จะทำดีกับคนอื่น

แม้การทำดีกับคนอื่น
จะไม่เป็นประกันว่า
เราจะได้เจอะคนดีไวๆ

แต่เราก็จะดีพอ
ให้พร้อมเจอคนดีด้วยกัน
ในเวลาที่ "เหมาะสม" เสมอครับ

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• บางทีรางวัลของคนดี
ก็ไม่ใช่จะมีคู่ที่สมหวังแบบเร็วๆ

ธรรมชาติอาจกะเกณฑ์
ให้เราเจอทุกข์เสียก่อน
เพื่อใช้ความทุกข์นั้น
เป็นบันไดก้าวขึ้นสู่ความสุข
ที่เหนือกว่าความรัก

และเมื่อถึงจุดของความนิ่งจริงๆ
ถึงจะยอมเปิดตัว..คนรักที่แท้ให้กับเรา

บางคน...ถ้าใจยังวุ่น ๆ
ยังหยุด ยังนิ่งไม่เป็น
ขืนคนที่คู่ควรกับเราโผล่มาตอนนั้น
เขาก็อาจพลาดจากเราไป
ไม่อาจเป็นคู่ครองร่วมกันอย่างถาวรได้

เพราะอาจิณณกรรม
คือนิสัยของเรา
ยังอาจเป็นตัวทำลาย
สัมพันธภาพกับคู่แท้ของเรา

ต่อเมื่อผ่านความเจ็บปวด
เรียนรู้จากความผิดพลาด
เห็นจังหวะจะโคนแบบต่างๆ ของชีวิตมากเข้า
พอใจเป็นบุญ
มีความนิ่งพอจะรองรับกับคู่แท้ถาวรได้
เขาถึงจะปรากฏตัว

• อย่าท้อแท้กับความดีก็แล้วกัน
ที่ผ่านมาในอดีต
มองย้อนไปอาจรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเรา
พอเราเปลี่ยนมาอยู่กับกระแสธรรมะ
ความเป็นตัวจริงของเราถึงเริ่มปรากฏ

ซึ่งก็อาจเป็นเหตุ
ให้คู่แท้ของเราปรากฏตัวเช่นกัน

___________________________________________________________
• คนที่เร่งมีรัก..เพราะเหงา
มักได้เศร้ากับบทเรียน
มากกว่าได้สุขกับของจริง

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ความเหงา
มีพลังดึงดูดให้คนแปลกหน้า
มาปลอบใจชั่วคราว

ความอบอุ่นใจ
มีพลังดึงดูดให้คนคุ้นเคย
มาดูแลกันตลอดไป

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• คนมีความสุขอยู่กับตัวเองได้
ยิ้มเองได้โดยไม่ต้องอาศัยเหยื่อล่อภายนอก
จะแผ่รัศมีความอบอุ่นออกมา

ทำให้คนอื่นรู้สึกอยากเข้าใกล้
ไว้ใจว่าเป็นเขตปลอดภัย
น่าฝากใจให้ดูแล

กับทั้งก่อแรงบันดาลใจ
ให้ใครต่อใครนึกอยากดูแลตอบ

แม้ไม่ได้มีแรงดึงดูดทางกายภาพเกินธรรมดา
ก็ดึงดูดใจมากพอ
จะให้ใครต่อใครอยากขออยู่ด้วยกัน
เพื่อขอส่วนความสุข
และปันความสุขคืน

สุดท้ายมนุษย์ทุกคนต้องการความสุข
คนที่รู้จักการมีความสุขยั่งยืนอยู่กับตัวเอง
จะปฏิเสธความสุขชั่วคราวแบบผิดทาง
หรือแบบผิดฝาผิดตัวได้

เหตุผลของการจับคู่กันชั่วคราว
เป็นเรื่องหยาบๆ
แต่เหตุผลของการอยู่ร่วมกันตลอดไป
เป็นเรื่องละเอียดประณีต

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

ถาม : ถ้าเลิกกับคนรักไปแล้วรู้สึกเหงา.. ควรทำอย่างไรดี

ทางออกที่สวยงามที่สุด
คือหัดเดินทางเข้าวัดเพื่อไปทำบุญคนเดียว
โดยมีเจตนาว่า
จะให้ความสุขสดชื่น
อันเกิดจากการทำบุญสำเร็จตามลำพัง
เป็นพลังให้ยืนหยัดอยู่คนเดียว
ด้วยความเข้มแข็ง

ระหว่างไปทำบุญคนเดียว
ถ้าเหงาให้มีสติรู้ว่าเหงา
และเอาใจไปจดจ่อกับการทำบุญ
คุณจะรู้สึกถึงความแช่มชื่น
ที่กลบทับความหดหู่เสียได้

หากพบว่าได้ผล
ขอให้ทำบุญคนเดียวเรื่อยๆ
อาทิตย์ละครั้งน่าจะกำลังดี
ไม่ต้องลงทุนด้วยเงินมากๆ
ให้ใช้กำลังใจมากๆแทนก็แล้วกัน

ถ้ารู้ว่ามีงานสงเคราะห์ที่ไหน
ให้รีบไปโดยไม่ต้องชวนใคร

ผลบุญที่เกิดขึ้น
จากการเดินทางเองคนเดียว
อย่างเป็นสุขหลายครั้ง
จะบันดาลให้คุณรู้สึกเชื่อมั่นว่า
การอยู่คนเดียว
ไม่ได้หมายความว่า
ต้องเหงา ต้องเศร้า
อย่างที่นึกคร่ำครวญไปเองเลย

.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ไม่เจอ "คู่แท้" แล้วเหงา
ดีกว่าเศร้าเพราะเจอ "คู่เทียม"