เล่าให้ฟัง วิธีหาเงิน 10 ล้าน ใน 8 ปี

เขียนแบบสั้นๆ ละกันครับ

เริ่มจากเรียนจบ  ผมว่าช่วงนี้เป็นช่วงมีไฟที่สุดในการทำงาน
- ผมได้งานบริษัทเล็ก กับ ใหญ่  พร้อมกัน  ตัดสินใจเลือกบริษัทใหญ่ครับ  เพราะคิดว่าโอกาสจะดีกว่า และถ้าจะเปลี่ยนงานจะง่ายกว่า  ตำแหน่งที่ได้ ต้องการประสบการณ์ 2 ปี  แต่ผมไม่สนครับ  สมัครไปเลย  และเขาก็รับผมครับ  เงินเดือนเริ่มต้นที่  15000 บาท  ซึ่งถือว่าเยอะครับ สำหรับ  10 กว่าปีที่แล้ว

ช่วงที่ทำงานก็เลยไปลงเรียนโทด้วย  หนักมากครับ  ถามว่าทำไมหนักมาก  ก็เพราะ  งานที่บริษัท OT ตลอดเลยครับ  ทำไมต้อง OT เพราะงานจะต้องติดต่อกับ IT และบางครั้งต้องนั่งรองาน เพราะ IT ต้องแก้ไข  และงานผมต้องส่งออกให้ถึงลูกค้าให้เร็วที่สุด  ดังนั้นจะรอมาทำพรุ่งนี้ไม่ได้ครับ  บางทีนั่งรอ จนถึง 4 ทุ่ม  และทำจนถึง เกือบเที่ยงคืน  กลับรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายบ่อยครับ     เสาร์อาทิตย์ ก็ยังต้องเข้ามาทำงานเลยครับ    

แต่ข้อดีคือ  ช่วงระหว่างรอ IT  เราได้ OT และยังเอางานของ ปริญญาโทมาทำได้   คอมฟรี   พิมพ์งานฟรี   ไฟฟรี   น้ำฟรี     แต่เป็นการทำงาน 2 ปีที่เหนื่อยครับ   นอนไม่ถึง 5-6 ชั่วโมงต่อวัน   แต่พอจบโท  รู้สึกว่า  คุ้มครับ  

- พอจบโท  HR แจ้งว่า   "แล้วไง"     ก็ฮาสิครับ  เงินไม่ขึ้นให้  ก็ต้องย้ายงานครับ     ได้ที่ใหม่ + ยื่นโท  เงินขึ้นมาทันที  เป็น 25000 บาท   งานที่นี่ไม่ค่อยมี ot  เป็นบริษัทใหญ่เหมือนกัน  ทำเป็นบริษัทคนไทย  เลยทำงานแบบเครียดหน่อย  คือต้องตอกบัตรเข้างาน  และออกงาน  ต้องแต่งตัวเรียบร้อย ผูกไทด์   ซึ่งผมอึดอัด  เพราะมาจากบริษัทฝรั่งที่ค่อนข้างง่าย  ขอให้ทำงานดี ขยัน

ช่วงนี้เลยไม่ค่อยตั้งใจทำงาน  และก็สบายด้วยครับ  ไม่มีเรียน  ไม่มี ot   เลยศึกษาเรื่องหุ้น  และลองดู   จากการทำงานมา  2 ปี ครึ่ง  (ผมเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่   มีดูหนังบ้าง)     เลยพอเก็่บเงินได้หลักแสนครับ      

สรุป ได้ค่าครู  ค่าครูไป   200,000 - 300,000 บาท     ตัดใจขายหมดพอร์ต  เหลือไม่ถึง หมื่นในบัญชี    T_T      

อยู่บริษัทนี้ได้ ปีเดียว  ก็ลา  แถมเสียเงินหลักแสน  แต่ยังดี ไม่ได้ไปกู้ใครมาเล่น


- นายเก่าจากบริษัทแรก  แต่ที่ใหม่  ได้ติดต่อมา  (อย่างที่บอกครับ  บริษัทแรก ผมฟิตมาก ไฟแรง  ot  เอาหมด)  เลยเป็นที่รัก  ของหัวหน้า  แต่ไม่ใช่ HR   เลยได้กลับมาทำงานกับนายเก่า  แต่คราวนี้เงินเพิ่มเป็น  35000 บาท (ดวงเกิดมาถูกกับเลข 5000  มากๆ )    เนื่องจากตำแหน่งใหญ่ขึ้น  ความรับผิดชอบมากขึ้น  แต่จริงๆ  งานเบาลง  เพราะไม่ต้องทำงานแบบใช้แรงงาน  รองาน  เหมือนงานแรก  ก็เลยสบายครับ

เลยเริ่มมองหาธุรกิจ  เพราะรู้สึกว่า  เสียเงินไปเยอะ  อยากหาเงินเพิ่ม  และก็รู้สึกว่าสบายเกินไป   เลยมาลงตัวที่เปิดร้านเกมส์   แต่ตอนนั้นเงินน้อยครับ  เลยต้องใช้วิธีประหยัดสุดๆ  คือ  ไปหาร้านที่เขาจะเซ้ง  เหมาอุปกรณ์ทั้งหมด  มือ 2   แต่เราไปหาทำเลร้านใหม่   เพราะร้านที่มันจะปิด  แปลว่าทำเลไม่ดี ก็ต้องไปหาทำเลใหม่  ตอนนั้นหมดไปประมาณ  แสนนึง  ถือว่าเป็นการเปิดร้านที่ถูกมากครับ  

และเราก็เข้าใจว่า  เปิดร้านใหม่  หาทำเล ค่าเช่าถูกๆ   ลูกค้าไม่รู้กจัก   ช่วงแรกเงียบครับ  สุดท้ายต้องทำใบปลิวไปแจก  เป็นการแจกใบปลิวเป็นครั้งแรก  จำได้เลยว่าอายมาก  ไปยื่นแล้วเขาไม่เอา  เดินผ่าน  ไม่สนใจ    แต่หลังๆ พอทำไปก็เข้าใจครับ  ว่าเป็นเรื่องปกติ  และเราไม่อยากให้ร้านเจ๊ง   ก็ต้องสู้ครับ

อ้อ  ตอนนั้นจ้างเด็กเฝ้าร้าน 1 คน ครับ

วิธีของผมคือ  ให้เด็กเฝ้าร้านเปิดร้าน  10โมง  แล้วเฝ้าจนถึงประมาณ 19.00  แล้วผมก็จะมา  และให้เขาไปทำธุระ  กินเข้า  อาบน้ำ  เดินเล่น  แล้วกลับมาตอนไหนก็ได้   ส่วนผมก็จะนั่งตั้งแต่  ทุ่ม จนถึง ประมาณ  5 ทุ่ม  หรือ เกือบเที่ยงคืน  เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายกลับ  และให้น้องเฝ้าร้านปิดร้าน หรือ ผมก็จะพยายามปิดก่อนเที่ยงคืน  ป้องกันปัญหาอาชญากรรม

เสาร์อาทิตย์  ผมไปอยู่ร้านทั้งวัน   เพราะถือว่า  ร้านเรา   ร้านแรก   เงินลงทุนก้อนสุดท้าย  

ผ่านเดือนแรกไป  เดือนต่อๆมา  ลูกค้าเยอะขึ้นเรื่อยๆครับ  ยิ่งช่วงปิดเทอม  ดีมากๆครับ   รายได้ช่วงปิดเทอม  ได้หลายพันต่อวันครับ  กำไรร้านแซงเงินเดือนเลยครับ

แต่แน่นอน พอขายดี  คู่แข่งก็มาเปิด  รายได้ก็ลดลง  และมาถึงจุดอิ่มตัวก็ตรงที่ผมได้งานใหม่  เป็นงานที่เงินเดือนพุ่งเลยครับ  รับ 78,000 บาท  เลยตัดสินใจปิดร้าน  และทุ่มเทให้กับงานใหม่ครับ

งานใหม่ก็เป็นงานที่ผมไม่มีประสบการณ์  โดนสัมภาษณ์หลายรอบมากๆ   แต่สุดท้ายก็ได้ครับ   ก็เลยปิดร้าน  และลาหัวหน้าที่ดึงผมกลับมาทำงานอีกรอบ แต่ลากันด้วยดีครับ  สรุปทำกับแกไปอีกแค่ 2 ปี  แต่รอบนี้เก็บเงินได้เยอะขึ้น จากเงินเดือน แถมกำไรจากร้านอีก  แต่หลังๆ ร้านก็ยอดขายแย่ลงเหมือนกัน  ก็ลดลงไป

- งานใหม่ถือว่าไม่หนัก  แต่เหนื่อยเพราะต้องศึกษาเยอะมาก แต่ข้อดีคือ  เราทุ่มเทหนักๆ สักปีเดียว  พอเข้าใจระบบ ทุกอย่างจะง่าย  แต่ยอมรับครับ ปีแรกนี่ท้อเลย  เกือบลาออก  แต่สุดท้ายก็สู้  จนงานเริ่มอยู่ตัวครับ  พอผ่านไปสักปีครึ่ง  ก็เริ่มมีเวลามากขึ้น  แต่ไม่อยากเปิดร้านแล้ว  ก็เลยกลับมาดูเรื่องหุ้นอีกรอบ  ว่าเราพลาดตรงไหน  เริ่มศึกษาอีกรอบ

มาดูเงินเก็บ  ปรากฎว่า  จากที่ทำงาน + ร้าน + งานใหม่ที่เงินเดือนเยอะขึ้นมาก   (และผมเป็นคนไม่ค่อยใช้เงิน  อยู่บ้านพ่อแม่ตลอด  น้ำไฟฟรี  ใช้บริการ bts ตลอด )    ผมมีเงินเก็บสัก  2   ล้าน

ก็เลยคิดว่าอยากลองอีกครั้ง  ตอนนั้นก็ 28  คิดว่า  ถ้า 30  อยากให้อยู่ตัวกว่านี้   ก็ศึกษาและทุ่มเงินลงไปในหุ้นทั้งหมดอีกรอบครับ   คราวนี้เลือกหุ้นที่ชอบ  ที่ใหญ่   ที่คิดว่าดี     แล้วลงเงินทั้งหมด   เงินเดือนที่เข้ามาก็ซื้อหุ้นตัวเดิมที่เลือกไว้ประมาณ  5-6 ตัว   ผ่านไปสัก ปีครึ่ง  - 2 ปี   เงินที่ลงไว้  เพิ่มขึ้นกว่า  5-7 เท่า   ทำให้เงินงอกเงินเกินกว่า 10 ล้าน   ครับ

สิ่งที่อยากจะบอกทุกท่านคือ  บางครั้งจะทำอะไรอยากให้ตั้งใจ  และทุ่มไปเลยครับ  ยิ่งถ้าอายุยังไม่ถึง  30  เรายังมีโอกาสแก้ตัวเสมอครับ    อย่างเรื่องงาน  ถ้าย้ายงานแล้วโอกาสดีขึ้น  เงินเยอะขึ้น   ทำเถอะครับ  คือตอนทำงานเราทำเต็มที่ แต่ถึงเวลาต้องไปเราก็ไปครับ   และช่วงอายุยังไม่ถึง 30  นอนน้อยหน่อย  ทำงานเยอะหน่อย  ผมว่า  ยังได้ครับ  ยังไหว  ครับ

ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 26
อ่านแล้วก็สนุกดีครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ขอความอนุเคราะห์โชว์ปอดด้วยครับ

  จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาอนุมัติ


          จากตัวแทนเม่าสินธรครับ
ความคิดเห็นที่ 4
มาอีกแล้วสคริปต์นี้...รวยด้วยหุ้น
ตอนทำงานหาเงินร่ายซะยาว มารวบรัดตัดตอนแบบลงเงินทั้งหมด  ไม่ถึง 2 ปีฟาดไป 7 เด้ง
(หุ้นที่ใหญ่ = set 50,100) 5-7 เท่า ระหว่างปี 57-58 ?? ไปดูกันเองนะ

ดีครับดี ช่วยเข้ามากันเยอะๆ รออยู่ เม่าออกรถ
ความคิดเห็นที่ 2
น้องโชคดีและเก่งครับ ที่ทุ่ม 2 ล้านไปในหุ้นที่เติบโตเร็ว500 % ในไม่กี่ปี

แต่หลายคน ไม่. เก่ง และโชคดีเหมือนน้อง หมดตัวไปกับตลาดหุ้นกันเยอะ เหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่