เมื่อธนาคารรวงข้าว ส่งเอกสารหาน้องชาย แต่มีข้อมูลของผม และหลานของแม่ ติดมาในจดหมาย ถึง 3 ฉบับ อย่างต่อเนื่อง

น้องชายได้รับจดหมายจากธนาคาร แล้วก็ได้เปิดอ่านก็พบว่าเป็นจดหมายแจ้งระงับการเบิกถอนเงินสดจากธนาคาร แล้วพบว่าภายในจดหมายระบุข้อมูลมาทั้งหมด 6 บัตร ซื้อเป็นของน้องชายแค่ 2 บัตร แต่อีก 2 บัตรเป็นของผม อีก 2 บัตรเป็นหลานชายแม่ ซึ่งในวงเงินนี้ใช้งานทั้งหมด 5 คน ซึ่งแม่บัตรหลักมี 2 บัตร และน้องสะใภ้ 1 บัตร ที่ไม่ได้ระบุมาในจดหมาย


จ่าหน้าซองฉบับที่ 1


จดหมายฉบับที่ 1


          โทรคุยกับฝ่ายงานร้องเรียนอยู่หลายครั้งมาก ก็ไม่ได้รับคำตอบ ได้แต่บอกว่ายังไม่ทราบผล ผมเองอยู่ต่างประเทศ ได้มีโอกาศกลับไทยก็จะแวะไปให้ผู้การสาขาที่เซนทรัล ได้นำเอกสารไปให้ผู้การดูก็ได้รับความคิดเห็นว่าไม่ควรมีเอกสารลักษณะนี้ออกมา ก็ได้ช่วยประสานงานเพิ่มเติมต่อให้อีก ผ่านไปอีกเป็นเดือนก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ผ่านไปประมาณสองเดือน จึงให้หลานชายแม่ ช่วยทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วผมก็ยังมีโอกาสกลับไทยอีกวันนี้เข้าไปหาผู้การอีก ผู้การบอกว่า นึกว่าจบแล้วนะเคสนี้นานมากยังไม่จบเหรอคะ ผู้การบอกไม่มีอำนาจใดๆในส่วนนี้ ได้แต่ช่วยประสานงานอีกครั้ง ได้แต่อีเมล์แจ้งทุกๆวันพฤหัสว่ายังคงไม่ได้รับคำตอบ ก่อนกลับมาที่ต่างประเทศ ได้รับจดหมายชี้แจ้งจากธนาคาร จึงแวะไปหาผู้การที่เซนทรัลอีก วันนี้ผู้การไม่สบาย รองผู้การมารับเรื่องแทน รองผู้การแจ้งว่าเห็นมาพบผู้การบ่อยมาก เห็นแล้วสงสารผู้การแทนในเรื่องนี้ รองผู้การก็บอกว่าใครๆก็รู้ว่าบัตรใครบ้างถ้าได้อ่านเอกสารเหล่านี้ แต่เมื่อเห็นชื่อผู้ที่เซนต์เอกสารชี้แจ้ง กลับบอกว่า อาจจะทำอะไรไม่ได้มาก
          หลังจากเรื่องนี้ถูกส่งไปที่ฝ่ายรับเรื่องร้องเรียนของทางธนาคาร ก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของธนาคารโทรมาชี้แจ้ง เกี่ยวกับเอกสารที่ส่งออกมาจากธนาคารว่า ไม่ต้องสนใจเอกสารเหล่านี้เลย ไม่มีอะไรแล้วไม่ต้องอ่านไม่ต้องใส่ใจ ก็มีคำถามกลับไปว่าแล้วจะส่งมาทำไมถ้าไม่ต้องการให้อ่าน ถามผู้ใหญ่ท่านนี้ไปหลายเรื่องจะบอกว่า ไม่เคยตอบอะไรได้เลยซักอย่าง เขาอธิบายให้ฟังว่า ในบัตรระบุว่า 1234-45XX-XXXX-6789 ไม่ได้หมายถึงใครเลย เลยย้อนไปว่า ใบแจ้งหนี้ก็ XXXXX นั่นก็หมายความว่าไม่ได้ต้องการให้ทราบใช่ไหม ผู้ใหญ่ท่านนี้ก็ถามไปทางลูกน้องว่าใบแจ้งนี้เราระบุ XXXXXX ด้วยเหรอ เราระบุทั้งหมดนี่ ถึงกับงงจะโทรมาชี้แจ้ง ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเลย ถามไปมาหลายเรื่อง สุดท้ายก่อนจะวางสาย ผู้ใหญ่ท่านนี้บอกว่า มันเป็นที่ระบบ ผมจะมีปัญญาไปทำอะไรละครับ ผมก็เลยวางสายไปเลย เพราะผมคงคุยกับผู้ใหญ่ท่านนี้ของธนาคารไม่รู้เรื่อง


จ่าหน้าซองฉบับที่ 2


จดหมายฉบับที่ 2


จ่าหน้าซองฉบับที่ 3


จดหมายฉบับที่ 3


          เมื่อหลานชายแม่ทำหนังสือร้องเรียนไปทางธนาคารแห่งประเทศไทย แทนผมเนื่องจากผมอยู่ต่างประเทศ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยไม่สามารถติดต่อผมได้ แล้วได้รับหนังสือชี้แจ้งกลับมาลักษณะเดิมอีก ว่าระบุเป็น XXXXXX ยิ่งไปกว่านั้น ผมมองว่า ผู้ที่เซนต์เอกสารฉบับนี้ ไม่ได้มีความละเอียดถี่ถ้วนในตัวเอกสารเลย ระบุในจดหมายว่า
“กรณีธนาคารส่งหนังสือแจ้งระงับการเบิกถอนเงินสด (บัตรเครดิต) ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริมทั้งหมด” ความจริงแล้วเป็นเพียงบัตรเสริม จำนวน 6 ใบเท่านั้น ไม่ใช่บัตรหลักและบัตรเสริมทั้งหมด ตามที่ธนาคารชี้แจ้ง แสดงให้เห็นว่าธนาคารไม่ได้ใส่ใจเอกสารจริงๆ
“ระบบมีการดึงข้อมูลบัตรเครดิตของท่านไประบุในหนังสือด้วย เนื่องจากเป็นบัตรเสริมในกลุ่มเดียวกัน” ทางธนาคารก็เขียนชัดเจนในหนังสือชี้แจ้งว่าบัตรของท่าน  แล้วจะบอกว่าไม่ได้มีเจตนา ทั้งทางธนาคารยังรู้เลยว่าเอาบัตรของท่านใส่ลงมาด้วย แล้วไม่มีเหตุผลอันใดจะต้องเอาบัตรเสริมที่เป็นของผม และหลานชายแม่ไปใส่ในจดหมาย ไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้ออกจดหมายชี้แจ้งเลยจริงๆ เหมือนว่าธนาคารสอนกันว่าไม่ต้องอ่านเอกสาร เอกสารใดๆที่ส่งออกมาทุกคำทุกประโยคไม่มีความหมาย


จดหมายชี้แจ้งธนาคารรวงข้าว


          ได้คุยต่อกับหัวหน้างงานฝ่ายรับเรื่องร้องเรียน ก็บอกว่า ไม่ถูกต้อง แต่ทำอะไรไม่ได้ ธนาคารพิจารณา ออกมาถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว จะไม่ดำเนินการใดๆต่อไปอีก เคสนี้จบแล้วครับ จบแบบงงๆ
         จากเรื่องนี้จะทำอะไรกับธนาคารได้บ้างครับ? ไม่พอใจการทำงานของทางธนาคารมากๆ คนที่รับหน้างานก็หน้าชาไม่รู้จะตอบอย่างไร ทั้งไม่มีอำนาจใดไปต่อกรกับ ผู้ใหญ่ที่ทำงานเบื้องหลังอย่างงงๆ หน้างานก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังจากลูกค้า แต่ก็ไม่กล้าไปเปิดปากกับผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างใน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่