วันที่ 15 ก.ค. 58 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าโครงการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในครอบครัวยากจน โดยมอบเงินช่วยเหลือเดือนละจำนวน 400 บาทต่อคน เป็นเวลา 1 ปี สำหรับเด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 58 ถึง 30 ก.ย. 59

ซึ่งเป็นนโยบายที่รับผิดชอบโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทั้งนี้ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อสม. อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) บ้านพักเด็กและครอบครัว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ รวมทั้งสำนักงานเขตดำเนินการประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่หญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่ให้มาเข้าร่วมโครงการ และให้ดำเนินการเตรียมการเรื่องการดูแลและติดตามจ่ายเงินอุดหนุนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และมีกำหนดที่คลอดบุตรในช่วงดังกล่าว สามารถมาลงทะเบียนใช้สิทธิ์ได้ โดยมีเอกสารที่ควรเตรียม ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก สูติบัตรเด็กแรกเกิด (นำมายื่นหลังจากคลอดบุตร) และแบบรับรองสถานะครัวเรือน และ ใบลงทะเบียนรับรองสิทธิ

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สำหรับในต่างจังหวัดดำเนินการผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล และ อบต. และในเขตกรุงเทพฯ ยื่นที่สำนักเขตตามทะเบียนบ้านเช่นเดียวกับการสนับสนุนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยคุณสมบัติของครอบครัวที่จะได้รับเงินอุดหนุนคือ มีรายได้เดือนละต่ำกว่า 3,000 บาทต่อคน ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีภาวะพึ่งพิง ได้แก่ ในครอบครัวมีคนพิการ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีในปกครอง เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นต้น

เป้าหมายสำคัญของโครงการนี้คือ สนับสนุนให้คุณแม่ได้ดูแลสุขภาพบุตรอย่างเป็นมาตรฐาน เพราะจะต้องนำบุตรไปตรวจร่างกาย รับวัคซีนให้ครบถ้วนตามช่วงอายุด้วย อีกทั้งการนำบุตรไปพบแพทย์จะทำให้คุณแม่ได้รับคำแนะนำด้านสุขภาพอนามัย และการเลี้ยงดูบุตรไปในตัว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเลี้ยงดูบุตรได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศ

http://www.thairath.co.th/content/511794

แบบนี่คงเรียกว่าประชานิยมไม่ได้สินะครับ  เพราะพวกท่านไม่ได้หาเสียงเพื่อหวังคะแนนเลือกตั้งนี่นา  หุหุ