เอเอฟพี - กองกำลังความมั่นคงเม็กซิโกในวันจันทร์(13ก.ค.) ตะเกียกตะกายรักษาหน้าของตนเอง ด้วยการระดมกำลังไล่ล่า นายโจควิน กัซแมน เจ้าของฉายา "เอล ชาโป" ที่ขุดพื้นห้องขังและหลบหนีผ่านอุโมงค์ใต้ดินความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ลอยนวลออกจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ ขณะที่ทางการกำลังสืบสวนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 14 ปี ที่หัวหน้าแก๊งยาเสพติดทรงอิทธิพลอย่าง "ซีนาโลอา" สามารถหลบหนีออกจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ ปฏิบัติการลูบคมเจ้าหน้าที่และสร้างความอับอายขายหน้าแก่ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา เนียโต ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนฝรั่งเศส
ทหารและตำรวจกระจายกำลังกันเพื่อไล่ลายนายกัซแมน หลังจากเขาหายตัวไปจากเรือนจำอัลติกลาโน ห่างจากกรุงเม็กซิโก ซิตี ไปทางตะวันตกราว 90 กิโลเมตร เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์(11ก.ค.) หลังใช้ชีวิตในสถานคุมขังได้เพียง 17 เดือน
อัยการทำการสอบปากคำพนักงานเรือนจำระดับต่างๆราว 30 คน ในนั้นรวมถึงพัศดีเรือนจำ ส่งสัญญาณมีข้อสงสัยว่าอาจมีคนในรู้เห็น ขณะที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานอัยการสูงสุดเผยว่าเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รับผิดชอบดูแลห้องขังของนายกัซแมน รวมถึงพวกที่คอยดูกล้องวงจรปิด ก็อยู่ในกลุ่มที่ถูกสอบปากคำด้วย
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำบุคคลแปลกหน้ารายหนึ่งที่เข้าเยี่ยมนายกัซแมนเมื่อเดือนมีนาคมไปแล้ว หลังพบว่าผู้หญิงรายดังกล่าวใช้บัตรประชาชนปลอมแอบอ้างตัวเข้าไปยังเรือนจำ
ทั้งนี้ประธานาธิบดีเปนญา เนียโต บอกว่าการหลบหนีของเจ้าของยาเสพติดรายนี้ถือเป็นการปรามาสรัฐ และเรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรือนจำเป็นหนอนบ่อนไส้หรือไม่
ความเคลื่อนไหวของนายกัซแมน ซึ่งมีภาพลักษณ์โรบิน ฮูด ในรัฐซีนาโลอา ระหว่างดูแลแก๊งยาเสพติดทรงอิทธิพลที่สุดของเม็กซิโก เล็ดลอดแม้กระทั่งสายตาของกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในภายห้องขังของเขา
ในวันเกิดเหตุ เขาเข้าไปยังบริเวณพื้นที่อาบน้ำของเรือนจำก่อนจะหายตัวไป และต่อมาเจ้าหน้าที่พบหลุมลึกขนาด 10 เมตรพร้อมกับบันไดไต่ลงไปอย่างดี ทั้งนี้อุโมงค์ที่มีการติดตั้งทั้งระบบระบายอากาศและแสงสว่างความยาว 1.5 กิโลมตร ทอดยาวไปสิ้นสุดที่บ้านหลังหนึ่งด้านนอกกำแพงเรือนจำ
ขุดพื้นห้องขังและหลบหนีผ่านอุโมงค์ใต้ดินความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ลอยนวลออกจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของเม็กซิโก
ขณะเดียวกันก็ประจักษ์ชัดว่ามีการใช้รถจักรยานยนต์วิ่งบนราง ช่วยลำเลียงเครื่องไม้เครื่องมือและบรรทุกดินจากอุโมงค์ออกไปทิ้งภายนอก
อัยการเผยแพร่วิดีโอเผยให้เห็นหลุมภายในบ้านหลังดังกล่าว ที่มีเตียงนอนและครัว บ่งชี้ว่ามีคนเคยพักอาศัยอยู่ที่นั่น ทั้งนี้ในขณะที่คณะสืบสวนกำลังหาทางคลี่คลายปริศนาว่านายกัซแมน หลบหนีจากเรือนจำอีกครั้งได้อย่างไร อีกด้านหนึ่งทหารและตำรวจก็ตั้งจุดตรวจตรวจค้นรถยนต์และรถบรรทุกบนท้องถนนใกล้เคียง
ไมค์ วิกิล อดีตหัวหน้าฝ่ายปฏิบัตินานาชาติของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา(DEA) เตือนว่าหากไม่สามารถจับกุมตัว กัซแมน ในเร็ววัน เขาก็อาจหายตัวไปตลอดกาล "หากเขาสามารถหาทางไปถึงซีนาโลอา รัฐบ้านเกิดของเขา และเข้าไปยังแถบพื้นที่ภูเขา มันก็เป็นเรื่องยากที่จะจับตัวเขาได้อีก เพราะว่าเขาจะได้รับการปกป้องจากชาวบ้านท้องถิ่น"
เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นปลายทางของอุโมงค์ที่นายโจควิน กัซแมน เจ้าของฉายา "เอล ชาโป" ใช้หลบหนีออกจากเรือนจำที่อยู่ใกล้ๆกัน
สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานดังกล่าว หลายมลรัฐ ในนั้นรวมถึงซีนาโลอา มีการจัดตั้งจุดตรวจเข้มข้น โดยที่รัฐปวยปลา ทางภาคกลางของประเทศ บอกว่าได้ใช้เทคโนโลยีเอ็กเรย์ตามด่านเก็บเงินตรวจตรารถยนต์ที่แล่นผ่าน ส่วนทหารของกัวตามาลา ประเทศที่จับกุมนายกัซแมน ครั้งแรกเมื่อปี 1993 ก็ได้ปฏิบัติการพิเศษตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกเช่นกัน
หลังจากถูกจับที่กัวเตมาลาในปี 1993 การแหกคุกครั้งแรกของ เอล ชาโป ได้เกิดขึ้นในปี 2001 ตอนนั้นเขาเล็ดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ได้ด้วยการแอบในรถเข็นซักรีด
แต่ในที่สุดนาวิกโยธินก็สามารถจับเขากลับมาได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 จากการบุกจู่โจมเข้าจับกุมช่วงก่อนรุ่งสาง ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเมืองมาซัตลัน รัฐซีนาโลอา
ข้าวของกระจัดกระจายในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นปลายทางของอุโมงค์ที่นายโจควิน กัซแมน เจ้าของฉายา "เอล ชาโป" ใช้หลบหนีออกจากเรือนจำที่อยู่ใกล้ๆกัน
http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000079355
-สมัยนี้ยังสามารถขุดอุโมงส์เเหกคุกกันได้อีกแฮะ
หยั่งกะในหนัง..... จังโก้พลิกแผ่นดินล่า'ราชายาเสพติด'ขุดอุโมงค์แหกคุกหลบหนีลอยนวล
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 14 ปี ที่หัวหน้าแก๊งยาเสพติดทรงอิทธิพลอย่าง "ซีนาโลอา" สามารถหลบหนีออกจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ ปฏิบัติการลูบคมเจ้าหน้าที่และสร้างความอับอายขายหน้าแก่ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนญา เนียโต ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนฝรั่งเศส
ทหารและตำรวจกระจายกำลังกันเพื่อไล่ลายนายกัซแมน หลังจากเขาหายตัวไปจากเรือนจำอัลติกลาโน ห่างจากกรุงเม็กซิโก ซิตี ไปทางตะวันตกราว 90 กิโลเมตร เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์(11ก.ค.) หลังใช้ชีวิตในสถานคุมขังได้เพียง 17 เดือน
อัยการทำการสอบปากคำพนักงานเรือนจำระดับต่างๆราว 30 คน ในนั้นรวมถึงพัศดีเรือนจำ ส่งสัญญาณมีข้อสงสัยว่าอาจมีคนในรู้เห็น ขณะที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานอัยการสูงสุดเผยว่าเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รับผิดชอบดูแลห้องขังของนายกัซแมน รวมถึงพวกที่คอยดูกล้องวงจรปิด ก็อยู่ในกลุ่มที่ถูกสอบปากคำด้วย
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำบุคคลแปลกหน้ารายหนึ่งที่เข้าเยี่ยมนายกัซแมนเมื่อเดือนมีนาคมไปแล้ว หลังพบว่าผู้หญิงรายดังกล่าวใช้บัตรประชาชนปลอมแอบอ้างตัวเข้าไปยังเรือนจำ
ทั้งนี้ประธานาธิบดีเปนญา เนียโต บอกว่าการหลบหนีของเจ้าของยาเสพติดรายนี้ถือเป็นการปรามาสรัฐ และเรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรือนจำเป็นหนอนบ่อนไส้หรือไม่
ความเคลื่อนไหวของนายกัซแมน ซึ่งมีภาพลักษณ์โรบิน ฮูด ในรัฐซีนาโลอา ระหว่างดูแลแก๊งยาเสพติดทรงอิทธิพลที่สุดของเม็กซิโก เล็ดลอดแม้กระทั่งสายตาของกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในภายห้องขังของเขา
ในวันเกิดเหตุ เขาเข้าไปยังบริเวณพื้นที่อาบน้ำของเรือนจำก่อนจะหายตัวไป และต่อมาเจ้าหน้าที่พบหลุมลึกขนาด 10 เมตรพร้อมกับบันไดไต่ลงไปอย่างดี ทั้งนี้อุโมงค์ที่มีการติดตั้งทั้งระบบระบายอากาศและแสงสว่างความยาว 1.5 กิโลมตร ทอดยาวไปสิ้นสุดที่บ้านหลังหนึ่งด้านนอกกำแพงเรือนจำ
ขุดพื้นห้องขังและหลบหนีผ่านอุโมงค์ใต้ดินความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ลอยนวลออกจากเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดแห่งหนึ่งของเม็กซิโก
ขณะเดียวกันก็ประจักษ์ชัดว่ามีการใช้รถจักรยานยนต์วิ่งบนราง ช่วยลำเลียงเครื่องไม้เครื่องมือและบรรทุกดินจากอุโมงค์ออกไปทิ้งภายนอก
อัยการเผยแพร่วิดีโอเผยให้เห็นหลุมภายในบ้านหลังดังกล่าว ที่มีเตียงนอนและครัว บ่งชี้ว่ามีคนเคยพักอาศัยอยู่ที่นั่น ทั้งนี้ในขณะที่คณะสืบสวนกำลังหาทางคลี่คลายปริศนาว่านายกัซแมน หลบหนีจากเรือนจำอีกครั้งได้อย่างไร อีกด้านหนึ่งทหารและตำรวจก็ตั้งจุดตรวจตรวจค้นรถยนต์และรถบรรทุกบนท้องถนนใกล้เคียง
ไมค์ วิกิล อดีตหัวหน้าฝ่ายปฏิบัตินานาชาติของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา(DEA) เตือนว่าหากไม่สามารถจับกุมตัว กัซแมน ในเร็ววัน เขาก็อาจหายตัวไปตลอดกาล "หากเขาสามารถหาทางไปถึงซีนาโลอา รัฐบ้านเกิดของเขา และเข้าไปยังแถบพื้นที่ภูเขา มันก็เป็นเรื่องยากที่จะจับตัวเขาได้อีก เพราะว่าเขาจะได้รับการปกป้องจากชาวบ้านท้องถิ่น"
เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นปลายทางของอุโมงค์ที่นายโจควิน กัซแมน เจ้าของฉายา "เอล ชาโป" ใช้หลบหนีออกจากเรือนจำที่อยู่ใกล้ๆกัน
สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานดังกล่าว หลายมลรัฐ ในนั้นรวมถึงซีนาโลอา มีการจัดตั้งจุดตรวจเข้มข้น โดยที่รัฐปวยปลา ทางภาคกลางของประเทศ บอกว่าได้ใช้เทคโนโลยีเอ็กเรย์ตามด่านเก็บเงินตรวจตรารถยนต์ที่แล่นผ่าน ส่วนทหารของกัวตามาลา ประเทศที่จับกุมนายกัซแมน ครั้งแรกเมื่อปี 1993 ก็ได้ปฏิบัติการพิเศษตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกเช่นกัน
หลังจากถูกจับที่กัวเตมาลาในปี 1993 การแหกคุกครั้งแรกของ เอล ชาโป ได้เกิดขึ้นในปี 2001 ตอนนั้นเขาเล็ดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ได้ด้วยการแอบในรถเข็นซักรีด
แต่ในที่สุดนาวิกโยธินก็สามารถจับเขากลับมาได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 จากการบุกจู่โจมเข้าจับกุมช่วงก่อนรุ่งสาง ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเมืองมาซัตลัน รัฐซีนาโลอา
ข้าวของกระจัดกระจายในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นปลายทางของอุโมงค์ที่นายโจควิน กัซแมน เจ้าของฉายา "เอล ชาโป" ใช้หลบหนีออกจากเรือนจำที่อยู่ใกล้ๆกัน
http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000079355
-สมัยนี้ยังสามารถขุดอุโมงส์เเหกคุกกันได้อีกแฮะ