"ทีโอที" เคาะเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ ก.ค.นี้ ก่อนชงเข้าบอร์ดรับทราบ 29 ก.ค.นี้ จ่อดึง ADVANC ร่วมพันธมิตร หลังเป็นคู่สัญญาสัมปทานยาวนาน
นายชิต เหล่าวัฒนา กรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT เปิดเผยว่า วันนี้ (14 ก.ค. 2558) จะมีการประชุมบอร์ดยุทธศาสตร์ เพื่อหาพันธมิตรร่วมทุนทำธุรกิจกับบริษัท เพื่อพลิกฟื้นองค์กรและลดปัญหาขาดทุน ซึ่งบริษัทได้ให้บริษัท ดีลอยท์ ที่ปรึกษาในการวิเคราะห์หาพันธมิตรทางธุรกิจ
โดยมีผู้ประกอบการโทรคมนาคมในประเทศ 5 ราย ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC, บริษัท โมบายแอลทีอี จำกัด, บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE, บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART และบมจ.ล็อกซเล่ย์ หรือ LOXLEY ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปเกี่ยวกับการคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาในเดือนกรกฎาคมนี้ ตามกรอบเวลาเดิมอย่างแน่นอน เพื่อที่จะเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด TOT ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เพื่อรับทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทได้แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มตามที่คณะกรรมการนโยบายและการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้เอกชนที่สนใจเสนอเงื่อนไขเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ คือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มเสาโทรคมนาคม กลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มโทรศัพท์พื้นฐานและอินเทอร์เน็ต กลุ่มบริการด้านไอทีและบริการคลาวด์ โดยทีโอทีเปิดรับทุกข้อเสนอจากเอกชน เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกัน
สำหรับเงื่อนไขการคัดเลือกเอกชนรายใดรายหนึ่งนั้น หรือมากกว่า 1 ราย ขึ้นอยู่กับข้อเสนอว่ามีความร่วมมือที่ดีที่สุดและมอบผลประโยชน์ให้บริษัทดีที่สุดหรือไม่ หากข้อเสนอใดเข้าข่าย พ.ร.บ. การให้เอกชนลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ก็เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติต่อไป
แหล่งข่าวจาก TOT กล่าวว่า บอร์ดจะพิจารณาพันธมิตรร่วมธุรกิจโดยจะพิจารณาให้บริษัท ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับบริษัทมายาวนานอย่าง ADVANC เป็นบริษัทแรกก่อน เพื่อที่จะได้ดำเนินธุรกิจที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างการใช้โครงข่ายร่วมกัน และข้อเสนอของ ADVANC ที่ยื่นมาให้คณะกรรมการพิจารณานั้น โดยเฉพาะในด้านกลุ่มโทรศัพท์พื้นฐานและอินเทอร์เน็ต ซึ่ง ADVANC ก็ต้องการขยายบริการให้มากขึ้นในธุรกิจไฟเบอร์ และฟิกซ์บรอดแบนด์ โดยที่ผ่านมาก็มีข้อเสนอในเรื่องการขยายฐานลูกค้า เพราะบริษัทก็มีลาสไมล์ ส่วน ADVANC ก็มีแนวทางการทำธุรกิจที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการร่วมเป็นพันธมิตรระหว่าง TOT และ ADVANC น่าจะมีทางออกที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย และได้ข้อสรุปเร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานบอร์ด TOT กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา การทำงานของบอร์ดชุดนี้มีผลงานที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดคือเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่ของบริษัท ตามมติของ คนร.ที่ได้กำหนดให้บริษัทต้องสามารถมีธุรกิจที่แข่งขันได้ระยะยาว และรองรับการแข่งขันภาคเอกชนในธุรกิจอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งการปรับโครงสร้างใหม่ก็ส่งผลให้องค์กรมีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการที่ดีขึ้น
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ทั้งปี 2558 ราว 33,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 29,000 ล้านบาท ซึ่ง 60% มาจากรายได้ที่บริษัทดำเนินงานเอง จากการให้บริการโทรศัพท์ประจำที่พื้นฐาน (ฟิกซ์ไลน์) บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) จำนวน 11,200 ล้านบาท ซึ่ง 4 เดือนแรกได้รายได้จากบริการบรอดแบนด์แล้ว 3,800 ล้านบาท และรายได้จากฟิกซ์ไลน์ราว 8,000 ล้านบาท และอีก 10% จะมาจากการให้บริการสื่อสารข้อมูล (ดาต้า) คาดว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และทำให้ผลขาดทุนปีนี้ลดลงจากที่ประมาณการไว้ว่าจะขาดทุนถึง 10,000 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ADVANC เต็งหนึ่งพันธมิตร TOT บอร์ดทีโอทีเตรียมเคาะเลือกภายใน ก.ค. นี้
"ทีโอที" เคาะเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ ก.ค.นี้ ก่อนชงเข้าบอร์ดรับทราบ 29 ก.ค.นี้ จ่อดึง ADVANC ร่วมพันธมิตร หลังเป็นคู่สัญญาสัมปทานยาวนาน
นายชิต เหล่าวัฒนา กรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT เปิดเผยว่า วันนี้ (14 ก.ค. 2558) จะมีการประชุมบอร์ดยุทธศาสตร์ เพื่อหาพันธมิตรร่วมทุนทำธุรกิจกับบริษัท เพื่อพลิกฟื้นองค์กรและลดปัญหาขาดทุน ซึ่งบริษัทได้ให้บริษัท ดีลอยท์ ที่ปรึกษาในการวิเคราะห์หาพันธมิตรทางธุรกิจ
โดยมีผู้ประกอบการโทรคมนาคมในประเทศ 5 ราย ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC, บริษัท โมบายแอลทีอี จำกัด, บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น หรือ TRUE, บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น หรือ SAMART และบมจ.ล็อกซเล่ย์ หรือ LOXLEY ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปเกี่ยวกับการคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาในเดือนกรกฎาคมนี้ ตามกรอบเวลาเดิมอย่างแน่นอน เพื่อที่จะเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด TOT ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เพื่อรับทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทได้แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มตามที่คณะกรรมการนโยบายและการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อให้เอกชนที่สนใจเสนอเงื่อนไขเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ คือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มเสาโทรคมนาคม กลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มโทรศัพท์พื้นฐานและอินเทอร์เน็ต กลุ่มบริการด้านไอทีและบริการคลาวด์ โดยทีโอทีเปิดรับทุกข้อเสนอจากเอกชน เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกัน
สำหรับเงื่อนไขการคัดเลือกเอกชนรายใดรายหนึ่งนั้น หรือมากกว่า 1 ราย ขึ้นอยู่กับข้อเสนอว่ามีความร่วมมือที่ดีที่สุดและมอบผลประโยชน์ให้บริษัทดีที่สุดหรือไม่ หากข้อเสนอใดเข้าข่าย พ.ร.บ. การให้เอกชนลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ก็เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติต่อไป
แหล่งข่าวจาก TOT กล่าวว่า บอร์ดจะพิจารณาพันธมิตรร่วมธุรกิจโดยจะพิจารณาให้บริษัท ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับบริษัทมายาวนานอย่าง ADVANC เป็นบริษัทแรกก่อน เพื่อที่จะได้ดำเนินธุรกิจที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างการใช้โครงข่ายร่วมกัน และข้อเสนอของ ADVANC ที่ยื่นมาให้คณะกรรมการพิจารณานั้น โดยเฉพาะในด้านกลุ่มโทรศัพท์พื้นฐานและอินเทอร์เน็ต ซึ่ง ADVANC ก็ต้องการขยายบริการให้มากขึ้นในธุรกิจไฟเบอร์ และฟิกซ์บรอดแบนด์ โดยที่ผ่านมาก็มีข้อเสนอในเรื่องการขยายฐานลูกค้า เพราะบริษัทก็มีลาสไมล์ ส่วน ADVANC ก็มีแนวทางการทำธุรกิจที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการร่วมเป็นพันธมิตรระหว่าง TOT และ ADVANC น่าจะมีทางออกที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย และได้ข้อสรุปเร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ประธานบอร์ด TOT กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา การทำงานของบอร์ดชุดนี้มีผลงานที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดคือเรื่องการปรับโครงสร้างใหม่ของบริษัท ตามมติของ คนร.ที่ได้กำหนดให้บริษัทต้องสามารถมีธุรกิจที่แข่งขันได้ระยะยาว และรองรับการแข่งขันภาคเอกชนในธุรกิจอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งการปรับโครงสร้างใหม่ก็ส่งผลให้องค์กรมีประสิทธิภาพและการบริหารจัดการที่ดีขึ้น
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ทั้งปี 2558 ราว 33,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 29,000 ล้านบาท ซึ่ง 60% มาจากรายได้ที่บริษัทดำเนินงานเอง จากการให้บริการโทรศัพท์ประจำที่พื้นฐาน (ฟิกซ์ไลน์) บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) จำนวน 11,200 ล้านบาท ซึ่ง 4 เดือนแรกได้รายได้จากบริการบรอดแบนด์แล้ว 3,800 ล้านบาท และรายได้จากฟิกซ์ไลน์ราว 8,000 ล้านบาท และอีก 10% จะมาจากการให้บริการสื่อสารข้อมูล (ดาต้า) คาดว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และทำให้ผลขาดทุนปีนี้ลดลงจากที่ประมาณการไว้ว่าจะขาดทุนถึง 10,000 ล้านบาท
ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558